มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.8/1,000




ในบทที่แล้วๆ มา
ล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับความชั่วร้ายต่างๆ


ไม่ว่าจะเป็นสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน

วัยรุ่นใจแตก บ้าตัณหา

บุพการีเกียจคร้าน จอมวอนขอ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลในหน่วยงานห่วยแตก

เลือกคนไม่ตรงกับงาน บ้าเส้นสาย

หนักขึ้นก็ฝ่ายพิทักษ์ความยุติธรรม

ในบ้านเมืองหน้าด้าน เอาแต่เงิน

ไม่สนใจความถูกต้อง



แล้วก็วนกลับมาที่เรื่องในครอบครัว


คือ สามีไม่เห็นคุณค่าของเมียดี

ไม่ยกย่องให้เกียติ หนำซ้ำยังกดขี่เหยี่ยบย่ำ

ข้อต่อมาติดๆ กันก็กลายเป็น

ผัวดีดันมีเมียสารเลว เป็นหญิงชั่ว
ไม่รักดี ไม่รักสามีเลย


คือทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด


ดินฟ้าอากาศที่เคยเกื้อหนุนเกษตรกรรม
ก็กลายเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหาย
จากดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนไปหมด

วัยรุ่น วัยเรียน แทนที่จะอยู่ในวัยเรียนรู้
เตรียมชีวิตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในภายหน้า
ก็เอาแต่มั่วสุมเสพกามแต่วัยเยาว์
ทำตามใจ ตามอารมณ์ กิเลสหนาสุดๆ

พ่อแม่ที่ควรเป็นผู้ให้ที่ไม่สิ้นสุด
ดั่งโคนมที่เป็นผู้ให้ตลอดชีวิต
อุทิศน้ำนมตนเองให้แก่ผู้อื่นได้ดื่มกิน
เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของผู้ให้
ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา

แต่กลายเป็นว่า เป็นภาพที่ขัดตา
คือแม่วัวที่ควรเป็นผู้ให้
กลับกลายมาเป็นดูดกินน้ำนม
จากลูกที่ยังเล็กของตนเอง

เป็นภาพที่ขัดลูกตายิ่งนัก
ไม่เหลือสภาพของแม่วัวผู้เสียสละ
แม่วัวผู้เป็นผู้ให้ เลยแม้แต่น้อย
หวังแต่ดูดนมจากลูกตนเอง
อย่างไม่สะทกสะท้าน
ทั้งๆ ที่ลูกตนเองก็ยังไม่โตเต็มที่
นึกสภาพแล้ว ให้เหนื่อยหน่ายหัวใจ
ช่างละทิ้งหน้าที่ของตน
ได้อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ เลย

แล้วก็มาต่อกันด้วย
คนที่ไม่รักในหน่วยงานตน
ไม่สรรหาบุคคลเข้าทำงานจากความสามารถ
กลับคัดสรรจากอารมณ์ ความเสน่หาส่วนตัว
จากเส้นสาย จากเครือญาติ
จากอามิสสินจ้าง
สุดท้ายก็เสียงานไปทั้งระบบ
งานหรือหน่วยงานราชการต่างๆ
ก็ไร้ความเจริญก้าวหน้า

อีกข้อต่อมาก็หนักไปใหญ่
ผู้พิทักษ์ความยุติธรรมทั้งหลาย
อันทรงเกียติ ผู้ผดุงความยุติธรรม
แต่ไร้ซึ่งความยุติธรรมที่สุด
ใช้อภิสิทธิ์ในมือกอบโกยหาประโยชน์
อย่างเดือดร้อนชาวบ้านที่สุด
ผิดถูกไม่รู้ กรูไม่มีส่วนด้วย
รู้อย่างเดียวคือ ใครจ่ายเยอะก็ชนะไป
หนักๆ เข้าเอาสองทางเลย
วัดเงินกันไปซะ ใครสายป่านยาว
ก็คนนั้นล่ะ  ชนะเลิศ
แข่งขันด้วยเงินอย่างสมบูรณ์


แล้วก็ต่อด้วยเรื่องโลกแตกอีกเรื่อง
คือ ตอบคำถามที่ว่า
ทำไมคนดีๆ มักไปคู่กับคนเลวๆ
จะหาที่ศีลเสมอกัน ไม่เจอเลยหรือไง

นั่นสิ  แปลกอยู่เหมือนกัน
เอาเป็นว่า คู่ที่ศีลเสมอกันน่ะ
ก็ยังมีอยู่ให้เห็น  แต่เหลือน้อยมากๆ แล้ว
ที่เกลื่อนกลาดคือ
เมียดี  ได้ผัวเลว
ผัวดีก็ได้เมียชั่ว

เป็นเช่นนี้แหล่ะหนอมนุษย์เอ๋ย
เจ้าดันมาอยู่ในช่วงครึ่งหลังพุทธกาลนี่นา

ก็ต้องพบเจอกันให้มากๆ เถอะ
แล้วความเคยชินเหล่านั้น

ซักวันมันจะแปรเปลี่ยนเป็น
การปฏิวัติทางสัมคมขนานใหญ่
กันไปเองแหล่ะ
เพียงเรารู้เท่าทัน
รู้ความเป็นไปของกาลเวลา
หยั่งรู้ถึงยุคสมัยแต่ละช่วง
ทำใจ ทำความคิดให้ปลอดโปร่งโล่งสบาย

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ไม่ได้มีไว้ให้ตื่นตระหนก
เพียงแต่มันอาจจะเป็นคำตอบ
ของหลายๆ ความข้องใจ
ของหลายๆ คนได้

ก็นับว่า  บทความเหล่านี้
ประสบผลสำเร็จได้ประมาณหนึ่งแล้ว


.....................


และแล้วก็มาต่อกันที่หัวข้อถัดไปกันเลย
อิดออดมานานแระ  55555555    Smiley


หัวข้อนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจค่ะ
เกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้า

จะว่าไป  มันเป็นปัญหาระดับโลกกันเลยน้าาาา

( ที่จริงมันคงเป็นเรื่องที่เกิดซ้ำๆ เกิดวนๆ
กันมาหลายลูป แล้วละค่ะ  ไม่ใช่เพิ่งเกิดนะ  เราว่า )





ตุ่มน้ำ ๑


“ เชิญตรัสเล่าสุบินข้อที่ ๘ เถิด มหาบพิตร ”

“ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็น
ตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมลูกใหญ่ ใบหนึ่ง
ตั้งอยู่ที่ประตูวัง ล้อมด้วยตุ่มเป็นอันมาก

วรรณะทั้ง ๔ เอาหม้อตักน้ำมาจาก ทิศทั้ง ๔
และทิศน้อยทั้งหลาย
เอามาใส่ลงตุ่มที่เต็มแล้วนั่นแหละ

น้ำก็เต็มแล้วเต็มอีก จนไหลล้นไป
แม้คนเหล่านั้น ก็ยังเทน้ำลงในตุ่มนั้นอยู่เรื่อยๆ
แต่ไม่มีผู้ที่จะเหลียวแลดูตุ่มที่ว่างๆ เลย

นี้เป็นสุบินข้อที่ ๘ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”


“ มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้
จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่า

ในกาลภายหน้า โลกจักเสื่อม
แว่นแคว้นจักหมดความหมาย
พระราชาทั้งหลายจักตกยาก เป็นกำพร้า

องค์ใดเป็นใหญ่ องค์นั้นจักมีพระราชทรัพย์
เพียงแสนกระษาปณ์ในท้องพระคลัง

พระราชาเหล่านั้นตกยากถึงอย่างนี้
จักเกณฑ์ให้ชาวชนบททุกคน
ทำการเพาะปลูกให้แก่ตน

พวกมนุษย์ถูกเบียดเบียน
ต้องละทิ้งการงานของตน
พากันเพาะปลูกปุพพันพืช (๑) แลอปรันพืช (๒)
ให้แก่พระราชาทั้งหลายเท่านั้น

ต้องช่วยกันเฝ้าช่วยกันเก็บเกี่ยว
ช่วยกันนวด ช่วยกันขน

ช่วยกันเคี่ยวน้ำอ้อยเป็นต้น
และช่วยกันทำสวนดอกไม้  สวนผลไม้

พากันขนปุพพันพืชเป็นต้นที่เสร็จแล้ว
ในที่นั้นๆ มาบรรจุไว้
ในยุ้งฉางของพระราชาเท่านั้น

แม้ผู้ที่จะมองดูยุ้งฉางเปล่าๆ
ในเรือนทั้งหลายของตนจักไม่มีเลย
จักเป็นเช่นกับการเติมน้ำใส่ตุ่มที่เต็มแล้ว
ไม่เหลียวแลตุ่มเปล่าๆ บ้างเลย นั่นแล.

ภัย แม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ
จะยังไม่มีแก่มหาบพิตร  ”


(๑) อาหารมีข้าวสาลีเป็นต้น 
(๒) ของว่างหลังอาหาร มีถั่ว งา เป็นต้น



............................




๘. ตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่



แปดฝันว่า ประชาชน นั้นขนน้ำ
ช่วยกันปล้ำ เทส่ง ลงตุ่มใหญ่
ตุ่มลูกน้อย ร้อยพัน เรียงกันไป
ไม่มีใคร เทใส่ แต่สักคน
พระทรงญาณ โปรดประทาน ประกาศิต
และนิมิต ทายทัก จักเห็นผล
ว่าภายหน้า เสนา เป็นนายพล
ราษฎร์จะปรน ทรัพย์ใส่ ในตุ่มโต
ยิ่งมี ก็ยิ่งได้ ออกเหลือล้น
ยิ่งยากจน ก็จนหนัก  ลงอักโข
จะรุ่งงาม ตระการหน้า แต่พาโล
ที่ชื่อก็ จะโซ ดั่งตุ่มน้อย



........................



๘. น้ำเต็มอยู่ตุ่มเดียว

(  คนรวย นายทุนได้เปรียบ
ผู้ปกครอง รวยแต่ฝ่ายเดียว )


สุบินเห็นโอ่งน้ำใบใหญ่และโอ่งน้ำใบเล็ก
ตั้งวางอยู่ในที่แห่งเดียวกัน

แต่ผู้คนทั้งหลาย
ต่างพากันตักน้ำมาเทใส่เฉพาะโอ่งใบโต

ส่วนโอ่งใบเล็กไม่มีใครตักใส่เลย
แม้แต่เพียงหยดเดียว

พระพุทธองค์ทรงโปรดให้คำทำนายว่า
ในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น

ผู้คนจะพากันเอานำทรัพย์สินเงินทอง
มาบำรุงบำเรอ
เฉพาะผู้ที่มีอำนาจวาสนา
มียศฐาบันดาศักดิ์
ทั้งๆที่เป็นผู้ร่ำรวยอยู่แล้ว

ส่วนคนขาดแคลน ยากจนเข็ญใจ
กลับไม่มีใครสนใจเหลียวแลเลย

ในยุคสมัยที่คนไร้ศีลธรรม
คนจะปฏิบัติอย่างกลับกลอก
ทำดีเพื่อเอาหน้า เพื่อหวังผลตอบแทน

การนำเอาทรัพย์สินไปให้เจ้าใหญ่นายโต
ก็เพื่อเป็นการประจบประแจง
หวังผลจะให้ตัวเองได้เลื่อนยศตำแหน่งบ้าง
หรือหวังในผลประโยชน์ส่วนตนต่างๆนานา

การปฏิบัติเช่นนี้ทำให้เกิดการคอรัปชั่น
นำทรัพย์สินของชาติ
ไปเป็นสมบัติของตนและพวกพ้อง

จึงทำให้ผู้คนส่วนรวมของประเทศนั้น
ขาดแคลนและยากจนลง

คนที่มีอำนาจทั้งยศฐาบันดาศักดิ์
มีอำนาจเงินตราก็สามารถกอบโกยได้มาก
ร่ำรวยอยู่แล้วก็ยิ่งร่ำรวยขึ้นอีกอย่างล้นเหลือ

ส่วนคนจนที่ไร้คนสนใจ
กลับถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม
ไม่มีโอกาสที่จะได้รับ
ส่วนแบ่งสวัสดิการทางสังคม

คนที่รวยอยู่แล้ว
ยิ่งมีคนยากจนมาหารายได้ให้
หรือส่งเสริมให้รวยมากขึ้น

เป็นการที่คนจนมาทำงาน
ส่งเสริมให้คนรวยรวยยิ่งขึ้นไปอีก
แทนที่จะสร้างฐานะให้ตนเองร่ำรวย
เหมือนคนที่มาตักน้ำ
มาใส่กระออมอันมีน้ำเต็มอยู่นั้นเอง



เมื่อศาสนาเสื่อม

คนเป็นใหญ่หรือมีอำนาจ
จะเบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า

คนที่รวยอยู่แล้ว ก็จะมีคนจนหารายได้
ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น

ดังฝูงชนที่ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่
ที่เต็มอยู่แล้วจนล้น
ส่วนตุ่มที่ว่างอยู่กลับไม่ไปใส่น้ำ




ตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่

แปดฝันว่า ประชาชน นั้นขนน้ำ
ช่วยกันปล้ำ เทส่ง ลงตุ่มใหญ่
ตุ่มลูกน้อย ร้อยพัน เรียงกันไป
ไม่มีใคร เทใส่ แต่สักคน

พระทรงญาณ โปรดประทาน ประกาศิต
และนิมิต ทายทัก จักเป็นผล
ว่าภายหน้า เสนา เป็นนายพล
ราษฏร์จะปรน  ทรัพย์ใส่ ในตุ่มโต

ยิ่งมีก็ ยิ่งได้  ออกเหลือล้น
ยิ่งยากจน ก็จนหนัก ลงอักโข
จะรุ่งงาม  ตระการหน้า  แต่พาโล
ที่ซื่อก็ จะโซ  ดั่งตุ่มน้อย



>>>    To Be Continue    >>>



Create Date : 15 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 13:18:21 น.
Counter : 2411 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม