ตรงทางเข้าหน้าบ้านได้มีการวางซุ้มประดับผ้าตั้งกั้นไว้ให้ดูคล้ายเป็นทางผ่าน
และมีการนำสายผ้าไปผูกโยงกั้นขึงเหมือนกับประตูเงินประตูทองด้วย...
จากที่เคยเห็นผ่านสื่อและภาพงานแต่งของชาวอินเดีย (ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าอิงจาก
ภูมิภาคไหนบ้าง) จะมีสิ่งที่เห็นติดตามาตลอด นั่นก็คือภาพการเดินทางมายังบ้าน
เจ้าสาวของเจ้าบ่าว ที่มีทั้งขี่ม้าหรือไม่ก็ช้างและในบางพื้นที่ก็อาจนั่งเสลี่ยงเล็ก ๆ
ดังนั้นฉันจึงไม่แน่ใจนักว่า ฝ่ายชายมาปรากฏตัวในรูปแบบไหนกัน ?
หลังจากได้ยินว่าเจ้าบ่าวยังไม่มาถึง ตัวเองก็เลยแอบดอดไปหาของกินมื้อเช้าใน
ครัวมากินแก้หิวก่อน และกว่าจะไหวตัวทันหลังจากที่กินโรตีกับชัยไปจนเกลี้ยงแล้ว
ก็เป็นพลาดท่าจนได้
โน่นแน่ะ...เจ้าบ่าวมาถึงบ้านตั้งนานแล้ว และกำลังเริ่มทำพิธีกับพราหมณ์อยู่พอดี
เลยอดเห็นขบวนแห่ฝั่งผู้ชายและภาพการกั้นประตู ที่อยากรู้นักว่าเขาจะมีกี่ด่านกัน
เฮ้อ นี่ต้องโทษความหิวแท้ ๆ เชียว !
เจ้าบ่าวแต่งชุดสีขาวและใส่กระบังสวมคาดที่ศีรษะและมีระบายกั้นปิดใบหน้าไว้
เขามีดาบติดแนบกายมาด้วยอาจเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องแบบ ส่วนที่คอก็มีพวง
มาลัยที่ใช้เงินพับติดเป็นแผงคล้องอยู่ และมีน้องชายเป็นผู้ติดตามนั่งอยู่ข้าง ๆ
พวกเขาจะต้องมานั่งทำพิธีกันก่อนที่จะเข้าไปยังซุ้ม จุดเดียวกับที่เมื่อคืนนี้ได้ถูก
ใช้เพื่อการชำระตัวของเจ้าสาวนั่นเอง
แต่ในตอนนี้มันได้ถูกตกแต่งและทำการประดับดาขึ้นเล็กน้อย และมีการก่อผืน
ดินนูนขึ้นมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมตรงกลาง ตลอดจนมีการโรยทรายสีเป็นรูปทรงเลขา-
คณิตและมีเครื่องบูชาอื่น ๆ ที่วางจัดเตรียมไว้
ที่มือของเจ้าบ่าวก็มีการวาดเฮนน่าด้วย
ซุ้มฯ ที่เคยถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับพิธีอาบน้ำเจ้าสาวเมื่อคืนที่ผ่านมา
พวกเขาต่างนั่งกันตามตำแหน่งที่จัดวางไว้เฉพาะ เจ้าบ่าวจะนั่งคู่กับผู้ประกอบพิธี
พร้อมทั้งน้องชายที่นั่งอยู่เยื้องหลัง ส่วนตรงมุมขวาจะเป็นที่ของพ่อแม่เจ้าสาว
และพราหมณ์ผู้ที่หน้าที่นำสวดก็จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับเจ้าบ่าว
ถัดมาไม่นานนัก เจ้าสาวจะถูกอุ้มออกมาจากห้องโดยญาติผู้ชายที่มีศักดิ์เป็น
พี่ชาย (ซึ่งโดยปกติแล้วคนที่ทำหน้าที่นี้มักจะเป็นพี่ชายหรือน้องชายแท้ ๆ)
แต่ทั้งนี้ตัวเจ้าสาวเองไม่มีพี่น้องเป็นผู้ชายสักคนค่ะ ก็เลยต้องอาศัยให้ญาติสนิท
ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาอุ้มเธอเพื่อส่งเข้าพิธีแทน
พิธีการรดน้ำ ในที่นี้จะใช้เปลือกหอยสังข์ขนาดเล็กหนึ่งชิ้น วางลงที่อุ้งมือ-
เจ้าสาว โดยมีพ่อคอยยืนโอบและประคองแขนอยู่ทางด้านหลังและมีคนทำหน้า
ที่ตักน้ำมารดมือจนกระทั่งหมดโถ ส่วนเจ้าบ่าวจะได้รับกิ่งสนขนาดเล็กมาถือรอง
น้ำที่รดด้านใต้มือเจ้าสาวอีกต่อหนึ่ง ในช่วงนี้เองก็ได้มีการก่อไฟกองเล็ก ๆ ขึ้นใน
ซุ้มตรงฐานดินขึ้นด้วย
พราหมณ์กำลังทำหน้าที่อ่านบทสวดในพิธีแต่งงาน
เมื่อจบจากขั้นตอนแรกที่ทำการรดน้ำไปแล้ว พวกเขาจะทำการคล้องมาลัยให้
กันและกัน โดยที่เจ้าสาวจะเป็นผู้คล้องให้ก่อนและหลังจากนั้นพวกญาติ ๆ ที่ยืน
อยู่ด้านหลัง ก็จะพ่นสเปรย์โฟมใส่เพื่อแสดงความยินดี ส่วนเจ้าบ่าวก็คล้องพวง
มาลัยต่อเจ้าสาวเช่นกัน และเช่นเดิมพวกเขาก็จะโดนโฟมพ่นใส่อีกรอบ
ลำดับถัดมาเจ้าบ่าวจะมอบแหวนแต่งงาน พร้อมสร้อยคอที่เรียกว่า
'Mangalsutra' พร้อมทั้งของขวัญให้กับทางฝ่ายหญิง
แล้วก็มาถึงพิธีเดินรอบกองไฟ ซึ่งภาพตรงนี้ดูน่าจะคุ้นตากับเราที่สุดแล้วเนอะ
แต่ระหว่างเดินอาจดูทุลักทุเลไปบ้าง เพราะเจ้าบ่าวตัวสูงและด้วยความยาวของ
พู่ที่ติดบนกระบังหมวกก็ด้วย มันแทบจะไปเกี่ยวโดนริบบิ้นสีที่โยงผูกด้านบนซุ้ม
อยู่ตลอด เขาจึงต้องก้มหลบและต้องคอยแหวกสายร้อยลูกปัดที่ใช้บังหน้าดูทาง
ส่วนมืออีกข้างก็ต้องคอยถือดาบพาดไหล่ไว้อีก
ช่วงรอบแรกของการเดิน จะยังคงเป็นฝ่ายเจ้าสาวที่เป็นผู้เดินนำทางก่อน
จากนั้น พวกเขาก็จะต้องมาหยุดพักทำพิธีต่อหน้ากองไฟเพื่อทำโรยข้าวตอก
และเครื่องหอมอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ลงบนกองไฟร่วมกัน
เมื่อถึงคราวที่เจ้าบ่าวเป็นฝ่ายเดินนำบ้าง ซึ่งเราก็จำไม่ได้ว่าอยู่ในรอบที่เท่าไหร่
ก็จะมีการคนเข้ามาขวางกลางทาง เพื่อทำให้การเดินต้องหยุดลงกะทันหัน
โดยตัวการของเรื่องที่ว่านั่นคือพี่สาวคนโตของเจ้าสาวนั่นเอง
พี่เจ้าสาวเดินเล่นเอานิ้วมือมาล็อคหัวแม่เท้าเจ้าบ่าวไว้ไม่ให้ไปต่อได้
ตอนนั้นก็แอบ งง นะ ว่าพวกเขาทำอะไรกันหนอ? แต่ดูลาดเลาแล้ว
ก็เหมือนมีการเจรจากันเล็กน้อยคล้ายกับจะเรียกค่าเบิกทาง
คุณเจ้าบ่าวดูเหมือนจะเตรียมพร้อมมาดีนะ เพราะแอบมีซุกขนมเอาไว้หลายห่อ
และหยิบเอามายื่นส่งให้พี่ผู้หญิงถึงสามรอบ ตอนนั้นก็เรียกเสียงหัวเราะในงาน
ได้เยอะเลย แต่ยังไงพี่ก็ยังไม่ให้ไปต่อหรอก
แหม ...คิดเอาขนมมาเป็นค่าไถ่เนี่ยนะ !?
จนกระทั่งเจ้าบ่าวยอมยื่นธนบัตรจ่ายให้พี่สาว เธอจึงยินยอมปล่อยให้ได้เดิน
รอบกองไฟต่อจนสำเร็จ และหลังจากนั้นคู่บ่าวสาวก็จะย้ายตัวไปยังห้องกันต่อ
(ที่เดียวกับเมื่อคืนนี้เจ้าสาวมาทำพิธีและเก็บตัวเมื่อช่วงเช้า)
ซึ่งหนนี้เจ้าสาวก็จะถูกอุ้มไปยังที่นั่นโดยน้องชายของฝ่ายเจ้าบ่าว
พอจบพิธีแต่งฯ ในรอบเช้าไป บรรดาผู้ร่วมงานต่างก็พากันเปิดเพลงเต้นฉลองกัน
แต่นี่ก็ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดครบถ้วนอย่างสมบูรณ์นะ เพราะในวันพรุ่งนี้ฝ่ายเจ้าสาวเอง
จะต้องเดินทางไปที่บ้านของเจ้าบ่าวเพื่อทำพิธีแต่งกันต่อ
ส่วนอีกหนึ่งวันถัดไปจากนั้นก็จะเป็นงานเฉลิมฉลองการสมรส
ที่น่าจะดูคึกคักและน่าสนุกมากกว่านี้แน่
จากที่ถามมาบ่าวสาวคู่นี้ได้รู้จักกันผ่านทางการดูตัว
ส่วนการตัดสินใจก็เป็นเรื่องของคนทั้งสองว่าจะตอบตกลงกันหรือไม่
และในเรื่องความเป็นอยู่หลังจากการวิวาห์ หากยึดตามธรรมเนียมแล้วฝ่ายเจ้าสาว
ก็จะต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของฝ่ายชาย แต่ในทางกลับกัน ทางญาติของฝ่ายหญิง
ได้บอกกับฉันว่า เจ้าสาวและเจ้าบ่าวคงจะย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้มากกว่า เพราะทาง
ฝั่งพ่อแม่ของผู้หญิงจะไม่มีคนคอยดูแล ทั้งนี้ตัวของเจ้าสาวเองก็เป็นลูกคนเล็ก
และในบรรดาพี่สาวทั้งสี่ของเธอต่างก็แต่งงานออกเรือนไปอยู่บ้านสามีกันหมด
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับว่าผู้คนคงเริ่มยอมรับการผ่อนปรนของกฏบางข้อ
ที่ไม่จำเป็นต้องเข้มงวดและมีการอะลุ่มอล่วยมากขึ้นกว่าสมัยก่อนแล้วสินะ
ฉันอยู่ในงานแต่งจนถึงแค่ภาคเช้าของวันที่สองเท่านั้น และถึงแม้ว่าตัวเองจะก้าว
พ้นออกจากที่นี่ไปไกลมากแล้วก็ตาม แต่หากได้เจอซุ้มผ้าที่วางประดับตรงทาง
เข้าหน้าบ้านและมีเสียงเพลง 'นาตี้' เปิดดังลั่นผ่านเข้าหูมาเมื่อไหร่
ฉันคงทายไม่พลาดว่าคงมีบ้านหลังไหนแถวนั้นกำลังจัดพิธีแต่งงานอยู่แน่นอน!
ชอบจัง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรา หรือต่างชาติ ต่างเมือง (ซึ่งไม่เคยไปไหนเล้ย 555)
เอาตรง ๆ ฟ้าชะล่าใจ หรือหิว
เพิ่งเคยเห็นผู้ชายก็วาดเฮนน่า เฉพาะงานพิธีแบบนี้ หรือ เค้าสามารถทำได้เป็นปกตินะ
พี่สาวของเจ้าสาว มาขวางไว้ ... ตรงนี้พี่เดาได้จ้ะ
ถ้าน้องชายเจ้าบ่าว อุ้มเจ้าสาวไม่ไหว จะเป็นไงนะ
กึ่ง ๆ คลุมถุงชน แต่ดีที่ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะไปกันต่อมั้ย
อะลุ่มอล่วย ... แบบนี้จ้ะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น