Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
Dharamshala (1) - ธรรมศาลา




บันทึกการเดินทางในอินเดีย ครั้งที่ 2 : ตุลาคม 2014
(ได้ทำการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่อีกครั้งในปี 2017)




ฉันนั่งรถออกจากเมืองเดห์ราดูน ตอนบ่ายสี่โมงกว่า ๆ และหลับข้ามคืน 
จนมาตื่นอย่างจริงจังตอนถึงท่ารถเมืองดารัมซาลาในช่วงเจ็ดโมงเช้า
ของวันถัดมา  ตอนนั้นก็มีผู้คนทยอยลงจากรถมากพอสมควรทีเดียว
และส่วนมากก็เป็นชาวอินเดีย

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังคงนั่งอยู่บนรถเช่นเดียวกับฉัน หากไม่นับ
นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มคนที่ว่าต่างมีใบหน้าเหมือนกับชาวทิเบตเกือบทั้งนั้น
และจุดหมายของพวกเราก็คือเมืองบนเขาที่ห่างไกลจากตัวเมืองด้านล่างไปอีก
เกือบ 9 กิโลเมตร ชื่อว่า แมคลอดกันจ์ หรือดารัมซาลาตอนบน ที่ซึ่งเป็น ศูนย์-
ลี้ภัยใหญ่ของชาวทิเบตพลัดถิ่นนั่นเอง




บริเวณพื้นที่ริมเขาของ McLeod Ganj หรือดารัมซาลา ตอนบน 
ที่มักจะพบเห็นสิ่งก่อสร้างและร้านรวงต่าง ๆ ไล่เรียงเต็มไปหมด 


ในระหว่างที่รถกำลังทำการแล่นล้อเคลื่อนต่อไปยังปลายทางที่ว่า 
ฉันก็ได้เห็น
รั้วลวดหนาม และค่ายทหาร ตั้งอยู่เป็นบางจุดอีกด้วย 
นั่นก็ทำให้นึกไปถึงด่าน
ตรวจต่าง ๆ ของบ้านเราเวลาขึ้นเหนือ 
ไปยังเชียงราย เชียงใหม่ ฯลฯ ที่จะมีเจ้า
หน้าที่ขึ้นมาตรวจบัตร
ประชาชนแบบนั้นเลย ... ซึ่งนั่นก็ผิดจากที่คาดไปหน่อย
เพราะนอกจาก
จะไม่มีการมาตรวจตราอะไรกันแล้ว ฉันยังพบอีกว่าชาวทิเบต
เหล่านี้
แม้จะอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย แต่พวกเขาก็ยังสามารถเดินทางกันได้โดยอิสระ


ข้อมูลโดยคร่าวของ เมืองดารัมซาลา
ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของ
จังหวัดกันกรา (Kangra) รัฐหิมาจัลประเทศ 
และแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน 

- ดารัมซาลา ตอนล่าง (Lower Dharamshala) ซึ่งเรียกกันว่า "ดารัมซาลา"

เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ท่ารถขนส่ง ตลอดจนพื้นที่ค้าขาย
ทั่วไป มี
พลเมืองส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดียท้องถิ่น และนอกจากนี้ก็ยังมี landmark
ที่น่าสนใจ
อย่างสนามคริกเก็ต (Himachal Pradesh Cricket Association Stadium)

- ดารัมซาลา ตอนบน (Upper Dharamshala) หรือรู้จักกันในนามของ
'แมคลอดกันจ์' ตั้งอยู่สูงกว่าเมืองทางตอนล่าง และเป็นศูนย์ลี้ภัยใหญ่ฯ 
และที่ทำการรัฐบาลพลัดถิ่นฯ (Central Tibetan Administration) รวมถึง
เป็นสถานที่ประทับของ องค์ทะไลลามะ ผู้นำสูงสุดของชาวทิเบต

สภาพภูมิอากาศทั่วไป ด้วยความที่เมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงมันจึงมีอากาศที่เย็น
สบายตลอดทั้งปี หากเอาไปเปรียบกับมะนาลีและชิมลา เมืองนี้ค่อนข้างจะอุ่นกว่า
และมักจะมีฝนตกชุกอยู่บ่อยครั้ง ส่วนในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิก็อาจลดต่ำลงจนถึง
จุดเยือกแข็ง 




ร้านอาหารท้องถิ่นของชาวทิเบต ตรงมุมด้านขวาได้มีภาพของทะไลลามะ ลำดับที่ 14 ติดเอาไว้ 



เมนูชามโตนี้มีชื่อว่า "ทุกปะ" ดูแล้วไม่ต่างไปจากบะหมี่น้ำเท่าไหร่ 
เว้นแต่ความใหญ่ของเส้นที่ดูหนากว่า แต่หากเป็นบะหมี่ผัดก็จะถูกเรียกว่า "โชวเมียน"  


เรื่องการเดินทางมายังดารัมซาลาถือว่าสะดวกพอสมควร เพราะถือว่าเป็นหนึ่ง
ในจุดหมายของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ 
ดังนั้นมันจึงมีเที่ยวรถวิ่งตรงจากเมือง
ต่าง ๆ หลายแห่ง 
เช่น เดลี, เดห์ราดูน, มะนาลี, จันดิการ์, อัมริตสาร์, ชิมลา,
ปาลัมปูร์ ฯลฯ

เดลีเดห์ราดูน จะมีปลายทางไปลงที่ แมคลอดกันจ์ โดยตรง 

(ทั้งนี้ ควรตรวจสอบปลายทางกันให้ดีก่อนหากว่ารถบางคันจะไม่วิ่งตรงมายัง
McLeod Ganj โดยตรง แต่เป็นแค่ดารัมซาลา 
นั่นก็แปลว่าคุณต้องนั่งรถขึ้นมา
อีกหนึ่งต่อ)  

และ
ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ ในการเชื่อมต่อ ทางรถไฟ(ธรรมดา) : ไม่มีเส้นวิ่งตรง
แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ Pathankot 
(ระยะห่าง 85 กิโลเมตร)

รถไฟทอยเทรน
 (Toy train) : สถานี Kangra (ระยะห่าง 17 กิโลเมตร)

สนามบิน
 : Kangra Gaggal Airport (ระยะห่าง 12 กิโลเมตร)  


ในเรื่องของที่พักก็มีให้เลือกหลายระดับอยู่ส่วนมากแล้วจะมี wifi ให้บริการด้วย
โดยส่วนตัวแล้วฉันเองก็เดินวนเวียนอยู่แถวถนนโจกิวาราไปได้ไม่นาน ก็มาเจอ
กับคนยืนแจกนามบัตรหาคนเข้าพักยังเกสท์เฮาส์พอดี สนนราคาก็ไม่ถือว่าแพง
กับ 300 รูปี/คืน และมีห้องน้ำในตัวแถมมีน้ำอุ่นด้วย ดังนั้นตัวเลือกที่บอกต่อไปนี้
อาจไม่ใช่ดีที่สุดหรือเป็นย่านที่ดีที่สุด แต่โดยส่วนตัวก็พอใจแล้วล่ะ




ภาพ street art บริเวณถนนโจกิวารา (หรือ ถนนโปตาลา ชื่อใหม่ที่ถูกเปลี่ยนในปี 2015) 
ที่กำลังจะสื่อถึงการต่อสู้ของชาวทิเบตโดยมีสัญลักษณ์ของเปลวไฟและธงชาติทิเบตเป็นฉากหลัง 



แผนที่เส้นทางของถนนต่าง ๆ ในแมคลอดกันจ์ 



ภาพยามค่ำคืน บริเวณม้านั่งแถวยาวสำหรับนั่งพักผ่อนหรือเป็นจุดนัดพบของคนพื้นที่


เรามาเริ่มต้นสำรวจพื้นที่นี้กันก่อนดีกว่า หากเริ่มจากทางเชื่อมท่ารถมายัง 
Main square ก็จะเจอกับตึกร้าง ๆ ก่อนและถัดมาก็จะเป็นพื้นที่ม้านั่งยาวสีเขียว
ด้านบน มันดู
เหมือนจะเป็นจุดนัดพบหรือพื้นที่นั่งพักกินลมชมวิวของชาวเมือง
ซึ่งก็มีร้านรวง
ที่เป็นของชาวอินเดียและทิเบตคละปนกัน

ส่วนพื้นที่ด้านตรงข้าม จะเป็นแยกถนนที่จะพาไปสู่ตรอกซอกซอยสามสาย
ด้วยกัน เมื่อแยกโดยคร่าว ๆ เส้นริมขวา Temple Road สุดจะเป็นทางเชื่อมไปสู่
Tsuglagkhang 
Complex หรืออาจจะเข้าใจโดยง่ายว่าเป็น วัดของทะไลลามะ




บริเวณพื้นที่ใจกลางชุมชนจากมุมม้านั่ง จะเห็นว่ามีที่ตั้งของร้านอาหารมากมายและคับคั่ง
ไปด้วยผู้คน ดูแล้วก็ไม่เหมือนกับค่ายผู้ลี้ภัยสักนิด ส่วนบริเวณซุ้มเล็ก ๆ ด้านข้างของ 
Mcllo Restaurant เป็นสำนักงานย่อยสำหรับจองเที่ยวรถโดยสารออนไลน์ของ HRTC 




Kalachakra Temple ที่สร้างขึ้นตรงกลางถนน และยังมีพื้นที่ค้าขายอื่น ๆ 
ที่สร้างขึ้นบนแนวเขต
คั่นถนนสองฟากไว้ 



พระภิกษุทิเบต กำลังเดินหมุนกงล้ออธิษฐานที่ Kalachakra Temple 

ถัดมาอีกเส้นถัดมาก็คือทางไปที่ทำการไปรษณีย์ ที่จะเชื่อมต่อกับถนนโจกิวารา 
โดยจะเห็นพื้นที่ของศาสนสถานที่ชื่อว่า Kalachakra Temple ตั้งอยู่ตรงกลาง
ระหว่างสองฟากทาง 
และอีกเส้นที่อยู่ถัดไปนั้นจะเป็นทางไป น้ำตกบัคซู และ
มีแยกทางเดิน
สำหรับไปยัง TIPA และหมู่บ้านดารัมกอทอีกด้วย 

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวรอบนอกใจกลางเมือง 
หากใครมีเวลาน้อยก็ให้ไป
ติดต่อรถสามล้อรับจ้างหรือไม่ก็แท็กซี่ ตรงซุ้มเล็ก ๆ สีเขียวที่ตั้งอยู่ตรงทางเดิน
ไปยังท่ารถ จากที่เห็นจะมีชื่อ
สถานที่นำเที่ยวตามที่ขึ้นป้ายไว้ก็คือ จุดชมวิว
Naddi, Dal lake, Dharamkot, Bhagsu, 
โบสถ์เซนต์จอห์น และวัดทะไลลามะ 

แต่เนื่องจากตัวเองมีเวลาอยู่พอสมควรก็เลยเลือกที่จะเดินเที่ยวเองได้
เพราะฉะนั้น เรื่องของราคาค่าโดยสารทั้งหลายจึงต้องขอเว้นไว้สำหรับ
การแนะนำในครั้งนี้นะคะ 


...



น้ำตกบัคซู  (Bhagsu)  ที่ตั้งของมันนั้นไกลจาก Main Square 2 กิโลเมตร
และยังไม่รวมเส้นทางเดินเข้าไปยังน้ำตก 
สภาพทางถนนที่หลุดไปจากตัวเมือง
ค่อนข้างเป็นลูกรัง และบางครั้งก็น่าหัวเสีย
หากเห็นใครเขาบิดมอเตอร์ไซด์ ไม่ก็
นั่งรถรับจ้างแซงเราไป 

แต่ทั้งนี้พอเมื่อมาถึงที่ตั้งของทางไปน้ำตกแล้ว ก็จำเป็นต้องเดินเท้าเหมือนกัน
โดยที่จะผ่านกับสระน้ำแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดฮินดู Bhagsu nag ก่อน
และต่อจากนั้นก็จะพบกับทางไปน้ำตกที่มีการทำทางเดินปูไว้อย่างเรียบร้อย



เห็นป้ายบอกทางไปน้ำตกหรือยัง? ที่ตรงนี้จะมีสระว่ายน้ำตั้งอยู่ด้วย (แต่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้)
ส่วนวัด Bhagsu nag ที่ตั้งอยู่บริเวณนี้ มีขนาดค่อนข้างเล็กและไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่



อาณาบริเวณพื้นที่ของน้ำตกบัคซูกับทางเดินที่ดูไกลสุดหูสุดตา
(ไม่แน่ใจว่ามีระยะทางไกลแค่ไหน รู้แต่ว่าเดินอย่างเหนื่อย!)



ภาพน้ำตกบัคซูที่เล็กกระจิดริด เมื่อมองจากระยะใกล้
ตรงด้านบนจะมีที่ตั้งร้านขายชาและขนมให้บริการด้วย



ตัวแพะภูเขาที่เห็นได้โดยทั่วไปในบริเวณนี้และบางทีพวกมันก็ชอบมาเดินเป็นเพื่อนเรา

....



โบสถ์เซนต์จอห์น (Church of Saint John in the wilderness) ถ้าสังเกตดี ๆ
ที่นี่ใช้ชื่อเดียวกับโบสถ์ที่เมืองไนนิตาลเป๊ะ ๆ และเป็นโบสถ์ในคณะแองกลิกัน 
ซึ่งก่อตั้งในยุคอาณานิคมอังกฤษเช่นกัน ดังนั้นหากไป search หาในอินเตอร์เน็ต
ก็อาจเจอกับภาพถ่ายที่คนมักสับสนและเอามาลง
สลับกันบ่อยอยู่ (สงสัยยังไม่เคยไป
เห็นของจริง)




ถนนทางไปโบสถ์เซนต์จอห์น ที่เริ่มจากแมคลอดกันจ์



นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เลือกที่จะเที่ยวชมเมืองด้วยการปั่นจักรยาน และมาแวะที่นี่เพียงครู่หนึ่ง



ภาพของโบสถ์คริสต์นิกายแองกลิกัน ที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้

โบสถ์นี้อยู่ห่างไกลจาก Main square เพียง 1 กิโลเมตร และมีทางเดินที่ร่มรื่น
มาก ๆ ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่สีเขียวรายรอบเต็มไปหมด 
หากนั่งรถมาจากดารัมซาลา ก็จะเห็นที่ตั้งของโบสถ์ก่อนถึงแมคลอดจ์กันที่ทาง
ฝั่งขวามือค่ะ

ที่นี่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อ ปี 1852 ตัวอาคารก่อด้วยอิฐแกรนิตและตั้งโดดเดี่ยวอยู่
กลางป่าซีดาร์หิมาลัย (Deodar) โดยที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่รายรอบเลย 
ส่วนผู้ที่ทำ
หน้าที่ดูแลก็มีอยู่เพียงแค่หนึ่งคนเป็นคุณลุงชาวอินเดีย




คุณลุงที่ดูแลโบสถ์คนนี้เป็นชาวเมืองดารัมซาลา และสวมหมวกแบบชาวหิมาจัลด้วย



ส่วนพื้นที่รอบข้างโบสถ์ก็ดูวังเวงนิดหน่อย เพราะเป็นหลุมฝังศพที่มีมา
ตั้งแต่ช่วงยุคสมัยอาณานิคมฯ เช่นกัน (ไม่แนะนำให้มาช่วงโพล้เพล้นะ)


โบสถ์แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาไว้เพื่อรองรับการปฏิบัติศาสนกิจของเหล่าชาวอังกฤษ
ที่เข้ามาประจำการอาศัยอยู่ในช่วงขณะนั้น และต่อมาในปี 1863 ก็ได้ใช้เป็นที่ฝัง
ศพของ เจมส์ บรูซ เอิร์ลแห่งเอลกิน ที่ 7 ผู้ดำรงตำแหน่งรองอุปราชแห่งอินเดีย

โดยที่เขาได้เขียนหนังสือสั่งเสียก่อนจะถึงแก่อานิจกรรมว่า มีความประสงค์ที่จะ
ให้ฝังร่างของตนเองไว้ที่เมืองดารัมซาลา ดังนั้นภรรยาของเขาจึงตัดสินใจเลือก
จุดฝัง ณ ยังที่จุดที่อยู่ใกล้กับหลังโบสถ์ที่ซึ่งแวดล้อมไปด้วยป่าซีดาร์อันเงียบ
สงบและยังสามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างกับแนวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม
ทอดตัวอยู่ตรงเบื้องหน้า



อีกด้านมุมหนึ่งของป่าหลังโบสถ์ - เป็นที่ฝังศพของเหล่าชาวอังกฤษคนอื่น ๆ ในยุคก่อน
ส่วนวงกลมสีแดงที่แท่นปูนข้างโบสถ์นั้น คือจุดฝังร่างของท่านเอิร์ลแห่งเอลกิน ที่ 7   


ถ้าจะพูดถึงแมคลอดกันจ์ในอดีต ก่อนที่จะกลายเป็นชุมชนชาวทิเบตภายหลัง 
มันเคยเป็นสถานที่สำหรับบรรดาเหล่าข้าหลวงชาวอังกฤษ ทหาร และครอบครัว
ที่
จะขึ้นมาพักผ่อนหย่อนใจเพื่อตากอากาศคล้าย ๆ กับเมืองบนภูเขาอีกหลายแห่ง
ในอินเดีย 
และที่มาของชื่อ 'แมคลอดกันจ์' ก็นำมาจากนามของ Sir Donald 
Friell McLeod 
ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการแห่งรัฐปัญจาบ

ต่อมาเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระดับ 7.8 แมกนิจูด ในเขตปกครอง-
กันกรา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 1905 ทำให้สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย
อย่างราบคาบรวมทั้งชีวิตของผู้คน ที่มีการสูญเสียมากถึง 20,000 ราย และพื้นที่
แห่งนี้ก็หนีไม่พ้นจากภัยพิบัติเช่นกัน ทั้งอาคารบ้านเรือนต่างพังทลายลงหมด
จะเว้นแต่ก็ที่คริสตจักรแห่งนี้ที่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย มีบางส่วนที่เกิดการ
ชำรุดร้าวแต่ก็มีการบูรณะซ่อมแซมได้ในภายหลัง ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งก่อสร้างเก่า
แก่เพียงแห่งเดียว
ในยุคอาณานิคมที่ยังปรากฏหลงเหลือให้เห็นในย่านนี้

ปัจจุบันโบสถ์เซนต์จอห์น ก็ยังคงเปิดทำการสำหรับศาสนกิจตามปกติทุกวัน
อาทิตย์ค่ะ


...

ทะเลสาบดาล (Dal Lake) และจุดชมวิว Naddi



เส้นถนนที่เป็นทางแยกสำหรับทางไป Dal lake และ Naddi (ริมขวา) ทางซ้ายสุด
ที่จะเห็นประตูเขียวกั้น เป็นเขตทหารห้ามเข้า 
ส่วนรถเมล์ที่วิ่งมาจากดารัมซาลา 
ก็จะโผล่มาจากเส้นกลางและหักเลี้ยวไปยังทางไป Dal lake  ดังนั้นหากไม่อยาก
เดินไกล 4 กิโลเมตร ก็จงคาดเดาพิกัดยืนรอรถกันให้ดี



ในกรณีที่จะเดินทางโดยรถสาธารณะ จากแมคลอดกันจ์จะไม่มีรถวิ่งตรง
แต่จากดารัมซาลาจะมีรถโดยสารวิ่งถึงโดยตรงจนถึง Dal lake 

หากคิดจะเดินต่อจากโบสถ์เซนจอห์น มายังทะเลสาบดาลก็จะไกลกัน
แค่ 
4 กิโลเมตร  (แต่ถ้าเริ่มจาก Main square ก็จะไกล 5 กิโลเมตร) หรือถ้าจะ
ลัดขั้นตอน ก็
มายืนรอรถประจำทางตรงแยกทางขึ้น Dal lake ก็ได้




ที่ Dal lake ในดารัมซาลา มีขนาดไม่ใหญ่นัก ถ้าคิดจะไปเทียบกับทะเลสาบดาล
ในศรีนาการ์ ที่ใช้ชื่อเดียวกัน...ฉันไม่รู้ว่ามันมีตำนานศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับ
ชาวฮินดูเรื่องไหนกัน เพราะเห็นพวกเขาเรียกมันว่า "Sacred Dal lake" 
แต่เรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ มีปลาสายพันธุ์เฉพาะถิ่นอาศัยอยู่ที่นี่แห่งเดียว
เสียด้วย ...ทว่าในวันนั้นมันกลับไม่ยอมโผล่มาให้ฉันเห็นสักตัว 

หากใครมาถึงที่นี่แล้วเกิดอยากจะแวะไปเยี่ยมโรงเรียนของเด็กทิเบต (TCV) 
ที่ตั้งอยู่ในละแวกนี้
ก็สามารถถามทางจากคนแถวนี้ได้เลย ครั้งนั้นมีชาวทิเบต
ได้ช่วยชี้บอกทางให้  
แต่ฉันเองไม่ได้ไปที่นั่นเพราะเวลานั้นยังไม่รู้จักอะไร ๆ 
เกี่ยวกับทิเบตดีเท่าไหร่ ก็
เลยเลือกเดินขึ้นไปอีกทางที่จะเชื่อมไปยัง Naddi ที่
ไกลจากทะเลสาบประมาณ  1 กิโลเมตรแทน 

ความว่ามันเป็นจุดชมวิวเทือกเขา
Dhauladhar ที่สวยแห่งหนึ่ง 
และฉันก็อยากเห็นมันอย่างชัด ๆ และใกล้ ๆ 
ซึ่งเป็นที่น่าผิดหวังซะจริง ที่ในตอนนั้นภาพจากจุดชมวิว Naddi จะมีแต่
ทะเลหมอก
แล้วก็หมอกเต็มไปหมด นี่คงต้องโทษที่ฉันมาผิดฤดูใช่ไหมเนี่ย?

ส่วนขากลับสำหรับการเดินเท้าเที่ยวรอบนี้ ฉันได้โบกรถเมล์ที่กำลังวิ่งผ่าน 
Dal lake ไปลงยังเมืองดารัมซาลา และนั่งรถจากเมืองตอนล่างกลับขึ้นมาที่
แมคลอดกันจ์แทน



จุดชมวิวและแนวเขาที่เต็มไปด้วยไอหมอก ซึ่งมันก็ได้บดบังหิมาลัยไปจนมิด



บนรถเมล์ ที่วิ่งเชื่อมระหว่าง Dharamshala - Dal lake
ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลอะไรกัน เพราะลุงคนขับรถเมล์ได้ให้กระเป๋ารถฯ เอาขนมหวานมา
แจกผู้โดยสารคนละชิ้นด้วย ซึ่งในขณะนั้นก็มีคนอยู่บนรถฯ มาจากต้นทางเพียงแค่หกคนเอง 




จากข้อมูลที่บอกเล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้ บอกเลยว่าไม่สามารถ
จะจ้ำเท้าก้าวเดินเที่ยวภายในวันเดียวจนหมดได้ และถ้าหากเพื่อนนักท่องเที่ยว
คนใดคิดอยากจะเก็บจนครบภายในวันเดียว  ก็จงไปติดต่อซุ้มบริการฯ รถรับจ้าง
ตามที่
กล่าวถึงไว้ข้างต้นได้เลยค่ะ 




ข้อมูลอื่น ๆ   

* ปี 2017
ดารัมซาลา ได้ถูกประกาศยกสถานะให้เป็นเมืองหลวงแห่งรัฐหิมาจัลประเทศลำดับที่สอง
(รองจาก ชิมลา) จากเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา 

ปี 2015
ถนนโจกิวารา ที่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเชื่อมต่อไปยังดารัมซาลาตอนล่าง
ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ถนนโปตาลา (Potala Road) 

ปี 1905 ภาพความเสียหายจากข่าวแผ่นดินไหว



Create Date : 08 ธันวาคม 2557
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2562 21:57:26 น. 33 comments
Counter : 5185 Pageviews.

 
เพลงประกอบเพราะดีค่ะ


โดย: settembre วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:18:04:13 น.  

 
เวลาอ่านเหมือนได้ไปเที่ยวตามเลยคะ

ชื่อเมืองนางเริ่ดดีนะคะ

เดลี, เดห์ราดูน, จันดิการ์, อมฤตสาร์, ชิมลา, มะนาลี

อยากจะมีชื่อเป็นภาษาอินเดียบ้างจังคะ





โดย: Chic Bossy วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:18:31:31 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยอีกแล้วค่ะ
ภาพสุดท้ายวิวที่พักยามค่ำคืนเหรอคะ
ดูแล้วก็ไม่ได้เงียบเหงานักนะคะ


โดย: phunsud วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:18:43:13 น.  

 
สวัสดีจ้า

ดารัมชาลา ดินแดนธิเบตน้อย หรือธิเบตแห่งที่สองนี่

อ.เต๊ะ เคยได้ยินมาว่า ธรรมศาลาแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประทับขององค์ดาไลลามะอีกด้วย ปัจจุบันนี่ไม่รู้ยังเป็นเช่นนั้นหรือเปล่านะ สงสัยจัง

แล้วก็ น้องฟ้าไม่ได้แวะเลยเหรอนี่ แหม เสียดายจัง
อุตส่าห์ไปถึงนู่นแล้ว น่าจะแวะซักนิ้ดดนึงนะ

น่าตีด้วยไม้หน้าสาม เย้ย น่าหวดด้วยไม้เรียว จริงๆ อิอิ

ไอ้บ้า อ.เต๊ะ เค้าจะแวะไม่แวะ เอ็งสแล้น ไปยุ่งอารายด้วย เหลือเกิ้นจริงๆ555

ก็ๆๆ อ.เต๊ะ คิดว่าชีวิตนี้ คงไม่ได้ไปที่นั่นแน่ๆ ถ้าน้องฟ้าแวะ อ.เต๊ะ
ก้จะได้เห็นเป้นบุญตามั่งไง แหะๆ

แล้วนี่ไปดูน้ำตก ซกเล็ก อะไรก้ไม่รู้ ไหลกระปริบกระปรอย ซะขนาดนี้เป็นนิ่วหรือเปล่าน้อ 555

แต่ไม่เป็นไร ยังพอให้อภัยได้ เพราะทิวทัศน์ระหว่างทางสวยงาม อากาศสดชื่น เย็นสบายสะดือดี อิอิ

แล้วก้ เห็นมีตัวอะไรก้ไม่รู้ ใช่แพะภุเขาหรือเปล่าเนี่ย

เค้าบอกนมแพะอร่อย ถ้าอ.เต๊ะ ไปจะขอชิมสดๆเลย
ไม่รู้น้องแพะ จะยอมหรือเปล่าเนี่ย อะกึ๋ยๆ 555

แล้วก้ เรื่องการเมืองเรื่องศาสนานี่ เค้าห้ามพูดกันน้า

ยิ่งจีนนี่ ขาโหดอยู่ด้วย อ.เต๊ะ ฟังจากเพลง ดุภาพประกอบก้รู้แล้วว่า
วิถีชีวิตชาวธิเบตนี่ คงแสนสาหัสจริงๆ ไม่งั้นเค้าคงไม่ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน มาอยู่ประเทศอื่นหรอกเนอะ

แต่น้องฟ้านี่ อีกกรณีนึง ที่น้องฟ้าไม่ชอบอยู่เมืองไทย
เพราะ สุขลักษณะในอินเดีย ตรงกับพฤติกรรมซักแห้งของน้องฟ้ามากกว่าเนอะ

เราคนหัวอกเดียวกัน ไม่ว่ากันอยู่แล้น 555




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog



โดย: multiple วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:21:23:54 น.  

 

Like ให้ค่ะอุ้มล่ะชอบเพลงจังเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:21:26:28 น.  

 
สวัสดีค่า คุณฟ้า ^^

มาอ่านตะพาบเจออินเดียตอนใหม่ จะพลาดได้ไง
ความรู้มาเต็มอีกแล้ว บางทีการได้ออกไปท่องโลกแบบนี้ก็ทำให้เราอิสระดีนะคะ
อยากไปบ้าง อยากไปมาก แตยังไม่มีโอกาสเลย
มาเก็บข้อมูลไว้ก่อนค่า

เพลงประกอบได้อารมณ์มากๆ
เครื่องดนตรีนี้ป็นของพื้นเมืองรึเปล่าคะ
คล้ายวัฒนธรรมชนเผ่าเลย

เดี๋ยวจะตามอ่านตะพาบค่า
ไม่รู้จะทันวันนี้มั๊ย

ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: lovereason วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:22:11:47 น.  

 
โหวต Travel Blog ครับน้องฟ้า

ที่ที่คนบอกว่าไม่มีออะไรน่าสนใจ
บางทีเราไป
กลับมีอะไรน่าสนใจ

ขึ้นอยู่กับความสนใจและความคาดหวังของแต่ละคนจริงๆ

โอม มณี ปัทเม ฮุม (โอม มณี เปง เม ฮุม)
เป็นบทสวดที่พี่ก๋าก็ชอบมากนะครับ
ใช้ภาวนาสวดกล่อมนอนให้หมิงหมิงตั้งแต่เด็กเลย
มาจากพระสูตรปรัชญาปรามิตาหฤทัยสูตร




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:6:05:50 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ทักทายยามเช้าขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:7:33:42 น.  

 
น่าจะต้องสมบุกสมบันไม่เบา
คงต้องรีบไปก่อนจะแกร่ แฮ่ๆ



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:8:11:18 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ


โดย: zungzaa วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:9:20:11 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ
แบบพี่หล่อบอกเลย รีบไปก่อนจะแกร่ 555
ไว้มาส่งกำลังใจอีกทีค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:11:01:08 น.  

 
มาดามก็ไม่ชอบถ้ำครับ
เธอว่ามืดๆน่ากลัว

พี่ก๋าก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ถ่ายรูปยาก แล้วพี่ก๋าไม่ค่อยถือจาตั้งกล้องด้วยน่ะ
เลยถ่ายภาพออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:11:45:24 น.  

 
อ่านข้างบน เพลินเลยครับคุณฟ้า... ค่าที่พักเทียบกับไทย
260 กว่าบาทถูกมาก ๆ

เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ แบบนี้ชอบเลย.... ผมเวลาไปไหนมักจะ
กะคร่าว ๆ แล้วก็ลัดเลาะไปเห็นชีวิตของชาวบ้าน

แบบที่คุณฟ้าไปนี่แหละตรงกับที่ต้องการเลย.. แต่ก็ทำใจไป
อย่างคงจะหา สปอนเซอร์ค่าเดินทางยากหน่อย 555

เดินทางไปแบบชาวบ้านหรือเหนือกว่าเขานิดหน่อย ดีที่สุด
เปล่าว่า เพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยว ไปนอน ดีกว่าที่บ้านเรา 10 เท่า
ก็สบายดี แต่ไม่สบายกระเป๋า แหะ ๆ เปล่าว่าเพื่อนที่รีวิว
สถานที่นะครับ.

แอบอ่าน เม้นท์ของ อ.เต๊ะแล้ว อมยิ้มเลย แต่ยังสงสัย
อยู่อย่าง แหม...เม้นท์บล๊อกสาว ๆ ยาวเหยียด ทีของเรา
สั้นจุ้นจู๋ 555 ไปละ ไม่รู้ อ.เต๊ะมาแอบอ่านเม้นท์เราหรือ
เปล่า... กลัว พี่แก..เดินเบียดตกถนนนะครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:12:28:22 น.  

 
ฟังเพลงไป อ่านบล็อกไป เข้ากั๊นเข้ากัน อิอิ
ได้กลิ่นไอของธิเบตลอยตลบเลยค่ะ
พูดอย่างกับเคยไป ปล่าว ไม่เคยค่ะ ฮ่าา
แต่ดูจากรูป อากาศน่าจะดี ได้เห็นป่า เขา น้ำตก น้ำน้อยหน่อยก็สดชื่นแระ

++++

คุณฟ้าชอบเที่ยวแนวนี้ลองไป ญป ดูนะคะ เค้าน่าสนใจ
ในโลกที่เค้ามีความทันสมัยที่นำสมัย แต่เค้าก็คงวัฒนธรรมได้อย่างสวยงาม น่าทึ่งสุดๆ ตอนทำแผนก็ยากหน่อย เพราะจำชื่อแต่ละสถานที่ยาก แต่ไปแล้วมันต้องจำได้บ้างล่ะน่า เนอะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:15:55:45 น.  

 
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

เพื่อนเราก็ชอบเที่ยวแบบนี้ น่าสนุกเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:20:18:09 น.  

 
มาส่งกำลังใจและส่งเข้านอนจ้า..
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:0:32:19 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:3:00:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:6:39:23 น.  

 
มาร่วมเปิดโลกไปกับวาชิครับ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:9:53:27 น.  

 
กาบริเอล Travel Blog

โมเสสชอบสวนสัตว์มากค่ะ เวลาเล่นกับหมู หมา แมว กระต่าย แกะ แกจะเล่นที แล้วเช็ดมือที่เสื้อทีค่ะ แม่โมไม่ได้เลี้ยงให้อนามัยนะคะ แกเป็นของแกเอง คิดว่าโตอีกนิดคงไม่เป็นละคะ อิ อิ


โดย: mariabamboo วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:18:22:40 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ 

ผู้เขียน Blogหมวดเนื้อหาBlog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็นDharma Blogดู Blog
ดอยสะเก็ดLiterature Blogดู Blog
ก้นกะลาMusic Blogดู Blog
ขุนเพชรขุนรามScience Blogดู Blog
กาบริเอลTravel Blogดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: pantawan วันที่: 10 ธันวาคม 2557 เวลา:23:16:33 น.  

 
แพะเหรอคะ ขนยาวเชียว




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:18:07:29 น.  

 
อยากรู้เรื่องการแพทย์ที่นั่นว่าเป็นไงบ้างเพราะต้องอยู่หลายเดือนไปเรียนภาษาครับ
ใครทราบขอข้อมูลด้วยครับผม


โดย: สรวิศ วรรณะอยู่ IP: 171.96.177.9 วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:30:35 น.  

 
@ คุณสรวิศ วรรณะ

จะไปอยู่ที่เมืองนี้หรือปล่าวคะคิดว่าคงไปที่ย่าน McLeod ganj (เมืองด้านบน) แน่ๆ เห็นมีพระไทยเยอะพอสมควร ลองติดต่อสอบถามเรื่องนี้ไปที่ เพจ https://www.facebook.com/moralproject
อาจได้ข้อมูลจากพระท่านที่เคยไปอยู่

พวก โรงพยาบาล จะตั้งอยู่บริเวณดารัมชาลา (เมืองที่อยู่ด้านล่าง) ค่ะ


โดย: กาบริเอล วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:06:43 น.  

 
ชื่อเพราะง่ะ ดารัมชาลา พอแปลไทยมันก็คือคำว่าธรรมศาลานี่เองแฮะ
ธิเบตก็ดูเป็นอีกแบบต่างจากอินเดียไป ทั้งรูปของดาไลลามะที่ต้องมีทุกบ้าน ส่วนทุกปะนี่ดูดีกว่าอาหารของฟ้ามื้ออื่นๆนะเนี่ย
กงล้ออธิษฐานนี่ที่อื่นมีป่ะครับ คุ้นๆเหมือนเคยเห็นรูปฟ้าถ่ายรูปกงล้อโลหะอยู่ ไม่แน่ใจว่าประเทศไหน
ทางขึ้นน้ำตกแพะขนยาวจริงแฮะ เวลาโดดมันไม่เกะกะเรอะ? แต่หนาวขนาดนี้ตัดสั้นคงไม่ไหว
มาตกใจเอากับชื่อโบสถ์เซนต์จอห์น ผ่าเหล่าผ่ากอมาก ที่แท้ก็แถมมากับอาณานิคม
จุดชมวิวมีแต่ทะเลหมอกก็ดีดิครับ นักเที่ยวบ้านเราปีนเขาแทบตายไปดูหมอก


โดย: ชีริว วันที่: 22 ธันวาคม 2560 เวลา:21:50:22 น.  

 
@ชีริว : ตอนไปเที่ยวหนแรก เบื่อหมอกกับฝนมาก ๆ
มองวิวภูเขาแทบไม่เห็นเลยล่ะ

ทีแรกก็คิดอยู่ว่าโบสถ์เซนต์จอห์น มาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไง 555
พอดูประวัติแล้วย้อนไปในยุคก่อน(ก่อนเจอเหตุแผ่นดินไหวระดับ
ทำลายล้าง)มันก็คงจะมีตึกมีอาคารแบบยุคอาณานิคมตั้งอยู่ไม่
ต่างไปกับเมืองบนเขาที่อื่น ที่พวกอังกฤษชอบหนีร้อนไปตาก
อากาศกันแน่ ๆ


โดย: กาบริเอล วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:20:25:13 น.  

 
อยากทราบว่ารถเมล์ขึ้นแมกลอยกันจ์รับผู้โดยสารถึงกี่โมงคะพอดีจะพักที่sahima hotel ใกล้dal lakeค่ะ


โดย: ประณีต IP: 223.24.188.115 วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:12:09:45 น.  

 
@คุณประณีต : จากท่ารถขนส่งที่ดารัมซาลา รถเมล์ที่จะขึ้นไป
แมคลอดกันจ์ รอบสุดท้ายน่าจะประมาณสองทุ่มค่ะ (ส่วนรอบแรก
ในตอนเช้าก็ราว ๆ แปดโมงหรือแปดโมงครึ่งนี่แหละ)

แต่ขอตอบเผื่อไว้ก่อนว่า
รถเมล์ที่จะไปฝั่ง dal lake จะไม่ได้เลี้ยวแวะ
ไปยัง แมคลอดกันจ์ ที่อยู่คนละซีกด้านนะคะ

ถ้าจะตั้งหลักไปยังที่พักก่อน
จากท่ารถขนส่งด้านล่างจะมีรถเมล์ตรงไป
ยัง dal lake ค่ะ

หากสงสัยตรงไหนเพิ่มเติมก็ถามได้นะคะ :)


โดย: กาบริเอล วันที่: 11 กรกฎาคม 2561 เวลา:15:20:48 น.  

 
องค์ทะไลลามะใช้เวลาร้อยละ 80 กับภารกิจ 2 ประการ ประการแรกคือ การส่งเสริมคุณค่าความเป็นมนุษย์ เช่น ความเข้าใจ การให้อภัย การมีขันติธรรม ฯลฯ ประการที่สองคือ การส่งเสริมให้ผู้คนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ภารกิจทั้งสองประการนี้เป็นสิ่งที่ท่านจะทำตราบลมหายใจสุดท้าย

““จุดมุ่งหมายของชีวิตคือการอยู่อย่างมีความสุข””

“”จากประสบการณ์ของอาตมา อาตมาพบว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจากการพัฒนาความรักและความเห็นอกเห็นใจ ยิ่งเราห่วงใยในทุกข์สุขของคนอื่น เรายิ่งรู้สึกเป็นสุข””

“”ถ้าเราตระหนักว่าชีวิตทุกชีวิตล้วนปรารถนาที่จะมีความสุขและมีสิทธ์ิที่จะได้รับความสุขโดยเท่าเทียมกัน เมื่อนั้นท่านจะสามารถเข้าอกเข้าใจผู้อื่นและรู้สึกใกล้ชิดกันและกันมากขึ้น””
ความสุขของ องค์ทะไลลามะ

จากข้อมูล https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/122410.html

ปล.เข้ามาอ่านตอนนี้ วันนี้เข้าบ.ภาระกิจประจำเดือน ครั้นพักหลับแต่หัวค่ำเกินสองชม.ก็ต้องตื่นหันไปหันมาอ่านต่อจิ พบเรื่องชาวอังกฤษ ที่หนีร้อนมาพักผ่อนกันที่นี่เอง ในยุคล่าอนานิคมฯ สารคดีเรื่อง https://www.youtube.com/watch?v=xXwWyw6UdYI&t=162s พูดถึงบุคคลชั้นสูงจะมาพักผ่อนกันที่นี่ จะถือเป็นกรณีพิเศษของพวกเขา,

ปล.2เมื่อแอบอ่านจนหมดเรื่องฯลฯแล้ว จะหาเรื่องแอบอ่านได้ที่ใหน?ได้อีกได้โปรดชี้แนะ.....


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:23:48:43 น.  

 
เรื่องที่มีเขียนต่อจากนี้ก็อยู่ใน
กลุ่มบล็อก Hindustan ค่ะลุงแอ็ด
แต่เขียนยาวหลายตอนมาก


โดย: กาบริเอล วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:8:21:40 น.  

 
เยี่ยม.....


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:13:01:23 น.  

 
ต้องการไปดารัมซาร่า กค.63 ไม่มีเพื่อนเดินทาง ไม่เคยไป


โดย: เป็นพระสงฆ์ IP: 223.204.227.139 วันที่: 9 เมษายน 2563 เวลา:0:00:04 น.  

 
@เป็นพระสงฆ์ -- สวัสดีค่ะ ที่ แมคลอดกันจ์ (ดารัมซาลาตอนบน)
มีพระไทยไปเรียนภาษากันค่อนข้างเยอะเลยค่ะ หากอยากทราบ
ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมก็ถามได้นะคะ ยินดีช่วยค่ะ


โดย: กาบริเอล วันที่: 9 เมษายน 2563 เวลา:1:24:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.