มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.9/1,000




มาต่อกันข้อที่  9  กันเลยค่ะ
วันนี้ไม่พล่ามอะไรมากแล้ะ
เพราะวันนี้เนื้อหาค่อนข้างสมบูรณ์ 



สระโบกขรณี ๑



“  เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๙ เถิด มหาบพิตร ”

“  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็น
โบกขรณีสระหนึ่ง ดารดาษไปด้วยปทุม ๕ สี
ลึก มีท่าขึ้นลงรอบด้าน

ฝูงสัตว์สองเท้าสี่เท้า
พากันลงดื่มน้ำในสระนั้นโดยรอบ

น้ำที่อยู่ในที่ลึก กลางสระนั้นขุ่นมัว
ในที่ซึ่งสัตว์สองเท้าสี่เท้าพากันย่ำเหยียบ
กลับใสสะอาดไม่ขุ่นมัว

หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้. 
นี้เป็นสุบินข้อที่ ๙ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”


“  มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้
จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่า

ในกาลภายหน้า
พระราชาทั้งหลายจักไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ลุอคติด้วยอำนาจความพอใจเป็นต้น

เสวยราชสมบัติ
จักไม่ประทานการวินิจฉัยอรรถคดีโดยธรรม
มีพระหฤทัยมุ่งแต่สินบน
โลเลในทรัพย์

ขึ้นชื่อว่าคุณธรรมคือความอดทน
ความเมตตา
และความเอ็นดูของพระราชาเหล่านั้น
จักไม่มีในหมู่ชาวแว่นแคว้น

จักเป็นผู้กักขฬะ หยาบคาย
คอยแต่เบียดเบียนหมู่มนุษย์

เหมือนหีบอ้อยด้วยหีบยนต์
จักกำหนดให้
ส่วยต่างๆ บังเกิดขึ้นเก็บเอาทรัพย์

พวกมนุษย์ถูกรีดส่วยอากรหนักเข้า
ไม่สามารถจะให้อะไรๆ ได้
พากันทิ้งคามนิคมเป็นต้นเสีย

อพยพไปสู่ปลายแดน
ตั้งหลักฐาน ณ ที่นั้น

ชนบทศูนย์กลางจักว่างเปล่า
ชนบทชายแดนจักเป็นปึกแผ่นแน่นหนา

เหมือนน้ำกลางสระโบกขรณีขุ่น
น้ำที่ฝั่งรอบๆ ใส ฉันใด ก็ฉันนั้น.

ภัย แม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ
ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร  ”



.........................



๙. กลางสระน้ำขุ่น


เก้าฝันว่า เห็นสระ ปทุมมา
มีหมู่กุ้งปู กุมภา มัจฉาหอย
วารีรอบ ขอบใส มิใช่น้อย
กลางกลับค่อย ข้นขุ่น สนุ่นมี
พระทรงญาณ บรรหาร ให้เห็นเหตุ
ว่าประเทศ ที่เป็นสุข เกษมศรี
กษัตริย์ทรง สืบวงศ์ ประเพณี
เป็นบุรี ที่ประชุม ประชากร
จะแรมร้าง ว่างวา เป็นป่าแขม
ทั้งคาแฝก แทรกแซม ขึ้นสลอน
อันทางชล วิกลกลาย เป็นชายดอน
ราษฎร์จะร้อน แรมสุข ทุกเดือนปี
ด้วยกรรมแรง แห่งสัตว์ วิบัติเป็น
ไม่เคยเห็น ก็จะเห็น เป็นถ้วนถี่
น้ำที่กลาง ขุ่นข้น คือมนตรี
จะย่ำยี บีฑา ประชาชน
จะรุกราน แก่ไพร่ ไล่ระดม
คิดขู่ข่ม เอาทรัพย์ อยู่สับสน
ทั้งในเดือน นอกเดือน ดูเปื้อนปน
สุดทน จะทาน ด้วยการรุม
การหลวงแล้วไม่นานทำการนาย
พวกไพร่ราษฎร์พลัดพรายเข้าซ่องสุม
จะหลบลี้ หนีหน้า เข้าป่าชุม
ประคองคุม พวกเข็ญ ค่อยเย็นใจ





๙. สระน้ำใสริม กลางสระขุ่น

สุบินนิมิตข้อที่ 9 : คอรัปชั่นในแผ่นดิน

 (  ในเมืองจะถูกขูดรีด
คนอพยพไปอยู่ในชนบท  )


สุบินว่า  เห็นสระโบกขรณีแห่งหนึ่ง
ซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่และลึก
แต่ตรงกลางสระน้ำขุ่นข้นด้วยโคลนตม
ส่วนริมสระนั้นทั้งๆที่มีฝูงสัตว์หลายชนิด
ลงอาบกินและเหยียบย่ำอยู่เสมอ
น้ำกลับใสสะอาด

พระพุทธองค์ทรงโปรดให้คำทำนายว่า

ในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น
ผู้ปกครองประเทศทั้งหลาย
จะไม่ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม

แต่จะปกครองประชาชนอย่างข่มเหง
กดขี่ ขูดรีด จะบีบคั้นด้วยการ
เก็บภาษีอากรต่างๆอย่างโหดร้าย

จนประชาชนทนอยู่ในเมืองนั้นไม่ไหว
ต้องพากันอพยพหลบหนีไปอยู่ในป่า


ในยุคสมัยที่คนไร้ศีลธรรม
ผู้ปกครองจะใจดำอำมหิต

ดวงตาถูกปิด
ด้วยหมอกฝ้าแห่งความมัวเมา
หลงอำนาจ ปราศจากความมีเมตตา

ปวงประชาจะถูกทำร้าย
ถูกบีบบังคับและถูกเข่นฆ่าอย่างทารุณ

ชีวิตของผู้คนจึงตกอยู่ภายใต้
ความกลัวและความหวาดผวา
ต้องแอบหลบๆซ่อนๆ
และหลบหนีไปใช้ชีวิตอยู่ในป่า

กลางสระที่น้ำขุ่น
เปรียบเสมือนเมืองหลวงอันรุ่มร้อน
เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกเน่าเหม็น
และผู้คนที่แล้งน้ำใจ

ส่วนน้ำใสที่ริมสระ
เปรียบเสมือนชนบทอันห่างไกล
เต็มไปด้วยความใสสะอาด
ผู้คนที่มีน้ำใสใจจริง
และมีชีวิตอยู่อย่างสุขสงบ

เมือถึงยุคนี้ คนดีหนีไปอยู่ป่า
คนบ้าจะครองเมือง

ผู้เป็นใหญ่ในประเทศ
จะไม่ตั้งอยู่ในธรรม
มักรีดนาทาเร้นราษฎรในเมืองหลวง
ทำให้ราษฎรทนไม่ได้

ก็เลยอพยพไปอยู่ยังชายแดนหมด
เมืองหลวงก็ว่างเปล่าไม่มีคน
ส่วนชายแดนหนาแน่นด้วยผู้คน
เหมือนกลางสระน้ำขุ่น  ริมสระน้ำใสแบบนั้น

เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ขาดเมตตา คอยใช้อำนาจ
รีดนาทาเร้นหรือกินสินบน

ชาวบ้านชาวเมือง
ก็จะหนีไปอยู่ตามชายแดน
หรือที่อื่นๆ

ทำให้ที่นั้นๆ ที่คนพากันไปอยู่
มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น
เหมือนน้ำรอบๆ สระที่ใส

ส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า
เหมือนกลางสระที่ขุ่น

ผู้เป็นใหญ่ปกครองบริหารบ้านเมือง
ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม
ลุอำนาจด้วยอคติ
วินิจฉัยคดีโดยไม่เป็นธรรม

มุ่งหวังแต่สินบน
ขาดพรหมวิหารธรรม
ต่อประชาชนทั้งหลาย

เป็นผู้หยาบคาย กักขฬะ  เบียดเบียน
ขูดรีดทรัพย์ของประชาชนในเมืองทั้งหลาย

จนประชาชนต้องพากันทิ้งเมือง
ไปอยู่ในชนบท
สร้างถิ่นฐานในที่นั้น

ในศูนย์กลางเมืองใหญ่ก็ว่างเปล่า
แต่ชนบทกลับเป็นปึกแผ่น
เป็นเหมือนน้ำกลางสระโบกขรณีขุ่น
น้ำที่ฝั่งโดยรอบกลับใสฉะนั้น





กลางสระน้ำขุ่น

เก้าฝันว่า เห็นสระ ปทุมมา
มีกุ้งปู  ภุมลา มัจฉาหอย
วารีรอบ ขอบใส มิใช่น้อย
กลางกลับค่อย  ข้นขุ่น  สนุนมี

พระทรงญาณ บรรหาร  ให้เห็นเหตุ
ว่าประเทศ ที่เป็นสุข  เกษมศรี
กษัตริย์ทรง สืบวงศ์  ประเพณี
เป็นบุรี ที่ประชุม ประชากร

จะแรมร้าง  ว่างวา เป็นป่าแขม
ทั้งคาแฝก  แทรกแซม ขึ้นสลอน
อันทางชล  วิกลกลาย  เป็นชายคอน
ราษฎร์จะร้อน  แรมสุข  ทุกเดือนปี

ด้วยกรรมแรง  แห่งสัตว์  วิบัติเป็น
ไม่เคยเห็น  ก็จะเห็น  เป็นถ้วนถี่
น้ำที่กลาง  ขุ่นข้น  คือมนตรี
จะย่ำยี  บีฑา  ประชาชน

จะรุกราน  แก่ไพร่  ไล่ระดม
คิดขู่ข่ม  เอาทรัพย์  อยู่สับสน
ทั้งในเดือน  นอกเดือน  ดูเปื้อนปน
สุดจะทน  จะทาน  ด้วยการรุม

การหลวงแล้ว  ไม่นาน  ทำการนาย
พวกไพร่ราษฏร์  พลัดพราย  เข้าซ่องสุม
จะหลบลี้  หนีหน้า  เข้าป่าชุม
ประคองคุม  พวกเข็ญ  ค่อยเย็นใจ



>>>   To Be Continue   >>>



Create Date : 16 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 13:37:20 น.
Counter : 1675 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม