มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.12/1,000




มาสู่หัวข้อที่เป็นมหาชนมากขึ้น
น่าจะเกี่ยวกับสภาพโดยรวมทั่วๆไป
ของคนในสังคม

คล้ายๆ แนวโน้มค่านิยมส่วนใหญ่
ของคนในสังคมนั้นๆ

ดังมีคำกล่าวยอดฮิต
ที่พูดติดตลกแต่เต็มไปด้วยความขมขื่นว่า

" คนชั่วทำชั่วได้ดีมีถมไป "

อย่าให้ประโยคนี้มันกัดกินคนในสังคม
ไปมากกว่านี้เลย

หยุดเพิกเฉยต่อความชั่วเมื่อไร
ก็คงจะได้เห็นแสงสว่างรำไรๆ
ขึ้นมาทีละน้อยๆ กันบ้างนะคะพวกเรา






น้ำเต้าจม ๑


“  เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๒ ต่อไปเถิด
มหาบพิตร  ”


“  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันได้เห็น

กระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้

อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”

“  มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้
ก็จักมีในอนาคตกาล
เมื่อโลกหมุนไปถึงจุดเสื่อม

ในรัชกาลของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ด้วยว่า ในครั้งนั้น พระราชาทั้งหลาย
จักไม่พระราชทานยศ
แก่กุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ
จักพระราชทานแก่ผู้ไม่มีสกุลเท่านั้น

พวกนั้นจักเป็นใหญ่
อีกฝ่ายหนึ่งจักยากจน
ถ้อยคำของพวกไม่มีสกุล

ดุจกระโหลกน้ำเต้า

ดูประหนึ่งหยั่งรากลงแน่น
ในที่เฉพาะพระพักตร์พระราชาก็ดี
ที่ประตูวังก็ดี ที่ประชุมอำมาตย์ก็ดี
ที่โรงศาลก็ดี

จักเป็นคำไม่โยกโคลง
มีหลักฐานแน่นหนาดี


แม้ในสังฆสันนิบาต ( ที่ประชุมสงฆ์ ) เล่า
ในกิจกรรมที่สงฆ์พึงทำ
และคณะพึงทำก็ดี
ทั้งในสถานที่ดำเนินอธิกรณ์
เกี่ยวกับบาตร จีวร และบริเวณเป็นต้นก็ดี

ถ้อยคำของคนชั่วทุศีลเท่านั้น
จักเป็นคำนำสัตว์ออกจากทุกข์ได้
มิใช่ถ้อยคำของภิกษุผู้ลัชชี

เมื่อเป็นเช่นนี้
ก็จักเป็นเหมือนกาลเป็นที่จมลง
แห่งกระโหลกน้ำเต้า
แม้ด้วยประการทั้งปวง.


ภัย   แม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ
ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร  ”


............................



๑๒ . น้ำเต้าจมชล

สิบสองเล่า เห็นน้ำเต้า นั้นจมชล
ดูวิกล ไม่เคยพบ ประสบเห็น
พุทธบรรหาร ว่านานไป จะเกิดเป็น
ที่ข้อเข็ญ ของสัตว์ วิบัติมี
คือนักปราชญ์ รู้ธรรม จะต่ำต้อย
พาลาลอย เฟื่องฟู ชูศักดิ์ศรี
ฝูงพงศา ตระกูล ประยูรมี
จะลับลี้ เสื่อมสูญ ประยูรยศ
พวกคนพาล จะร่านเริง บันเทิงหน้า
เจรจา ผิดธรรม ไปจนหมด
ใครปลอกปลิ้น ลิ้นลม เป็นคนคด
รู้โป้ปด กลอกกลับ จึงนับกัน


...................



12 : น้ำเต้าจม คนชั่วเรืองอำนาจ

สุบินนิมิตข้อที่ 12 : น้ำเต้าจม

คำเท็จเลื่อนลอย  กลับได้รับการเชื่อถือ



สุบินเห็นน้ำเต้าแห้งกรวง
ซึ่งปกติจะลอยอยู่บนน้ำ
แต่น้ำเต้ากลับจมลงในน้ำ

พระพุทธองค์ทรงโปรดให้ทำนายว่า
ในอนาคตกาลขางหน้าโน้น
พวกคนพาลสันดานหยาบ
จะได้รับการยกย่อง
ให้เชิดหน้าชูตาในสังคม

อุดมไปด้วยลาภยศ ทรัพย์สมบัติ
บรรดาภิกษุผู้ทุศีล
ก็จะเฟื่องฟูขึ้นด้วยลาภสักการะ

ในภายภาคหน้า
ในยุคสมัยที่คนไร้ศีลธรรม

คนจะขาดปัญญา

และเห็นแก่อามิสสินจ้าง
ดังนั้นเขาจะเลือกได้ผู้นำที่ไม่ดี
ไปบริหารประเทศและชุมชน
ก่อให้เกิดปัญหา การฉ้อฉล
ปัญหาอิทธิพลเถื่อน ปัญหาการขัดแย้ง
และการรบราฆ่าฟัน

สังคมใดที่ได้คนพาลเป็นผู้นำ
สังคมนั้นก็จะประสบกับความตกต่ำเลวร้าย
และล่มสลายไปในที่สุด

ต่อไปคนจะเคารพนับถือแต่คนชั่ว
ไร้ศีลธรรม โป้ปดมดเท็จ
มีแต่คำพูดเลื่อนลอย

เหมือนน้ำเต้าที่ควรจะลอยน้ำ
แต่กลับจมน้ำฉะนั้น

คนพาลสันดานชั่ว คนทุศีล
คนทุธรรม คนขี้โกง คนหัวประจบสอพลอ
คนทุจริตคิดมิชอบ คนไม่มีความละอาย

จะได้เป็นที่ยกย่องเชิดชูในสังคม
เป็นผู้มีบทบาท มีอำนาจ
มีชื่อเสียงเกียรติยศ มีพวกพ้องบริวารมาก

ถ้าเป็นฆราวาสก็จะมีแต่ผู้เชิดหน้าชูตา
ไปไหนมาไหนมีแต่คนเคารพยำเกรง
มีฝูงชนให้การต้อนรับเอาใจ

เรียกว่าเป็นกระจกบานใหญ่
ให้แสงสะท้อนเงาของประเทศนั้น ๆ
สังคมของประเทศนั้น
มีความเจริญหรือเสื่อมลง
ก็ให้ดูกระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสภา
จะเป็นสื่อบอกประตู้หน้าต่างของสังคม
ได้เป็นอย่างดี

ประเทศใดมีตัวแทนในลักษณะใด
จะรู้ได้ว่าผู้ที่เลือกเขาเข้ามา
ก็เป็นลักษณะอย่างนั้น

เขาจะเลือกเอาเกรดเดียวกัน
ยี่ห้อเดียวกัน

ถ้าเป็นนักบวช นักพรต
ก็เป็นลักษณะนี้

ศาสนาจะมีความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลง
ก็ขึ้นอยู่กับบริษัททั้งสี่

ลำพังพระอย่างเดียว
จะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลาง
ของสังคมนั้นไม่ได้

พระที่จะมีชื่อเสียงโด่งดัง
ก็เพราะญาติโยมนำไปออกข่าวโฆษณา
ว่าองค์นั้นมีความขลังอย่างนั้น
องค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้
มีอภินิหาร ไปทางไหนก็นำไปออกข่าว

องค์ไหนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
องค์ไหนเป็นพระอริยเจ้า
ฆราวาสจะเป็นผู้คาดการณ์ให้เอง


ในยุคสมัยนั้น
พระอรหันต์จะเกิดจากลูกศิษย์ยกให้เอง
ศิษย์แต่ละครู ศิษย์แต่ละสำนัก
จะผลิตจะกำหนด
รูปแบบอาจารย์ของตัวเอง
ให้เป็นพระอรหันต์ขึ้น

เรื่องข้อวัตรปฏิบัติของอาจารย์
มีความเคร่งครัดอย่างไร
ก็นำไปโฆษณาอย่างหยดย้อย

นี่เองน้ำเต้าจมน้ำ
มีความโดดเด่นเห็นได้อย่างชัดเจน

จึงเป็นธุรกิจ
ในคราบผ้ากาสาวพัสตร์บังหน้า

เอาศาสนามาแอบอ้างหากิน

เมื่อช่วงปลายศาสนาโน้น
คนจะหมดความเลื่อมใส
ในศาสนาของเราตถาคต

คนที่มีศรัทธาเบาบาง
ก็จะค่อยจืดจางไป
เพราะเห็นความชั่วร้ายในพระยุคนั้น ๆ

ผู้ที่มีปัญญาดี มีความมั่นคง
มีเหตุมีผล
เขาจะแสวงหาพระ
ที่เป็นพระได้อย่างถูกต้อง

เมื่อปลายศาสนาโน้น
เรื่องอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน





น้ำเต้าจมชล

สิบสองเล่า เห็นน้ำเต้า นั้นจมชล
ดูวิกล ไม่เคยพบ ประสบเห็น
พุทธบรรหาร  ว่านานไป  จะเกิดเป็น
ข้อที่เข็ญ ของสัตว์ วิบัติมี
คือนักปราชญ์  รู้ธรรม จะต่ำต้อย
พาลาลอย เฟื่องฟู ชูศักดิ์ศรี
ฝูงพงศา ตระกูล ประยูรมี
จะลับลี้ เสื่อมสูญ ประยูรยศ
พวกคนพาล จะร่านเริง บันเทิงหน้า
เจรจา ผิดธรรม ไปจนหมด
ใครปลอกปลิ้น ลิ้นลม เป็นคนคด
รู้โป้ปด กลอกกลับ จึงนับกัน


Smiley Smiley


>>>    To  Be  Continue   >>>



Create Date : 19 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 14:17:16 น.
Counter : 1068 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม