คำและความอันงดงามไพเราะจากมหาเวสสันดรชาดก (๒๕)
สวัสดิ์โสรวารวัฒน์-มานมนัสรมณีย์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ค่ะ
มหาเวสสันดรชาดก วนปเวสน์ กัณฑ์ที่ ๔
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้นฉบับ ฉบับพิมพ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์
เอวํ เจตา โดยนัยที่แสดงมานี้ เหล่าขัตติยเจตาธิบดีในเจตราษฎร์ ได้ทูลแถลงแนววนาวาสต่อนั้นไปไกลถึงสิบห้าโยชน์จนถึงที่วิเศษโสดชื่อวังกบรรพต กำหนดด้วยจุตุรัสโบกขรณี แต่พระเวสสันดรและพระมัทรีสองกษัตริย์ ซึ่งนิราศพลาดพลัดจากสมบัติกรุงสีพีมา
เต อุยฺโยเชตฺวา ได้ส่งเสด็จสี่กษัตริย์ให้ดำเนินไป ในหนทางพนมไพรภยันตราย แต่ไพรีร้ายที่คลางแคลง ว่าชาวสีพีจะแต่งติดตามมา ให้พิฆาตนิราศจากความสุข ให้พระองค์ทรงเสวยทุกข์ยิ่งขึ้นไป
หรือยังเกรงอีกว่าจะมีคนจนยากไร้ตามไปทูลขอสองดรุณน้อยหน่อขัติยราชหรือพระราชเทพีซึ่งมีสิริวิลาสลักษณวิไลไปเป็นของตน ทำให้ถึงทรพลต้องเลี้ยงพระองค์แต่ผู้เดียว
ไม่มีผู้จะแลเหลียวเปลี่ยวอนาถ กษัตริย์เจตราษฎร์จึงได้เลือกสรรวนจรกบุรุษ ชื่อเจตบุตรมนุษย์พรานป่า เป็นคนที่มีกำลังวังชา เชี่ยวชาญชำนาญในหนทางข้างทิศนั้น
แล้วตั้งให้เป็นผู้รักษาทางร่วมที่สำคัญเป็นต้นทาง ที่เดินตามพระองค์ไปกษัตริย์เจตาธิบดีกำชับสั่งเจตบุตรพรานไว้ว่า อย่าให้ใครๆเดินไปในทางนี้ได้เป็นอันขาด
เว้นแต่ราชทูตถือข่าวสาส์น ของสมเด็จพระภูมิบาลพระเจ้ากรุงสญชัย หรือกษัตริย์ผู้ใหญ่ในเจตราษฎร์หากบังคับใช้มา
แล้วให้นายเจตบุตรคิดอ่านรักษาสี่กษัตริย์ ให้ได้เสด็จอยู่เสวยสุขสวัสดิ์โดยบรมราชอัธยาศัย ในกุศลวัตรปฏิบัติบำเพ็ญอุตมพรหมจรรย์ในอรัญประเทศ
เมื่อดำรัสจัดการเสร็จแล้วก็เสด็จคืนมาตุลนคร ซึ่งอยู่ครอบครองแต่ก่อนนั้นแล
สปุตฺตทาโร เวสฺสนฺตโรปิ แม้ฝ่ายว่าสมเด็จพระบรมนเรศเวสสันดร กับพระมัทรีชาลีกัณหาชินา เป็นสี่กษัตริย์เสด็จจรโดยมรรคานุกรมมีนิยมดั่งกล่าวมา ถึงภูผาเขาคันทมาทน์เลือกได้ที่สะอาดเสด็จประทับอยู่แรมราตรี ครั้นรุ่งขึ้นเสด็จจากที่นั้นผันพระพักตร์ต่ออุดรทิศ เสด็จไปไม่ผิดถึงเขาวิบุลบรรพต
เสด็จเลียบเชิงเขาไปโดยกำหนดจนถึงฝั่งเกตุมดีนที เป็นเวลาพระสุริยรังสีร้อนกล้า จึ่งเสด็จนิสัชนาการนั่งในร่มไม้ใกล้ฝั่งแม่น้ำนั้นประทับระงับร้อนผ่อนผันพระกายให้สำราญ
ครั้งนั้นยังมีนายพรานผู้หนึ่ง มาถึงไต่ถามพระองค์ดูก็รู้จัก จึ่งมีจิตรจงรักภักดีต่อพระบรมสมภาร จึ่งได้แต่งมธุรมังสาหารถวายให้เสวยในเวลานั้น
พระองค์จึ่งพระราชทานรางวัล คือถอดพระสุวรรณจุฑามณีจากพระเมาลีแล้วยื่นให้ไปเป็นทาน ส่วนพระองค์สรงสนานเสวยสีตโลทกในแม่น้ำนั้น พร้อมกันกับสามกษัตริย์ซึ่งตามเสด็จมา
แสวงหาหาดที่ตื้นในพื้นที่นทีที่พอจะข้ามได้ แล้วเสด็จไปฝั่งโพ้นของแม่น้ำเกตุมดีนที เสด็จจรลีลีลาคลาไคลไปจนถึงที่ตั้งพญาไม้มหานิโครธ เป็นไม้วิเศษโสดงอกขึ้นใกล้ชะง่อนแง่มอศิลา ข้างเขาสานูบรรพต
เสด็จประทับในที่นั้น เสวยผลของไม้นิโครธที่มีพรรณและรสอันหวานสำราญพระราชหฤทัย แล้วเสด็จต่อไปจากที่นั้นมิช้าก็ถึงเนานาฬิกบรรพต เสด็จอ้อมเขาไปโดยกำหนดจนถึงมุจลินท์สระศรี แล้วเลียบขอบสระไปจนถึงที่ทิศอีสาน จึ่งทอดพระเนตรเห็นทางเล็ก ควรบทวารผู้หนึ่งจะพึงไป
พระองค์ก็ตั้งพระทัยอุสาหะกล้า พาสามกษัตริย์เข้าไปในป่าชัฏดงกันดารล่วงถิ่นสถานที่มีแง่ศิลาและเครื่องรกในป่า และซอกธารน้ำไหลลงจากภูเขาใหญ่เป็นอันมาก
เป็นทางยากที่จะเดินสัญจร พระองค์สู้ผันผ่อนพระกำลังยังเสด็จไป จนได้ถึงซึ่งที่จัตุรัสโบกขรณีตามสังเกต ว่าอยู่ในเขตเขาวังกบรรพตซึ่งกำหนดไว้ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่ของพระองค์ โดยความประสงค์นั้นแล
Create Date : 25 กรกฎาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 22:50:46 น. |
Counter : 1108 Pageviews. |
|
|
|