GAUMUKH (2) เดินทางไกลสู่ กังโกตรี
จาก โกลกาตา ที่พริบตาเดียวก็บินลัดฟ้ามายัง เดลี จาก เดลี ก็นั่งรถรอบสี่ทุ่มตรงดิ่งมายัง ริชชิเกช ...
เช้าวันต่อมา ในขณะท้องฟ้ายังไม่ทันจะสางดีที่เมืองริชชิเกช หลังจิบกาแฟแก้หนาวไปหนึ่งถ้วย ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ฉันก็ต่อรถมายังที่อุตตระกาสี ซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 8 ชั่วโมง
มานึกย้อนถึงเรื่องเวลา จากที่ผ่านมาเมื่อคืนวานนี้ฉันยังนั่งเล่นอินเตอร์เน็ต ผ่านทางโทรศัพท์มือถือในสนามบินสุวรรณภูมิอยู่เลย
ร่างจะแตกแล้วเอ๊ยยยย....
แสงสลัว ๆ จากภายนอกช่วงตีห้าครึ่งเมื่อได้มองเห็นผ่านทางหน้าต่าง บอกเค้าลางของเส้นทางภูเขาที่กำลังปรากฏให้รู้ว่าถนนหนทางมันยึกยักแค่ไหน กับจังหวะการเลี้ยวโค้งไต่ระดับขึ้นที่สูงไปเรื่อย ๆ ในแต่ละครั้ง
ตัวรถโดยสารมีขนาดเล็กกว่าเคยได้นั่งมา ดูแล้วช่างน่าอึดอัดพอสมควร
ตรงฝั่งที่นั่งของฉันมันมีถึงสามที่นั่งกับคนที่มีรูปร่างใหญ่โต ความที่ตัวเอง นั่งเบาะริมทางเดินด้วยแล้ว พอรถเข้าโค้งหักเลี้ยวทีไรก็แทบจะเสียการทรงตัว จิกเบาะรั้งไว้ไม่แทบค่อยอยู่ ลุงกระเป๋ารถฯ คงเห็นใจเลยให้ย้ายมานั่งที่เบาะคู่ตรงริมหน้าต่างแทน
ผู้โดยสารทั้งหมดบนนี้หากไม่นับรวมตัวเองไปด้วย ก็จะมีชาวต่างชาติอีกหนึ่งคู่ กำลังจะเดินทางไปยัง 'โกมุข' เช่นเดียวกับฉัน
ยามรุ่งอรุณของการเดินทางวันที่สองที่เหมือนกับว่า ยังไม่ทันจะได้หยุดหายใจ ภาพภูเขาสีเขียว หมู่บ้านริมทาง ท้องไร่ท้องนา กองฟางที่ยกสุมตากบนต้นไม้และสายน้ำภกีรติ กำลังพาเราหนีไกลออกจากพื้นที่ของความวุ่นวายของตัวเมืองด้านนอก ลับหายเข้าสู่ป่าเขาลำเนาไพร ลึกไปทุกที ๆ
ส่วนเจ้าไหล่ทางแคบ ๆ บนถนนที่แสนจะขลุกขลักนี่
ก็เหมือนพร้อมจะพาส่งเราออกไปสู่ยังโลกหน้าได้ทุกเมื่อเช่นกัน
น่าจะเป็นความลงตัว ระหว่างสุนทรียภาพของการเดินทาง บวกกับ อารมณ์กลัวตาย ที่มาชงไว้ในเวลาเดียว
อุตตระกาสี ตั้งอยู่บนความสูงโดยเฉลี่ย 1,165 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ส่วน กังโกตรี จะอยู่ความสูง 3,048 เมตร ฯ
ดังนั้นเราควรจะพักร่างหนึ่งวันสำหรับการเตรียมตัว ก่อนที่จะเดินเท้าต่อไปยัง
โกมุข ที่สูงแซงลิ่ว ถึง 3,890 เมตรฯ
จุดหมายแรกของการเดินทางวันนี้คือ ริชชิเกช - อุตตระกาสี
ประมาณบ่ายโมงกว่าที่รถประจำทางได้มาถึงยังสุดทางเสียที หลังจากนั่งรถนาน จนเมื่อยไปทั้งตัว ฉันแทบอยากจะทิ้งตัวลงนอนเป็นเพื่อนเจ้าลา แรงงานสัตว์ซึ่ง ทำหน้าที่ขนทรายขนอิฐ ที่หลบฝูงมานอนหอบเหนื่อยเท้งเต้งอยู่ข้างถนนนี่ซะจริง
ขณะที่ตัวเองกำลังมองหาที่หมายสำหรับเข้าพักในคืนนี้ เพื่อพักเหนื่อย แต่คู่รักชาวฝรั่งเศสที่นั่งรถมาด้วยกัน กลับตั้งใจจะเทรกพรุ่งนี้เช้า!!!
" พวกเราจะไปทำใบอนุญาตเข้าพื้นที่กันก่อน หลังจากนี้ก็จะหารถจี๊ปไป กังโกตรี กันต่อเลย"
โอ...ไม่รู้ว่า เพราะอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องรีบร้อนขนาดนั้น? และฉันเองไม่ได้ร่วมทางไปกับพวกเขาต่อตามคำชวนหรอก
ยังไม่บ้าพลังพอ!
เรื่องที่พักในอุตตระกาสี ฉันเคยจดชื่ออาศรมที่เคยเล็งไว้มาก่อนและก็เดินหาจนเจอ แต่มันกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดนะ เพราะในตอนนี้เขาไม่รับคนต่างชาติเข้าพักแล้ว หลังจากพยายามติดต่อไป ประมาณ 2- 3 แห่ง ก็ต้องเดินจ๋อยกลับมาหาที่พักธรรมดา ๆ ค้างแรมแทน
การมาเยือนอุตตระกาสี จึงผ่านไปอย่างรวดเร็วและออกเดินทางต่อในเช้าวันถัดมา
รถโดยสาร ที่จะพาไปยังกังโกตรี จะมีแค่หนึ่งเที่ยวในเวลาตีห้า และอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ตื่นไม่ทันก็คือ รถจี๊ป
ฉันออกมาจากที่พักในช่วงสายของอีกวัน (ซึ่งคงเดาไม่ยากว่าตื่นไม่ทัน) เดินตรงมายังตลาดใกล้กับจุดจอดรถประจำทาง ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงเรียกหาลูกค้าของบรรดาคนขับรถรับจ้างแว่วมา
"ไปกังโกตรี หรือปล่าว?" ฉันเดินเข้าไปถาม เพราะเหลือแค่ตัวเลือกเดียวแล้ว
"ใช่ 200 รูปี แต่ต้องรอคนเต็มก่อนสิบคนถึงจะออก" คนขับรถบอก
ฉันเอากระเป๋าไปวางจองที่นั่งเบาะหน้าไว้ ก่อนออกไปหาอะไรมากินรองท้องในมื้อเช้า แต่เอาเข้าจริง ๆ กว่าจะรวมพลได้ครบก็ปาไปเกือบเพล และที่เจ๋งกว่านั้น รถของเรามี 'บาบา' ที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองถือไม้เท้าติดมาด้วยอีกหนึ่งคน
วิกกี้ คืออเพื่อนร่วมทางร่างใหญ่ที่นั่งเบาะหน้าเบียดคู่มากับฉัน เขามาจาก รัฐมัธยประเทศ ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศอินเดีย เดินทางมาพร้อมกับ มาดุ ที่นั่งแยกอยู่ท้ายรถจี๊ป
สองคนนี้ไปเยือน บาดรินารท และเกดาร์นารท มาแล้ว พอหลังจากกังโกตรี ก็จะมุ่งไปต่อยัง ยมุโนตรี
ซึ่งเส้นทางสำหรับสถานที่ 4 แห่งนี้ เรียกว่า Char Dham Yatra หรือ Chota Char Dham
หรือจะพูดง่าย ๆ หน่อยคือ พวกเขาเดินทางมาแสวงบุญกัน
ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงจากอุตตระกาสี วิ่งไต่ขึ้นที่สูงผ่านทางวิบากผสมกันดาร แต่มันก็ไม่ได้ดูแย่นักหรอก เพราะยังมีสวนแอปเปิ้ลกับดงป่าสนสวย ๆ บนภูเขาให้ได้เห็นอยู่ด้วย
เรามาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยตอนบ่ายสามกว่า กังโกตรี ดูเป็นเมืองเล็กกว่าที่คิดไว้ พอก้าวลงจากรถ ก็มีพวกเด็กที่คอยหาลูกค้าเข้าที่พักมาล้อมหน้าหลังประมาณสี่ราย
หลังจากได้ห้องพักที่มีทำเลตั้งอยู่บริเวณด้านหลังวัดแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันไปตามธุระ
ส่วนฉันก็เดินหาร้านถ่ายเอกสารที่ต้องเตรียมไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ เพื่อเตรียมตัวทำใบอนุญาตเข้าอุทยาน
### ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปยัง Gaumukh(รวมถึง Tapovan และNandanvan) ### จำเป็นจะต้องทำใบขออนุญาตเข้าพื้นที่จาก DFO (Divisional Forest Officer) เสียก่อนโดย สามารถดำเนินการได้จากสองแห่ง คือ 1. อุตตระกาสี สำนักงานฯอยู่ถัดจากท่ารถไปทางทิศเหนือ 2 กิโลเมตร 2. กังโกตรี สำนักงานฯอยู่ตรงบริเวณหน้าลานจอดรถ
สิ่งที่ต้องเตรียมคือสำเนาวีซ่า และสำเนาหน้าแรกของหนังสือเดินทาง **ทั้งนี้ถ้ามีไกด์และลูกหาบ ก็ต้องแจ้งระบุลงในใบคำร้องด้วย**
กังโกตรี เป็นสถานที่เล็กๆ ทางตอนเหนือของรัฐอุตตราขัณฑ์ ตั้งอยู่ในภูมิภาคการ์ฮวาล มี แม่น้ำภกีรติ ไหลพาดผ่านที่แรก และเป็นหนึ่งในที่หมายของชาวฮินดูที่จะเดินทาง ยาตรามาแสวงบุญกัน ตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน ส่วนในช่วงฤดูหนาว เส้นทางจะถูกปิดเพราะหิมะจะตกลงมาปกคลุมพื้นที่ ดังนั้นหากจะเดินทางมา ก็จำเป็นต้องตรวจสอบการเปิดพื้นที่จากคำประกาศของทางการก่อนด้วย
ฉันพบกับบาบาที่ติดรถมาด้วยกันตรงท่ารถช่วงห้าโมงเย็น หลังจากมาด้อม ๆ มอง ๆ หาที่ตั้งของ DFO เอาไว้ก่อนที่จะต้องรีบมาทำเรื่องตั้งแต่ไก่โห่ในวันพรุ่งนี้ ข่าวว่าพื้นที่อุทยานฯ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าได้ไม่เกินร้อยคนต่อวัน
จากนั้นเราก็พากันไปเดินที่วัด ที่ในตอนนั้นเป็นช่วงพิธีอารตีพอดี มีเสียงระฆังและเพลงสวด ยามหกโมงเย็นดังลั่นไปทั่วบริเวณ
ผู้ดูแลเทวสถานเล็กๆ แถวนั้นกวักมือเรียกให้ฉันและบาบาเข้าไปเจิม เพื่ออวยพร ... ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้เดินเข้าไปตามคำเชิญชวน
"ฉันไม่เข้าไปนะ ลุงไปเถอะ"
บาบา จึงเดินเข้าไปรับการเจิมเพียงคนเดียว และเขาก็โดนเรียกเก็บค่าพิธี หลังจากนั้น ...
แกควักเงินจากย่ามจำนวนเล็กน้อยให้อย่างงง ๆ ก่อนที่จะเดินออกมา และดูเหมือนฝ่ายนั้นไม่ค่อยพอใจเท่าไร่ ที่บาบาไม่จ่ายค่าบูชาตั้งแต่หนแรก
ภาพของชาวบ้านที่เดินเข้ามาพูดคุยกับลุงบาบา ขณะที่รถแวะจอดกลางทางเมื่อช่วงบ่าย พวกเขาได้มอบเงินสนับสนุน สำหรับการเดินทางครั้งนี้เพื่อลุงได้ใช้ระหว่างแสวงบุญด้วย
ฉันเห็นลุงบาบา ตั้งใจมาแสวงบุญตามประสาผู้เฒ่าผู้แก่ในวัยสันยาสี ระหว่างที่เดินทางก็เห็นแกได้รับเงินจากการบริจาคของผู้คนที่พบเจอ คล้ายกับการดำรงชีพแบบผู้ละทางโลกที่ไม่สมบัติเงินทองอะไรติดตัว
แต่แล้วกลับต้องมาเจอการเรียกเก็บเงินแบบมัดมือชก เพราะนำสิ่งที่เรียกว่า "ศรัทธา" มาใช้เรียกหลอกเช่นนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
วิกกี้ กับ มาดุ เดินถือหม้อโลหะ กับถาดบูชาที่มีลูกมะพร้าวแห้ง ธูป ข้าวตอก ผ้าแดงมีขอบริ้วทอง ที่ดูเหมือนกำลังจะเอาไปทำพิธีฯ เดินสวนผ่านเข้ามาที่ทางเข้าวัด ก่อนที่ฉันจะก้าวออกไปข้างนอกพอดี แต่แล้วก็ต้องย้อนกลับมาช่วยเป็นตากล้องจำเป็นให้พวกเขาตามคำไหว้วาน
ทั้งสองเดินไปที่ริมแม่น้ำยกมือไหว้แล้ววักมาพรมที่ศีรษะ หลังจากนั้นก็ตักใส่โถ ที่เตรียมไว้และเดินกลับมาที่ศาล ซึ่งขณะนั้นก็มีพราหมณ์มานั่งรออยู่
ระหว่างพิธีบูชาหลังจากที่พราหมณ์ท่องบทสวดและทำการเจิมให้แล้ว พวกเขาทั้งสองต่างก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับยกถาดที่มีการจุดไฟบูชา แกว่งหมุนวนไปมา และร้องอะไรบางอย่างไปพร้อมกับพราหมณ์ด้วย
ทั้งสองบอกให้ฉันเข้าใจภายหลังว่านี่คือ อารตี
เมื่อจบพิธีการจากตรงนั้นไป โถโลหะที่บรรจุน้ำนั้นก็จะถูกนำไปผิงไฟทิ้งไว้ หนึ่งคืนที่เพิงข้างวัดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่วันรุ่งขึ้นพวกเขาจะนำกลับคืน
.....
ค่ำคืนนี้ ไฟฟ้าดับลงอีกตามเคย นับไปนับมาก็น่าจะห้ารอบได้แล้ว สักพักเสียงกระชากเครื่องปั่นไฟฮึ่ม ๆ ก็ดังขึ้น ทั้งจากที่พักของฉันและที่พักอื่น ต่างก็ดังแข่งสลับกัน ตัดกับความเงียบเชียบภายนอกที่มีแค่เสียงแม่น้ำไหล
เป็นเวลาเดียวกับที่ฉันกำลังคาบไฟฉายไล่ความมืดให้พอมองเห็นบ้าง เพื่อจัดเตรียมกระเป๋าสำหรับนำข้าวของติดตัวเดินทางต่อสำหรับวันพรุ่งนี้ และทิ้งของบางส่วนที่ไม่จำเป็นเอาไว้ในห้อง
ค่าที่พักราคา 150 รูปี ที่เอาของฝากทิ้งไว้ คงถูกกว่าต้องไปจ้างลูกหาบอยู่แล้ว
ฉันหวังอยู่เพียงสองเรื่องในจุดหมายปลายทางข้างหน้า สำหรับการเทรกทางไกลคนเดียวหนแรกในชีวิต
คือรองเท้าจะไม่พัง และเท้าไม่พลิกก็เป็นพอ!
" อื่นๆ " - กังโกตรี ไม่มี ATM หรือ อินเตอร์เน็ต ควรแลกเงิน หรือเตรียมเงินมาให้พร้อม การแลกเงินสำหรับที่นี่จะได้อัตราแลกเปลี่ยนไม่ดีนัก
- กังโกตรี,อุตตระกาสี และริชชิเกช มีแต่อาหารมังสวิรัติเท่านั้น
Create Date : 23 มกราคม 2559 |
Last Update : 26 เมษายน 2561 9:09:30 น. |
|
30 comments
|
Counter : 1657 Pageviews. |
|
|
ไม่ธรรมดาเลยนะคะน้องฟ้าแต่ก็ได้ชมทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติข้างทาง
น้องฟ้ายังได้เข้าวัดชมพิธีอารตีอีกด้วย
ตามน้องฟ้ามาเที่ยวได้ความรู้ใหม่
แล้วจะตามอ่านตอนต่อไปด้วยค่ะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
--------------------------------
นอนหลับฝันดีนะคะ