สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของที่นี่ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด (พี่ชายฉันเป็นทนายนะจ๊ะ) มีขู่ด้วย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
15 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
โอกาส

โอกาส


เสียงอึกทรึกครึกโครมของห้องข้างๆส่งผลให้เอเชียต้องลืมตาตื่นขึ้นตามประสาของคนที่หูไวตื่นไว
เขางัวเงียขึ้นมาคลำหานาฬิกามาดู เลขเข็มสั้นยังไม่ถึงเลข 5 ดีด้วยซ้ำเสียงถอนหายใจดังขึ้นมาอย่างปลงๆ
ว่าถึงเวลาต้องตื่นอีกแล้วเขาไม่เคยที่จะนึกโกรธห้องเช่าที่อยู่ติดกันเลยที่ส่งเสียงดังอยู่ทุกเช้า
แค่คิดว่าเป็นนาฬิกาปลุกให้เขาลืมตาตื่นมาเพื่อที่จะไปทำงานได้แค่นั้นเขาก็น่าจะพอใจกับการกระทำของเพื่อนข้างห้องแล้ว..
ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนข้างห้องของเขานั้นชื่ออะไร
เอเชียเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการทำธุระส่วนตัวของเขาให้เสร็จสิ้น
เขาเดินหิ้วตระกร้าพลาสติกใส่ของใช้ส่วนตัวเดินลงมาที่ห้องน้ำรวมข้างล่าง
เอเชียมองไปรอบๆห้องน้ำแล้วก็ถอนหายใจให้กับสภาพแวดล้อมเดิมๆอีกครั้ง
กว่าเขาจะจัดการธุระเสร็จห้องๆข้างก็ออกไปทำงานก่อนหน้าเขาแล้ว
เอเชียมองดูแม่กุญแจที่ล็อคอยู่ที่หน้าห้องก็รู้ว่ามีคนที่แหกขี้ตาตื่นก่อนเขานั้นล่วงหน้าไปก่อนแล้วเหมือนเช่นเดิม
เอเชียค่อยๆเดินเบาๆด้วยเกรงว่าจะไปรบกวนห้องที่อยู่ข้างล่างจะตื่นขึ้นมา
แต่งตัวไปเขาก็มองไปรอบๆห้องนึกๆไปเขาก็รำคานกับไอ้ห้องเช่าไม้เก่าๆนี่เต็มทนเหลือเกินแล้ว
แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อมันถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
ราคาต่อเดือนก็ไม่ถึงหนึ่งพันบาทช่างสวนทางกับเศรษฐกิจของยุคนี้ยิ่งนัก
นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่เขายังต้องยอมทนเช่าอยู่ต่อไป
ก่อนจะออกจากห้องทุกครั้งเอเชียมักจะตรวจดูให้แน่ใจก่อนทุกครั้งว่าล็อคห้องหับของเขาเรียบร้อยดีแล้ว
ทั้งๆที่ในห้องเขาก็ไม่มีอะไรน่าจะล่อตาล่อใจขโมยเสียด้วยซ้ำ
เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นในห้องก็เก่าจนแม้แต่ตัวของเขาเองก็เบื่อหน่าย
แต่มันก็ยังยอมทนที่จะรับใช้เขาได้อยู่
เอเชียเดินมาสตาร์มอเตอร์ไซน์คันเก่าคู่ใจของเขา
เวลาที่เขาสตาร์ทมันทีไรเขาก็นึกสมเพชตัวเองทุกครั้งแค่จะดาวน์มอเตอร์ไซน์คันใหม่เขายังไม่มีปัญญา
ระหว่างทางที่ไปทำงานเขามึกจะนึกอยู่ตลอดว่าที่เขาเรียนปริญญาตรีมานั้นเขาเรียนมาทำไมกัน
รึว่าเขาจะเรียนเพื่อที่จะให้เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวและวงค์ตระกูล
คิดแล้วเขาก็สะท้อนใจตัวเองทุกครั้งว่าทำไมเขาไม่เลือกเรียนคณะที่มันหางานได้ง่ายกว่านี้
แต่ถ้าจะคิดกันจริงๆแล้วงานมันก็มีอยู่ทั่วไปน่ะแหละถ้าหากว่าคนเรานั้นจะไม่เลือกงาน
เขาก็เคยทำมาแล้วแต่เมื่อได้ทำงานที่ตัวเขาเองไม่ชอบทำๆไปมันก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น
เหนื่อยใจเกินกว่าที่จะทนรับมันได้เขาก็ต้องออกแต่เมื่อออกมาแล้วมองหางานใหม่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เขามัวแต่เลือกงานเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนรู้สึกระอายใจและละอายคนทางบ้าน
นาทีนั้นเมื่อเขามาคิดได้แล้วว่าอายุขนาดเขานั้นมันก็มากขึ้นทุกวัน
เมื่อมาได้งานที่เขาทำอยู่จนปัจจุบันเขาจึงต้องเลือกคว้าไว้ก่อนเผื่อว่าจะมีทางก้าวหน้าในอาชีพการขึ้นมาได้
แต่ความหวังของเขามันก็ยังต้องเป็นความหวังต่อไปเขารอมันมานานเหมือนว่าโอกาสจะอยู่แค่เอื้อมแต่ว่ามันก็หลุดลอยออกไปทุกครั้ง
เมื่อดูเหมือนว่าโอกาสจะเข้ามาหาเขาแล้วนั้นแต่ก็มักจะโดนคนอื่นตัดหน้าไปก่อนทุกครั้ง
เด็กจบใหม่จบมาตามสายงายคนที่จบมาสูงกว่า มหาวิทยาลัยดีกว่าแล้วไฉนมันจะเหลือโอกาสหลุดรอดมาถึงเขาได้เล่า
เขารอรอจนเขานั้นท้อจนเลิกท้อเเละกลายเป็นเฉยชาไปในที่สุด
เอเชียจอดรถเข้าในที่จอดรถพนักงานแล้วก็เดินไปที่ร้านอาหารข้างที่ทำงานที่เขามักจะฝากท้องเอาไว้ทุกเช้าก่อนที่เดินเข้าไปตอกบัตรทำงาน
งานในแต่ละวันของเขามันก็เหมือนเดิมทำเหมือนเดิมหน้าที่ก็เดิมๆ
แต่วันนี้เหมือนมีอะไรแปลกไปโดยเฉพาะสาวๆในแผนกเดียวกันกับเขาดูท่าทางจะระริกระรี้เป็นพิเศษ
ทุกคนเหมือนแต่จะคอยมองไปที่ประตูห้องกันอยู่ตลอดเวลาเหมือนจะรอคอยอะไรสักอย่าง
เขาเองแรกๆก็ร่วมสนใจด้วยแต่แล้วก็เลิกสนใจและหันไปทำงานต่อ
ครั้นจะถามเพื่อนร่วมงานเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเดินไปถามดูสู้เขาทำงานเงียบๆไปอย่างที่เขาเป็นอยู่จะดีกว่า

แต่แล้วไม่นานความสงสัยของเขาก็กระจ่างเมื่อผู้จัดการเดินนำหน้าชายหนุ่มรูปงามเดินเข้ามาในแผนกของเขา
เอเชียหันไปจ้องมองหนุ่มมาใหม่อย่างไม่ละสายตาแต่แค่มองแวบเดียวเขาก็พอมองออกแล้วว่าเป็นใคร
หน้าตาที่เหมือนถอดมาเป็นพิมพ์เดียวกับเจ้าของบริษัทที่พวกเขาจะต้องเรียกกันว่า “ท่าน”
ออกมาอย่างนี้แล้วไม่น่าที่จะเป็นคนอื่นไปได้
ถ้าไม่ใช่ลูกชายของท่านที่พึ่งกลับมาจากการไปร่ำไปเรียนเมืองนอกเมืองนาแล้วกลับมาช่วยงานบริษัทของท่าน เอเชียหันไปมองดูสาวๆเพื่อนร่วมงานแล้วก็นึกขัน
สาวๆต่างระริกระรี้ที่จะเสนอหน้าเข้าไปทำความรู้จักแนะนำตัวเองกับท่านจูเนียร์
หลายต่อหลายคนชม้อยชม้ายชายตาอย่างให้ท่าไปที่ท่านจูเนียร์เอเชียมองไปแล้วก็ส่ายหน้า
คนสูงจนแทบจะถึงขั้นเทพอย่านี้คงจะมองลงมาที่พนักงานต่ำต้อยอย่างเพื่อนร่วมงานของเขาหรอกนะ
ท่าทางสาวๆพวกนี้จะดูละครไม่ก็อ่านนิยายมากไปหน่อยแล้ว
ยืนๆมองไปจนมาถึงคิวที่ตัวเขาเองก็ต้องเดินเข้าไปทักทายสวัสดีแนะนำตัวเองกับเขาด้วย
ท่านจูเนียร์ฝากเนื้อฝากตัวเสมือนว่าเป็นพนักงานคนใหม่ของบริษัท เอเชียมองพลางคิดในใจว่าจิตวิทยาพื้นๆที่จะทำให้พนักงานยอมรับในตัวเจ้านายใหม่อย่างนี้นี่ก็ยังใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย
เมื่อท่านจูเนียร์ออกไปแล้วกลับมีเขาคนเดียวที่กลับไปทำงานต่อเมื่อหันกลับไปมองก็ดูเหมือนว่าหัวข้อการสนทนาเรื่องนายจูเนียร์นั้นก็ยังไม่จบ
สงสัยว่าหัวข้อนี้คงจะเป็นเรื่องที่คุยกันได้ไปจนถึงสิ้นเดือนเป็นแน่
เอเชียค่อยๆลืมเลือนเรื่องนายจูเนียร์ของเขาไปแต่เมื่อใดที่เขาเดินสวนกับนายจูเนียร์รึว่าสายตาจะเหลือบไปแลเห็น
เขาก็มักจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นท่านจูเนียร์ เอเชียมีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งเมื่อใดที่เห็นคนรูปร่างหน้าตาดีกว่าแต่งตัวดีกว่าหน้าที่การงานรวมไปถึงการศึกษาที่สูงกว่าเขามักจะไม่พอใจทุกครั้ง
ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เขามองไปเห็นนายจูเนียร์เขาจะเดินหนีทันที
หนีจากความสมบูรณ์แบบอย่างที่เขาอยากจะเป็นแต่ก็ไม่ได้เป็นและไม่มีโอกาสจะได้เป็น
เพื่อออกไปสู่โลกความเป็นจริงของตัวเขาเอง
สิ้นเดือนแล้วเอเชียถอนหายใจออกมาเบาๆพลางมองดูสลิบเงินเดือนไปด้วยจากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋า
ก่อนที่จะเดินไปตอกบัตรออกแล้วเดินไปที่รถมอเตอร์ไซน์ที่จอดอยู่ด้านข้าง
เขาขี่รถไปเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง
เวลาที่เขาอยากจะปล่อยอารมณ์นั้นเขามักเลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซน์ของเขาเล่นมากกว่าที่จะไปทำอย่างอื่นเหมือนคนทั่วไป
เวลาที่เขาได้ขี่รถไปเรื่อยๆมันเหมือนเขาได้ล่องลอยไปไม่ต้องคิดไม่ต้องไปสนใจกับอะไรในชีวิต
ไม่ต้องไปสนใจกับอนาคตกับอดีตที่ผ่านมาเพราะทุกๆอย่างเหล่านั้นมันก็เหมือนลมที่พัดมาแล้วก็พัดไปรอลมวูบใหม่ที่จะพัดเข้ามาอีกครั้งเท่านั้น
วันนี้กว่าเขาจะเริ่มกลับมารับรู้ว่าลมฝนกำลังจะมามันก็ไกลเกินกว่าที่เขาจะหันกลับไปยังห้องเช่าของเขาได้แล้ว เอเชียเลือกที่จะหลบฝนที่ปั๊มน้ำมันข้างทางแทนยังไงๆ
ในนั้นก็ยังมีของกินให้เขาซื้อมาเคี้ยวเล่นแก้เซ็งทั้งยังมีกาแฟให้เขาจิบแก้หนาวได้
เขาเดินเข้าไปในมินิมาร์ทที่อยู่ในปั๊มเขาเดินดูอะไรไปเรื่อยๆเขาชอบเดินเทียบราคาสินค้าเล่นอยู่แล้ว
ดังนั้นเขาจึงคิดไม่ผิดที่เลือกเลี้ยวรถเข้ามาที่นี่
เอเชียเดินมองดูเปรียบเทียบราคาของสินค้าแล้วเขาก็ยังเสียววูบไปทั่วสันหลัง
ถ้าเขามีลูกขึ้นมาเมื่อไหร่เขาจะต้องให้เบี้ยเลี้ยงลูกเขาวันละเท่าไหร่กัน
ในเมื่อทุกวันนี้ขนมห่อนิดเดียวราคาก็เป็นสิบเป็นร้อยเข้าไปแล้ว
ราคาข้าวของก็ขึ้นเอาๆทุกวันๆไม่มีทีท่าว่าจะลงแต่เงินเดือนกลับเท่าเดิม
คิดไปคิดมาก็กลุ้มใจเปล่าๆเขาเลยรีบเดินไปกดกาแฟมากินแล้วรีบจ่ายเงินก่อนที่จะออกไปนั่งที่หน้าร้านจะดีกว่า

เมื่อออกมาข้างนอกเขาจึงค่อยรู้ว่าฝนที่ตกลงมาปรอยๆตอนแรกนั้นตอนนี้กลับกลายเป็นพายุไปเรียบร้อยแล้ว
ยังดีว่าวันนี้เป็นวันเงินเดือนออกเขาจึงยังมีเงินเต็มกระเป๋าไม่ต้องมาคอยกังวลว่าเขาจะไม่มีเงินซื้อของมานั่งกินแก้เบื่อแก้เซ็ง
เอเชียล้วงบุหรี่ในกระเป๋าออกมาฝนตกลงมาจนสาดมาที่พื้นตรงที่เขายืน
แต่ความอยากบุหรี่นั้นมีมากกว่าความอยากหลบฝนเข้าไปข้างในเขาจึงแค่ยืนหลบมุมไม่ให้โดนฝนเท่านั้น
รถยุโรปคันหรูห้อตะบึงเข้ามาจอดที่ลานจอดรถอย่างเร่งด่วนคนที่อยู่ในรถก็วิ่งลงมาจากรถโดยเร็วอย่างไม่แพ้กัน

“ผมฝากรถเดี๋ยวนะครับ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
พูดจบชายเจ้าของรถก็วิ่งออกไปโดยเร็ว
เอเชียมองตามหลังอย่างงงๆเขาเองก็มัวแต่มองเหม่อไปอีกด้านไม่ได้สนใจเลยว่าใครเอารถมาจอด
แต่อยู่ดีๆเจ้าของรถก็มาฝากรถกับเข้าเฟมือนกับว่าเป็นคนรู้จักกันมาก่อน
เขาหันกลับไปยืนมองรถคันหรูพลางคิดเล่นๆในใจว่าถ้าเขาเอารถคันนี้ไปขับเล่นสัก 10 นาทีเจ้าของรถจะว่าอะไรเขาไหม
ไม่แน่หรอกเจ้าของรถอาจจะแจ้งความจับเขาเลยก็ได้
แต่ไม่แน่เจ้าของรถอาจจะใจดีไม่ว่าอะไรเขาก็ได้รึเขาอาจจะกลับมาได้ก่อนเจ้าของรถออกมาจากห้องน้ำเสียด้วยซ้ำ

“ขอบคุณนะครับ” เอเชียสะดุ้งโหยงเมื่อเขาหันกลับไปมองดูเจ้าของเสียง
เขากลับตกใจมากกว่าเดิมเสียอีก
นายจูเนียร์คนที่เขาสุดแสนจะไม่ชอบขี้หน้าตอนนี้มายืนอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว
แล้วยิ่งมาอยู่ในสถานการณ์ที่เขาหลบไปไหนไม่ได้ด้วย
“โอย ผมอั้นฉี่มาตั้งนานกว่าจะเจอปั๊ม พอเจอก็เหมือนกับจะอั้นไม่อยู่เอาอีกพอดีเจอคุณเลยต้องรีบฝากรถไว้ก่อนไม่อย่างนั้นละขายหน้าแน่”
พูดไปก็หัวเราะไปอย่างคนอารมณ์ดี
“คุณนี่ก็ไว้ใจคนง่ายดีนะครับ”
“ก็เราทำงานที่เดียวกันไม่ใช่เหรอครับ”
คำตอบนี้ทำเอาเอเชียสะดุ้ง
“คุณจำผมได้”
“ได้ซิครับ ก็ผมเห็นคุณเกือบจะทุกวันนี่นา แล้วนี่ทานอะไรรึยังครับฝนก็ตกจนแทบจะไม่เห็นทางอย่างนี้
ผมว่าเราไปหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า
เดี๋ยวผมไปเอากุญแจรถก่อน” พูดยังไม่ทันขาดคำชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็วิ่งฝ่าสายฝนไปที่รถแล้วรีบวิ่งกลับมา
“ไม่เห็นต้องไปเอาเองเลยนี่ครับ ผมกำลังว่าจะเข้าไปเอามาให้คุณเองอยู่แล้ว”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงๆผมก็เปียกอยู่แล้วเปียกเพิ่มอีกหน่อยจะเป็นไรไป”
เอเชียหันไปมองผู้ชายคนที่ตรงข้างหน้าเขาอย่างเต็มตา เหมือนกับว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้มองผู้ชายคนนี้ในอีกมุมนึงเลย
ทั้งสองเดินเข้าไปนั่งในร้านอาหารในมินิมาร์ท เอเชียไปซื้อทิชชู่มาให้ผู้อ่อนวัยกว่าใช้เช็ดตัว
“ขอบคุณครับ งั้นผมเลี้ยงข้าวตอบแทนค่าทิชชู่นะ” นายจูเนียร์ตอบพร้อมกับยิ้มกว้างจนเอเชียไม่กล้าที่จะปฎิเสธ เอเชียสั่งอาหารไปอย่างขอไปที
เขาไม่ค่อยที่จะกล้าร่วมโต๊ะอาหารด้วยนักแต่ก็จำยอมต้องนั่ง ทั้งสองนั่งทานข้าวกันไปอย่างเงียบๆ
“งานตอนนี้เป็นยังไงมั่งครับ เหนื่อยไหม”
“ไม่หรอกครับ ก็เหมือนเดิมน่ะครับ”
“แล้วเบื่อไหมล่ะครับ” ผู้ถามไม่ถามเปล่าแต่ยังจ้องหน้าเสมือนว่าจะขอคำตอบให้ได้
เอเชียวางช้อนส้อมลงแล้วถอนหายใจออกมาค่อนข้างแรง
“จริงๆ แล้วผมก็ไม่ชอบมาตั้งแต่ต้นไหนๆก็ไหนๆแล้วผมก็เปิดอกเลยแล้วกัน”
“ความรู้ของคุณก็ปริญญาตรี แล้วทำไมถึงมาทำงานอย่างนี้ล่ะครับ”
“คุณรู้ด้วยเหรอ”
“ครับ พอเข้ามาผมก็ขอประวัติพนักงานมาอ่านดูทุกคนแหละครับ”
“ผมเคยแล้วครับ ลองหางานอย่างที่ผมชอบและผมก็คิดว่าผมทำได้ดีแต่มันก็ไม่มีไม่ได้ไม่มีโอกาส
เรื่องของเรื่องผมจบมาอย่างนึงแต่ไอ้งานที่ผมอยากจะทำน่ะมันก็อีกอย่างนึง
โอกาสมันก็เลยไม่มาเจอกันก็แค่นั้น คนเรามันก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งอย่างเดียวแล้วจะรุ่ง
มันก็ต้องอาศัยดวงเข้าไปอีกให้โอกาสเปิดอ้าแขนรับเรา กว่าผมจะรู้ตัวว่าผมหาคำว่าโอกาสไม่เจออายุผมมันก็มากขึ้นไปทุกวัน
ไอ้เรื่องจะมาเริ่มต้นอะไรกันอีกมันก็เลยต้องพับไป ตอนนี้แค่หาอะไรมาใส่ปากใส่ท้องได้ก็ต้องเอาแล้วล่ะครับ”

เอเชียถอนหายใจอีกครั้งให้กับโชคชะตาที่เล่นงานชีวิตของเขา
“แล้วจริงๆแล้วคุณอยากที่จะทำอะไรล่ะ อะไรกันแน่ที่คุณอยากทำแล้วคิดว่าคนอย่างคุณก็สามารถที่จะทำได้ดีด้วย”
ตอนแรกนั้นเอเชียนึกว่าชายอ่อนวัยกว่าที่นั่งอยู่ตรงหน้าถามไปเพราะต้องการหาเรื่องชวนคุยแค่นั้นเอง
แต่เมื่อเขามองดูสีหน้าแล้วจ้องมองเข้าไปที่ในตาของอีกฝ่ายนึงที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
เขากลับเห็นแววตาจริงจังอยู่ในสายตานั้น
เอเชียนึกย้อนไปคิดถึงเรื่องในอดีตตอนที่เขาจบรับปริญญามาใหม่ๆ
เขาก็ยังมีความมุ่งมุ่นแววตาอันแสนจริงจังที่ต้องการจะแสวงหาความมั่นคงในชีวิตอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ
นี่มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาได้ลืมมันไปแล้ว
“ที่ผมอยากจะทำน่ะเหรอครับ คือว่า” เอเชียนึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนั้นเขาพูดออกไปได้อย่างไร
กับเรื่องความฝันลมๆแล้งๆให้คนที่พึ่งจะรู้กันฟังได้ซะขนาดนั้น
ซ้ำร้ายคนที่นั่งฟังเขาอยู่นั้นยังเป็นเจ้านายของเขาเองอีกด้วย
แต่เมื่อได้เล่าไปแล้วเขาเหมือนสบายใจเหมือนกับว่าตัวเขานั้นกลับมาเป็นคนหนุ่มที่มีไฟครุโชนอยู่ในตัวของเขาเองอีกครั้ง
วันนั้นกว่าเขาจะจากลากับเจ้านายของเขามันก็ปาเข้าไปวันใหม่แล้ว
ท้องถนนแห้งไปเหมือนไม่ได้มีฝนตกลงมาก่อนเลย เอเชียก็ยังคงทำงานของต่อไปตามหน้าที่
“พี่เชีย ท่านรองเรียกหาแน่ะ”
“เรื่องอะไร” สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว
“ไม่รู้ซิ สงสัยจะให้พี่ไปหางานใหม่มั้ง”
คนพูดตอบอย่างคนมีอารมณ์ขันแต่เอเชียไม่รู้สึกสนุกด้วย จนทำให้คนพูดหน้าเสีย
“เออ ไม่มีอะไรมั้งพี่ท่านก็ไม่ได้สั่งผมมานี่นา”
เอเชียไม่รอฟังคำแก้ตัวแต่เขารีบเดินออกไปจากห้องทันที
เขาแค่อยากรู้เท่านั้นว่าทำไมคนยอมฟังเขาเล่าเรื่องยาวเป็นชั่วโมงๆถึงได้ต้องเรียกตัวเขาไปหาด้วย
“เชิญครับ”
สิ้นเสียงเคาะประตูเสียงตอบรับก็ดังขึ้นทันทีเหมือนคนข้างในจะรอคอยการมาของเขาอยู่
เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปก็พบทั้งท่านจูเนียร์ฉีกยิ้มกว้างรออยู่กับคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอีก 5 คน
“ขอแนะนำคุณเอเชียครับ เพื่อนร่วมงานในโครงการนี้ของเราอีกคนนึง”
ชายหนุ่มผายมือมาทางเขาพร้อมๆกับหันมายิ้มให้เอเชียจนตาหยี
“ขอมอบโอกาสต่อไปนี้ให้คุณเอเชียได้เข้าร่วมประชุมกับเราตอนนี้เลยนะครับ”
<




Create Date : 15 มิถุนายน 2550
Last Update : 15 มิถุนายน 2550 23:08:15 น. 0 comments
Counter : 336 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมวยเคี้ยง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตลอดค่ะ
สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เสมอ
Friends' blogs
[Add หมวยเคี้ยง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.