มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 4 // 1,000





วันนี้มีอะไรเบาๆ
มาอ่านและตีความกันเล่นๆ นะคะ

พอดีว่ามีพรายกระซิบ
มาสะกิดๆ ให้ฟังว่า

เนื้อหาเรื่องพุทธทำนาย
ในส่วนของการตีความพระสุบิน
ทั้ง 16 ประการ
บางหัวข้อ

มีการบิดเบือนให้ผิดเพี้ยน
ออกไปมากเลยค่ะ

งานเข้าเลยทีนี้
ต้องตามไปแปะหมายเหตุการแก้ไขไว้
อีกบานเลย

ถ้าเพื่อนๆ มีเวลาก็ลองย้อน
กลับไปอ่านฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
กันเอาเองนะคะ

คือไม่เข้าใจปนรำคาญๆ หน่อยๆ นึง
เหมือนกันแหล่ะ

ว่าคนเผยแพร่ในสมัยก่อนๆ นั้น
ทำไมไม่รักษาต้นฉบับดั้งเดิมเอาไว้

ตามที่ดิฉันพยายามเข้าใจนะคะ
เดาว่า

เนื้อหาหลักๆ เช่น
สุบินว่าเห็นอะไรบ้างนั้น
คงไม่เปลี่ยนไปมาก

แต่มาเพี้ยนตรง
การตีความพระสุบินนี่แหล่ะ
ที่เป็นปัญหา

บางทีในสมัยก่อนๆ
คงไม่มีการร่วมประชุมกัน
เพื่อตีความพระสุบินเหล่านั้น

ดิฉันเดาว่า
เผลอๆ อาจมีการตีความ
โดยคนใดคนหนึ่งแค่นั้น

แล้วก็แพร่ต่อๆ กันมา
เรื่องแบบนี้ค่อนข้างน่ากลัว
อยู่มิใช่น้อยเลยนะคะ

เรื่องสำคัญระดับพุทธโวหารแบบนี้
เหตุใดไม่มีการร่วมกันตีความ

ทำไมถึงปล่อยให้มีการตีความ
กันโดยอิสระ

การจะไปหาปราชญ์ผู้รู้
ผู้มีสติปัญญาอันสูงส่ง
มาตีความพระสุบินนี้
แบบไร้ข้อกังขานั้น

อาจไม่ยากสำหรับบางคน
แต่สำหรับดิฉัน
ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ

ที่จะไปหาเนื้อหาการตีความ
เรื่องพระสุบินอย่างตรงประเด็น

ไร้ข้อสงสัยหรือข้อกังขาใดๆ


เอ่อ... เอาแบบสรุป
สำหรับเรื่องพระสุบินคือ

เรื่องที่มีคนท้วงมา
ดิฉันจะตามแก้
ตามข้อมูลการวิเคราะห์
ที่มีความเป็นไปได้ที่สุด

ต้องยอมรับว่า
หากเราขาดข้อมูลการตีความ
ที่แม่นเป๊ะ

หากเราขาดการรับประกันว่า
ข้อมูลอันไหนมาจากพระโอษฐ์
เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างแท้จริง
จากพระพุทธองค์

ก็คงทำได้แค่
ช่วยๆ กันระดมความคิด
( ซึ่งแน่นอน ไม่ได้เสี้ยว
ของพระพุทธองค์อยู่แล้ว )

ต้องยอมรับว่า
ข้อมูลหลายอย่างที่พวกเรา
มีอยู่ในมือในขณะนี้นั้น

ตอบไม่ได้จริงๆ ว่า
อะไรคือต้นฉบับดั้งเดิม
หรืออะไรคือแต่งเติมในตอนหลัง

พวกเราในยุคหลังๆ
คงทำได้แค่
ช่วยๆ กันคัดกรอง กันเอาเอง
ใช้สติ ใช้ปัญญา กลั่นกรอง
กันเอาเอง

เข้าใจร่วมกันนะ


Smiley Smiley


เอาล่ะ  วันนี้มีอะไรมาฝาก
แบบเบาๆ

ถ้ามีมิตรรักท่านไหนแย้งว่า
เอ้ย... บทนี้เคยอ่านแล้วนี่  ซ้ำอ่ะ

ก็ใช่น่ะสิ  เพราะต้องการให้
ตีคู่มากับอีกบนหนึ่ง
ที่มีความไพเราะ พอๆ กัน

สมควรอย่างยิ่งที่จะเอามาไว้คู่กัน
อ่านคู่กันแล้ว ช่างสอดคล้องกันยิ่งนัก
เลยแฮ ...





ครานั้นพระคงคาจะแดงเดือดดังเลือดนก
อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง
ผีเมืองจะออกไปอยู่ไพร

พระเสื้อเมืองจะเอาตัวรอดหนี
พระกาลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกทั้งร้องไห้
อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม

ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิด
เมื่อพินิจพิสูจน์ดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม
มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด

มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวท้น
มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด
เกิดวิบัตินานาทั่วสากล

เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา
จะรักษาแต่คนอกุศล
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน
มิตรตนจะแพ้ซึ่งความรัก


ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุ้มผัว
คนชั่วจะล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้คุณครูรัก
จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย

ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
น้ำเต้าอันน้อยนั้นจะถอยจม

Smiley Smiley



คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก
เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้ 
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย
เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา

ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า 
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาจนเต็มพระนคร

ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น 
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า 
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร

ข้าราชการตงฉินถูกประนาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้ 
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ







>>>   To  Be  Continue   >>>



Create Date : 26 มกราคม 2558
Last Update : 26 มกราคม 2558 16:10:02 น.
Counter : 1075 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม