มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 2.2.5/1,000





ในบทที่ผ่านๆ มา
เริ่มจากปัญหาในหน่วยย่อยเล็กๆ ในสังคม
คือครอบครัวกันมาแล้ว

ไม่ว่าจะ พ่อแม่ก็เริ่มมีปัญหาในการทำอาชีพ
ปัญหาในการหาเลี้ยงครอบครัว

ต่อมาลูกวัยเยาว์ก็เร่งเติบโต
เร่งมีความรัก เร่งเจริญพันธุ์
เร่งมีลูกกันแต่เด็ก

ก่อเกิดปัญหาสืบเนื่องอย่างไม่จบสิ้น
เป็นวงจรแห่งความน่าสงสารอย่างไม่รู้จบ

เข้าข่ายครอบครัวที่ตกลำบาก
มีแต่ความทุกข์ยาก
ก็ยิ่งเร่งมีลูกหลาน
เพื่อมาเลี้ยงดูตนเองในยามแก่เฒ่า
เพราะตนเองเหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว
ไม่อยากจะทำงานทำการแล้ว

หวังให้ลูกมาตอบแทนบุญคุณกันอย่างเดียว
โดยไม่บอกความจริงในใจออกไปว่า

ที่มีลูกออกมานั้น ที่ต้องเลี้ยงดูจนลูกเติบใหญ่นั้น
ก็เพื่อหวังให้เป็นที่พึ่งยามแก่ชราแค่นั้น

เช่นนี้แล้ว  จะต่างอะไรกับ
พ่อค้าวาณิชย์ที่ลงทุนซื้อหุ้นตัวหนึ่ง
ก็ให้ข้าวให้น้ำให้เติบโต

เพื่อที่ว่าวันหนึ่ง  หุ้นตัวนี้จะสามารถเติบโตรุ่งเรือง
ทำกำไร ปันผลตอบแทนได้อย่างไม่จบสิ้น

ตักตวงผลประโยชน์จากหุ้นนั้นไปเรื่อยๆ
จนกว่าฟ้าจะทะลาย
หรือ  จนกว่าไม่ใครก็ใครตายจากกันไปก่อน

นี่ล่ะ  เขาถึงนับถือกันว่า
เกิดเป็นพ่อแม่คนไทย ช่างโชคดีนัก
ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก
มีลูกกันเยอะๆ ไว้ก่อน
ก็ทำงานรอเวลาให้ลูกโต
พอลูกๆ โตก็ได้ชื่อว่า
สบายไปตลอดชีวิตกันแล้ว

ฉลาดมากๆ เลยค่ะ


Smiley Smiley


เอาล่ะ  ดราม่ากันแต่พอดีๆ ดีกว่า
มาต่อกันที่เรื่องดราม่าเรื่องต่อไปกันเถอะเนาะ
55555

หัวข้อที่แล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
เด็กเส้น เด็กฝากที่ทำลายระบบการงาน
เสียย่อยยับ

โดยเรื่องเริ่มจาก  ผู้ทำการคัดเลือกบุคคล
ที่หวังแต่ประโยชน์ส่วนตัว
ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่างๆ ในงานนั้น

คัดเลือกบุคคลจากเส้นสาย
ไม่เลือกจากความเหมาะสม ความสามารถ

ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก
ในระบบการทำงาน




จะว่าไปแล้ว  หัวข้ออันที่แล้วนั้น
ไม่ใช่แค่เรื่องเด็กเส้น
และเด็กฝากไปซะทั้งหมดหรอกค่ะ

อาจหมายรวมถึง  การรับคนเข้าทำงาน
โดยดูจากสถาบัน ใบประกาศนียบัตร
ใบเกรดดูดี จากสถาบันชั้นนำอันหรูเริ่ด

โดยที่ไม่คำนึงถึงบริบทอย่างอื่นๆ
มาใช้ประกอบการตัดสินใจรับเข้าทำงานกันเลย

หัวข้อนี้อาจรวมถึง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ที่โง่เขลา  ตื้นเขิน  รับคนจากความชอบส่วนตัว
ความน่าจะเป็นต่างๆ ที่สังคมมอมเมามา

ไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีๆ ว่า
บางครั้ง เด็กเก่งๆ เกรดสวยๆ
จากสถาบันดีๆเด่นๆ ดังๆ

ก็เป็นแค่เด็กที่สมองทำงานแค่ซีกเดียว
คือสมองส่วนความทรงจำ

เด็กพวกนี้บางครั้งก็เป็นแค่เด็กที่
พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนกวดวิชากันอย่างบ้าคลั่ง

ความจริงหัวข้อที่แล้วนั้น
มันสะท้อนถึงความดัดจริตของคนในสังคม
ได้อย่างดีเยี่ยม

หลงเพ้ออยู่แต่กับสิ่งปรุงแต่งภายนอก
รูปลักษณ์ที่ดูดี

ความจริงแล้ว  ในการทำงานจริง
อาจไม่ได้เสี้ยวเล็บของเด็กจบเพาะช่าง
เด็กอาชีวะ สายอาชีพ เลยก็เป็นได้

สรุปแล้วคือ หัวข้อที่แล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
ความบกพร่องของฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลนั่นเอง






เอาล่ะ  มาต่อๆ กันซักทีเนอะ  555


จะกล่าวถึงบทต่อไปของวันนี้
นั่นคือ


ม้าสองปาก



ม้า ๑


“  เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๕ เถิด มหาบพิตร ”
“ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็น
ม้าตัวหนึ่ง  มีปากสองข้าง
ฝูงชนพากันให้หญ้าที่ปากทั้งสองข้างของมัน
มันเคี้ยวกินด้วยปากทั้งสองข้าง.

นี้เป็นสุบินที่ ๕ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ? ”

“  มหาบพิตร แม้ผลของสุบินนี้
ก็จักมีในรัชกาลของพระราชา
ผู้ไม่ดำรงในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน

ด้วยว่า   ในกาลภายหน้า
พวกพระราชาโง่เขลา ไม่ดำรงธรรม

จักทรงแต่งตั้งมนุษย์โลเล
ไม่ประกอบด้วยธรรม
ไว้ในตำแหน่งวินิจฉัยคดี

คนเหล่านั้นเป็นพาล ไม่เอื้อเฟื้อในบาปบุญ
พากันนั่งในโรงศาล เมื่อให้คำตัดสิน
ก็จักรับสินบนจากมือของคู่คดีทั้งสองฝ่ายมากิน

เป็นเหมือนม้ากินหญ้าด้วยปากทั้งสอง ฉะนั้น.

ภัย แม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตรดอก ”


......................................


๕. ม้าสองปาก

ห้าฝันว่า ม้านั้น มีสองปาก
เห็นหญ้าอยาก ปากอ้า น้ำลายไหล
จนหญิงชาย ป้อนให้ จนอ่อนใจ
ทายว่าภัย จากตุลา ที่ว่าความ
ทำนองว่า ข้าจะช่วย เจรจา
แนะแนวทาง วางท่า น่าเกรงขาม
แต่ว่ามี จริต ความคิดทราม
พยายาม ทำว่าตน รู้ต้นปลาย
เข้ามาช่วย แกล้งทำ ให้กำกวม
จะรวบรวม กินทั้ง สองฝ่าย
ทำออกหน้า ท่าเถียง ทำเบี่ยงบ่าย
แนะให้ท้าย ทั้งโจทย์ และจำเลย
กินไปพลาง ทางข่ม ด้วยลมลวง
ทั้งเหนี่ยวหน่วง ถามติง แล้วนิ่งเฉย
บ้างอาศัย ใช้การ จนนานเลย
ความก็เกย แห้งร้าง อยู่ค้างปี

...................................


สุบินนิมิตข้อที่  5 :
ความไม่เป็นธรรมในการตัดสินความ

๕. ม้าสองปาก
(  ผู้ตัดสินคดีความรับสินบนทั้ง สองทาง )


สุบินว่า  เห็นม้าตัวหนึ่ง  มีปากสองข้าง
คนสองคนยื่นข้าวให้ม้าคนละปาก
ม้าเคี้ยวข้าวกล้าด้วยปาก  2  ข้างนั้น

พระพุทธองค์ทรงโปรดให้คำทำนายว่า
ในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น

ผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีความต่างๆ
ในศาลสถิตยุติธรรม

ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ
ทนายความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จะใช้อุบายวิธีอันมีเล่ห์เหลี่ยม
เพื่อหาผลประโยชน์จากคู่กรณีทั้งสอง
ทั้งฝ่ายโจทย์ และฝ่ายจำเลย

ถ้าไม่ได้ดั่งตนต้องการ
ก็หาเรื่องหน่วงเหนี่ยวเรื่องราว
ให้ล่าช้าเนิ่นนาน สร้างความยุ่งยาก
แก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน

เมื่อถึงยุคสมัยที่คนไร้ศีลธรรม
เจ้าหน้าที่ผู้ตัดสินคดีความ
ก็จะไร้ความยุติธรรม

มิได้ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง
ไปตามตัวบทกฎหมาย

แต่จะเห็นแก่อามิสสินจ้าง
สร้างเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก
สร้างเรื่องถูกให้เป็นเรื่องผิด

เมื่อเป็นเช่นนี้
ผู้คนที่อยู่ในบ้านเมืองนั้น
ก็จะอยู่กันอย่างลำบากยากเย็นที่สุด




ม้าสองปาก


ห้าฝันว่า ม้านั้น มีสองปาก

เห็นหญ้าอยาก ปากอ้า น้ำลายไหล

จนหญิงชาย ป้อนให้ จนอ่อนใจ

ทายว่าภัย จากตุลา ที่ว่าความ


ทำนองว่า ข้อจะช่วย  เจรจา

แนะแนวทาง วางท่า น่าเกรงขาม

แต่ว่ามี  จริต ความคิดทราม

พยายาม ทำว่าตน รู้ต้นปลาย


เข้ามาช่วย แกล้งทำ ให้กำกวม

จะรวบรวม กันกิน ทั้งสองฝ่าย

ทำออกหน้า ท่าเถียง ทำเบี่ยงบ่าย

แนะให้ท้าย ทั้งโจทย์ และจำเลย


กินไปพลาง ทางข่ม ด้วยลมลวง

ทั้งเหนี่ยวหน่วง ถามติง แล้วนิ่งเฉย

บ้างอาศัย ใช้การ จนนานเลย

ความก็เกย แห้งร้าง อยู่ค้างปี


.............................


>>>   To  Be  Continue    >>>




Create Date : 12 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 12:27:02 น.
Counter : 1331 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม