|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
บันทึกชีวิต จากบอมเบย์ บีบี 2 .. ตอนที่ 24 ..
cursor
กลับบ้านเยี่ยมคุณแม่ 5-12 พฤศจิกายน 2553
หลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อผู้ลาลับ ที่พวกเราครอบครัว นันทะบัน จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2551 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 2 ปี เต็มๆ ที่ฉันไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งที่จิตใจอาวรณ์เฝ้าพร่ำคิดถึงผู้เป็นแม่และยาย กับหลานชายอายุ 9 ขวบที่อยู่เบื้องหลัง หากฉันยังมีเหตุผลให้ตัวเองแก้ตัวเสมอว่า ต้องทำงาน
การโทรศัพท์หาแม่เพียงวันละ 1 ครั้ง ในจำนวน 600 กว่าวันที่ผ่านมา อาจจะเพียงพอสำหรับเหตุผลที่ต้องทำงานหาเงิน แต่ฉันคงลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อ ว่าฉันจะดูแลกล่องความรักที่เหลือให้ดีที่สุด นั่นก็คือแม่ นั่นเอง
ฉันละทิ้งงานเพื่อพักผ่อน การทำงานวีเจ รับงานอีเว้นท์ งานหนัง ที่ฉันรัก รายได้เพียงพอสำหรับเก็บนิดหน่อยและประทังชีวิตตนเองเท่านั้น เงินที่เก็บมากว่าสิบปีวันนี้ ฉันควรจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ว่าจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแม่ โชคดีที่ครอบครัวของฉันมีความรักใคร่กลมเกลียว เราทั้งหมดรวมเงินกัน อาจจะจำนวนไม่มากนัก เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้แม่ บ้านที่เราคิดว่า คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้แม่ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ฉันเดินทางจากกรุงเทพ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 เวลาสิบโมงกว่า ๆ โดยรถทัวร์ สภาพของรถเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน มีเพียง 21 ที่นั่ง เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ละที่นั่งมีระบบนวดและจอทีวีดูส่วนตัว ต่างจากเดิมลิบลับ คิดดูแล้ว จริงๆ ชีวิตที่รีบเร่ง ไม่ได้ทำให้ฉันได้สัมผัสการเดินทางโดยรถทัวร์หรือรถไฟมาเนิ่นนาน เครื่องบินเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พาฉันไปทุกที่ หากวันนี้ฉันเลือกที่จะเดินทางโดยรถโดยสาร เพียงเพื่อจะทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างที่ฉันตามหา และเรียกร้องให้มันเกิดขึ้นกับชีวิต
ตลอดการเดินทาง ฉันพยายามมองออกนอกหน้าต่าง ดูวิถีชีวิตของผู้คนตามไหล่ทาง รวงข้าวสีทองทอดแสงยาวตามข้างถนน สีสวยจับตา พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมยังมีให้เห็น หากผืนน้ำช่างสวยงามเสียนี่กระไร จริงที่ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรที่แน่นอน วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตก็ไม่มีทางรู้ได้ ผู้คนที่โดนน้ำท่วมคงจะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เปรียบกับบางคนที่ต้องทนรับความเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่คืบคลานเข้ามาบอกเล่าเรื่องราวเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น สุดแต่ว่าใคร จะยอมรับ ความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เท่านั้น
ฉันมาถึงที่บ้านเป็นเวลาหกโมงเย็น ที่นี่อากาศหนาวจับใจ รถทัวร์จอดหน้าหมู่บ้าน เพื่อให้ฉันเดินทางต่อไปหาคนที่ฉันรัก สภาพหน้าหมู่บ้านยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ป้ายเล็กๆบอกชื่อหมู่บ้านและทางทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตรกว่าที่จะถึงบ้านของฉัน สองข้างทางมืดสนิท
ทันทีที่ฉันลงจากรถทัวร์ พี่เขยและหลานชายซึ่งขับรถมาจอดรับรอ เรียกตะโกนชื่อ น้อย ๆๆๆ ฉันดีใจ รีบวิ่งขึ้นหลังรถกระบะ
.
ฉันวิ่งสวมกอดแม่ทันทีที่ลงจากรถ พระเจ้า ในใจฉันพร่ำร้อง นี่ฉันหลงลืมแม่มากว่า 2 ปี ฉันทำไปได้อย่างไร แม่ผู้แก่ชราในวัย 60 กว่าๆ รอท่าฉันเหมือนใจจะขาดรอน ฉันหยิบเหตุผลเพียง ทำงาน เพื่อจะทอดทิ้งท่านหรือไร
ฉันฝืนข่มใจทั้งที่อยากร่ำไห้ ฉันได้ละเลยหญิงชราผู้อยู่เบื้องหน้า เรือนผมสีดำขลับ ผ่านการย้อมมาไม่ถึงอาทิตย์เพียงเพราะรู้ว่าลูกจะมาหา หน้าที่ย่นเหี่ยวไปตามวัย และร่างท้วม ๆ ของแม่ รอท่าการกลับมาเยี่ยมของลูกชาย ฉันกอดแม่ชื่นฉ่ำใจ แล้วค่อย ๆ มองดูรอบบ้าน
บ้านหลังเก่าของฉันได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น รวมทั้งบ้านหลังใหม่ในรอบรั้วเดียวกัน ที่ฉันและพี่ๆ ร่วมกันสร้างให้แม่ บัดนี้การก่อสร้างกำลังถักทอด้วยความรักของทุกคน ฉันมองดูบ้านออกจะใหญ่โต มี 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ห้องรับแขกและห้องครัว ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ แม่และยายคงต้องวิ่งจากเรือนเก่าไปนอนเรือนใหม่บ้าง

ฉันอาจจะมองว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำให้ท่าน เงินที่เก็บสะสมมาทั้งหมดทั้งสิ้น ฉันยกให้กับบ้านหลังนี้ แต่แท้ที่จริง ฉันคงมองข้ามความรู้สึกของผู้ที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้ แม่คงไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าได้อยู่ชิดใกล้กับลูก ฉันจึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า จริงๆแล้ว ฉันทำเพื่อแม่ หรือทำเพื่อความสะดวกสบายของตัวเองในอนาคตกันแน่
คืนนี้ฉันรีบอาบน้ำและเข้านอนกับแม่ มันเป็นคืนที่อบอุ่นด้วยไอรัก ทั้งที่ไอหนาวปกคลุม ความเยือกเย็นลดลงกว่า 10 องศาของยามค่ำคืน ฉันรู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ที่คืนนี้ฉันได้อยู่เคียงข้างกับคนที่ฉันรัก และรักฉันจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้ และคนเดียวในชีวิตของฉัน....... แม่...........
ทุกๆวันที่นี่ ฉันจะตื่นเช้าเป็นพิเศษ อยู่กรุงเทพฯถ้าไม่มีงานฉันจะตื่นประมานเที่ยงกว่าๆ หากที่บ้านของฉัน เขาตื่นกันตั้งแต่ไก่โห่ เช้าๆอย่างนี้ จะมีพระมาบิณฑบาตร แม่จะคอยมาปลุกฉัน โดยท่านเตรียมทุกอย่างไว้ให้ ฉันอิ่มใจบอกไม่ถูก ทั้งที่ชีวิตก็ไม่ได้ทำความดีอะไรมากมาย การใส่บาตรตอนเช้าในยามที่จิตใจปลอดโปร่ง กุศลที่ทำคงส่งถึงพ่อผู้จากลาไปได้บ้าง ฉันรำพึงในใจ
กิจกรรมที่ทำในเช้าวันแรกคือการไปหาหน่อไม้ เพื่อเอามาให้แม่ต้มให้กิน ฉันกับพี่สาวถือถังใบเล็กกับเสียม เดินเข้าป่าที่มีต้นไผ่จำนวนมาก การหาหน่อไม้ที่นี่ไม่ได้ยากเย็น แทบจะเรียกว่าง่ายเหมือนเดินมาเก็บดอกไม้ก็ว่าได้ ฉันบุกเข้าไปในพงไม้ไผ่ ในใจนึกถึงวันวานวัยเด็ก สิ่งที่คุ้นเคยยังไม่ลบเลือนในความทรงจำ ฉันสนุกจนบอกไม่ถูก ปากร่ำร้องเพลงดังก้องป่าจนพี่สาวรำคาญ เราใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้หน่อไม้เต็มถัง ซึ่งเมนูวันนี้ต้องอร่อยสุด เพราะฝีมือของคุณแม่เจ้าเก่าเจ้าเดิม
การกลับมาเยี่ยมบ้านอีกครั้ง ทำให้ฉันได้พูดคุยกับแม่ ได้สัมผัสถึงความรู้สึกมากกว่าการโทรศัพท์เป็นร้อยเป็นพันเท่า แม่พูดถึงพ่อในบางครั้ง แต่ไม่ได้เศร้าเหมือนคราวที่ผ่านมา แม่พูดแล้วยิ้มทุกครั้ง เหมือนภาพความทรงจำทุกอย่างของพ่อไม่เคยลบเลือน
แม่บอกว่าพ่อคือผู้ชายคนเดียวในชีวิตที่แม่รักมากที่สุด ฉันจำได้ว่าพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด ส่วนแม่นั้นจะคอยเอาใจและปรนนิบัติพ่อเป็นอย่างดี นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้รักของทั้งสองมั่นคง
ฉันเดินสำรวจบ้านหลังเก่า ตู้เสื้อผ้าไม้โบราณซึ่งอยู่ในสภาพดี ข้างๆ ตู้มีลายมือพ่อเขียนโดยปากกาเมจิกสีดำว่า เปิดบัญชีครั้งแรก พฤษภาคม 2538 เปิดบัญชีครั้งที่สอง กันยายน 2538 เปิดบัญชีครั้งที่สาม ธันวาคม 2538 ฉันอ่านน้ำตานอง พร้อมนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา......... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณปี 2540 พ่อ จะใช้ปากกานี่เขียนตู้ทำไม มันสกปรก ฉันพูดตำหนิพ่อ พ่อกลัวลืมไงลูก พ่อบอกฉัน แต่มันสกปรก ไม่มีใครเขาใช้ปากกาเมจิกเขียนตู้เสื้อผ้าหรอก ฉันพูดพร้อมเดินหนีพ่อไป
ฉันนึกถึงเมื่อครั้งที่ฉันตำหนิพ่อ ไม่ให้พ่อเขียนตู้ใบนี้ หากตอนนี้กลับรู้สึกชื่นชมกับลายมือของพ่อที่ยังไม่เลือนจาง นี่มันอะไรกัน คนเราจะเห็นคุณค่าของกันและกัน ก็ต่อเมื่อไม่เหลือสิ่งนั้นเหรอ........ ถ้าเวลานี้ พ่อยังคงอยู่ ฉันจะบอกให้พ่อใช้ปากกาเมจิกเขียนอะไรก็ได้ ให้ทั่วบ้าน เขียนสิ่งที่พ่ออยากเขียน โดยไม่ตำหนิแม้แต่คำเดียว แต่ทว่า .... มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อได้จากฉันไปแล้ว...จริงๆ...ฉันนึกพลางน้ำตาไหลและเสียใจกับอดีตที่เรียกคืนกลับไม่ได้
มีกิจกรรมหลายอย่างที่ฉันทำที่นี่กับแม่ เช่น ไปเกี่ยวข้าวเพื่อเอามาทำเป็นข้าวเม่า ฉันวิ่งตามท้องทุ่งนา ที่บัดนี้กลายเป็นสีทองสวย กลิ่นของข้าวหอมโชยทุ่ง ลมพัดโบกไสวในยามหน้าหนาว บรรยากาศของชาวไร่ชาวนาคละคลุ้งเต็มเปี่ยมในความเป็นตัวตนของฉัน นานแล้วที่ฉันได้ละทิ้งที่นี่ไป เพื่อตามหาความฝัน ฉันอยากทำงานในวงการบันเทิง ฉันก็ไขว่คว้ามันมาจนได้ หากแต่เส้นทางที่จะเดินไปนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค ความฝันกับความจริงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ฉันได้ตัดสินใจทำและเลือกที่จะทำ วันนี้ฉันยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำความฝันให้เป็นจริงไม่ได้ ท้องทุ่งนายังมีกลิ่นหอมไม่มีวันเปลี่ยน เหมือนความฝันของฉัน ยังหอมกรุ่นมิเสื่อมคลายเช่นกัน

วันเวลาแห่งความสุขเดินทางมาถึงวันสุดท้ายของการกลับมาเยี่ยมบ้าน วันนี้สิ่งที่ฉันตั้งใจจะทำอีกหนึ่งอย่าง คือการขออโหสิกรรมแม่... ฉันเคยแนะนำใครหลาย ๆ คนที่เป็นกัลยาณมิตร ให้ขออโหสิกรรมพ่อและแม่ หากเมื่อตนเองพร้อมและอยากทำจริง ๆ ไม่ใช่เพียงเพื่อทำไปงั้น ๆ จริง ๆ แล้วการขออโหสิกรรมพ่อและแม่ ทำได้ง่าย ๆ คือการนำขันธ์ 5 มากราบบูชาท่าน แล้วขออโหสิกรรมในสิ่งที่ทำผิดพลาดลงไป
ไม่ว่าลูกจะเคยทำผิดต่อแม่ ต่อพ่อ คุณยาย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย ทางคำพูด หรือทางใจก็ตาม ขอให้แม่อโหสิกรรมให้ลูกด้วยครับ ฉันถือขันธ์ 5 ยกขึ้นเหนือศีรษะ ก้มหน้าพูด พร้อมหยดน้ำตาที่กลั้นไว้ไม่ไหว พี่สาวทั้งสองคนนั่งลงยกมือไหว้แม่ข้างๆ ตัวฉัน
แม่ขออโหสิกรรมให้ลูกทุกอย่าง ไม่เคยโกรธ ไม่ถือโทษในทุกสิ่ง ต่อไปนี้ขอให้ลูกพบเจอแต่สิ่งที่ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต แม่ผู้เป็นพระอรหันต์ของฉันให้คำอวยพร พร้อมลูบหัวลูกเบาๆ
ฉันใช้ขันน้ำตักน้ำสะอาดล้างเท้าแม่ แล้วรองน้ำนั้นด้วยกะละมังใบใหญ่ พี่สาวทั้งสองคนทำตาม จากนั้นพวกเราจึงเอาน้ำล้างเท้าแม่มาลูบที่ศีรษะ เพื่อเป็นการขออภัยแม่ที่ได้ล่วงเกินท่านมาทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ฉันมีความสุขและอิ่มใจเป็นที่สุด รถทัวร์กำลังพาฉันกลับมายังกรุงเทพมหานคร บัดนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า ๆ ของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 ข้างทางมืดมิด แต่ในใจฉันกลับสว่างมีพลัง
ฉันกลับมาเพื่อการดำรงชีวิต หากต่อจากนี้ฉันจะไม่ละทิ้งความรักไปเป็นเวลานานอย่างประมาทอีก ฉันจะไม่ให้เหตุผลว่า ทำงาน หรือ ค่อยกลับไปก็ได้ อีกต่อไป ฉันจะมุ่งหน้าทำความฝันและจะนำความฝันที่ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง ไปฝากแม่ผู้รอท่า ซึ่งไม่ว่าคำตอบในอนาคตของผู้เป็นลูกจะเป็นอย่างไร ก็จะมีคำปลอบใจจากแม่เสมอ
ผมรักแม่มากครับ .... บอมเบย์
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2553 |
|
124 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2553 13:33:24 น. |
Counter : 1599 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 20 พฤศจิกายน 2553 15:48:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 20 พฤศจิกายน 2553 22:28:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: MeMoM 21 พฤศจิกายน 2553 0:04:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 21 พฤศจิกายน 2553 5:29:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 23 พฤศจิกายน 2553 7:26:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 23 พฤศจิกายน 2553 21:40:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 24 พฤศจิกายน 2553 5:41:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 26 พฤศจิกายน 2553 5:52:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 พฤศจิกายน 2553 7:10:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 พฤศจิกายน 2553 6:53:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 6:16:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 20:00:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2553 7:20:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 ธันวาคม 2553 21:34:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 3 ธันวาคม 2553 21:40:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 4 ธันวาคม 2553 22:26:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 7 ธันวาคม 2553 14:39:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: qqqq IP: 119.42.77.68 8 ธันวาคม 2553 1:17:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 10 ธันวาคม 2553 6:33:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 ธันวาคม 2553 5:40:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 ธันวาคม 2553 5:54:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 ธันวาคม 2553 7:25:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 17 ธันวาคม 2553 6:14:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 18 ธันวาคม 2553 5:55:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 19 ธันวาคม 2553 6:34:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 20 ธันวาคม 2553 6:04:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 20 ธันวาคม 2553 21:42:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 22 ธันวาคม 2553 21:49:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 22 ธันวาคม 2553 23:16:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 23 ธันวาคม 2553 6:16:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 24 ธันวาคม 2553 6:00:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: nulaw.m 24 ธันวาคม 2553 9:22:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 24 ธันวาคม 2553 13:41:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 24 ธันวาคม 2553 23:05:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 24 ธันวาคม 2553 23:44:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 25 ธันวาคม 2553 5:35:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 25 ธันวาคม 2553 10:35:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 26 ธันวาคม 2553 6:43:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 ธันวาคม 2553 6:02:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 ธันวาคม 2553 7:29:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 ธันวาคม 2553 5:41:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: i_nookae 29 ธันวาคม 2553 11:03:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 ธันวาคม 2553 5:38:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 ธันวาคม 2553 6:50:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 31 ธันวาคม 2553 12:59:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: Polball 31 ธันวาคม 2553 17:32:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 31 ธันวาคม 2553 23:54:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 1 มกราคม 2554 0:08:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: D*U*A*N (thisisduan ) 1 มกราคม 2554 1:50:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 มกราคม 2554 12:00:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: เขาพนม 1 มกราคม 2554 21:22:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 6 มกราคม 2554 23:51:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 7 มกราคม 2554 10:32:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: อนันตลัย 11 มกราคม 2554 21:47:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: fzero 12 มกราคม 2554 21:29:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 12 มกราคม 2554 22:08:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 มกราคม 2554 20:08:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 17 มกราคม 2554 21:24:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 25 มกราคม 2554 15:23:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 กุมภาพันธ์ 2554 6:02:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 2 กุมภาพันธ์ 2554 6:07:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 2 กุมภาพันธ์ 2554 18:55:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 3 กุมภาพันธ์ 2554 5:47:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 4 กุมภาพันธ์ 2554 0:06:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 4 กุมภาพันธ์ 2554 5:30:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 5 กุมภาพันธ์ 2554 6:01:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 7 กุมภาพันธ์ 2554 5:28:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 8 กุมภาพันธ์ 2554 5:27:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 10 กุมภาพันธ์ 2554 23:23:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 11 กุมภาพันธ์ 2554 5:41:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 12 กุมภาพันธ์ 2554 5:43:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: taoruto IP: 124.122.138.103 9 เมษายน 2554 21:34:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|