คำและความอันงดงามไพเราะจากมหาเวสสันดรชาดก (๑๕)
คำและความอันงดงามไพเราะจากมหาเวสสันดรชาดก (๑๕)
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์-มัยมนัสรมณีย์
อาทิตยวารวรสวัสดิ์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ค่ะ
คำและความอันงดงามไพเราะจากมหาเวสสันดรชาดก ทานกัณฑ์ ผู้นิพนธ์ สำนักเจ้าถนน ใช้ฉบับพิมพ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
พระพุทธเจ้าข้า ฝ่าพระบาทตรัสห้ามมาทั้งนี้ ย่อมทรงพระปรานีพระเจ้าหลานกลัวว่าจะต้องทุกข์ทรมานในหิมเวศพระเดชพระคุณทั้งนี้เป็นที่สุด
ปิยปุตฺตกา นาม พระพุทธเจ้าข้า ขึ้นชื่อว่าบุตรเป็นที่สุดแสนเสน่หา ถึงจะชั่วช้าประการใด ใจสามารถเป็นหนามเสี้ยนเบียนประชาราษฎร์ ควรห้ามเฝ้า จะตัดจากลูกเต้านั้นไม่ขาด เกล้ากระหม่อมเหมือนฝ่าละอองธุลีพระบาท ก็คงจะตัดพระลูกขาดได้คล่องๆ
ไม่รู้หรือว่าช้างเผือกขาวผ่องต้องพระประสงค์ จะสอยดาวสาวเดือนลงถวายได้ แกล้งเสือกส่งจงใจให้ข้าศึก นี้หากชาวเมืองเขาคิดลึกจึ่งชวนกันทูลความ พระองค์ขับพระเจ้าลูกเสียก็งามต้องตามที่
พระคุณเอ่ย อันสองราชกุมารนี้ไม่ผิด จะพาลโกรธลูกกระจิริดกระไรได้ ข้ามัทรียังมีอาลัยเป็นล้นพ้น กว่าจะเลี้ยงได้แต่ละคนๆสุดแสนยาก ทูลกระหม่อมจะมาพรากไปจากอก ดั่งจะหยิบยกเอาดวงใจไปจากกาย จะขอลาพระกุมารหลานชายไปชมเชย พระพุทธเจ้าข้า
โอ้พระทูลเกล้าของลูกเอ่ย มัทรีไม่รู้เลยที่จะเอาอันใดมาอ้างอิง เป็นโอรสเล่าก็จริงลูกจนจิตอันสองกุมารนี้ไม่เป็นสิทธิ์แก่เกล้ากระหม่อมมัทรีนี้ ไม่รู้ทีจะยินยอมหยิบยกถวาย จะสู้รับสารภาพตายด้วยอาชญา จะขอลาพระยอดฟ้าพาไปเป็นเพื่อนตัว
ครั้นจะไว้ใจพระเจ้าผัวก็ใช่ที่ เกลือว่าโรคาไข้สิ่งไรมี จะได้ใช้พ่อชาลีแม่กัณหา อมยาพ่นฝนยาทาประสาจนพระพุทธเจ้าข้า ใช่ว่าจะไร้ญาติขาดคนเมื่อไรมี ลูกน้อยนิดหนึ่งเท่านี้จะทำอะไรได้
ถึงจะเลี้ยงไว้ก็คงจะขายพระบาทา สอนหล่อนก็ยากปากก็กล้าระอาใจ วาสุกรีฤจะไร้ซึ่งพิษเขี้ยว ชาวเมืองก็จะโกรธเกรี้ยวพาโลเลี้ยวไล่ขับให้อัประมาณขับพระลูกแล้วสิมิหนำ ยังจะซ้ำพระเจ้าหลานลงเป็นสอง
จะเลื่องลือระบือก้องทุกค่ำเช้า โอ้พระทูลเกล้าได้ตัดต้นแล้วก็โค่นเหง้าเชิญทึ้งถอน จะอาลัยอาวรณ์ไปไยมี พระเจ้าหลานหรือจะดีกว่าโอรส แต่ลูกในใส้ยังคิดคดดูเวทนา
โอ้พ่อชาลีกัณหาของแม่เอ๋ย จะนั่งเฉยอยูไยเล่าฟังแม่ว่า จะบังคมพระอัยกา แม่กัณหาทูลลาเถิดจะได้ไป ทูลเถิดทูลเถิดสินะแม่อย่าร้องไห้จะมัวหมอง พ่อชาลีช่วยทูลแทนพระน้องทีเถิดสินะพ่อ จะเซ้าซี้รีรออยู่ว่าไร เจ้าจะยอมอยู่หรือแม่จะได้ไป จงชั่งใจให้จงดี ไม่ควรคู่กับบุรีแล้วนะพระลูกรัก
อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ใช่สุริยวงศ์ โกกิลาหรือจะฝ่าเข้าฝูงหงส์ใช่พงศ์พันธุ์พระลูกเอ่ย เอาแต่ป่าไม้ไพรวันเป็นเรือนตาย จงสู้จนทนอายไปภายหน้าเห็นว่าจะดีกว่าอยู่ในพระพารา ฟังคำแม่ว่านี้เถิด
ราชา สญฺชโย ปางเมื่อพระทูลกระหม่อมจอมนราธิบดีศรีสญชัย ได้สดับสารพระมัทรีศรีสะใภ้พิไรร่ำ ด้วยถ้อยคำอันเสียดสีสุดรำพัน ให้อ้ำอึ้งตึงตันพระทัยนัก แล้วเบือนพระพักตร์ไม่พจนา ขยับอุ้มพระนัดดาขึ้นใส่ตัก จุมพิตพักตร์แล้วทรงพระกันแสงไห้
ว่าโอ้สองทรามวัยของอัยกา พ่อจะนิราศร้างพระพาราไปแรมไพร จะอดอยากลำบากใจในกลางป่า สาลีนโมทนํ ภุตฺวา พระหลานเอ่ยเคยเสวยข้าวสาลีมีรสหอมร้อมด้วยสูปพยัญชนะถ้วนถี่ พระพี่เลี้ยงนั่งชี้เชิญให้เสวย อนิจจานิจจาพระหลานเอ่ยจะไปเสวยแต่มูลมันอันขื่นขม
พระหลานเอ่ยเคยบรรทมเหนือพระยี่ภู่พระอู่ทอง พระพี่เลี้ยงเคียงประคองขับกล่อมทุกเวลา
รุกฺขมูลสฺมึ สยนฺตา ตั้งแต่นี้พระนัดดาจะบรรทมใต้ร่มพฤกษชาติ จะต้องน้ำค้างเย็นกระเซ็นสาดพระวรกาย กัณหาเอ่ย แม่เคยสรงกระแสสายในอ่างแก้ว พระพี่เลี้ยงนั่งเป็นแถวถวายเครื่องพระสุคนธ์อันปนปรุง
โอ้ แต่นี้พ่อชาลีจะจูงมือแม่กัณหา ลงสระสรงคงคาในท้องธารละหานหิน น้ำก็เย็นเหม็นกลิ่นจอกกระจับ พระวรกายจะย่อยยับด้วยเหลือบยุง พระหลานเอ่ย ใครเลยจะบำรุงโบกปัดพัดกระพือในกลางป่า
กาสยานิ ปธาเรตฺวา เจ้าสิเคยทรงผ้ากาสิกพัสตร์พรรณราย ดอกกระจัดกระจายเขียนด้วยลายทอง แต่บัดนี้จะเอาใบไม้มากรองรองทรง จะระคายคันพระองค์ดูอนาถ
กัณหาเอ่ย เคยประพาสในสวนศรี ชมสระโบกขรณีในสวนขวัญ หักฝักปทุมมาศอุบลบานพระราชทานแก่ฝูงกำนัลตามเสด็จสะพรั่ง พระหลานเอ่ย เคยเล่นในวังอยู่อึงมี่ ลากโคถึกมฤคีรูปปั้นอันบรรจง ใส่ล้อกลิ้งวิ่งวงแล้วทรงพระสรวล
พรุ่งนี้เช้าเจ้าจะชวนกันไปเดินในดงดอน จะตรำฝนทนร้อนทุกเวลา สงสารสองนัดดาดวงสมร เดินเหนื่อยก็จะอ้อนให้แม่อุ้ม จะร้องไห้ฟักฟูมในกลางทุ่ง เขาอุ้มเหนื่อยเขาก็จะจูงให้เจ้าเดิน
จะระหกระเหินแม่จะเดินยังนับย่าง พระบาทเจ้าก็บอบบางแต่จะย่างก็ลุกล้มปู่นี่ปรารมภ์ไม่รู้วายดั่งเลือดตาจะลามไหลพระหลานเอ่ย พระอัยกาอยากจะใคร่ได้นัดดาไว้เชยชม หม่อมแม่เจ้าเขาก็เอาแต่คารมออกทานทัด
พระหลานเอ่ย ปู่เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนได้ ใช่ว่าอัยกาจะไม่รักไม่ใคร่เมื่อไรมี ตรัสพลางจูบพระชาลีกัณหาแล้วยกพระนัดดาลงจากตัก เธอก็ซบพระพักตร์ลงทรงพระพิลาป พระอัสสุชลนัยน์ไหลอาบพระพักตรา มิใคร่จะดูหน้าพระหลานได้ เธอก็ทรงพระกันแสงไห้ร่ำรักสองกุมารา อยู่บนแท่ไสยานั้นแล
Create Date : 12 กรกฎาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 11:46:30 น. |
Counter : 1615 Pageviews. |
|
|
|