Neverending Story จินตนาการไม่รู้จบ................
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

กาฝากหรือกล้วยไม้










วันก่อนที่ป๊ะป๋าตัดกิ่งมะม่วงและตัดกาฝากที่เกาะเต็มไปหมด
ป๊ะป๋าบอกว่า ถ้าปล่อยให้กาฝากเกาะอยู่อย่างนี้
นอกจากมันจะทำให้มะม่วงไม่เติบโตแล้ว วันหนึ่งมะม่วงอาจจะตายได้
เพราะมีกาฝากเกาะกิ่งอยู่ ต้องคอยเล็ม ตัด กาฝากออกไปเสมอๆ


ส่วนที่กิ่งมะม่วงเตี้ยลงมาอีกหน่อย ป๊ะป๋าเอากล้วยไม้ไปปลูกไว้
ให้มันมีที่เกาะอยู่กับกิ่งและลำต้นมะม่วง กล้วยไม้ได้เจอแดดบ้าง
ได้ร่มเงารำไรจากต้นมะม่วงบ้าง ก็แตกหน่อแตกกอ
ออกดอกสวยๆให้แม่เก็บไปบูชาพระได้บ่อยๆ









กล้วยไม้กับกาฝากเป็นพืชที่อาศัยเกาะอยู่บนต้นไม้ใหญ่เหมือนกัน
ถือเป็นความสัมพันธ์ในระบบนิเวศ ที่เป็นภาวะอิงอาศัยกัน
กล้วยไม้อาศัยยึดเกาะที่ลำต้นหรือกิ่งไม้
ไม่ได้หยั่งรากลึกลงไปในลำต้นเพื่อแย่งอาหาร
ไม่ได้เบียดเบียนต้นไม้ อาศัยเพียงแร่ธาตุ ความชื้นจากต้นไม้เท่านั้น
ต้นไม้ไม่ได้ประโยชน์ แต่ก็ไม่เสียประโยชน์อะไร


กาฝากเกาะบนต้นไม้ใหญ่เหมือนกัน
แต่ให้ผลแตกต่างกันมาก
กาฝากบนต้นไม้อยู่ในลักษณะเป็นปรสิตของต้นไม้
คือชอนไชรากเข้าไปดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้นั้น
เป็นความสัมพันธ์ของการเบียดเบียนกัน
มากกว่าที่จะอิงอาศัยกันเหมือนกล้วยไม้
ต้นไม้ถูกกาฝากดูดกินน้ำเลี้ยง อาหาร แร่ธาตุ ในที่สุดก็ตาย









ในความสัมพันธ์ของคนเรา
การที่มีใครสักคนเข้ามาในชีวิตของเรา
หรือเราเข้าไปในชีวิตของใคร
ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันนั้น
ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน
คิดดีขึ้น ทำดีขึ้น พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์
เกื้อกูลชีวิตจิตใจของกันและกันมากน้อยแค่ไหน
เหมือนกล้วยไม้ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใหญ่
อาศัยต้นไม้นั้น ทำให้ต้นไม้ต้นนั้นสวยขึ้น งดงามขึ้น


หรือความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน
ทำให้ชีวิตไหลไปสู่ที่ต่ำตลอดเวลา
เหมือนลากกันลงเหวไปข้างนึงเพราะคิดผิด
ชีวิตมีแต่ความทุกข์ เศร้าหมอง และจมไปสู่อบาย
เหมือนกาฝากที่เกาะต้นไม้ใหญ่
แล้วเบียดเบียนต้นไม้นั้นให้ตายไป
ภาวะของการพึ่งพิงที่แตกต่างกันของธรรมชาติ
ความเหมือนในความแตกต่าง....ที่เราเห็นได้


"กล้วยไม้เกาะเกี่ยวต้น..............พฤกษา
ไม่แย่งกินธารา....................... บ่อนไส้
ใช่พวกเพื่อนจึงมา....................พิงพึ่ง
กาฝากหากเบียนให้................. มิ่งไม้ทรุดโทรม"

(ขุนประสงค์จรรยา)









Dr.Scott Peck ...
เขียนไว้ในหนังสือชื่อ The Road Less Traveled
ถึงเรื่องของ"ภาวะพึ่งพิง" (Dependency) ความหมายว่า ...
เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิต...
โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่น
ในภาวะปกติเราอาจต้องพึ่งพิงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง
ในบางกรณีเพราะคนเราไม่ได้เก่ง หรือทำเป็นหมดทุกอย่าง
หรือในกรณีที่เราบาดเจ็บหรือกำลังป่วย


แต่หากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว
ยังต้องพึ่งพิงผู้อื่นทางจิตใจเพื่อช่วยให้เราเป็นสุข
แสดงว่าสุขภาพทางจิตของเรากำลังย่ำแย่
เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
ความทุกข์บางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต บางทีต้องอาศัยเวลา
ที่จะช่วยเยียวยาบาดแผลให้สมานจนหายสนิท
พร้อมๆกับภูมิต้านทานทางใจที่เพิ่มมากขึ้น


คนที่มีสุขภาพจิตดี...
จะให้ความรักแก่ตัวเองเป็น...
และดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร
หรืออาจพึ่งพาในบางกรณี แต่ไม่ใช่ขาดไม่ได้ ...
เพราะเราเกิดก็เกิดคนเดียว ตายก็ตายคนเดียว
เวลาจะตายไม่มีใครไปตายกับเราด้วย

เพราะฉะนั้น...โลกนี้จึงไม่มีอะไรที่ตัดไม่ได้...
มันอยู่ที่ จะตัดหรือไม่ตัดต่างหาก...

ใจจะเป็นอิสระอย่างแท้จริงได้ต้องรู้จักตัดใจให้เป็น
เมื่อนั้นอิสระจาก ความรัก ความผูกพัน ที่ผูกเราไว้ในโลกนี้
จะเกิดขึ้นแทนที่ความทุกข์ทรมานทั้งหลาย









"Love is the free exercise of choice.
Two people love each other only
when they are quite capable of living
without each other
but choose to live with each other"


ผู้หญิงมักจะเกิดความทุกข์เพราะความรักมากกว่าผู้ชาย
แต่ผู้หญิงทุกวันนี้...
สามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้..อย่างมีความสุข..
ภาคภูมิใจในเกียรติของความเป็นผู้หญิง
และหากได้พบผู้ชายคนไหนที่เห็นว่า...
เขาจะทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้น
และดีขึ้นกว่าการอยู่คนเดียว ...
เราก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก ...
เป็นตัวเลือก หรือจำใจเลือกมาเป็นคู่ชีวิต
และถ้าอยู่กันไปแล้วไม่มีความสุข
มีแต่ความทุกข์ ความเศร้าหมองใจตลอดเวลา
เราก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการอยู่ร่วมกันนั้น
ไม่จำเป็นต้องทนอยู่ให้ทุกข์ทรมานใจไปตลอดชีวิต









ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน
จึงเป็นความเหมือนบนความต่างได้เสมอ
ลองมองดูความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นดู
ว่าอยู่ในภาวะอิงอาศัย ที่เป็นกล้วยไม้
หรือเบียดเบียนทำร้ายกันเหมือนกาฝากหรือเปล่า


เพราะไม่ว่ารูปลักษณ์ที่ทำให้ติดตาต้องใจของกาฝาก
จะสวยซักแค่ไหน เคยถูกใจยังไง
และ...ไม่ว่าใครจะอยู่ในฐานะเป็นกาฝากของใคร
ก็เป็นกาฝากในชีวิตวันยังค่ำ ...


ถึงเวลาที่จะต้องตัดกาฝากบ้างหรือยังคะ ..













 

Create Date : 11 มกราคม 2555
2 comments
Last Update : 14 มกราคม 2555 12:32:38 น.
Counter : 19240 Pageviews.

 

ขอบคุณมากนะครับสำหรับงานเขียนดีดี
และข้อคิดที่คมๆ ที่ผลิตออกมาให้อ่านเสมอๆ

ปล.

โชคดีจังที่เราไม่ได้เป็นการฝากของใคร
เพราะเห็นใครๆ ที่อยู่ใกล้เรา ก็มักจะเจริญรุ่งเรืองทั่งน่านเลย อิอิ

 

โดย: ลักยิ้มและแววตา 11 มกราคม 2555 18:51:44 น.  

 

ไม่ได้เป็นกาฝาก สงสัยจะเป็นนกแสกอะจิ

 

โดย: vistapa 11 มกราคม 2555 21:37:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


vistapa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]











ปีใหม่นี้ไม่มีของขวัญมาให้
มีก็แต่หัวใจดวงนี้
มามอบให้แด่เพื่อน..ที่แสนดี
ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจ


ให้ร่ำรวยสวยฉลาดสมปรารถนา
ให้ชีวิตมีคุณค่าดังฝันใฝ่
ให้พ้นทุกข์พ้นโศกไร้โรคภัย
ตั้งแต่นี้ตลอดไปทุกท่านเทอญ...




Friends' blogs
[Add vistapa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.