Group Blog
|
Spoil >> Devil with flower # 53 ถนนที่จะไปสู่คฤหาสน์ของวีวี่ ครั้งหนึ่งเคยปกคลุมด้วยต้นไม้ที่ราวกับตายไปแล้ว ยามนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน เช้าวันหนึ่งเมื่ออายาเมะตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงหงาวหาวนอน พ่อบ้านจึงเสนอด้วยการชงชาให้ เธอขอบคุณเขา อายาเมะเดินเข้าไปในห้องหนึ่งในตัวบ้านแล้วเอ่ยทักสาวน้อยที่เธอเฝ้าฟูมพักเลี้ยงดูหลังจากถูกเจ้าแห่งอสูรได้ฝากฝังเอาไว้ และยามนี้ฮานะได้เติมโตจากสาวน้อยอกแบนเป็นสาวสะพรั่งงดงามยิ่งนัก ฮืม ชักอยากจะให้เจ้าวีวี่มาเจอนัก แล้วคิดว่าจะทิ้งลงหรือเป่า ทั้งสองทักทายกัน ฮาน่าดูเป็นห่วงอาการอ่อนเพลียของอีกฝ่าย แต่อายาเมะก็บอกว่าสบายดีพร้อมกับผูกโบว์ให้กับเธอ ก่อนฮาน่าจะล่ำลาอายาเมะกับพ่อบ้านเพื่อไปโรงเรียน ฮาน่าได้เจอกับเพื่อนๆที่โรงเรียนทุกคนต่างทัก โมโม่เห็นมีอะไรติดที่หัวของเธอจึงช่วยหยิบออกให้ เป็นกลีบดอกไม้นั่นเอง ฮาน่าขอบใจโมโม่ เจ้าโมโม่ถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย เพื่อนๆจึงพากันเดินไปก่อนและแซวโมโม่ยิ่งทำให้โมโม่หน้าแดงเข้าไปใหญ่ ที่บ้านอายาเมะกับพ่อบ้านคุยกันเรื่องของฮาน่า ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องที่ฮาน่าเติบโตขึ้น พ่อบ้านไม่อยากจะเชื่อว่าเวลาผ่านไป 3 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวนิดเดียว อายาเมะบอกว่าเธอไม่ใช่เด็กๆแล้ว ตั้งแต่ฤดูหนาวผ่านไป ใบไม้ผลิก็มาเยือน นี่ก็สามปีสำหรับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน ฉันสงสัยว่าใครบางคนกำลังทำอะไรอยู่ ณ บัดนาว ในปราสาทของโลกปีศาจ ทาสทหารมาตามเมอริส (คนที่เคยบุกมาโลกมนุษย์และลบความทรงจำของฮาน่าให้ลืมวีวี่ไปขณะหนึ่ง) ว่ามีดินเนอร์กับเหล่าเสนาอามาตน์ แต่ท่านก็ปฎิเสธเพราะกำลังจะไป ณ ปราสาทของจอมปีศาจวีวี่ ในห้องทำงานของจอมปีศาจ ขณะที่โต๊ะเต็มไปด้วยหนังสือกองใหญ่เขานั่งอ่านอย่างเฉื่อยๆ ข้างหน้า เอลิเนอร์กำลังโวยวายกับเขาที่ทำท่าทางไม่รู้ทุกข์ร้อนอะไร โดยมีเวลตันคอยปรามเอาไว้ จอมปีศาจบอกว่าเขากำลังยุ่งกับกองเอกสารอย่างมาก แต่เอลิเนอร์ไม่สนใจเธอบอกเขาเรื่องสัญญาที่ให้ไว้กับฮาน่าเมื่อ สามปีก่อนมันสิ้นสุดแล้ว เมื่อไหร่ที่เขาจะกลับโลกมนุษย์เสียที แต่เจ้าจอมปีศาจผู้หน่ายโลกกลับบอกว่าเขาไม่คิดจะกลับไปที่นั่นซึ่งก็เคยบอกเธอไปแล้ว เอลิเนอร์ถามว่าทำไมในเมื่อโลกปีศาจกลับมาสงบสุขดีแล้วและที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องมีเขาแล้ว วีวี่กลับตอบว่า ถ้าเจ้าจะพูดอย่างนั้นก็เท่ากับว่า ข้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับไปโลกมนุษย์ ใช่ไหม? เขาจึงไล่เวลตันกับเอลิเนอร์ออกไปจากห้อง แต่เอลิเนอร์ไม่ยอมแพ้ เธอแย้งว่า ตอนนี้ฮาน่ากำลังรอเขาอยู่นะ แต่เขาก็บอกว่า ฮาน่าไม่ได้รอเขาหรอก เพราะเขาบอกให้เธอลืมเขาไปแล้ว เอลิเนอร์ฟิวร์ขาดเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำไมไม่ลบความทรงจำของเธอไปเลยล่ะ ทั้งๆที่ฮาน่าต้องร้องไห้ และปวดร้าวใจมากขนาดนั้น ถ้าวีวี่จะมาพูดแบบนี้ สู้ลบความทรงจำของฮาน่ามันยังดีกว่า เวลตันเข้ามาห้ามปรามแบบเงียบๆ เลยถูกเอลิเนอร์ใช้หมัดพลังสาวที่กำลังเลือดขึ้นหน้าสัดจนกระเด็นไป วีวี่จึงตอบด้วยเสียงอันต้องระงับความปวดร้าวใจว่า ข้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งฮาน่าหรอกนะ ในเวลานี้มันแตกต่างจากตอนที่ฮาน่าเป็นเด็ก เธอมีผู้ปกครองดูแล มีเพื่อนที่คอยเอาใจใส่ ซึ่งจะทำให้เธอมีความสุขตามปะสามนุษย์ทั่วไป ซึ่งไม่จะเป็นสำหรับปีศาจแล้ว แม่สาวปีศาจโมโหจัดยกเท้าขึ้นมาบนโต๊ะต่อหน้าจอมปีศาจจนเวลตันตกใจ เธอตะโกนใส่หน้าเขาว่าอย่ามาทำเป็นพูดเท่ห์หน่อยเลย ทุกวันนี้ที่ทำตัวบ้างานก็เพราะลืมฮาน่าไม่ได้ไม่ใช่เหรอ นอกจากไม่ลบความทรงจำของฮาน่ายังสร้างรอยแผลให้กับเธออีก ฮาน่าต้องปวดร้าวสักเท่าไหร่กัน? เลือกพูดเรื่องปีศาจกับมนุษย์ได้แล้ว ฮาน่ารักวีวี่ เอลิเนอร์ร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธ วีวี่เองก็อึ้งและปวดร้าวใจเช่นกัน คนที่จะสร้างความสุขให้ฮาน่ามีเพียงเจ้าคุณเดียววีวี่ วีวี่ก้มลงหลับตาแนบกับฝ่ามืออย่างปวดร้าว ใช่แล้วเขาเป็นคนสร้างรอยแผลให้กับฮาน่า เขาเอ่ยถามทั้งสองด้วยเสียงอันเบาหวิว เวลตัล เอลิเนอร์ พวกเจ้าคิดว่า ฮาน่าจะยังรอข้าอยู่ไหม เอลิเนอร์รีบตอบว่า ก็ต้องรออยู่แล้ว เธอบอกให้เขารีบๆไปโลกมนุษย์ เวลตันเตือนให้เธอรีบเอาเท้าลงจากโต๊ะ ขณะเดียวกัน เมอริส ก็เข้ามาทักทายยามบ่าย แต่วีวี่กลับไม่สนใจไล่เขาออกไปทันที โทนี่ถึงกับสะดุ้งบอกให้เขามีมารยาทหน่อย เอลิเนอร์กับเวลตันรีบทำความเคารพทันทีเพราะเมอริสเป็นปีศาจระดับสูง เมอริสบอกว่าเขาถูกเสนอให้เป็นจอมราชาอันดับที่สอง แต่วีวี่บอกว่าไม่ได้สนใจพระราชาก็เหมือนกับเมอริส เขาพูดถึงราชาว่าเป็นคนนิสียเสีย เมอริสหัวเราะและบอกว่าเขาอยากให้มีผู้หญิงพูดแบบนี้กับเขามั่ง แต่ที่มานี่ก็ไม่ได้มาให้วีวี่ด่าว่า เขามาด้วยข้อเสนอที่ว่า ให้ วีวี่ไปอยู่ที่โลกมนุษย์อย่างถาวร และให้ส่งรายงานความเคลื่อนไหวของโลกมนุษย์ให้กับเขา งานในฐานะ ดยุค เมื่อได้ยินคำบอกกล่างของเมอริสทำเอาวีวี่ตะลึงอึ้ง วีวี่ถึงกับโวยวายที่จะส่งเขาไปทำงานแบบนี้ เมอริสกลับบอกว่าเป็นคำสั่งของจอมราชา ทำเอาทุกคนอึ้งไปเลย เมอริสกลับแย้งว่าไม่ได้เพื่อวีวี่ แต่เพื่อคนรักของเขา ซึ่งก็หมายถึงฮาน่า ทำเอาวีวี่ยั่วะ เมอริสเปิดประตูสู่โลกมนุษย์เพื่อให้วีวี่เดินทางไปพร้อมกับบอกให้เขาช่วยทำให้ฮาน่ามีความสุขที่สุดด้วย วีวี่ได้แต่บ่นอย่างไม่พอใจแต่ก็ปีนเข้าประตูไปทำเหมือนจำใจแต่ที่จริงก็อยากจะไปเต็มแก่ เวลตัน เอลิเนอร์และโทนี่รีบจะตามไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะเข้าประตูวีวี่หันมาพูดกับเมอริสว่า เขาเป็นหนี้บุญคุณเมอริสเสียแล้ว เมอริสได้แต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อทุกคนหายไปหมดแล้ว ทหารปีศาจเข้ามาหาเมอริส เขาบอกว่าตลอดสามปีวีวี่ทำงานให้เขามาอย่างดีแม้ต้องแยกจากคนที่เขารักก็ตาม เขาเองก็จะทำเพื่อวีวี่บ้าง ขณะเดียวกัน ณ โลกมนุษย์ โมโม่กำลังน่าตื่นคุยกับสึบากิเรื่องของฮาน่าไม่อยากกลับบ้าน สึบากิบอกว่าเธอยังคงพยายามที่จะเดินทางไปที่คฤหาสนืของวีวี่อกีครั้งแม้มันจะผ่านมาหลายฤดูกาลแล้วก็ตาม ขณะนั้นฮาน่าก็พยายามเดินท่ามกลางเหล่าต้นไม้อันหนาทึบทั้งสองฝากฝั่งเพื่อมุ่งหน้าไปสู้คฤหาสน์ของวีวี่ เมื่อเห็นว่าไม่มีทางที่จะเดินไปถึงจุดหมายได้ฮาน่ายืนมองเส้นทางอันเงียบเหงาน้ำตาคลอพลางปลอบตัวเองอย่างร้องไห้ ยังไงพรุ่งนี้เธอแน่ใจว่าเขาจะกลับมา พลันเธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกหาเธอ เสียงที่บอกว่าหวาดกลัวว่าฮาน่าจะลืมเขาหรือว่าเป็นตัวเขาเองที่จะลืมเธอ หวาดกลัวว่าเรื่องราวชั่ง 14 ปีนั้นจะถูกลบเลือน ฮาน่าหันไปมองต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่ไม่ไกล เธอรู้สึกว่าเสียงนั้นมาจากที่นั่น ฉันไม่มีทางลืมเลือนไปได้ เมื่อลืมตาตื่นฉันหวังเพียงเห็นรอยยิ้มของฮาน่า ฮาน่าฉันอยากเจอเธอ สิ้นเสียงนั้นต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าพลันอันตธานหายไปกลายเป็นทางเข้าปราสาทที่คุนเคยที่เธอเพียงตามหามาตลอดสามปี |
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ คุณunitan ที่กลับมาแปลต่อ เพราะเราอยากอ่านมากๆเลยค่า จะขอติดตามเรื่องนี้ต่อไปค่ะ แหะๆ