Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
17 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
Nainital ณ กาลครั้งหนึ่ง (4)





บันทึกการเดินทางในอินเดีย ครั้งที่ 2 : ตุลาคม 2014
(ได้ทำการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่อีกครั้งในปี 2017)



ใบจองเที่ยวรถโดยสาร ที่ต้องเขียนกรอกส่งพนักงานเพื่อออกตั๋วออนไลน์ (สำหรับจองล่วงหน้า) 
ในส่วนที่ตั้งของจุดบริการจองรถของไนนิตาลจะอยู่ตรงท่ารถขนส่งตรง Tallital 


ที่จริงแล้วฉันตั้งใจที่จะไปต่อยัง เมืองมัสซูรี (mussoorie) เพราะหากมอง
จาก
แผนที่โดยคร่าว ๆ ก็จะเห็นว่ามันอยู่ไม่ไกลสักเท่าไหร่จึงเข้าใจว่ามันอาจจะมี
เที่ยวรถวิ่งตรงจากที่นี่ไปได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผิดคาดเพราะด้วยเมืองทั้งสองนี้
ตั้งอยู่บนเขาและคนอยู่ละฟากฝั่งตามหลักการแบ่งเขตพื้นที่ ดังนั้นมันจึงไม่มีถนน
หนทางที่โยงถึงกันโดยง่าย และการฉันไม่ได้มีจุดหมายที่ชัดเจนอะไรนักกับ 
อินเดียในครั้งนี้ก็เลยต้องหันเหไปลงยังท่ารถเมืองเดห์ราดูนแทนไปก่อน

เมื่อได้ตั๋วเดินทางรอบค่ำมาครองและรู้กำหนดการเดินทางอย่างชัดเจนแล้ว 
ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ฉันจึงได้ใช้ทำตัวแบบนักท่องเที่ยวเต็มคราบเสียบ้าง ด้วยการ
นั่งละเลียดจิบชาร้อน ๆ แถว Mall Road เดินชมเมืองในส่วนที่ยังไม่ได้ไป นั่งกิน
โดซ่าอร่อย ๆ ในร้านที่มีวิวแจ่ม ๆ ทั้งยังตามหาโปสการ์ดและเขียนถึงคนที่
เมืองไทย ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ฉันได้ลองส่งอะไรแบบนี้เชื่อไหมล่ะ? 

กระทั่งกลับไปอาบ
น้ำและเก็บข้าวของจากที่พัก 
เพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางต่อในช่วงค่ำ


แม้จะยังมีเวลาอีกเหลือเฟือแต่ฉันก็เลือกแจ้งออกจากที่พักในช่วงบ่ายสาม เพราะ
ตั้งใจจะเดินลัดเลียบข้างทะเลสาบกับตีนเขา ฟากตรงข้ามกับถนนเส้นหลักที่ไม่มี
รถราวิ่งสวนผ่านและเป็นพื้นที่อันแสนสงบเพื่อลัดโผล่มายังท่ารถได้โดยตรง 
นี่ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ หลังจากที่ฝากกระเป๋าแล้วฉันคงได้ปลีกตัวมา
นั่งเรือพายชมทะเลสาบส่งท้ายอย่างน้อย
อีกครึ่งชั่วโมงเป็นการส่งท้าย



ชาวเมืองบางส่วนกำลังนั่งชมการแข่งขันกีฬา ที่ลานกิจกรรมบริเวณหน้ามัสยิด

พอออกจากที่พัก ฉันได้ลัดเลาะออกมาอีกทางหนึ่งผ่านเขตชุมชนเพื่อตั้งใจจะ
เดินตรงไปยังฝั่งทางเดินที่ว่าเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นถนนที่มีรถ ครึ่งทางระหว่างนี้ก็
ต้องผ่านที่ตั้งของ'จามามัสยิด' ก่อน และด้วยความที่บริเวณนั้นกำลังมีการแข่งขัน

อะไรบางอย่างพร้อม ๆ กันถึงสองสนาม ก็ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนทิศทางการเดินเท้า
แวะเลี้ยวแวะเข้าจนได้

จะว่าไปแล้ว นับตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาถึงไนนิตาล (ต้นเดือนตุลาคม) ในวันแรก
ที่
เดินผ่านหน้ามัสยิดแห่งนี้ก็เห็นพิธีบางอย่างในตอนเช้าที่ดูคราคร่ำไปด้วยชาว
เมืองที่เป็นมุสลิมมานั่งรวมตัวกันตรงลานเดียวกันนี้ และในค่ำคืนเดียวกันก็ได้ยิน
และเห็นการจุดพลุเฉลิมฉลองแทบตลอดคืนเสียด้วย พอได้ลองสอบถามจากผู้คน
แถวนั้นก็พอได้รู้ว่าขณะนั้นเป็นช่วงวันตรุษอีด




ลานกิจกรรม บริเวณด้านที่มีการแข่งขันฟุตบอล (ทีมผู้ชาย)



และในอีกซีกมุมหนึ่ง ได้ถูกแบ่งไว้สำหรับการแข่งขันฮ็อกกี้ (ทีมผู้หญิง)

นานอยู่ทีเดียว ที่ฉันได้นั่งดูการแข่งขันกีฬาประเภททีมอย่างฟุตบอล ตลอดจน
เดินไปส่องดูยังอีกซีกฝั่งหนึ่งด้วยความสงสัย ก็ได้เห็นมีเหล่านักเรียนหญิงกำลัง
แข่งขันฮ็อกกี้กันอย่างน่าสนุก แต่งานนี้คงดูเหมือนจะเป็นทางการทีเดียว เพราะดู
จากซุ้มที่ตั้งกลางลานแล้วก็มีการมอบถ้วยรางวัลกันด้วย 


ไป ๆ มา ๆ ฉันก็เผลอพลั้งหลุดออกมาไกลเกินกว่าจะย้อนไปที่อีกซีกด้านของ
ทะเลสาบเสียแล้วสิ ในที่สุดเส้นทางการเดินเท้าไปยังท่ารถก็ต้องมาอยู่ที่ฝั่ง
Mall 
Road จนได้ แต่สำหรับเรื่องการแบ่งเขตพื้นที่ทางเดินเท้าของไนนิตาลก็ดู
เหมือนจะดีกว่าหลายเมืองที่เคยเจอนะ ถึงจะเป็นฝั่งตลาดที่เต็มไปด้วยร้านรวง
และรถราที่วิ่งแล่นผ่านก็ตาม มันก็ยังมีแนวร่มไม้และช่องทางสำหรับคนเดินที่ดู
ปลอดภัยเช่นกัน แต่อาจจะน่าหนวกหูหน่อยก็ตรงเสียงแตรรถแค่นั้น




พื้นที่ทางเดินเลียบทะเลสาบ ที่จัดไว้สำหรับทางเท้าเท่านั้น



พื้นที่ทางเดินบนเส้นถนนและผู้คนที่เดินสัญจรไปมา 


ในอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันเปลี่ยนใจมาเดินทางฝั่งนี้แทน เพราะหลายวันที่ผ่านมาได้
ขาดการติดต่อกับทางบ้านไปพักใหญ่แล้ว ซึ่งหากจะมัวแต่มองหาร้านอาหารที่มี
wifi ก็คงเสียเวลาและเปลืองเงินไปกับค่าอาหารที่มักขึ้นราคาสูงตามไปด้วย 
ลำพังจะหวังพึ่งพาการเดินทางไปถึงของโปสการ์ดที่เพิ่งหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ก็
อาจดูไม่ทันใจเท่าไหร่ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าคงน่าจะดีหากเรามีซิมฯ สำหรับเชื่อมต่อ
สัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วย 



โดยปกติแล้วบริเวณ Mall Road จะมีช่วงเวลาปิดทางกั้นถนนส่วนหนึ่งไว้ไม่ให้
รถยนต์วิ่งผ่าน แต่วันนี้ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทั้งชายและหญิง
มายืนประจำการกระจายกันอยู่หลายจุดกันตั้งแต่หัววัน พวกเขากำลังดูแลเรื่องการ
จราจรและพยายามกั้นเขตถนนเพื่อไม่ให้รถวิ่งผ่านในช่วงขณะนี้ 

ฉันข้ามถนนไปยังฝั่งอาคารพานิชย์บริเวณทางเนินหน้าโรงแรมใหญ่เพื่อมองดู
เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นตามอย่างที่คนในพื้นที่กำลังมายืนรวมตัวกันอยู่
โดยที่ไม่ได้รู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยว่าช่วงเย็นของวันนี้จะมีเทศงานฉลองอะไรกันอีก



"ฮิจร่า" 
 ในชุดผู้หญิงที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันแบบจัดเต็ม พวกเธอนั้นได้พากันเต้นรำไปตาม
เสียงเพลงที่เปิดอยู่อย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเหล่าคนดูที่พากันมุงดูและยิ้มกริ่ม 
ชอบใจไปกับ
การแสดงนี้กันถ้วนหน้า   


ที่กลางถนน
 ในตอนนี้ไม่มีรถวิ่งกันแล้ว จะมีแต่ผู้คนที่พากันมายืนมุงดูสาวสวย
ร่างใหญ่ที่กำลังยืนเต้นรำไปตามเสียงเพลง พร้อมส่ายเอว สะบัดสะบัดตัว รับส่ง
กันตามจังหวะ ตึ้ม ตึ่ม ตึ้ม ตึ่ม...ครั้งนี้ดูต่างจากหนแรกที่ฉันได้เจอไปถนัดตา
เพราะไม่ใช่ "ฮิจร่า" (หรือกระเทย) ที่แต่งตัวเป็นหญิงมาเดินตบมือเสียงดังเพื่อส่ง
สัญญาณเตือนให้รู้ว่า 'ข้ามาแล้ว' ก่อนเดินไปไถเงินคนโน้นคนนี้แบบที่เคยเจอบน
รถไฟ หรือตามที่ต่าง ๆ 

แต่กลับเป็นฮิจร่าที่ถูกเชิญมาร่ายรำในงานสำคัญหรืองานมงคลตามความเชื่อ
ดั้งเดิมของชาวฮินดู ซึ่งพอเห็นแบบนี้แล้วก็ดูเป็นสีสันดีเหมือนกันนะ 

และหลังจากที่เหล่าสาวสวยทั้งสาม(นาย)ได้จบการเต้นลง ผู้คนบริเวณนั้นก็ต้อง
ทำการหลีกทางเพื่อปล่อยให้ขบวนรถที่กำลังรอจ่ออยู่ถัดไปได้เคลื่อนตัวผ่านถนน
ในตอนนั้นมีทั้งเสียงเพลงที่บรรเลงโดยเหล่าวงดุริยางค์ดังไล่หลังขึ้นมาเรื่อย ๆ 
ฉันเห็นรถกระบะบางคันเต็มไปด้วยการตกแต่งเป็นดูเป็นซุ้มเพิงเล็ก ๆ และมีเด็ก
ที่แต่งตัวเป็นเทพเจ้า
นั่งประจำการกันอยู่บนรถเหล่านั้น 



ขบวนรถที่มีเหล่าเด็กที่ชุดแฟนซีเป็นเทพเจ้านั่งอยู่ที่ด้านท้าย กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ 
บนท้องถนนพร้อมเหล่าผู้คนอื่น ๆ ที่มาร่วมเดินแห่ไปด้วยกัน



คันนี้มาในธีม Sai Baba (
Shirdi Sai Baba)



ธีมเทพเจ้าต่าง ๆ (มองไม่ออกนะว่าพวกเขาแต่งเป็นใครกันบ้าง)









ธีม พระราม ตอนสังหารอสูรราวัณ (ทศกัณฐ์)



เด็กหญิงที่แต่งตัวเป็นเทวี กำลังเดินอยู่ในขบวนแห่ 



เหล่าวงดุริยางค์ ที่กำลังบรรเลงอยู่ที่ด้านท้ายก็ได้เดินไล่ตามมาเรื่อย ๆ



ส่วนกลุ่มที่เดินปิดท้ายขบวนก็คือผู้คนที่ทำหน้าที่หามเกี้ยวเทพเจ้าท้องถิ่น

มาคิดดูแล้ว ในตอนนี้อาจเป็นช่วงนวราตรีของชาวฮินดูแน่ ๆ แต่ว่าฉันไม่ได้มี
โอกาสเห็นพวกเขาทำการฉลองอะไรกันต่อในคืนนี้ เพราะจะต้องไปแล้ว พอกลุ่ม
คนในขบวนแห่ได้เคลื่อนหายไปกันหมด  และท้องถนนได้เปิดอนุญาตให้รถวิ่ง
ผ่านตามปกติแล้ว ฉันจึงเริ่มขยับย้ายไปเดินตามหาร้านที่ขายซิมโทรศัพท์มือถือ
และในที่สุดก็มีอยู่ร้านหนึ่งที่มีสิ่งอย่างว่า

แต่...

"อยู่ในพื้นที่หรือปล่าว?" ลุงคนที่เจ้าของร้านชำ และเป็นตัวแทนขายซิมฯ ได้เปิด
คำถามบางอย่างที่ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรนัก

"ไม่ค่ะ วันนี้จะเดินทางออกจากไนนิตาลแล้ว" ฉันตอบไปอย่างไม่ได้คิดเอะใจอะไร

ดูเหมือนว่าลุงเขาจะดูกังวลกับอะไรบางอย่าง ก็แน่นอนอยู่ว่าพวกเราสื่อสารกันได้
แบบตะกุกตะกักเกินกว่าจะอธิบายอะไรให้เข้าใจได้ดีเท่าไหร่ ลุงส่งแบบฟอร์ม
มาให้กรอกและขอรูปถ่ายกับสำเนาที่พัก หน้าพาสปอร์ตและวีซ่าแนบด้วย

ทำไมมันดูยุ่งยากจังฟระ

ก็อย่างที่บอกไปฉันเคยซื้อซิมการ์ดแบบธรรมดามาก่อน จากร้านทั่วไปนี่แหละ 
แค่จ่ายเงินแล้วก็ใช้ได้เลย ไหงมาคราวนี้กลับแลยุ่งยากเสียจริง! 
และระหว่างนั้นลุงคนขายก็ได้โทรติดต่อไปยังศูนย์ฯ เพื่อสอบถามเรื่องการลง
ทะเบียนการใช้ซิม 3G ของฉัน  ความว่ามันอาจจะมีปัญหาสำหรับเรื่องอนุมัติ
การเปิดใช้สัญญาณ เพราะฉันเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้มีที่อยู่อาศัยระบุเป็นหลัก-
แหล่ง (หรืออย่างน้อยก็อาจขอให้เจ้าของที่พักในท้องถิ่นออกใบรับรองได้) 

หลังจากที่ได้เบอร์ใหม่มาและทำการทดลองสัญญาณการโทรเข้า - ออก แล้ว 
ก็ดูเหมือนจะไม่การเชื่อมต่อใด ๆ ได้เลย ลุงบอกว่าถ้าพรุ่งนี้ทางศูนย์ฯ อนุมัติ
การถือครองเบอร์นี้เมื่อไหร่มันก็จะสามารถใช้การได้และค่อยไปเติมเงินเพื่อ
สมัครแพคเกจเสริมสำหรับอินเตอร์เน็ตภายหลัง 

ฉันพลาดเองที่ใจร้อนและชะล่าใจไม่ยอมมาซื้อซิมฯ ตั้งแต่วันที่มาถึงเพื่อที่จะได้
สะดวกในการติดต่อกับเจ้าของร้านโดยตรง โธ่ว้อยย...ตอนนี้ฉันมีแค่เบอร์ที่ใช้การ
ไม่ได้สินะ 

สรุปก็คือการที่จะซื้อซิมโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตในอินเดียได้นั้น

1. ระหว่างที่เดินเรื่องการอนุมัติก็จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ ก่อน และมีใบรับรอง
การเข้าพักของเราในขณะนั้นด้วย เพราะมันต้องยื่นเป็นหลักฐานให้กับทางการ 
คงเพื่อการป้องกันการก่อการร้าย  2. เตรียมสำเนาหนังสือเดินทางสำเนาวีซ่า และ
รูปถ่ายมาแนบเป็นหลักฐานประกอบด้วย 3.หลังจากที่ได้ซิมฯ มาแล้วอาจจะต้อง
รอการอนุมัติจากเครือข่ายของเราเสียก่อน  ทั้งนี้เขาจะดูตามหลักฐานที่เราแนบมา
นี่แหละ หากว่าที่อยู่ของเราชัดเจนและมีการรับรองนั่นก็อาจไม่มีปัญหาอะไร ...

ส่วนฉันกลับมีแต่ใบจองที่พักของเมืองที่จะเดินทางถัดไปยื่นให้
ซึ่งมันเป็นคนละพื้นที่กับทำการลงทะเบียนน่ะสิ

และสุดท้ายหลังจากนี้เบอร์นั้นก็ใช้การอะไรไม่ได้ อยากจะร้องไห้


ฉันใช้เวลาไปมากทีเดียวกับการเดินเรื่องเปิดสัญญาณที่ดูเหมือนจะลมแล้ง
และเมื่อได้เดินออกมาจากร้าน  เพื่อเดินตรงไปยังท่ารถได้มันก็ใกล้ค่ำเสียแล้ว
บรรดาเรือรับจ้างที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ได้ปิดซุ้มจำหน่ายตั๋วไปเรียบร้อยตั้งแต่ห้าโมงเย็น
ก็แอบเสียดายอยู่นะ ที่ไม่ได้ลองนั่งเรือชมทะเลสาบสักครั้งเสียที 

เอาเถอะสำหรับไนนิตาลเมืองแสนสวยนี้ 
ในวันข้างหน้าฉันคงต้องหาเรื่องกลับมาอีกแน่ ๆ 
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ฉันไม่ขอกลับมาแบบคนเดียวได้มั้ยเนี่ย :)  


มุมภาพทะเลสาบยามค่ำคืน จากบริเวณท่ารถขนส่ง



ที่ลานจอดรถ 

ฉันงัดเอากระดาษ A4 ที่พิมพ์รายละเอียดเที่ยวรถรอบทุ่มครึ่งมาส่องดู เพื่อมองหา
ทะเบียนรถหรือไม่ก็ป้ายแสดงหน้ารถ ที่จะเป็นสัญลักษณ์พอให้รู้ว่าจะต้องเดินไป
ขึ้นคันไหนได้ถูก ในตอนนั้นก็มีรถโดยสารหลายคันที่จอดเรียงรายกันอยู่ บางคัน
ก็ติดเครื่องรอล่วงหน้า บางคันก็ยังจอดแบบนิ่ง ๆ 

ระหว่างที่กำลังมองหาตัวช่วยชี้บอกคันรถที่ฉันควรจะขึ้นไปนั่งก็มีคนต่างชาติ
หอบเป้ หิ้วกีตาร์ เดินพะรุงพะรังมาพร้อมกับกระดาษ A4 ที่ถืออยู่ในมือเหมือนฉัน

"นี่ คุณไปเดลีหรือปล่าว" เขาเดินมาถาม 

"ฉันจะไปเดราดูนห์" ฉันถือตั๋วจองแผ่นโตโชว์ให้ดู "แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นรถคันไหน"

เรื่องของเรื่องคือ เราอ่านภาษาฮินดีจากป้ายหน้ารถกันออกซะที่ไหนและทาง
เลือกที่ดีไปกว่าการยืนงงกันแบบนี้  ก็คือการเดินเข้าไปถามพนักงานที่นั่งประจำ
จุดสอบถามนี่แหละ 

พนักงานที่ประจำอยู่ในตอนนั้นได้เขียนหมายเลขทะเบียนรถที่เราจะต้องไปขึ้นให้
ซึ่งคันที่จะไปเดลีและเดห์ราดูน ที่จอดรออยู่ก็ยังไม่ถึงเวลาออกเดินทางทั้งคู่
พวกเราก็เลยได้คุยกันก่อนจะแยกตัวไปขึ้นรถ เลยรู้ว่าเขาเป็นชาวอิสราเอล 
กำลังวางแผนจะเดินทางไปยังประเทศไทยในสัปดาห์หน้าด้วย  ส่วนฉันแม้จะยัง
อยู่ที่อินเดียก็ตามแต่ก็ใช่ว่าจะรู้เป้าหมายจริง ๆ เลยว่าจะไปไหนต่อดี 

ครู่หนึ่งเมื่อเสียงเรียกของกระเป๋ารถฯ เริ่มตะโกนเรียกผู้โดยสารที่จะไปเดลีดังขึ้น
นักเดินทางชาวอิสราเอลก็ต้องลาไปขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อ ส่วนฉันยังคงมีเวลาอีก
นิดหน่อยที่ยังพอไปเดินเก็บรูปแถว ๆ ริมทะเลสาบได้อยู่ 


...


เมื่อได้เวลาล้อหมุน และต้องออกเดินทางจากเมืองแล้ว ภาพสุดท้ายของ
ทะเลสาบก็ได้ลับหายไปอย่างเร็วเมื่อตัวรถได้เลี้ยวหักออกไปยังช่องเขา ที่มันดู
คล้ายกับเป็นประตูปิดซ่อนไนนิตาลให้พ้นสายตาจากภายนอกเป็นอย่างดี 
จากนั้นชั่วโมงแห่งการนั่งหลับแบบที่คอต้องเอียงเอี้ยวไปมาก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
กับจังหวะการชะลอความไวเมื่อต้องหักรถเข้าโค้งครั้งแล้วครั้งเล่า 

ที่นั่งของฉันนั่งอยู่ตรงริมหน้าต่างฝั่งซ้าย ซึ่งก็เป็นการดีที่จะมองเห็นเงาตะคุ่ม ๆ
ของดงสนและแสงจันทร์ที่ส่องแบบเต็มดวงเคียงไปตลอดทาง ส่วนอากาศด้าน
นอกในตอนนี้คงน่าจะหนาวเย็นน่าดู

"แคร้ก..." 

ฉันได้ยินเสียงการเลื่อนเปิดหน้าต่างที่ดังมาจากด้านหลัง จำได้ว่ามีครอบครัวหนึ่ง
นั่งกันอยู่ที่เบาะหลังและตำแหน่งริมหน้าต่างก็น่าจะเป็นเจ้าเด็กตัวโตนั่น...
ลมที่พัดลอดมาทางหน้าต่างได้หอบนำเอาไอเย็นมาเผื่อแผ่ยังฉันด้วย ไม่รู้ว่าเกิด
ของขึ้นหรือร้อนอะไรกัน ทั้งที่ในตอนนี้มันไม่มีคนบ้าที่ไหนจะอุตริแง้มหน้าต่าง
กันสักนิด ฉันเดาว่าพวกเขาอาจอยากชมวิวแบบสี่มิติ ไม่ก็เป็นความซนของเด็ก

"โอ้กกกก..."

เวรละ น้องมันเมารถ! 

แล้วภาพอันตรึงตราของทิวทัศน์ยามค่ำคืนระหว่างทางที่ฉันกำลังนั่งซาบซึ้งอยู่
ก็กำลังจะถูกกลบลงด้วยอาการโอ้กอ้ากของไอ้เด็กหลังเบาะคนดังกล่าว

เขาว่ากันว่า หากใครแสดงอาการหาวให้เห็นเรามักจะเผลอหาวตาม
แล้วอาการคลื่นเหียนอาเจียนแบบนี้ พอได้ฟังนานเข้ามันจะทำให้เกิดปฏิกิริยา
การคล้อยตามมั้ยล่ะ?

จะว่าไปแล้ว เรื่องของระยะห่างก็แค่ด้านหลังแถมดังชัดมากยังกับน้องมาลั่นอยู่
ข้างหู ซึ่งนี่ก็นานติดต่อกันถึง 15 นาทีแล้วนะ ทำไมยังไม่หยุดเสียที หา!!!!  

และที่แน่ ๆ เจ้าน้องคนนั้นก็ไม่ใช่รายเดียวซะด้วยสิ ยังมีผู้ร่วมคนอื่น
กำลังจะแง้มเปิดหน้าต่างร่วมสบทบต่ออีก เส้นทางถนนจากไนนิตาลช่าง
โหดร้ายต่อพวกเมารถง่ายเสียจริง ขอเตือนเลยนะว่าหากจะมาก็เตรียมกิน
ยาแก้เมารถไว้ได้เลย

เอิ่ม...แล้วหนนี้จะเป็นอะไรไหมเนี่ย?
หากฉันจะเริ่มสำแดงอาการอุปทานหมู่ร่วมด้วยอีกคน





ค่ารถ : Nainital - Dehradun : 624 รูปี (ปี 2014)
ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง

** ขบวนแห่ที่ได้เห็นนั้น 
สันนิษฐานว่าเป็น 
Vijayadashami หรือในอีกชื่อก็คือ Dusshera
ซึ่งจะจัดขึ้นต่อจากเทศกาลฉลองที่ชื่อว่า นวราตรี ในวันถัดไป 
(ซึ่ง "นวราตรี" จะมี 9 วันและ Dusshera จะจัดในวันที่ 10)





Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2562 21:53:00 น. 30 comments
Counter : 1005 Pageviews.

 
ตามมาเที่ยวด้วยครับ... เมืองนี้มีต้นไม้เยอะ น่าไปเที่ยว

แต่เห็น นาง ..ที่แต่งตัวพิเศษ แรกเห็นก็เดาออกว่า น่าจะเป็น
ปู้จายมาก่อง 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:25:24 น.  

 
ความรู้สึกเป็นสิ่งที่เข้าใจยากมาก
พี่ก๋าว่ามันเป็นทั้งศาสตร์แบะศิลป์


เหมือนการถ่ายภาพแคนดิด
พี่ก๋าเองก็เคยเจอกับตัวครับ
ไปเห็นเด็กฝรั่งน่ารัก
ก็กดภาพเลย
ที่ไหนได้แม่เค้ายืนส่งสายตาตำหนิ
ต้องรีบขอโทษและลบภาพทิ้งทันทีครับ แหะๆๆๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:09:43 น.  

 
ตามมาอ่านสนุกมากเที่ยวแบบลุยเดี่ยวของฟ้าเขียนเรื่องเที่ยวพิมพ์เป็นเล่ม
ได้แล้ว


โดย: ป้าพร IP: 27.55.150.177 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:49:39 น.  

 
ลิงหางขาว หรือลิงอะไรถ้ารวมฝูงเป็นเจ้าถิ่นแล้วเราเดินมาคนเดียวเนี่ยราวกะเพชรพระอุมาฉากฝ่าด่านทัพสมุนพระรามเลย 5555 แต่ว่าไปมันคงดุไม่เท่าลิงกังบ้านเราเน้อะ

หมู่บ้านเค้าสะอาดสอ้านดีจัง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:06:05 น.  

 






อืมม .. ถ้าไม่ไปเที่ยวเอง .. เห็นแบบนี้ ก็ สวยดี เนอะ ..


ไปเอง ..




หืด ... จับ ..










โดย: foreverlovemom วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:19:23:32 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า


โหวตบล็อกท่องเที่ยวให้เลยนะครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:14:42 น.  

 
เป็นประเทศที่น่าจะต้องไปมาก แต่ถ้าไปก็
ต้องเอาพ่อกะแม่ไปด้วย นึกถึงบางเรื่องที่
ไม่สะดวกแล้ว มันน่าจะต้องเหนื่อยมากทีเดียว
เคยเห็นเพื่อนพาแม่ซึ่งเดินไม่ได้แล้วไปด้วย
เค้าจ้างคนเข็ญวีลแชร์ ไม่รู้แม่เราจะยอมนั่งไหม

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Photo Blog ดู Blog
kae+aoe Fanclub Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog





โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:48:25 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อจ้ะ
อ่านมาเรื่อย ๆ ดีนะคืนนั้นไม่มีอุปทานหมู่ ^__^
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:56:48 น.  

 
สวัสดีจ้า

อ.เต๊ะ มาแย้ว แง้ววๆๆๆ 555

ว้าวๆๆ เห้นถนนเชิงเขา วิวสวย ขนาดนี้ มีลิงยิ้ม แยกเขี้ยวด้วย

น่าขี่จักรยานเล่นจริงๆเล้ยอะ

แต่เอาแค่ ขาลงนะ ปล่อยไหลลงมาเลย อิอิ

ขาขึ้นถีบไม่ไหว เดี๋ยวเป็นลม จ้างเอาใส่ซาเล้งขึ้นไปดีฝ่า 555


แล้วก้ อ.เต๊ะ นึกภาพรถบัสในอินเดียที่ไร คอยดูแต่ในหนัง

ก้เห็นแต่ผู้คนแออัดยัดเยียด มีเป้ดไก่ใส่ชะลอมไปด้วย ขนกระจุยกระจาย เด็กเล้ก ก็ร้องไห้ กระจองอแง เอะอะ เอ้ดตะโรไปหมด
นี่มีอ้วกแถมด้วย ครบสูตรเลยน้า 555

ไม่รู้ว่า ทุกที่ ทุกสถานี เป็นแบบนี้ เหมือนกัน อะเปล่า สงสัยจัง อิอิ

แล้วก้ผลไม้บ้านเค้าถุกจริง ฝรั่งตั้งโลครึ่ง 15บาท
บ้านเรา รถเข็นขายลูกละ 15 บาทแล้ว แบบนี้กินแทนข้าว ได้เลยนะเนี่ย ถูกจริงๆจ๊ะ

ส่วนเรื่องสาวอินเดียนี่ อ.เต๊ะ แฟนหนังแขก ชอบดูมาแต่เด็กๆ
สาวอินเดียจริงๆ ดุง่ายมาก พุงต้องยุ้ยนิดๆ เวลาเต้น ร้องเพลง
ต้องมีกระเพื่อม สักลอน2ลอน ไม่งั้นไม่ใช่แระ 555

หน้าอกก็ต้อง ตู้ม มาเจลา ตู้มๆๆๆๆ ถึงจะใช่สาวแท้

สาวในขบวนนี่ ผอมแห้ง มีแต่กระดูกแบบนี้ ไม่ใช่แน่ๆ นะฮ้า

เดี๊ยน เย้ย เค้ามั่นใจฮ่ะ 555


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog










โดย: multiple วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:15:54 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:15:19 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับน้องฟ้า

พี่ก๋าเชื่อว่าน้องฟ้าเดินทางมาเเยอะด้วยตัวเอง
มุมมองในการใช้ชีวิตจะละเอียดกว่าคนที่ไม่เคยเดินทาง

ประสบการณ์มันต้องไปเจอของจริง
พี่ก๋าเชื่ออย่างนั้นครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:53:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:06:53 น.  

 





อุ๊ต๊ะ ..

กาแฟในมือ ถึง กับ สั่น ???

สำนวน .. กำลังภายในป่าวเนี่ย ??



อ่ะ ..


พี่ป๋อง เกรงว่า กาแฟของน้องหนู จะ กระฉอก ไป ..



มา เติม ให้ ค่ะ ..















โดย: foreverlovemom วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:03:08 น.  

 
พี่ก๋ายังขำตัวเองอยู่เลยครับ
มาดามโทรมาถามว่าวันนี้วันอะไร
พี่ก๋าตอบว่าวันพุธ

จริงๆน่ะวันครบรอบแต่งงานปีที่ 9 เลยครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:09:36 น.  

 
ชอบจังบรรยากาศแบบนี้ น่าไปค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:09:00 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ (หลังจากหายหน้าไปนาน)
แล้วก็ไม่ผิดหวังกับการพาเที่ยวแบบลุยเดี่ยวของจขบ.นี้
ยังคงเขียนบล็อกได้น่าอ่าน และอ่านแล้วก็ประทับใจเหมือนเดิมค่ะ

ชอบตอนนี้จัง

"เมื่อได้เวลาล้อหมุน ฉันหันกลับไปมองที่ภาพทะเลสาบอีกครั้ง เพราะรู้ว่าทันทีที่หลุดออกไปจากจุดนี้เมื่อใด ขุนเขาเบื้องหน้าก็จะทำการบดบังไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันได้เก็บซ่อนเมืองนี้เอาไว้อย่างดี "

อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกเลยว่าจขบ.ประทับใจที่นั่นมาก
และการที่จะเดินทางจากที่ที่เราประทับใจ มันทำใจยากนะคะ ^_^

พรุ่งนี้มาใหม่ค่ะ วันนี้โหวตท่องเที่ยวไปแล้วอ่ะ

คิดถึงนะคะ


โดย: ฝากเธอ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:59:25 น.  

 
มาเที่ยวต่อครับ
โหวต กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:53:50 น.  

 
แวะมาอ่านและโหวตส่งกำลังใจให้น้องฟ้าค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ


ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: มัลลิกา ป 402 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:14:10 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:3:26:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:13:59 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ตามมาเที่ยวแบบเจาะลึกด้วย
ขอบคุณที่นำมาให้ชมค่ะ


โดย: pantawan วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:55:32 น.  

 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัวหรือความรัก
ก็ต้องอาศัยการรับฟังอย่างตั้งใจจริงๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:46:57 น.  

 
สวัสดีค่า คุณฟ้า ^^
มาทัวร์ตอน 4 ต่อค่ะ
ตอนที่แล้วพาเดินเที่ยวกับดูที่พักจำได้ๆ

พิธีกรรมบ้านเค้าเต็มไปด้วยสีสันเลยนะคะ
สวยและแปลกดีค่ะ

ได้ไปเที่ยวต่างประเทศที่วัุฒนธรรมต่างจากบ้านเรานี่ดีจัง
ได้ประสบการณ์เยอะดี ได้เรียนรู้การเอาตัวรอดด้วย

เรื่องถ่ายรูปบางที่เป็นอย่างนี้จริงๆ ถ่ายนิดถ่ายหน่อยไม่ได้เลย
ขอก่อนก็ดีค่ะ ปลอดภัยดี

คุณฟ้ามีไปเทือกเขาหิมาลัยมั๊ยคะ
หรือไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ
รอชมบล็อคตอนหน้าค่ะ

++ชะโงกทัวร์นี่มีทั้งบ้านเราและบ้านเค้าเลยเนาะ อิอิ


โดย: lovereason วันที่: 20 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:46:46 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:30:18 น.  

 
ควรค่ะ
ควรชะโงกหน้าต่าง
เป็นเพื่อนน้องอีกคน คริ คริ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:31:10 น.  

 
บรรยากาศดูร่มรื่นดีแหะ เขียวไปหมดเลย

ผมว่าเค้าดูออกนะว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวแบบไหน เลยมีบอกว่ากลับมาอีกแวะมาเยี่ยมบ้าง มองการณ์ไกลนะ เพราะเสียอย่างมากก็กระดาษแผ่นเดียวกับหมึกนิดหน่อย แต่ในอนาคตอาจเป็นลูกค้าก็ได้

ได้ประเพณีท้องถิ่นโดยบังเอิญแบบนี้ต้องเรียกว่าโชคดีจริงๆ ครับ

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:41:25 น.  

 
นั่งริมทะเลสาปทั้งวันก็ไม่น่าเบื่อนะครับ นั่งดูคนดูน้ำไปเรื่อยๆ


โดย: สำรวจฟ้า IP: 58.137.161.226 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:21:30 น.  

 
ท่าทางอากาสน่าจะเย้นสบายนะคะคุรฟ้า
เดินเล่นแล้วได้เจอขบวนแห่ด้วย ชอบมากๆเหมือนกัน
เวลาไปเที่ยวแล้วเจออะไรแบบนี้ เหมือนเราได้เจอช่วงเวลาพิเศษ และเข้าถึงประเทศที่เราไปเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงด้วย ^_^


โดย: AdrenalineRush วันที่: 23 พฤศจิกายน 2557 เวลา:0:45:59 น.  

 
ชอบถ่ายรูป แคนดิดเหมือนกันค่ะ ต่อไปคงต้องระวังบ้างเหมือนกัน ไม่ว่าบ้านเรา หรือบ้านเค้านะคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:16:57:04 น.  

 
ถ้ามีทางรถไฟวิ่งไปถึงถิ่นนี้"ไนนิตาล"แล้วลุงแอ็ด ก็ได้รับความไว้วางใจ จากหลานฟ้า ให้ไปด้วยลุงแอ็ดก็คง จะปลึ้มใจไปตลอดกาล แต่คงไม่มีรถไฟวิ่งไปถึงแน่นอน เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ชาวโลกรู้ ท้องถิ่นอันสวยงามนี้,

ปี2014 เนตคงยังไม่ก้าวหน้าดั่งเช่นทุกวันนี้เป็นแน่ ซิมโทรน่าจะทุกค่าย ในบ้านเราวันนี้มีซิมเนตท่องโลกกว้างแล้ว(ถ้าจะใช้โทรฯลฯก็เติมเงินเพิ่มเอา) ไม่ต้องยุ่งยากไปหาซื้อซิมฯลฯเอาข้างหน้า....

เมื่อหลานฟ้าท่องไปอย่างอิสระเสรีเช่นนี้ ซึ่งน้อยนามนัก ที่จะทำได้เช่นนี้ บ้างคนพร้อมแต่สุขภาพไม่พร้อม,บางคนอยากท่องไปแบบนี้ แต่ก็กลัว,

แต่ถ้าเมื่อเวลาใด?ก็ตาม ถ้าเขาได้ตัดสินใจ ท่องไปในโลกกว้าง อย่างเสรี เมื่อตัวตนของเขาพร้อม100% เขาหล่าวนั้นฯลฯ ก็จะเสพติดการท่องเที่ยวแนวนี้ ไปตลอดกาลเอย,


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:13:22:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.