|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เหตุใดเห็นความจริงไม่เท่ากัน
ความน่าจะแปลกของคนที่มีดวงตาเท่ากันสองดวง กลับรับรู้ได้ต่างกัน เห็นภาพเหตุการณ์เหมือนกันก็จริง แต่การรับรู้และการเข้าใจนั้นจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอีกที
เมื่อตาเห็นสมองรับรู้ วิเคราะห์สิ่งที่เห็นด้วยความรู้ความจำที่สะสม ประมวลออกมาเป็นความนึกคิดแล้ว กลับยังแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่นนั้นสิ่งที่เห็น..ใช่ความจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นความจริงทำไมเห็นต่างกัน และคิดต่างกัน
ความจริงเห็นได้ด้วยดวงตาหรือไม่ คนตาบอดเห็นความจริงได้ไหม
??
เคยอ่านนิยายที่เขียนถึงพิธีกรรมการเปิดตาที่สามของพระทิเบต เพื่อเห็นได้มากกว่าสองตา หรือไม่ก็เคยอ่านคนที่ฝึกสมาธิจนตาที่สามเปิด หรือไม่ก็คนมีของเก่ามาเยอะประมาณนั้น เขาสามารถเห็นโลกอีกมิติได้ แต่การเข้าไปเห็นที่มากว่าสองตา แล้วต้องกลับมาผ่านกระบวนการรับรู้ ตีความ เพื่อสรุปวิเคราะห์สิ่งที่เห็นนั้นออกมา จะลึกซึ้งกว่าสองตาที่มีอยู่แน่ไปทุกคนหรือเปล่า? ตรงนี้ล่ะที่น่าสนใจ อะไรกันที่ทำให้เห็นความจริงได้กันแน่.
ไม่ว่าสองตาหรือตาที่สาม ถ้าไม่มีตาปัญญานั้น การเห็นมากรับรู้มาก จะทำให้เข้าใจมากได้ทุกคนหรือเปล่า หากไม่มีปัญญาไตร่ตรองพิจารณา
แม้ความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา แต่ทำไมพวกเราจึงถูกมายาปิดบัง เราทุกคนเห็นภาพไปตามที่ตนเองคิดเท่านั้นหรือ ความคิดเรามีปัญญาขนาดไหน ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งที่เราเห็น บางคนรู้สึกได้ลึกๆ ว่าเป็นคนอย่างไรทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักกัน คนมีตาที่สามกลับบอกว่าเป็นนางฟ้าเพราะเธอเป็นคนดีมีรังสีสว่างไสว ทำไมพระป่าบอกว่าเป็นแค่โครงกระดูก ไม่รู้ว่าเป็นหญิงชายหรอก.. อะไรคือความจริง??
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเสวนาธรรมของพระธิเบตกับท่านกฤษณะมูรติ หัวข้อที่ว่าจิตมีการพัฒนาหรือไม่พัฒนา ในการก้าวไปสู่การเห็นความจริงแท้หรือบรรลุธรรม ความคิดของพระธิเบตน่าสนใจมาก ที่กล่าวว่า จิตนั้นมีกระบวนการเรียนรู้ เมื่อเผชิญความทุกข์ ย่อมเรียนรู้ต่อหนทางให้หลุดไปจากทุกข์ ทำความดีและค่อยๆ ก้าวหน้าในธรรม นี่เป็นความจริงระดับหนึ่งที่น่าศึกษา แต่พออ่านทัศนะวิจิตรของท่านกฤษณะมูรติ ถึงกับโพล่ง จิตไม่มีการพัฒนา ถ้าพัฒนากันได้ ทุกจิตอาจเริ่มจากความไม่รู้ ค่อยๆ รู้ และไปถึงที่สุดของความรู้ไม่ต่างกัน อย่างนั้นทุกจิตน่าจะใช้เวลาเท่าๆ กัน ..จากความไม่รู้ไปสู่ความรู้คือการบรรลุธรรม?
..ทำให้นึกถึงผู้คนที่ได้ดิบได้ดีแล้ว มีฐานะบ้าง การศึกษาดีบ้าง มีหน้าที่การงานดีบ้าง รูปร่างหน้าตาดีบ้าง บางทีกลับเป็นผลร้ายไป สนุกไปกับโอกาสที่เข้าไปข้องกับความหลงของตัณหาราคะ และความน่าสนุกของชีวิตที่รายล้อมอยู่ ส่วนผู้ที่ตกยากลำบาก หาเช้ากินค่ำ เป็นทุกข์ กลับคิดถึงคุณงามความดี แต่ทว่าหากลืมตาอ้าปากได้ขึ้นมา จะมีสักกี่คนที่เจียมตัวได้ดุจเดิม ทำให้เข้าใจเรื่องความหลงของจิตขึ้นมาทันใด ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ ตกอยู่ในโลกสาม สวรรค์ โลก นรก วนเวียนยาวนาน เวลาตกก็สำนึกทำความดีบ้าง เวลาขึ้นจะมีสักกี่คนที่ไม่หลงระเริงไป
ถึงจุดนี้ ระลึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธะขึ้นมา ใครกันที่จะไม่ตกล่วงมีแต่จะก้าวขึ้นไปสู่จุดหลุดจากทุกข์ได้ ก็คงเป็นอริยะผู้เห็นทางแล้ว ซึ่งมีแต่จะสูงขึ้นไปไม่หวนต่ำลง มีสติปัญญาที่จะสะกัดความตกล่วงลงสู่ภูมิที่ต่ำได้ เป็นผู้มีปัญญารู้ว่าไหนใช่ทางไหนไม่ใช่ทางแล้ว
จิตไม่มีการพัฒนา ไม่ใช่ค่อยๆ เรียนรู้และจะบรรลุธรรมในที่สุด ความรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปริยัติหรือความรู้ทางโลกล้วนเกิดขึ้นจากความจดจำ อาจมาจากการฟัง อ่าน หรือผ่านประสบการณ์ ส่วนความจริงนั้น เป็นภาวะฉับพลัน
ที่ยุติความจำ ความคิด ความเชื่อ หรือการปรุงแต่งของจิตลง ทันทีทันใด.. เข้าไปรับรู้สภาวะจริงๆ
ส่วนทางนั้นก็คือการรักษาสติ (สติปัญฐานสี่ หรือมรรคมีองค์แปด) นั่นเอง ยิ่งมีสติต่อเนื่องเท่าไร ความจริงก็ยิ่งปรากฏให้เห็นในระดับตามกำลังของปัญญา ยิ่งอยู่กับปัจจุบันขณะมากเท่าไร อดีตอนาคตก็ยิ่งดับลง (ความคิดปรุงแต่งดับ) จนความจริงสูงสุดอาจปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า..
Create Date : 20 กันยายน 2548 |
|
19 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2548 6:16:11 น. |
Counter : 1545 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 20 กันยายน 2548 9:30:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี 20 กันยายน 2548 9:56:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: มีอมยิ้ม 20 กันยายน 2548 10:03:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 20 กันยายน 2548 12:50:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: oklah IP: 203.209.122.244 20 กันยายน 2548 14:34:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 21 กันยายน 2548 5:16:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: มีอมยิ้ม 21 กันยายน 2548 5:32:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: เชสเตอร์ 21 กันยายน 2548 17:38:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: เชสเตอร์ 23 กันยายน 2548 14:32:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี 23 กันยายน 2548 16:14:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี 25 กันยายน 2548 8:43:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 27 กันยายน 2548 13:53:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 29 กันยายน 2548 6:32:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 30 กันยายน 2548 10:56:47 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จิตนิ่ง ย่อมเห็นคนอื่นตามที่เขาเป็น ไม่ใช่ตามที่เขาอยากให้เป็น
บรรดาลูกใหม่ของพ่อน้องโจ
เลข 6 เป็นเลขของความรัก