Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
4 มิถุนายน 2559
 
All Blogs
 
KINNAUR : Sangla Valley




ในเขต (Lower) Kinnaur ฉันเลือกเดินทางมาตั้งหลักที่ซังกลาเป็นเมืองแรก
มัน
อยู่ห่างไปจากตัวเมืองชิมลาประมาณ 215 กิโลเมตร แต่ก็ต้องใช้เวลานั่งรถ
ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง นั่นก็เท่ากับว่าเมื่อวานนี้ฉันได้นั่งรถฟรีซะคุ้มเลย

พื้นที่แถบนี้ดูเหมือนจะไร้สิ่งจูงใจต่อการเดินทางมากมาย แต่หลายคนที่เคยผ่าน
มาก่อน
ก็มักจะพูดให้ฟังเสมอว่า นอกเหนือไปจากหุบเขาสปิติแล้วก็ควรจะแวะมา
ที่คินนัวร์ด้วย 




ช่วงเก้าโมงเช้า ฉันได้ออกไปเตร็ดเตร่ตามทางถนน ในแบบที่ไม่ค่อยมีจุดหมาย
เท่าไหร่ และใน
ระหว่างนี้ก็เริ่มมีพวกเด็กนักเรียนเดินสวนผ่านมาเรื่อย ๆ
การที่ได้มาถึงจุดหมาย แล้วยังต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า...ไปไหนดี?
ฟังดูแล้วก็แทบจะไม่ต่างกับ 'ตายแล้วไปไหน?' ยังไงก็ไม่รู้สิ


"Han ji?" ฉันเริ่มต้นทักทายพี่น้องคู่หนึ่งที่กำลังนั่งนั่งพักตรงริมทางเดิน
และคำที่ใช้ในสถานการณ์นี้ หากจะแปลแบบคร่าว ๆ ก็คงประมาณว่า "ไง?"

"นมัสเต" พวกเด็กดูกระตือรือล้นที่จะทักกลับ
ดูทีท่าแล้วเราอาจจะคุยกันต่อได้ยาวเลยล่ะ 

"พวกเรากำลังจะไปโรงเรียนกันครับ"

หิมานชู และวิชาล สองพี่น้องที่มีอายุห่างกัน 4 ปี กำลังเริ่มทำความรู้จักกับคน
แปลกหน้าอย่างไม่ค่อยขัดเขินเท่าไหร่ แม้เขาจะพยายามบอกว่าพูดภาษาอังกฤษ
ไม่ค่อยดีนัก - โอ๊ย...พวกหนูฟังพี่พูดรู้เรื่องก็เทพแล้วลูก 555




vichal และ Himanshu สองพี่น้องที่ได้เจอในซังกลา


ฉันยังไม่เคยเห็นที่ตั้งของโรงเรียนในท้องถิ่น ก็เลยอยากรู้ว่ามันอยู่ไกลหรือปล่าว
พวกน้องบอกว่า ห่างจากตรงนี้ไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร - ฉันเลยขอตามไปด้วย 
เผื่อฟลุ๊คได้เจออะไรที่น่าสนใจระหว่างทางบ้าง 

เจ้าเด็กเล็กที่ชื่อ'วิชาล' ยื่นลูกแพร์ ที่พกมากินยื่นส่งให้ฉัน
พร้อมกับพูดสั้น ๆ ว่า
"ให้กิน"

ฉันไม่อยากรับมาเท่าไหร่และบอกวิชาลไปว่าเก็บไว้กินเองเถอะ แต่ถึงอย่างนั้น
น้องก็ไม่ยอมรับคืนเขายืนยันที่จะ 'ให้'

รู้สึกแปลก ๆ นะ ก็เพราะสถานะของคนให้มันควรจะ 'นักท่องเที่ยว' ไม่ใช่หรอ?

"ขอบใจนะ" ในที่สุดแล้วฉันก็หยิบเอาลูกแพร์ผลนั้นมาเก็บใส่กระเป๋าผ้า
และรับปากว่าจะกินมันภายหลังแน่นอน

แต่จะว่าไปแล้ว ทำไมเราถึงมองว่า
พวกเขาอยากจะเป็นแต่ 'ผู้รับ' ฝ่ายเดียว
เพียงเพราะแค่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารด้วยล่ะเนี่ย?



....




หลังจากที่เดินไปได้ครึ่งทางก็มีน้อง 
นายาติ เด็กหญิงวัย 11 ขวบ
มายืนรอสองคนนี้เพื่อร่วมเดินไปโรงเรียนพร้อมกัน  
เธออายุเท่าวิชาล
แต่ดูตัวสูงกว่านิดหน่อย



เราเดินทางผ่านแคมป์คนงาน จนกระทั่งทะลุมาถึงที่ตั้งของโรงเรียนขนาดเล็ก

ในช่วงเวลานั้น เหล่าเด็กนักเรียนที่แต่งตัวในเครื่องแบบชุดเดียวกัน ต่างพา
กันมาวิ่งเล่นกันที่กลางลานเพื่อรับแดดกัน ...หลายคนต่างแปลกใจที่เห็นคน
แปลกหน้าโผล่มา และถึงแม้ว่าฉันจะอาจไม่ได้มีหน้าตาแปลก
ไปจากคนที่นี่นัก
แต่ก็ดูเป็นจุดสนใจของพวกเขาไม่น้อย 

ฉันเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมีผิวสีคล้ำและมีตาเล็กเหมือนตัวเองเด๊ะ ๆ
ก็เลยอดถามไม่ได้ว่า เป็นชาว Kinnauri แน่รึ? 

พวกเด็กคนอื่นต่างขำกันลั่น
"ม่ายช่าย ...ยัยนี่เป็น เนปาลี!"




หิมานชู คงมีหน้าที่ดูแลอาคารสถานที่เพราะถือกุญแจของโรงเรียนไว้กับตัว
เขาเดินไปเปิดชั้นเรียน
ที่มีอยู่เพียงสามห้อง เพื่อให้เพื่อน ๆ เอาข้าวของไปเก็บ
ก่อนที่จะมาเปิดห้องพักครู  
เด็กหญิงคนหนึ่งที่ทำหน้าที่เชิญธง ได้หยิบเอา
ธงชาติอินเดียที่พับเก็บไว้ 
เป็นลายคาดสามสี ส้ม ขาว เขียว ที่ตรงกลางมี
สัญลักษณ์ธรรมจักร  พวกน้องได้พูดบอกถึงความหมายบนธงชาติให้ฟังก่อน
ถือ
หอบออกไปด้านนอกเพื่อเตรียมนำขึ้นสู่ยอดเสา

ด็กนักเรียนทั้งหมด พากันออกไปยืนบนลาน แม้จะยังมีท่าทีตื่นเต้นกับคนต่างถิ่น
และไม่มีกระทั่งคุณครูที่มามาคุมความเรียบร้อยในตอนนี้ก็ตาม พวกเขาทั้งหลาย
ก็ยังไปยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลง "Jana Gana Mana" กันตามหน้าที่ 
ก่อนที่
จะพากันโดดลงมาด้านล่าง...





หลังเพลงชาติอินเดียจบไป สิ่งที่ไม่ได้คาดคิดก็บังเกิดขึ้น
เมื่อพวกน้องดันขอให้ฉันร้องเพลงชาติไทยให้ฟังบ้าง 

หือ...จะดีเรอะ? 

ทำไมถึงได้รู้สึกว่า การยืนร้องเพลงชาติคนเดียว
มันช่างยากจังเลย แหะ ๆ 



เด็ก ๆ ต่างพากันหัวเราะที่ฉันยืนร้องออกเสียงแบบกระท่อนกระแท่น (เขินอ่ะ)
ไม่แน่ใจว่าได้โค้งตัวตอนร้องจบด้วยรึปล่าว เพราะหลังจากนั้นก็มีคนมาแย่งซีน...
จากการปรากฏตัวของคุณครูท่านหนึ่ง ที่ช่วยทำให้พวกเราเข้าสู่ความสงบโดยไว

นักเรียนทั้งหมดต่างแยกย้ายไปเข้าชั้นเรียนโดยอัตโนมัติ 
และที่น่าแปลกใจนิดหน่อย ก็เพราะวันนี้มีครูมาสอนแค่หนึ่งคนเท่านั้น





วันนี้เป็นวันเสาร์ เด็กนักเรียนจะต้องทำความสะอาดห้องเรียนกันก่อนเข้าเรียน-
คาบแรก พวกเขาพากันมาเบิกอุปกรณ์ฯ ที่ห้องพักครูและลงแรงจัดโต๊ะ เช็ดพื้น
เคาะแปรง ปัดกวาด กันให้ฝุ่นตลบ 

คุณครูกับฉันได้มานั่งคุยกันที่ห้องพักครู โดยได้ฟังถึงการเรียนการสอนและ
เรื่องทั่วไปของสภาพพื้นที่และความเป็นอยู่ของชาวคินนัวร์ เป็นการขั้นเวลา
ระหว่างรอเด็ก ๆ ทำความสะอาด 

ที่นี่เป็น โรงเรียนระดับประถมศึกษาเพียงแห่งเดียวในซังกลา มีครูผู้สอนเพียงแค่
สามคน และมีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 49 คน 
ซึ่งพวกเด็กโตก็ต้องทำหน้าที่สอน
เด็กเล็กแทนครูในบางครั้ง ส่วนที่วันนี้ไม่ได้เจอครูคนอื่นก็เพราะพวกเขาลาหยุด
ไปฉลองงานเทศกาลดิวาลี 

"เราเปิดเรียนวันจันทร์-เสาร์ แต่ก็มีวันหยุดเยอะเหมือนกัน อย่างวันสำคัญ
ทางศาสนา,วันชาติ,วันนักขัตฤกษ์ แล้วก็จะปิดเรียนในช่วงฤดูมรสุม..." 

ครูหยิบแอปเปิ้ลจากตู้เก็บมาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมหยิบมีดมาปอกระหว่างที่พูด-
อธิบายให้ฟัง จากนั้นก็หั่นแบ่งมาให้ฉันได้กิน มันคือแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกตามฤดู
ชิมแล้วน้ำตาแทบไหล ... ที่ผ่านมาฉันได้กินแต่ที่มันเคลือบแว๊กซ์ที่ผิวและเก็บ
ข้ามปีรึเนี่ย???

เขาบอกว่าคินนัวร์ 
เป็นแหล่งเพาะปลูกแอปเปิ้ลที่มีชื่อเสียงของอินเดียเชียวล่ะ 
เพราะความสูงของพื้นที่,ดินที่สมบูรณ์ และสภาพอากาศที่เหมาะสมก็เลยได้
ผลผลิตที่มีรสชาติดี  

ก่อนที่จะออกไปจากโรงเรียน ครูก็ให้ติดกระเป๋ามาอีกสี่ผล
แต่ฉันยังลังเลที่จะรับเอาไว้เหมือนเคย... 

"ไม่ต้องกังวลหรอกเรามีเก็บไว้เยอะ เอาพันธุ์สีทองไปด้วยนะตอนนี้กำลังนิยม"








เรื่องของเจ้าผลไม้เมืองหนาว ที่เพาะปลูกกันในอินเดียชนิดนี้
มันก็มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจไม่น้อยนะ  
แอปเปิ้ล ในภาษาฮินดี ถูกเรียกว่า "เซ็ป"  (सेब)
พืชผลทางการเกษตรต่างถิ่น ที่ต่อมาได้กลายเป็นของขึ้นชื่อประจำ
รัฐหิมาจัลประเทศ  หากมองจากภาพโลโก้
ของรัฐนี้ เราก็จะได้เห็น
องค์ประกอบหลักที่โดดเด่นสามสิ่ง นั่นคือ ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม,ต้นดีโอดาร์
(ซีดาร์หิมาลัย) และผลแอปเปิ้ล







การขนส่งผลไม้บรรจุลังจากพื้นที่สวนด้านบนลงมายังด้านล่าง จะใช้ 'รอกเลื่อน' ในการทุ่นแรง




แรกเริ่มเดิมที
การเพาะปลูก '
แอปเปิ้ล' ในอินเดีย นั้นได้เริ่มต้นขึ้นในบริเวณ
หุบเขากุลลู (Kullu)  เมื่อปี ค.ศ. 1870 โดยอังกฤษ 
แต่สายพันธฺุ์เหล่านั้นกลับมีรสชาติที่ไม่ดีนัก ในขณะที่แอปเปิ้ล
ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้นมีรสหวานกลับเป็นที่นิยมมากกว่า



กระทั่งในปี ค.ศ. 1916 ได้มีการนำเมล็ดพันธุ์ของแอปเปิ้ลรุ่นแรกจาก
สหรัฐอเมริกา อย่าง Red delicious และ Golden delicious
มาเพาะปลูกบนรัฐแห่งนี้ โดยเริ่มจากพื้นที่ภูเขาใน Kotgarh ของชิมลา 
โดยชาวอเมริกันผู้ได้รับฉายาว่า "Apple Man" นามว่า Samuel Evan Stokes(1) 
(หรือ Satyanand Stokes ที่มาเปลี่ยนในภายหลัง) เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้
ผู้คนที่อยู่ตามพื้นที่ภูเขา





Samuel Evan Stokes


หลังจากผลผลิตรุ่นแรกที่ส่งออกขายใน ค.ศ. 1926 
และมีการตอบรับของตลาดค่อนข้างดี ทำให้ต่อมาก็มีการขยับขยายพื้นที่
การปลูกในภูมิภาคแถบนี้ไปเรื่อย และ
ภายหลังปี ค.ศ.1932 เป็นต้นมา
แอปเปิ้ลจากญี่ปุ่นก็ถูกหยุดนำเข้าหลังจากนั้น


....



Kamru Village



ถัดจากท่ารถไปประมาณสองกิโลเมตร จะมีหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาชื่อว่า Kamru
บนจุดสูงสุดของที่นั่น
มีป้อมไม้เก่าแก่ตั้งหราอยู่ ที่ก็ไม่ถึงกับเด่นชัดเสียเท่าไหร่
ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็อาจพลาดไปได้  
เพราะจากเท่าที่เดินสำรวจเมืองมา ที่นี่กลับ
ไม่มีป้ายติดบอกทางไปสถานที่สำคัญเอาไว้สักแห่ง





ตรงด้านหน้าประตูทางขึ้น จะเป็นซุ้มที่มีหน้าตาเหมือนงานศิลปะฝั่งจีนมากทีเดียว
เมื่อได้มองเห็นครั้งแรกแทบงง กับงานสิ่งก่อสร้างแถบนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง-
หลังคา และภาพมังกรคู่ขนาบข้าง  
ช่างเป็นปฏิมากรรมท้องถิ่นที่ดูไกลเกินกว่า
จะนึกออกว่าเป็นอินเดียซะจริง

ทั้งนี้พวกเขายังถือว่า nages หรือที่แปลว่า งู มีสถานะของ เทพเจ้า 
่เช่นเดียวกับวัฒนธรรมในเขตภูมิภาคที่อยู่ตามแถบเทือกเขาหิมาลัยอีกด้วย(2)



ภาพแกะสลักประตูไม้ ที่ดูเหมือนจะเป็นรูปเทพเจ้าของฮินดู



บริเวณวัดด้านบนที่เป็นทางผ่านเชื่อมต่อไปยังที่ตั้งของป้อมฯ  
ฉันต้องมาสะดุดกับหน้าตาของประตูทางเข้าวัดอีก ก็เพราะมีการแกะสลักภาพ
เทพเจ้าแบบฮินดู ประกอบกับลวดลายศิลปะที่ดูสวยแปลกตา ส่วนพื้นที่ด้านใน
ก็เป็นเทวสถานที่ผสมผสานความเชื่อระหว่าง
พุทธและฮินดู 

และทั้งนี้ Kinnuar ได้รับฉายาว่าเป็น "ดินแดนแห่งเทพเจ้า" 
พวกเขามีศาสนาดั้งเดิมที่นับถือภูติผีวิญญาณหรือที่เรียกว่า Shuism มาก่อน
โดยในภาษาถิ่นของจะใช้คำเรียกแทน "เทพเจ้า" ว่า "Shu" 
แต่ภายหลังก็รับอิทธิพลจาก ฮินดูและพุทธ (แบบทิเบต) เข้ามาอีกต่อ 










แล้วฉันก็เดินมาถึง กำแพงที่ล้อมเขตของป้อม ที่ไม่ไกลไปจากวัดนัก มันดูโบราณ
และลึกลับไปเสียหน่อย โดยกำแพงนั้นถูกก่อกั้นแผ่นหิน 
ส่วนประตูทางเข้าเป็น
โลหะที่มีการสลักลาย และก็มีกฏข้อห้าม 3 ข้อ ที่ติดบอกไว้ด้านหน้า

1.ห้ามเข้าไปโดย ไม่มีหมวกและสายรัดเอว
2.ห้ามสวมรองเท้า
3.ห้ามสตรีที่กำลังมีรอบเดือนเข้าไปด้านใน

หลังจากที่ฉันผลักประตูโลหะเพื่อเปิดออก ก็เจอกับผู้ชายสี่คน
ที่ทำหน้าที่เฝ้าทางเข้า ผละตัวออกจากการเล่นไพ่ชั่วขณะ

"อ่านกฏแล้วใช่ไหม?" 

พวกเขาถามก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนในแบบไม่อ้อมค้อมมากนัก
ฉันตอบรับว่าอ่านมาแล้วเรียบร้อย พวกเขาจึงส่งหมวกเขียวและสายผูกเอวให้
พร้อมกับบอกให้เขียนชื่อเข้าเยี่ยมในสมุดบันทึกไว้ 

ทั้งนี้ไม่มีการเก็บเรียกเงินเพิ่ม และสามารถนำกล้องเข้าไปได้



Kamru fort 

หมู่บ้าน Kamru เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร Bashahar มาก่อน
และโบราณสถาน ที่ยังหลงเหลืออยู่หากไม่นับเทวสถาน ก็เห็นจะเป็น
ป้อมไม้โบราณทรงสูงนี่แหละ - ส่วนพื้นที่ด้านในจะไม่มีการเปิดให้เข้าชมนะ 
ดังนั้นจากที่เข้าไปเยี่ยมชมบริเวณด้านในกำแพง ก็มีภาพให้เห็นเพียงเท่านี้ค่ะ




ภาพจากบริเวณ พื้นที่ตั้งของป้อมโบราณ - จะเห็นที่ตั้งเรือนไม้เล็ก ๆ
ที่มีรูปทรงหลังคาโค้งแอ่นตรงช่วงปลาย ถูกมุงด้วยแผ่นหิน และที่กลางหลังคา
จะมีการทำยอดทรงกรวยคว่ำเพิ่มเติม 



นี่ก็น่าจะเป็นที่ตั้งของ วัดหรือเทวสถานเก่าอีกหนึ่งแห่ง บริเวณทางเดินลงเขา
ที่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะถูกทิ้งร้างเอาไว้ 





ระหว่างลงเขาที่เดินลัดออกมาอีกฝั่ง ได้เจอกับคนเลี้ยงสัตว์ที่กำลังต้อนฝูงแกะกลับเข้าคอกพอดี




ภาพที่ตั้งหมู่บ้าน Kamru ในอีกมุมหนึ่ง



บ่ายสามโมงกว่า นี่คงเป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว ฉันเดินผ่านร้านหมี่ผัดที่ฝากท้อง
ไว้เมื่อคืนวาน 
เพื่อย้อนไปดูหมู่บ้านด้านล่างอีกที่หนึ่ง ก็ยังแอบไปเห็นเด็กเนปาลี
ผมหยิกยุ่งคนนั้นกำลังสาละวนกวาดพื้นหน้าร้านอยู่ ก็ยิ่ง
สงสัยว่าน้องมันคงไม่ได้
ไปโรงเรียนตามที่คาดไว้  ถึงการเล่าเรียนอาจไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตไปสักทุกเรื่อง 
แต่มันก็ยังมีตัวเลือกอื่นให้เราได้รู้จักการใช้ชีวิตไปมากกว่าที่เป็นอยู่นะ 
ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าน้องจะต้องอยู่แต่ในครัวเพื่อผัดหมี่ไปอีกนานแค่ไหนกัน?




ที่ตั้งของหมู่บ้านที่อยู่ด้านล่าง


กลุ่มเด็กจากโรงเรียนที่แวะไปเยี่ยมเมื่อเช้ากำลังเดินทางกลับบ้านกัน พวกเขา-
ต่างส่งเสียงทักทายเรียกฉันว่า ดีดี้ ไปแทบตลอดทาง ก็แอบเสียดายที่ไม่เจอกับ
หิมานชูกับน้องอีกครั้ง เพราะบ้านของพวกเขาอยู่ห่างไกลจากนี้ไปเยอะ

นอกเหนือไปจากสิ่งก่อสร้างที่ซุกซ่อนอยู่ตามมุมเล็ก ๆ ของเมืองแล้ว
ฉันเองก็ไม่แน่ใจนักว่า ซังกลา จะมีอะไรน่าสนใจไปมากกว่านี้ไหม? 

แต่ถึงอย่างนั้น...
เมื่อมีโอกาสหยิบเปิดภาพการเดินทางมาย้อนดูยามคิดถึงทีไร
ที่นี่กลับมีช่วงเวลาดี ๆ มากมายที่ทำให้เราแอบยิ้มได้อยู่เสมอ




หลังจากไปยืนดูการเก็บแอปเปิ้ลที่สวนแห่งหนึ่ง
คุณป้า ที่ทำสวนฯ ก็ได้ยื่นแบ่งมากินให้อีกสามผล



แอปเปิ้ลที่ได้รับปันส่วนมาในวันนี้ และ ลูกแพร์ของน้องวิชาล 




เด็กนักเรียนและคุณครู ที่โรงเรียนประถม

" อื่น ๆ "



(1) Samuel Evan Stokes 

(2) Nages and Narenas Cult






Create Date : 04 มิถุนายน 2559
Last Update : 26 เมษายน 2561 9:35:06 น. 32 comments
Counter : 1972 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ...

อ่านทุกคำเลยค่ะ..สนุก

เหมือนกับไปเที่ยวด้วยเลย

น้ำใจชาวอินเดียชนบทก็มีสำหรับนักเดินทางนะคะ

โหวตให้ค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kwan_3023 Literature Blog ดู Blog
raknakubkondee Literature Blog ดู Blog
tangkay Dharma Blog ดู Blog
Close To Heaven Travel Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ชีริว Funniest Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 4 มิถุนายน 2559 เวลา:18:08:21 น.  

 
บล็อกที่แล้วนั่งรถฟรี บล็อกนี้ก็ได้รับลูกแพร์กับแอปเปิ้ลฟรีอีก
ถือเป็นโชคดีนะคะ
อ่านแล้วขำ ยืนร้องเพลงชาติคนเดียว เหมือนตอนเป็นนักเรียนแล้วไปสายไม่ทันเคารพธงชาติ ถูกครูทำโทษไงงั้นเลย อิอิ...
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Home & Garden Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 4 มิถุนายน 2559 เวลา:23:35:52 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:2:08:45 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า
เด็กๆนักเรียนน่ารักมาก
แถมมีน้ำใจด้วยนะ

ผลแอปเปิ้ลที่ได้รับมา
น่าจะอร่อยมากๆเลยนะครับ
เป็นผลไม้ที่ได้มาจากมิตรภาพและน้ำใจ

อ่านได้สนุกมากครับ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันครับคุณฟ้า



โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:3:26:35 น.  

 
อื้มมมมม

เป็นที่ที่ไม่มีสถานที่สวยงาม แต่สำหรับพี่มันงามแฮะ

อ่านแล้วก็รู้สึกว่าผู้คนงาม เมืองงาม

แอปเปิ้ล..น่ากินมากมาย ลุกแพรนั่นก็น่าชื่นใจไม่น้อยใช่มั้ย

บางที่มันก็มีความทรงจำดีๆ ที่ทำให้รู้สึกดีเมื่อได้ไป แม้ว่ามันจะไม่สวยอะไรมากมายเลยก็ตามเนาะ

โหวตจ้า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Travel Blog ดู Blog
อุ้มสี Fanclub Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Health Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:12:07:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ
บ้านนี้ทั้งภาพและคำบรรยายบอกเลยว่าคุณภาพจริงๆ
แอบอ่านมาหลายตอนแล้ว
โหวต >> Travel << ให้เลยนะคะ




โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:16:06:20 น.  

 
ไป KINNAUR ต่ออีกเหรอนี่ เอ้าไปก้ไปจ้า

แต่นั่งรถนานมากเลยอะ 200กว่าโล ใช้เวลา 10 ชม.กว่า แต่ก้สมควรอยู่หรอก เพราะเค้าว่ากันว่า
ถนนแถวนั้้นหฤโหดมากๆ ขืนซิ่งมากเดี๋ยวตกเหว กลิ้งเป็นลุกขนุน แหงๆ555

แล้วโดยธรรมชาติ แล้วนี่ เด้กจะเป็นมิตรมากกว่าผู้ใหญ่ แต่ถ้าน้องฟ้าเจอเด็กแบบ อ.เต๊ะ ละก็ ขอให้หนีให้ใกล้ที่สุด เลยทีเดียว แฮ่ๆ555

แล้วที่เด็กกะครูให้แอบเปิ้ลน้องฟ้ามานี่ โชคดีมากเลยนะ เพราะ เค้าว่ากันว่า แอบเปิ้ล ที่ปลูกที่นี่
รสชาติอร่อยเลิศล้ำ ในโลกเลยทีเดียวเชียว

ส่วนเรื่องน้ำใจของ เด็กกะครู นี่ อ.เต๊ะ ไม่ค่อยจะมัั่นใจเท่าไหร่ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า เค้าน่าจะสงสารมากกว่า

เพราะน้องฟ้าดูอดอยาก หน้าตาหิวๆมอมๆๆแมมๆ ได้แอบเปิ้ล ไป น่าจะพอประทังชีวิตไปได้อีก วัน2วัน อิอิ

แต่ที่เด็ด แล้วก้น่าสนใจเอามากๆนี่คือ ป้อมไม้เก่าแก่ ที่น้องฟ้าบอกไม่มีอะไรนี่แหละ เย้ย 555

ป้อมไม้ที่นี่ น่าทึ่งตั้งแต่โครงสร้างทีเดียว
ส่วน ฐานเล็กแต่ ที่ชั้นบนกับบานขยายใหญ่

ดูโครงสร้างน่าจะใช้หิน สลับโครงไม้ขนาดใหญ่

หน้าต่าง ค่อนข้างเล็ก เดาว่า ถ้าทำช่องใหญ่ ผนังน่าจะเสียความแข็งแรงไป

แต่ที่สุดๆ ก็ต้องเป็นงานไม้ ไล่ไปตั้งแต่ซุ้มประตูไม้แกะสลัก เชิงชาย ใต้หลังคา กรอบประตู กรอบหน้าต่างฝีมือละเอียด มีมิติเอามากๆ

เสียดาย ที่เค้าไม่ได้เปิดให้ชมข้างในนะ น่าจะมีอะไรเด็ดๆซ่อนอยู่อีกแยะเลย

แล้วก้แหม มันน่าตีซะจริงๆ ทีรูปงานสถาปัตยกรรม หัตถกรรม ฝีมือเด็ดๆแบบนี้ น้องฟ้าถ่ายมาซะเล้กจิ๊ดเดียว มืดก้มืด
อ.เต๊ะ ต้องเพ่ง ตาเกือบจะแตก 555

แต่ทีแอบเปิ้ล ของชอบตัวเอง ซูมซะลูกเบ้อเร่อ
แต่จะว่าน้องฟ้าก็คงไม่ได้หรอกนะ

ก้คนกำลังหิว คงไม่มีกระจิตกระใจ จะไปดูงานฝีมืออะไร อิ่มแล้วค่อยว่ากันใหม่เนอะ 555

คงเพราะเมื่อวานก้ไม่ได้กินอะไรเลย
จะกินหมี่ซักหน่อย ก้ทนกลิ่น puma ไม่ไหวซะอีก555






บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: multiple วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:16:31:53 น.  

 
แก้คำผิดจ้า เค้าตาลาย แฮ่ๆ555

ขอให้หนีให้ใกล้ที่สุด= ขอให้หนีให้ไกลที่สุด



โดย: multiple วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:16:34:19 น.  

 
อะไรกันคะน้องฟ้า วันนี้พี่อัพบล็อกใหม่ 2 บล็อกเลยนะคะ
ทั้งส่งงานตะพาบ และร่วมกิจกรรม blogs to friends
ทำไมน้องไม่เห็นอ่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:16:49:24 น.  

 
ทึ่งทุกครั้งที่ได้ดูบล็อกของน้องฟ้า
เที่ยวแบบลุยจริงๆ

โหวต travel blog ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2559 เวลา:19:35:03 น.  

 
ใจกล้าดีครับ ทักทายเจ้าถิ่น แถมเจ้าถิ่นก็ดีนะ จริงๆ 1 กิโลเมตรฟังดูเหมือนไกล แต่ถ้าบอกว่าเินประมาณ 15 นาที จะไม่รู้สึกว่าไกลเท่าไหร่ ยิ่งถ้ามีคนคุยเป็นเพื่อนจะยิ่งฆ่าเวลาได้ดี

ใครๆ ก้อยากฟังเพลงชาติของคนต่างชาตินะ อยากรู้ถึงความแตกต่าง

เค้าก็เข้าใจคิดนะเรื่องการใช้ลอก

อ่านกฏแล้วใช่มั้ย ดูหาเรื่องๆ ยังไงก็ไม่รู้ แหะๆ

ก็ถือเป็นความทรงจำที่ดีครับ บางครั้งผู้คนที่ผ่านเข้ามาก็ทำให้เกิดความทรงจำเหมือนกัน


กาบริเอล Travel Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:0:10:12 น.  

 
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
อรุณสวัสดิ์ครับผม


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:5:18:12 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:6:59:12 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ถ้าอยากเที่ยวแบบลงลึกถึงที่จริง ๆ
ต้องตามมาเที่ยวกับน้องฟ้า เล่าได้ละเอียด
มากค่ะ จินตนาการตามไปด้วยเลย เป็นความทรงจำ
ที่ควรค่าต่อการคิดถึงค่ะ


โดย: AppleWi วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:13:18:26 น.  

 
โหวต Travel blog ให้เลยจ้า
เหยยยย ทำไมไม่มีภาพน้องฟ้า ใส่หมวกนั่นให้ดูบ้างอ่าาาา อยากดูอ่ะ 555 คงน่ารักน่าดูเลย

เด็กๆน่ารักเนอะ เพิ่งรู้นะว่าที่นั่นมีการปลูกแอปเปิ้ล แถมพันธุ์แบบดีๆอีกด้วย
พี่นะอยากไปมากเลย พื้นที่แบบนี้ มันน่าสนใจกว่าทุกที่ คือเราได้ไปดูวิถีชีวิตพวกเค้า ดูบ้านช่อง และธรรมชาติ ...บอกเลยว่า บล๊อกนี้เปิดสายตากว้างไกลจริงๆค่ะ

พี่เคยทำงานให้ ปตท โปรเจคหนึ่ง มีวิศวกรอินเดีย ยกทัพมาร่วมงานด้วย โอ๊ยยยย อยากได้โผล่หน้าไปดูเลยนะว่า พวกเค้ากินอะไรกัน เพราะเธอจะได้รับ "ส่วนแบ่ง" มาให้อย่างเต็มอกเต็มใจ พวกเค้าใจดีมาก(ในความคิดของพี่นะคะ) เรื่องแบ่งของกินให้นี่ ยกนิ้วให้เลยค่ะ


โดย: Max Bulliboo วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:14:42:23 น.  

 
มาเที่ยวต่อครับ คุณฟ้า
บางครั้งน้ำใจมีอยู่ทุกที่ โดยมิได้ร้องขอ
สมุดลงชื่อ .... ชลบุรี ไทย 2015
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 8 มิถุนายน 2559 เวลา:0:08:16 น.  

 
อ่านที่ไปเม้นท์แล้วก็...เรานี่ดูหนังคล้ายกันนะเนี่ยฟ้า

ไปดู คิดว่าน่าจะน้ำตาแตกนะ แต่สปอยล์แล้วแบบนี้อาจจะไม่กระทบมากน่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 มิถุนายน 2559 เวลา:14:41:09 น.  

 
บล็อกแก๊งถ้าเขียนสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
เพื่อนจะเยอะเองเลยนะ
พี่ก๋ารู้สึกอย่างนั้นครับ

อาจจะเพื่อนน้อย
แต่ถ้าได้ทักทายกันแล้ว
จะสนิทนาน
พี่ก๋ารู้สึกแบบนั้นเลย
ไม่เหมือนเฟซบุ๊คนะครับ
อันนั้นมาเร็ว ไปเร็ว 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2559 เวลา:18:14:52 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: **mp5** วันที่: 8 มิถุนายน 2559 เวลา:21:43:46 น.  

 
ขนาดในเมืองไทยผมยังไม่ค่อยจะกล้าเที่ยวมั่วเลย นี่เธอไปเดินโต๋เต๋ที่คินนัวร์เนี่ยนะ???
เลยได้เดินตามเด็กไปโรงเรียนเลย อะหืม~ ไม่มีบล็อกท่องเที่ยวไหนจะเข้าถึงวิถีชีวิตได้ขนาดนี้แล้วครับ (เพลงชาติอินเดียเพราะมั้ย?)
ฟ้าทำหน้าที่ทูตได้ดีมาก ไปเผยแพร่เพลงชาติไทยถึงต่างแดน เพราะธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ เพื่อความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย
กรี๊ดดดด บล็อกนี้มีโบราณสถานด้วย XD เอาน่ะ ป้อมไม้อันนึงก็ยังดี
บล็อกนี้ผมชอบภาพถ่ายคุณลุงหลังรั้วลวดหนามมากเลยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Movie Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:1:03:53 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:6:31:39 น.  

 
ถ้ามีรอบเดือนห้ามเข้า แค่มีตอนเดินทางก็ลำบากแล้ว ถ้าไปขนาดนี้ เรากินยาเลื่อนตลอดเลยล่ะ ไม่มีปัญหานี้แน่ๆ 555

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:15:51:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เหมือนได้อ่านบันทึกการเดินทางเลยค่ะ

เล่าเรื่องได้สนุก เห็นภาพ และยังมีภาพประกอบสวยงาม

จริงๆก็ดูชนบทนะ แต่ก็มีความงามแบบชนบทไม่ต้องใช้สีสันมากมาย

ผู้คนเต็มไปด้วยน้ำใจ อ่านเพลินเลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
แม่โอ๋เรนเจอร์ Literature Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:19:27:44 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องฟ้า

ขอบใจนะ ที่เข้ามาทักทายในบล็อกครู หายไปนานนะเนี่ย สงสัยงานยุ่ง อิอิ ขอบใจนะ ที่เห็นด้วยกับการเขียนถึงน้อง ชีริว ครูสัมผัสจากงานเขียน การวิเคราะห์วิจารณ์ของเขา กับการได้เจอ ได้คุยกับเขา ในงานมิตติ้ง สอง ครั้งจ้ะ อิอิ
ตามมาเที่ยวอินเดีย เมือง ซังกลา บรรยายละเอียดดี ชอบภาพเด็ก ๆ นักเรียน ขำ ที่ต้องร้องเพลงชาติไทย ห้าห้า
หนทางน่าจะทุรกันดารเหลือเกินนะ โดยดูจากภาพที่ถ่ายมา น่าจะแล้งเหลือหลาย แต่ที่น่าทึ่งมาก คือ การเดินทางคนเดียว เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ทำไม เก่ง และกล้าหาญแบบนี้ เยี่ยมจริง ๆ จ้ะ
โหวดหมวด ท่องเที่ยว จ้ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:20:44:33 น.  

 
เป็นอีกหนึ่งตอนของฟ้า ที่พี่อ่านแล้วยิ้ม เด็ก ๆ น่ารักดี ตั้งใจให้พี่ฟ้าถ่ายรูปนะนั่น

เนาะ เราอาจจะคิดว่าเค้าแร้นแค้น ไม่ได้อยู่ในฐานะ ที่จะให้อะไรใครได้ ... เกินคาด ฟังแล้วอิ่มใจไปด้วยจ้ะ

เด็กสาวเนปาลี ที่ผัดหมี่ นึกถึงเด็กอีกหลายคนที่ ต่างจังหวัดบ้านเมืองเราเนาะ เดี๋ยวนี้น้อยคนแล้วนะที่จะไม่ได้เรียนหนังสือ แม้แต่เด็กชาวเขา ยังได้รับโอกาสเลย

แบกกระเป๋า แบกกล้องไปด้วย เดินไปด้วย หนักมั้ยฟ้า


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


***ที่รายาบุรีนี้ หมอกมาด้วยเมื่อปีที่แล้วจ้ะฟ้า ช่วงหลังมาได้เที่ยวด้วยกันครบ 4 คนต้องรอช่วงปีใหม่โน่นแหละ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 มิถุนายน 2559 เวลา:13:02:45 น.  

 
มาเดินตามนักท่องเที่ยวสาวน้อยบุกเดี่ยว
ชื่นชมว่าเก่งมากเลยค่ะ แล้วพี่ก็ชอบมากเลย
การท่องเที่ยวเพื่อความสนใจด้านความเป็นอยู่
ของผู้คนในแหล่งที่ไป

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
ออมอำพัน About Weblog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ขอบคุณที่โหวตให้ด้วยนะคะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 10 มิถุนายน 2559 เวลา:21:46:30 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมเยียน

แมวยักษ์ไม่กินปลาแต่คงไม่กินตูบหรอกค่ะ

ก็เราเพื่อนกันนิ

รึเปล่าหว่า


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 11 มิถุนายน 2559 เวลา:0:12:02 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Parenting Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Pet Blog ดู Blog
อุ้มสี Food Blog ดู Blog
Ariawah Auddy Food Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

แม่บุญเคยดูสารคดีเกี่ยวโรงเรียนที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านของเด็กบางคนมาก บางครั้งต้องเดินไปกลับ ๔ ชม เดินผ่านป่า ขึ้นเขาไปคนเดียว ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปให้ทันโรงเรียนตอนเช้า อ่านแล้วน่าสะเทือนใจมาก ช่างมีความพยายามกันเหลือเกิน

การเดินทางทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวของคนอื่นๆ วัฒนธรรมที่แตกต่าง ความเป็นอยู่ ฯลฯ กำไลชีวิตจริงๆ ค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 11 มิถุนายน 2559 เวลา:16:12:53 น.  

 
อ่านอย่างตั้งใจครับ อ่านแล้วได้ทบทวนความปรารถนาของผมเอง ที่อยากไปท่องโลก ข้อมูลจากบล็อกของคุณถือเป็นแสงเทียน ที่อาจทำให้ฝันของใครหลายคนสมความปรารถนาครับ
การได้พูดคุยกับคนพื้นที่อย่างเช่น ครู นักเรียน ถือว่าได้ไปถึงแล้ว มีค่ายิ่งกว่าอะไร
โหวต Travel Blog


โดย: Insignia_Museum วันที่: 14 มิถุนายน 2559 เวลา:20:38:31 น.  

 
แอบมาชะโงกดู คิดว่าถึงชายแดนอินเดีย-ธิเบตแล้วซะอีก


โดย: ชีริว วันที่: 14 มิถุนายน 2559 เวลา:21:31:41 น.  

 
มารออ่านต่อนะคะ


โดย: honeynut วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:6:46:21 น.  

 
อ้าว น้องฟ้ายังร้องเพลงชาติไทยไม่จบเหรอคะ 555
รออ่านตอนต่อไปเช่นกันค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:8:53:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.