Group Blog
 
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
บันทึกส่งท้าย : พุชการ์ (3) ภาคอพยพ



แล้วเราควรไปไหนต่อดีล่ะ?
ในเมื่อเมืองที่ขึ้นชื่อในรัฐนี้ อย่าง Jodpur- Jaisalmer- Jaipur- Udaipur 
หรือจะที่อื่น ๆ ในราชาสถานก็ใช่ว่าจะอยู่ไกลเกินเอื้อม
แต่เมื่อรู้ตัวเองแน่แล้วว่าไม่ได้ชื่นชอบกับบรรยากาศแบบนี้เลย
ถ้างั้นก็คงถึงเวลาอพยพย้ายถิ่นเสียดีกว่า ไปยังที่ ๆ อยากไปใช้เวลา
เป็นช่วงสุดท้าย เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่จะได้กลับมา และที่สำคัญ
ฉันก็มีตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางไปที่อื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย








วันนี้คงเป็นวันที่ดี ... 

ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทางข้ามรัฐในระยะไกลราว 695 กิโลเมตรคืนนี้




ฉันกำลังมองหาพื้นที่นั่งชมทะเลสาบเป็นภาพก่อนลา ถ้าจะมองจากวิวสูง
คงหนีไม่พ้นร้านอาหารที่มีดาดฟ้าแน่นอน...
แถวนี้มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ
อีกทั้งราคาก็ไม่แพงมากด้วย 
หากจะมีจำกัดก็แต่อาหารเจเท่านั้นแหละ
เข้าร้านไหนก็เหมือนกันหมด
(ชริ) ...

ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฉันเคยแวะมากินเป็นประจำจากชั้นบนนั่นจะสามารถ
มองเห็นวิวสวย ๆ 
และเห็นผู้คนที่มาทำพิธีตรงกาต (Ghat) ได้ดีทีเดียว
ฉันเดินขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าด้วยความคุ้นชิน และหามุมนั่งเหมาะ ๆ ติดระเบียง 
ในขณะที่กำลังเปิดเลือกดูรายการอาหาร ฉันก็ได้ยินเสียงเตือนทักถึงอะไร
บางอย่างที่ดังแว่วมาจากโต๊ะด้านหนึ่ง เขาเป็นชายชาวต่างชาติที่มานั่งอ้อยอิ่ง
อยู่ก่อนแล้วพักใหญ่ ...

มีสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นจากอาคันตุกะผู้ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งทำให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ
ปลีกตัวออกไปจากร้านอย่างเร่งรีบหลังจบมื้ออาหาร 
และเมื่อกลับมาค้นอ่าน
อะไรบางอย่าง เพื่อความแน่ใจในลางสังหรณ์แรก 
จากที่อยู่ติดต่อทางออนไลน์
ที่ได้รับมาจากชายตะวันตกผู้นั้น 
พอได้เห็นอะไรเข้าก็ยิ่งดีใจว่าตัวเองคิดถูกแล้ว
ที่เผ่นออกมา!

ถึงเมืองนี้จะขึ้นชื่อว่า Holy place ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนแปลก ๆ นะ


ขอแยกเรื่องเล่าไว้ที่นี่แทนนะคะ 




ในเย็นวันเดียวกันนั้น เมื่อฉันออกจากที่พัก แบกกระเป๋าเดินทางเพื่อมารอรถเมล์
ตรงป้ายเดิมจากที่เคยมาลงในวันที่เดินทางมาถึง เพื่อต่อรถไป อัจมีร์ ก่อนจะหา
ทางไปต่อยังสถานีรถไฟอีกที 
คร่าว ๆ ว่ามันอยู่ไม่ไกลกันมากนักและการรอรถ
ครั้งนี้ก็ได้สร้างบทเรียนใหม่ให้ฉันเสียด้วยสิ

ในช่วงเดียวกันนั้น ฉันได้เห็นผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งมายืนรอรถเหมือนกัน
หากดูจากเป้ของเธอแล้ว
น่าจะหนักหนาเอาการ เราต่างยืนคอยห่างกันพอสมควร
แต่ก็เดาได้ว่าเธอน่าจะออกไปยังอัจมีร์เหมือนกัน

นานถึงครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะมาถึง ฉันเริ่มเห็นผู้คนที่มายืนรอเริ่มไปจอแจกัน
ที่ป้ายหลังเห็นรถเมล์ วิ่งมาลงจอดยังฝั่งตรงข้าม
เพื่อให้ผู้โดยสารขามาเดินลง 
และตีโค้งเพื่อเลี้ยววกกลับมายังฝั่งที่ฉันกำลังยืนรอ

ทันทีที่จอดพวกเขาก็แย่งขึ้นไปแทนที่เบาะนั่งที่ยังว่างอยู่อย่างว่องไว 
ตอนที่ฉันเดินขึ้นไปก็พบว่ารถยังไม่เต็ม ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะดี  
แต่บรรดาที่นั่งต่าง ๆ ล้วนแต่มีการจองกันท่าไว้เป็นที่เรียบร้อย

โน่นก็ไม่ว่าง นี่ก็ไม่ว่าง จะบ้าตาย!

จากพุชการ์ไปอัจมีร์ ก็ราวครึ่งชั่วโมงได้ในกรณีที่รถไม่ติด
ฉันคงยืนเมื่อยน่าดูแถมยังต้องเบียดกับผู้คนอื่น ๆ อีก
ฉันเริ่มหน้าเสีย ในเมื่อบางเบาะที่เห็นถึงจะไม่มีคนนั่งก็จริง 
แต่ก็ดันถูกเจ้าถิ่นที่ขึ้นมาจองกันท่าห้ามปรามไม่ให้นั่ง
นี่คือไม่มีที่ว่างเหลือแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?



....


"เธอนั่งที่ตรงนี้ได้" 

วัยรุ่นชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งกำลังนั่งกันที่ไว้ได้สะกิดเรียกฉัน 
ในขณะที่เบาะข้าง ๆ ก็มีของวางไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ามีคนจองเรียบร้อย
ฉันเลยนั่งแทนที่ดังกล่าวก่อนที่จะถามต่อ "อ้าวแล้ว คนที่จะขึ้นมานั่งตรงนี้ล่ะ?" 

"ฉันนั่งรถมาลงที่นี่ เดี๋ยวก็ไปแล้ว...แต่ตอนนี้แค่มาช่วยกันที่ให้เพื่อนน่ะ" 

จากนั้นไม่นานนัก ฉันก็ได้เห็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
เดินขึ้นมาบนรถ และมานั่งที่แทนชายคนที่ทำหน้าที่จองให้ 

โชคดีเป็นบ้า ที่ยังมีที่นั่ง !



ส่วนสาวตะวันตกคนนั้น เธอช้าไปหน่อย และเจอปัญหาเดียวกับที่ฉันเจอเมื่อครู่
สุดท้ายก็ต้องยืนไปตลอดทางท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดกันเต็มหลังจากนั้น

ฉันถามคนที่นั่งมาด้วยกัน ถึงรถที่จะต่อไปยังสถานีรถไฟ
และยังมีเรื่องให้ได้โล่งอกอยู่ เมื่อรู้ว่าเขาเองก็กำลังจะไปที่เดียวกัน

เย็นวันนั้นเมื่อรถได้วิ่งแล่นผ่านทางเก่า 
ฉันได้มีโอกาสมองเห็นพื้นที่เมืองด้านนอกอีกครั้งแบบไกล ๆ
มันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นที่พุชการ์ ดูเหมือนว่าจะมีทะเลสาบเช่นเดียวกัน 
ต่างกันก็ตรงที่สภาพบ้านเมืองดูทันสมัยกว่ากันเยอะ

วันนี้ดูเหมือนว่ารถจะติด จากยามเย็นตอนรอรถยังพอมีแสงอยู่ และเมื่อใกล้
มาถึงปลายทางก็ดูมืดค่ำลงเสียแล้ว...
ก่อนรถจะเลี้ยวจอดลงที่ท่ารถ 
ฉันเห็่นผู้คนบางส่วนเริ่มทะยอยตรงไปที่ประตูเพื่อเตรียมอออกกัน รวมไปถึง
สาวต่างชาติคนนั้นก็ด้วย

ที่น่าแปลกใจหน่อย ก็คือยังมีคนอีกมากยังไม่ลุกขยับออกจากที่  
พวกเขาพูดอะไรก็ไม่รู้ให้คนขับได้ยิน ส่งเสียงเอ็ดตะโรเซ็งแซ่ไปหมด
ชายที่นั่งข้าง ๆ เหมือนเอะใจอะไรบางอย่าง เลยหันมาบอกให้รอก่อน
ประมาณว่าอย่าเพิ่งรีบเดินลง...เขาฝากที่นั่งไว้และเดินไปถามคนขับ 

เมื่อรู้ความแล้วเขาก็เดินกลับมาบอก ว่ารถเมล์จะวิ่งไปส่งถึงสถานีรถไฟ 
เพราะเที่ยวนี้มีผู้โดยสารหลายคนจะไปที่นั่นกัน

อื้อหือ นี่เค้ามีการกดดันคนขับรถด้วยเรอะเนี่ย?



....





หลังจากที่รถ(ยอม)วิ่งเพิ่มระยะทางให้ คนขับก็ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง
แต่แล้ว
เขาก็ได้หันมาบอกอะไรบางอย่างกับผู้คนในรถ พอได้ยินดังนั้นเหล่า
ผู้โดยสาร ต่างก็พากันลุกเดินออก
จากรถอย่างว่องไว เราต่างวิ่งไปขึ้นรถเมล์อีก-
คันที่จอดอยู่ไม่ไกลแทน และในเวลานั้นเท้าของฉันขยับไปไวก่อนที่จะรอให้
ใครมาแปลความให้เข้าใจเสียอีก   

ส่วนเรื่องค่าโดยสารก็ไม่ต้องจ่ายใหม่ แค่แสดงตั๋วฯ เดิม
ให้
กระเป๋ารถเมล์คันใหม่ดูเป็นหลักฐานเท่านั้น


ไม่นานนัก เราจึงได้ไปถึงสถานีรถไฟจนได้ ต้องขอบคุณคนที่นั่งข้าง ๆ ด้วย
ที่เป็นหูเป็นตาคอยบอกตลอดเวลา จนกระทั่งเตรียมลงที่ปลายทางนี้

ฉันไม่มีเวลามาสำรวจรอบนอกพื้นที่สถานีรถไฟนี้นานนักหรอก
ถึงจะยังไม่ใช่เวลาเดินทางไกลต่อก็ตามเถอะ 



เจ้าตั๋วรถไฟปรับอากาศ ชั้น 3AC ที่ได้มา จะเป็นเตียงนอนสามชั้น 
มันก็มีลักษณะเดียวกับ ชั้น sleeper class แต่คงน่าจะดีกว่าก็ตรงที่ 
ไม่ร้อนและไม่มีคนมาเพ่นพ่าน หรือเนียนมาแทรกพื้นที่ของเราได้

ส่วนตำแหน่งชั้นนอนถูกระบุในตั๋วว่า MB นั่นก็หมายถึงเตียงชั้นกลางนั่นเอง
ฉันเคยได้แต่ตำแหน่งเตียงบน เลยนึกไม่ออกว่าเตียงกลางมันจะคับแคบไหม
คงอาจดูน่าอึดอัดหน่อยนะ ถ้าเกิดอยากลุกขึ้นมานั่งบ้าง



ส่วนในเวลา 20.50 น. จะเป็นเวลาที่รถไฟจะมาถึง 
ฉันมองแถบป้ายไฟที่จะปรากฏชื่อขบวนรถต่าง ๆ 
และเวลาที่จะมาถึงระคนไปกับเสียงประกาศงึมงำไปพักใหญ่ 
สลับเสียงดนตรีที่เปิดประกอบคั่น แท้ม แท้มมมม....
ยังคงเป็นเอกลักษณ์คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับคนอื่นเรื่องการมารอขึ้นรถไฟแบบนี้ คงดูไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้นนัก
แต่สำหรับฉัน มันโคตรท้าทายกับความกลัวลึก ๆ ในใจ ที่ครั้งก่อนโน้น
เคยพลาดเที่ยวโดยสารมาก่อน 
ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ฉันยิ่งเหงื่อตก 
กระวนกระวายเกินกว่าเหตุล่วงหน้าไปแล้ว






20.30 น. รายชื่อขบวน Yoga Express ปรากฏบอกบนจอ
และแจ้งบอกหมายเลขชานชาลาที่ควรไปรอ 
ฉันพยายามฟังเสียงประกาศ 
และเดินไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันความแน่ใจว่ามายืนถูกจุด

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำซึ่งเป็นเรื่องนอกตำราก็คือต้องเดินหาคนท้องถิ่น
ที่จะเดินทางขบวนเดียวกันกับเราให้เจอ 
เพื่อจะได้ตามติดเขาได้
เพราะฉันไหวตัวทันเสียงประกาศทันที่ซะไหนกันเล่า?





มีชายคนหนึ่งจัดแจงสะพายเป้ไปยืนรอที่ชานชาลาเดียวกับฉัน
กำ
ลังก้มดูนาฬิกาดูท่าจะไปเวลาเดียวกันเลยตรงไปถามพร้อมยื่น
หมายเลขขบวนให้ดู  
"พี่จะไป เที่ยวขบวนหมายเลขนี้หรือปล่าว?" 

เมื่อเขาดูตั๋วของฉันก็บอกว่าใช่

"น่าจะขบวนนี้แหละ ไม่ได้ซื้อตั๋วไว้หรอก
เดี๋ยวค่อยไปจ่ายข้างบนเอาอีกที" 

ชายคนที่ว่ากำลังจะนั่งรถไฟไปยังเมืองหนึ่งในราชาสถาน 
ที่มีระยะทางไม่ไกลมากนัก เลยมาหาที่นั่งเอาดาบหน้า
ซึ่งก็เท่ากับว่า เขาอาจไม่จำเป็นที่จะต้องมาขึ้นขบวนที่ว่านี้ก็ได้


20.50 น. ตามเวลา รถไฟควรจะต้องมาจอดเทียบได้แล้ว! 
ขบวนก่อนหน้านี้ ยังมาจอดรอนานก่อนครึ่งชั่วโมงเลย แต่ตอนนี้ที่ชานชาลา
หมายเลขหนึ่ง ยังคงเงียบกริบ...ส่วน
แสงไฟจากหน้าขบวนอื่นที่ส่องผ่านความมืด
วิ่งตรงเข้ามาเทียบจอดชานชาลาอื่นนั้น มันก็ยังไม่ใช่หมายเลขขบวนที่จะไปอยู่ดี

ทั้งนี้เสียงประกาศแจ้งเตือน ก็ยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ ต่อเนื่อง





ฉันเริ่มหน้าซีด เพราะกลัวเรื่องจะซ้ำอีหรอบเดิม
และคงไม่หวังพึ่งป้ายไฟอย่างเดียวแล้ว...

ยังเหลืออีกบุคคลที่ควรวิ่งโร่ไปถาม
ชายผู้ต้องทำหน้าที่คอยฟังสัญญาณการแจ้งขบวนรถตลอดเวลา 
เขาจะเป็นคนที่รู้เป็นอย่างดีว่า ขบวนไหนจะจอดที่ไหนเพราะต้อง
ไปทำหน้าที่รับของมาขนแบก 

นี่ฉันได้เคล็บลับนี้มาจากกลุ่มพระไทย
ที่เคยบังเอิญไปเจอ
แถวร้านเครื่องห่มกันหนาว
ในเมืองธรรมศาลาปีก่อนเชียวนะ 
พระท่านเคยว่าไว้...

โยมต้องไปถาม กุลี ที่ใส่ชุดแดง ๆ 
คนพวกนี้เขาฟังเสียงประกาศได้แม่นยำที่สุดแล้ว 



เอ๊าาา... ตามนั้น ฉันวิ่งตรงดิ่งไปหาบุคคลที่กล่าวถึงทันที 
ถึงเขาจะอ่านตั๋วไม่ออก แต่ยังมีคนอื่นที่ยืนด้วยกันตรงนั้น 
ช่วยบอกหมายเลขและชื่อขบวนจากตั๋วเป็นภาษาฮินดีให้ฟัง

กุลี ก็ยืนยันให้คอยอยู่ในชานชาลานี้ ส่วนตัวเขาเองนั้น
ก็มีนัดรับขนของกับขบวนที่ว่าด้วย  
โอเค ...ฉันเริ่มเบาใจละ


21.20 น. ฉันได้ขึ้นไปอยู่บนรถไฟเสียที ชั้นนอนปรับอากาศ
ที่อาจไม่ได้หรูสุด 
แต่มันก็ไม่จ้อกแจ้กวุ่นวาย ดูเงียบสงบ และเย็นสบาย 
ไม่เคยรักการนั่งรถไฟอินเดียเท่านี้มาก่อน สาบานได้เลย



เมื่อขบวนรถไฟได้เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีไปแล้วครู่หนึ่ง 
เราก็เริ่มจัดแจงกางเตียงของแต่ละคน เพื่อแยกตัวเข้านอนประจำที่
ในขณะที่ฉันขึ้นไปอยู่บนเตียงชั้นกลาง ที่มันไม่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบ
ของใครหลายคนเพราะมีพื้นที่แคบเกินกว่าจะเอนตัวนั่งสบาย ๆ ได้ 

ฉันไม่เคยดีใจสักนิดกับการที่ตัวเองเป็นคนตัวเล็ก แต่ในสถานการณ์แบบนี้
ก็คงจะต้องยกผลประโยชน์ให้ เพราะช่องว่างบนเตียงนี้มันค่อนข้างพอดีตัว
ดูไม่อึดอัดคับแคบมากจนเกินไป หากมองเทียบกับคนตัวใหญ่หรือตัวสูงกว่านี้  

พักใหญ่ทีเดียวกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจตั๋วโดยสารกับพาสปอร์ต 
ซึ่งในช่วงเวลานั้น ก็ยังไม่มีใครเอนตัวนอนหลับกันหรอก ลุงที่อยู่ฟากตรงข้าม
ก็เช่นกัน แกเดินตรงมาถามฉันด้วยความสงสัยหลังจากการตรวจฯ ผ่านพ้นไป...

คนเนปาล เวลามาเที่ยวอินเดีย 
เขาต้องใช้พาสปอร์ตมั้ยอ่ะ?


ว้ายยย...ไม่รู้ค่ะ หนูเป็นคนไทย!




.....





ยามเช้าตรู่ พวกคนอื่น ๆ ที่นอนอยู่ล็อคเดียวกับเราต่างลงไปกันหมดแล้ว
ก็เหลือแค่ลุงกับป้าที่อยู่เตียงล่างพวกเขาจะไปยังที่เดียวกับฉัน
ระหว่างนี้เราก็ได้คุยกันบ้างตอนเก็บพับเตียงและย้ายมานั่งที่เบาะข้างล่าง 

พวกเขาสั่งชามาดื่มหนึ่งถ้วย จากคนขายชาที่เดินเร่ผ่านมาขายบนรถไฟ
ป้าหยิบกระบอกน้ำที่เก็บความร้อนทรงยาวออกมา และเอาถ้วยมาวางอีกสองใบ
เพื่อ
รินชาที่ซื้อมาแบ่งเป็นสามส่วน จากนั้นจึงเทนมร้อนลงไปในชาให้เต็มอีกที

แม้จะเห็นว่าฉันจัดการเรื่องอาหารเช้าไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม 

พวกเขานำโรตีหลายแผ่นที่พกเตรียมมาจากบ้าน ปันส่วนแบ่งให้กิน
และมีผักดองให้แกล้มเป็นเครื่องเคียง
แถมมีขนมอื่น ๆ ที่ป้าหยิบมาให้ลองกิน

ครั้งนั้นเราได้กินอาหารร่วมกันไปจนถึงมื้อเที่ยง 





......





ในตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันแล้ว?
ฉันมองป้ายสถานีที่ผ่านไปเรื่อยทางหน้าต่างแต่ก็ไม่คุ้นสักชื่อ

และเมื่อสอบถาม ลุงก็บอกอย่างว่องไวว่า UP 
ก่อนที่จะคิดได้ว่าฉันคงไม่น่าจะเข้าใจดีนัก
ก็เลยพูดซ้ำอีกครั้งกับคำตอบเดิมก็คือ 
รถไฟกำลังแล่นอยู่ที่ รัฐอุตตรประเทศ

จะว่าไปการเรียก คำย่อ สำหรับชื่อรัฐเหล่านั้น
ฟังดูแล้วก็ง่ายดีนะเวลาออกเสียงไม่ถูกจะได้ไม่ต้องเขิน 

หิมาจัลประเทศ - HPทมิฬนาฑู - TNเวสต์ เบงกอล - WB ...

ถ้างั้นใน รัฐ ที่หมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้
ฉันก็ควรใช้ตัวย่อเรียกได้สินะจะได้ฟังดูแล้วเท่ดีเหมือนกัน

หากตอนนั้นจะมีใครมาถามว่ากำลังจะเดินทางไปที่ไหน?
แน่นอนที่สุด ฉันควรจะตอบเขากลับไปเลยว่า...กำลังจะไป UK




ป้ายทะเบียนรถของอินเดีย จะมีการขึ้นตัวย่อของรัฐติดบอกไว้


UK ที่เป็นชื่อย่อของ รัฐอุตตราขัณฑ์ ไง




" อื่นๆ " 

- รายชื่ออักษรย่อของ รัฐต่าง ๆ ในอินเดีย รวมไปถึง ดินแดนสหภาพ 
https://slusi.dacnet.nic.in/watershedatlas/list_of_state_abbreviation.htm

- อ้างอิงระยะทางระหว่าง Ajmir - Haridwar จากหน้าตั๋วรถไฟ

- ค่าตั๋วรถไฟที่ จองผ่านที่ทำการไปรณีย์ในพุชการ์ ราคา 1,300 รูปี สำหรับค่าธรรมเนียมฯ
จะระบุรวมไว้ในตั๋วโดยสารเลย (ไม่มีจ่ายการเพิ่มส่วนต่างให้เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินเรื่อง)



###  สุดท้ายต้องขออภัยสำหรับเรื่องเล่าอันยาวเหยียด และมีรูปประกอบอันน้อยนิดในเอนทรี่นี้ด้วยนะคะ 





Create Date : 26 มกราคม 2560
Last Update : 22 มกราคม 2561 9:54:24 น. 24 comments
Counter : 1385 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณชีริว, คุณtoor36, คุณเรียวรุ้ง, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณอุ้มสี, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณMax Bulliboo, คุณRinsa Yoyolive, คุณInsignia_Museum, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณMaeboon, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณสองแผ่นดิน


 
สวัสดีค่ะ

เข้าไปอ่านเรื่องราวของนายขี้หลีนั่นแล้วน่ากลัวจริงๆด้วยอะ

ดีนะคะที่รีบปลีกต้วออกมาได้

เรื่องรถไฟอินเดียนี่ได้ยินมาว่าโหดมาก ใครขึ้นได้ก็เก่งล่ะ

เดินทางโดยรถไฟไม่ง่ายเลยนะคะ

แต่ก็ได้สัมผัสกับชาวบ้านด้วย อาหารที่ป้าแบ่งให้อร่อยมั้ยคะ

แม่เคยเดินทางโดยรถไฟที่อินเดียกับน้องสาวก็ได้คุยกับคนอินเดียบนรถเขาก็แบ่งอาหารที่ห่อมาจากบ้านให้ลองชิมเหมือนกัน แม่บอกอร่อยดี

แต่ละเมืองมีชื่อย่อให้ใช้เรียกก็ดีนะคะ คนต่างชาติจะได้เรียกง่าย ว่าแต่ ไปถึง UK เลยหรือคะ อิอิ

พรุ่งนี้แวะมาใหม่นะคะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 26 มกราคม 2560 เวลา:15:49:18 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า
แวะไปอ่านเรื่อง นี่เรากำลังคุยกับคนประเภทไหนกัน
อ่านแล้วเป็นห่วงอยู่อีกคน .. คือสาวเอเซียอีกโต๊ะ
ไม่รู้ว่าเธอจะเจออะไรบ้างป่าว...
ไม่ห่วงคุณฟ้าเล้ยยย...^__^

คุณฟ้าโชคดีตลอดเลย
มีที่นั่งโดยสารแบบฟลุ๊ค
แหมเรื่องกดดันคนขับนี่
คล้ายกับว่ารถโดยสาร
ไม่ค่อยมีกฏมีระเบียบแบบแผนเนอะ

"กุลี" ทำให้มีความรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้ดีจริงๆ
การเดินทางไป UK ครั้งนี้ ตื่นเต้น อ่านสนุกเหมือนเดิม



โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 26 มกราคม 2560 เวลา:20:58:57 น.  

 
เดินทางไกลจริงๆ 695 กิโลเมตร เลย

ไปอ่านอีกบล็อกมาละ
ผมว่ามันบ้า คนเราก็แปลกๆ ทำสิ่งไม่ดียังกล้าเอามาพูดว่าข้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะด้วย แปลกดีครับคนสมัยนี้ ดีแล้วที่รีบแยกออกมา แต่เสียบรรยากาศหมด ทั้งที่จะได้ชมวิวทั้งที

ต้องแย่งที่แบบนี้ด้วย แย่เลยดีที่ได้ที่นะครับ ถ้าต้องยืนแบบชาวต่างชาติคงเหนื่อยน่าดู เจ๋งดีครับกดดันคนขับได้ด้วย

ดีนะครับที่ได้เคล็ดลับของพระไทยช่วยเอาไว้ไม่งั้นแย่เลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:1:14:57 น.  

 
สวัสดีจ้า

มาแล้วมาแล้ว

โหวต Travel ค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:11:08:02 น.  

 
เข้าไปอ่าน คนแปลกประหลาดขี้หลี..ด้วย.. น่าเบื่อเนาะ


555 คิดว่าจะไปอังกฤษ กับเครื่อสหพัตฒ์ เอ้ยเครือสหภาพ

งั้นโหวตให้คุณฟ้า..ในฐานะเขียน จนอ่านลงมาเรื่อย ๆ


กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:11:32:29 น.  

 
เกาะล้อน้องฟ้าเที่ยวด้วยคนจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:12:39:22 น.  

 


โดย: teawpretty วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:13:51:21 น.  

 
อ่านสนุกจ้ะฟ้า ลุ้นไปด้วย นี่ล่ะสิ่งที่พี่กลัว ดีนะที่เชื่อสัญชาตญานตัวเอง ไม่ค่อยจะปลอดภัย ถ้าเรารีบโฉ่งฉ่าง ไม่คุยด้วยเลย ก็ดูจะไม่ค่อยดีอีก

ฟ้าหน้าคมตาคม เหมือนสาวเนปาลนี่เอง สาวหมวยอีกโต๊ะ เลยไม่ใช่เป้าหมายเค้า น่ากลัวเนาะ เอาของไปเขวี้ยงใส่ร้านเค้าอีก

โชคดีจังได้นั่ง ทีแรกฟังว่าเป็นเจ้าถิ่น พี่นึกกลัวไปอีกแบบ แต่รวม ๆ แล้ว เท่าที่ฟังมา เวลาเดินทาง ฟ้าจะเจอแต่คนดี ๆ เอื้อเฟื้อตลอด ๆ เนอะ

บุญรักษาทุกการเดินทางจ้ะฟ้า


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:14:02:11 น.  

 
เกือบลืม

พอใจ หนูดี พี่ถ่ายในบ้าน มีภาพอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวส่งให้เค้าแน่นอนจ้ะ นี่พี่ก็ส่งไปเยอะแล้ว ไม่ได้หวังว่าจะได้พิมพ์ทั้งหมดหรอก เราตั้งใจแล้วอ่ะเนาะ ถึงไม่ใช่ภาพที่เราถ่าย ก็ซื้อเหมือนเดิมจ้ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:14:05:08 น.  

 
อยากเห็นภาพในรถไฟง่าาาาาา อ่านดูแล้วเหมือนน้องฟ้าได้ไปนอนชั้น First class เลยรึปล่าว มีการเก็บเตียงด้วย ไม่เคยเห็นมาก่อน อยากเห็นๆๆๆ
วีคก่อน อ่านข่าวเห็น รถไฟที่อินเดียเกิดอุบัติเหตุ น่ากัวววววมากนะนั่น
เจ๊ว่านะ คนที่หนูไปพบเจอนี่ พวกเค้าก็ใจดีกันเนอะ (ยกเว้นอีตาบ้าโรคจิตที่ขายอาหารเสริมนั่น...ที่เอาเรื่องผู้หญิงฝรั่งเศสไปเขียนด่าใน FB) ชอบตรงที่เค้าแบ่งอาหารให้กิน ใจดีจิงๆ ส่วนคนในรถบัสก็ใจดีใช้งานเป็น information ส่วนตัวได้อ่ะ ดีจัง ...​

อ่ะงั้นโหวต Travel ให้นะจ๊ะ


โดย: Max Bulliboo วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:15:59:07 น.  

 
การได้ขึ้นรถไฟและมีที่นั่งเหลืออยู่ นี่เป็นอะไรแบบว่า สวรรค์ชัดๆเลยค่า อิอิ

มาทักทายคุณฟ้าช้าไปนิด ยินดีกับสายสะพายด้วยน้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ไอเอิร์ธ Cartoon Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:16:58:19 น.  

 
มาติดตามการเดินทางที่น่าสนุกและตื่นเต้นตอลดเส้นทางครับ มีเรื่องให้เรียนรู้มากมายสำหรับผู้อ่าน
ขอบคุณครับคุณฟ้าที่ส่ง link มาให้ เข้าไปดูแล้วน่าสนใจและน่าค้นคว้าต่อถึงนักเดินทางคนนั้น


โดย: Insignia_Museum วันที่: 27 มกราคม 2560 เวลา:20:48:14 น.  

 
สวัสดีจ้ะฟ้า พี่มาลุยกับฟ้าต่อ
ใจกล้ามากเทียวคนเดียวแบบนี้
เป็นพี่คงไม่กล้า ถ้าไปสองคนก็โอเคนะ

ฟ้าโชดดีตลอดเลย เจอคนดีช่วยเหลือตลอดทาง
ตื่นเต้นกับการรอรถไฟไปกับฟ้าด้วย นึกว่าจะได้นอนเฝ้าสถานีแล้ว 555

เข้าไปอ่านเรื่องนาย Long way
โอยยย นายนี่โรคจิตเหมือนกันนะ 555

กาบริเอล Travel Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 28 มกราคม 2560 เวลา:23:23:42 น.  

 
เดินทางข้ามรัฐเกือบ 700 กม. โดยไม่นั่งเครื่องบิน!!
นี่มันพอๆกับกรุงเทพ-เชียงใหม่เลยนะครับ ถ้ามีรถขับเองก็ว่าไปอย่าง เดินทางโหดสมเป็นบล็อกกาบริเอล (ว่าแต่จะเปลี่ยนชื่อบล็อกเป็นอะไรล่ะเธอ?)
ถ้าต้องยืนบนรถข้ามวันข้ามคืนแบบนี้ลงมาขาแข็งแน่ๆ โชคดีที่เจอคนใจดีนะครับ ชายผู้นั้นอาจแกล้งทำเป็นลงพอดีเพื่อให้ฟ้านั่งก็ได้นะ แล้วเขาก็ลงไปขึ้นรถคันอื่นต่อ (ซึ้งป่ะ?)

ส่วนเรื่องของอีตาโรคจิตนั่นเคยไปอ่านในเฟซแล้ว นี่ละเนาะ เดินทางไกลก็ได้เห็นผู้คนหลากหลาย
(บล็อกนี้คลิ๊กขวาให้ open in new windows ไม่ได้ เวลากดลิงค์มันจะออกจากหน้านี้ไปเลย เพราะงั้นใส่ลิงค์แบบ open in new windows อัตโนมัติเลยดีกว่าครับ)

รอรถแล้วรถไม่มา ประกาศอะไรก็ฟังไม่ออก มันช่างเป็นการรอคอยที่สุดหนาวใจ
โชคดีที่ได้เคล็ดจากพระไทย พระท่านสอนได้หลายอย่าง ทั้งทางธรรม และการท่องเที่ยว อิอิ
แต่หนนี้โดนข้าใจผิดว่าเป็นคนเนปาลอีกละ มันคล้ายๆคนอินเดียผสมจีนที่เคยเล่าในเอ็นทรี่ก่อนๆป่าวครับ?


โดย: ชีริว วันที่: 29 มกราคม 2560 เวลา:19:49:34 น.  

 
รักบล๊อกนี้จัง แวะมาอ่านอีกแล้วน๊า


โดย: honeynut วันที่: 30 มกราคม 2560 เวลา:16:14:43 น.  

 


แวะมาสุขสันต์วันตรุษจีนค่ะ
ขอให้คุณฟ้าและครอบครัวมีความสุขมาก ๆ เฮง เฮงตลอดทั้งปี
และขอแสดงความยินดีที่ได้สายสะพายค่ะ


โดย: haiku วันที่: 30 มกราคม 2560 เวลา:16:33:53 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 31 มกราคม 2560 เวลา:3:01:49 น.  

 
เรื่องสายสะพาย ผมมองว่าหลายๆ คนมันชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ ไม่รู้เครียดอะไรขนาดนั้น มันเอาไปใช้สมัครงานหรือเพิ่มเงินเดือนได้หรือไงก็ไม่ทราบ ไม่เข้าใจจริงๆ

น้องโวะดัง แต่น้องอลิซมีแบล็คครับ (ผมนี่แหละ) ปีนี้ต้องดันให้ทุกคนจดจำชื่อเธอให้ได้เลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 มกราคม 2560 เวลา:23:25:12 น.  

 
แหะแหะ พ่อบ้านใจกล้า(กับปี๊ป)ค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:10:24:16 น.  

 
วัดราชนัดดา แบบเดิม ๆ ที่เป็นสีดำ กับ ไม้ซุง ที่เป็นบันได พี่เคยอัพบล็อกไปแล้วจ้ะ ที่นี่นะ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=01-02-2016&group=3&gblog=316

วันนั้น มีเวลาน้อยเลยไม่ได้ขึ้นไปจ้ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:19:14:36 น.  

 
โทษทีจ้ะฟ้า พี่ไปตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม นิทรรศการจบวันที่ 21 พี่คิดอยู่แล้ว ไม่ทันแน่นอนจ้ะ

แต่คิดว่าจะชวนไปพิพิธภัณฑ์ฯ เค้ายังให้เข้าฟรีจนถึงสิ้นเดือน สรุป ก็ไม่ทันอีกแหละ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:19:18:23 น.  

 
xing xing ที่ถามไว้น่าจะเป็นตัวนี้ 星星眼 Xīngxīng yǎn

เพิ่มคำว่าตาลงไปด้วยในที่นี้น่าจะหมายถึงตาปิ๊งๆ เป็นประกายดาวครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:21:00:55 น.  

 
โหวตท่องเที่ยวนะคะ แม้ว่าภาพจะน้อยแต่สาระ แตะความตื่นเต้นล้นเปี่ยมค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:23:00:23 น.  

 
อืม~~ วัยรุ่นบนรถเมล์คนนั้นอาจจะซึนเดเระก็ได้นะ

คือทำเป็นบอกว่า...
"ชั้นมาจองที่ให้เพื่อน ไม่ได้จงใจสละที่ให้เธอหรอกนะ"
แท้ที่จริงแล้ว...
พอเห็นคนสวยระดับที่ชาวอินเดียเห็นว่าสวย (ตามที่คุณฟ้าเคยเล่าอะนะ 55)
ก็เลยอยากเอาใจลุกให้นั่งประมาณนี้อะเปล่า ฮุฮุ
(e ตานี่เม้นต์หาสาระมิได้อีกแล้ว 55)



ป.ล. อ่านแล้วถ้าจากไป (เฉย ๆ) ดูแล้งน้ำใจกระไรอยู่ เอาซักนิดนะ ^^
กระทันหัน --> กะทันหัน
ชานชลา --> ชานชาลา


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:21:13:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.