Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

เรื่อง Love Love ของคนรักกาแฟ

กาแฟควรมีสีดำดุจดั่งนรก เข้มข้นประหนึ่งความตาย ในขณะเดียวกันก็หวานละมุนราวกับความรัก ...ภาษิตตุรกีเอ่ยถึงกาแฟไว้เยี่ยงนี้

ถ้าจะให้ลองหลับตาแล้วสูดกลิ่นกาแฟที่โชยมาปลายจมูก สิ่งแรกที่คุณคิดถึงคืออะไร.. ดอกไม้ใบหญ้า วานิลลา เชอร์รี อารมณ์สบายๆ คล้ายสายวันอาทิตย์ หรือว่าความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

ทำไมเครื่องดื่มสีดำที่มีรสขมสามารถทำให้ผู้คนหลงใหลและมีจินตนาการได้กว้างไกลถึงเพียงนี้ @Taste มีเรื่องราวของคนรักกาแฟและบรรยากาศของ ‘คัพเทสต์’ ที่เชื้อเชิญคนชอบดื่มกาแฟมาทดลองชิมกาแฟจากผู้เชี่ยวชาญจากเอธิโอเปียมาเล่าสู่กันฟัง

'เลิฟ' คนรักกาแฟ

เพราะรักจริงและอยากจำรสชาติของกาแฟแต่ละชนิดได้อย่างจริงจัง คุณเลิฟ-เจนจิรา กมลเศวตกุญ เจ้าของร้าน FABB CAFE CAFE & BISTRO ทุกเช้าเธอจะต้องชงกาแฟคั่วบดชนิดที่ต้องการจำรสด้วยวิธีชงแบบ เฟรนช์ เพรส เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เป็นการดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลเพื่อสัมผัสถึงรสชาติ คาแรคเตอร์ และ กลิ่นของกาแฟชนิดนั้นๆ

" เราเรียนรู้เรื่องไวน์มาก่อน เมื่อเรามาเจาะลึกในคุณสมบัติของกาแฟ ก็ทำให้รู้สึกได้ว่ามีลักษณะที่คล้ายคลึงกับไวน์ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่ปลูก อากาศ ดิน ปีไหนฝนดีหรือไม่ดี รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่มีผลต่อรสชาติ" คุณเลิฟบอกกับเราก่อนจะเล่าให้ฟังว่าใน 1 วัน เธอดื่มกาแฟ 7 -8 ถ้วย เป็นประจำ

" ดื่ม 3 -4 ถ้วยในตอนเช้าที่ชงแบบเฟรนช์ เพรส พอมาถึงที่ร้านก็ดื่มกาแฟแมคคิอาโต้ อีก 2 ถ้วย เป็นกาแฟที่เติมนมและน้ำตาล หลังจากอาหารกลางวันก็จะดื่มเอสเปรสโซ่อีกหนึ่งถ้วยเพื่อเป็นการช่วยย่อยอาหาร เย็นๆ ก็มีแมคคิอาโต้อีก 1 ถ้วย " สรุปว่าดื่มกาแฟบ่อยกว่ารับประทานอาหารอีก คุณเลิฟตอบยิ้มๆ

ตั้งแต่มาเปิดร้าน FABB ในซอยเอกมัย (เดิมเคยเปิดที่แยกเพลินจิต) คุณเลิฟเปิดแผนกกาแฟเพิ่มขึ้น "อยากทำร้านกาแฟมานานแล้วค่ะ เป็นธุรกิจที่ตัวเองฝัน แต่ตั้งใจไว้ว่าจะทำตอนเกษียณ ก่อนหน้าจะทำร้านอาหารมีธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้าทำให้ไปอิตาลีทุกเดือน ไปทีไรก็ไปชิมกาแฟ รู้สึกว่ากาแฟอร่อยจัง คั่วยังไงถึงได้อร่อย ก็ไปคุยกับเจ้าของร้านที่เขามีโรงคั่วเมล็ดกาแฟ เขาบอกว่าถ้าอยากเรียนจะสอนให้ คิดค่าเรียน 1 ล้าน 5 แสนบาท ตอนนั้น 17 ปีก่อนนะคะ

เราก็รู้สึกว่าแพงจัง พอ 8 ปีที่แล้วไปอิตาลีอีกปรากฏว่าเจ้าของร้านขายร้านกาแฟไปแล้วแต่เหลือโรงคั่วกาแฟที่ฟลอเรนส์ เราก็บอกว่าอยากเรียน คราวนี้เขาสอนให้ฟรี "

พอได้เรียนรู้เคล็ดลับการคั่วเมล็ดกาแฟสไตล์อิตาลีแล้ว คุณเลิฟก็เดินหน้าหนาซื้อเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟจนทำให้ไปพบลุงชาวอินโดนีเซียที่พำนักอยู่ไต้หวัน ลุงคนนี้ไม่ธรรมดานอกจากมีโรงงานผลิตเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟแล้ว บรรพบุรุษยังเคยเป็นเจ้าของไร่กาแฟอีกด้วย

"ลุงคนนี้เก่งกว่าคนที่อิตาลีอีก ซื้อเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟเอาไว้ 2 เครื่อง ตั้งใจว่าจะมาทำตอนเกษียณเพราะคิดว่างานคั่วกาแฟเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้อารมณ์มากในการพิจารณาโปรไฟล์ของกาแฟแต่ละตัว แต่พอหมอดูฮวงจุ้ยมาดูที่ตั้งร้านแล้วให้มีการปรับเปลี่ยนทางเข้าเราจึงนำเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟมาตั้ง แผนกกาแฟของแฟบบ์จึงเริ่มต้น โดยมีคอนเซปต์ 'simple origin' โดยเมล็ดกาแฟมาจากถิ่นที่แตกต่างกันเกือบ 50 ตัว ทั่วโลก "

กาแฟถ้วยละ 500 บาท

ราคากาแฟของร้านแฟบบ์เริ่มต้นที่ 80 บาท สูงสุดคือ 500 บาท ได้ยินแล้วอย่าตกใจเพราะเมล็ดพันธุ์กาแฟ 10 อันดับที่การันตีความแพงที่สุดในโลกจากนิตยสาร Forbes มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว ไล่เรียงกันตั้งแต่อันดับ 1-10 ได้แก่
- Kopi Luwak หรือกาแฟขี้ชะมดจากอินโดนีเซีย ราคาปอนด์ละ 160 ดอลลาร์
- Hacienda La Esmeralda Geisha จาก Panama ราคาปอนด์ละ 104 ดอลลาร์
-St. Helena Coffee จากเกาะเซนต์ เฮเลน่า ราคาปอนด์ละ 79 ดอลลาร์
- El Injerto จากกัวเตมาลา ราคาปอนด์ละ 50 ดอลลาร์ โดยประมาณ
- Fazenda Santa Ines จากบราซิล ราคาปอนด์ละ 50 ดอลลาร์ โดยประมาณ
- Blue Mountain จากจาเมกา ราคาปอนด์ละ 49 ดอลลาร์
- Los Planes จากเอลซัลวาดอร์ ราคาปอนด์ละ 40 ดอลลาร์
- Kona จากฮาวาย ราคาปอนด์ละ 34 ดอลลาร์
- Yauco Selecto AA จากเปอร์โตริโก ราคาปอนด์ละ 22 ดอลลาร์
- Fazenda Sao Benedito จากบราซิล ราคาปอนด์ละ 21 ดอลลาร์

เมล็ดกาแฟที่แสนแพง รวมทั้งเมล็ดที่สั่งตรงจากไร่กาแฟที่มีคุณภาพทั่วโลกที่มารวมกันในร้านแฟบบ์ จะได้รับการคั่วบดจากเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่ตั้งอยู่ภายในร้าน โดยจะมีการชงให้เหมาะสมกับเมล็ดกาแฟนั้นๆ

ใครที่อยากชมเมล็ดกาแฟรวมทั้งบรรดาเครื่องชงกาแฟในแบบต่างๆ คุณเลิฟจัดเป็นคอฟฟี่บาร์เอาไว้ให้บริการทั้งชิมและชม นอกจากนี้ยังเปิดสอนโครงการทำกาแฟหลักสูตรแบบเข้มข้นและดำเนินการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟโดยตรง ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของการดื่มกาแฟไปจนถึงความนิยมที่ได้รับในปัจจุบัน ไปจนถึงเทคนิคต่างๆ ในการชงกาแฟ ทั้งการทำ perfect espresso shot ไปจนถึงการตีฟองนมสำหรับคาปูชิโนให้ได้เนียนและละเอียดที่สุด

ได้เวลาคัพเทสต์กันแล้ว

เรื่องราว Love Love ของคุณเลิฟยังไม่หมด ล่าสุดเธอได้เชิญชวนคนรักกาแฟมาร่วมกิจกรรมคัพเทสต์กับกูรูจากประเทศต้นตำรับที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักดื่มกาแฟ นั่นก็คือ ชาวเอธิโอเปีย มร.เกตาโชว์ คูเมรา
มิสเตอร์คูเมรา บอกว่าถ้าอยากจะรู้จักศาสตร์ของการลิ้มรสกาแฟแบบดั้งเดิมแล้วล่ะก็ มีเพียง 2 สิ่งก็เพียงพอ กาแฟบด กับ น้ำร้อน จากนั้นเขาก็นำเมล็ดกาแฟให้ลิ้มลองถึง 9 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ Thai Robusta, Thai Arabica, Kenya, Ethiopian Yirgacheffe,Indonesia Sumatra Robusta, Brazil Yellow Bourbon,Mexico, Costa Rica Tarazzu และ Kopi Luwak

เมื่อนำเมล็ดกาแฟใส่เครื่องบด ตักใส่ถ้วย เติมน้ำร้อน 93 องศาเซลเซียสแล้ว ต้องรอให้กาแฟได้ดูดซึมน้ำอย่างเต็มที่และคายรสและกลิ่นออกมาเป็นเวลา 10 นาทีเสียก่อน ถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการชิม

ก่อนชิมผู้เชี่ยวชาญแนะให้สังเกต กลิ่นเป็นอันดับแรก ตามด้วย รสเปรี้ยวของกาแฟ และน้ำหนักของกาแฟที่ค้างอยู่ในปากเมื่อชิม เช่น มีความรู้สึกว่ากาแฟเคลือบอยู่ในปากหรือไม่ สัมผัสได้ถึงรสหวานหลังจากได้จิบกาแฟไปแล้วหรือเปล่า แล้วรสชาติที่ว่าหวานนั้น หวาน คล้ายกับอะไร ช็อกโกแลต เชอร์รี่หรืออย่างอื่น

เมื่อแรกเริ่มอาจอธิบายไม่ถูก แยกแยะไม่ออก ไม่เป็นไร มิสเตอร์คูเมร่าบอกว่าถ้าได้ชิมบ่อยๆ ประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่สอนเราเอง เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับความพอใจของเราว่า ชอบ หรือ ไม่ เท่านั้นเอง

ต่อไปเป็นการลงมือปฏิบัติ กูรูแนะนำให้ยื่นหน้าลงไปใกล้ๆ กับถ้วยกาแฟ ใช้ช้อนปาดกาแฟบดที่ลอยตัวอยู่ชั้นบนสุดออกไป เพื่อสูดกลิ่นเข้าไปให้เต็มปอด แล้วลองจินตนาการดูสิว่ากลิ่นนี้ชวนให้คุณคิดไปถึงสิ่งใด ทุ่งหญ้า ดอกไม้ ควันไฟ หรือความทรงจำส่วนตัว

สัมผัสกลิ่นแล้วต่อด้วยการชิม ใช้ช้อนตักกาแฟแล้วสูดเข้าไปในปากให้เสียงดังมากที่สุดเพื่อให้น้ำกาแฟกระจายไปทั่วปากให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้วิธีนี้จะช่วยให้เราได้สัมผัสรสชาติตามที่กูรูให้ข้อสังเกตได้เป็นอย่างดี
ชิมให้รู้รสแล้วก็ต้องบ้วนทิ้งอย่าได้เสียดาย เพราะว่ามีให้ชิมกันถึง 9 ชนิด เผลอจิบเยอะไปอาจนอนไปหลับทั้งคืนก็เป็นได้

สุดท้าย กูรูก็ให้ผู้ร่วมกิจกรรมมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสัมผัสรสชาติของกาแฟ ซึ่งต่างคนก็ต่างชอบไม่เหมือนกัน แถมสัมผัสกลิ่นยิ่งต่างกันไปใหญ่ บ้างก็ว่าเป็นวานิลลา บ้างก็ว่าคล้ายสตรอว์เบอร์รีมากกว่า บ้างก็คิดไปถึงทุ่งนาป่าเขา

หากท้ายที่สุดแล้วสิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้สึกไม่ต่างกันเลย คือ ประสบการณ์แห่งความสุขแห่งสุนทรียรสนั่นเอง

หมายเหตุ : สอบถามกิจกรรม 'คัพเทสต์' กับ มร.เกตาโชว์ คูเมรา ผู้เชี่ยวชาญกาแฟชาวเอธิโอเปีย ได้ที่ FABB CAFE CAFE & BISTRO เลขที่ 39 ซอยเอกมัย 10 กทม.โทร. 0 2713 1290-2



ภาพ : ทวีชัย เจาวัฒนา, อนันต์ จันทร์สูตร์, เอกรัตน์ ศักดิ์เพชร




 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 20:08:45 น.
Counter : 824 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Wanlay_kukkuk
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Wanlay_kukkuk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.