World 12/09/51
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากมีข่าวว่าเลห์แมน บราเธอร์ส กำลังหามองผู้ร่วมทุนที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงแบงค์ ออฟ อเมริกา นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มขนส่ง ขณะที่การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบก็เป็นอีกปัจจัยที่พยุงตลาดดีดขึ้นปิดในแดนบวก

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดทุนและยังไม่สามารถระดมทุนได้

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยดอลลาร์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากยอดขาดดุลการค้าที่พุ่งสูงขึ้นในเดือนก.ค.

- ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 101 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยกลุ่มกองทุนยังคงกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องแม้มีรายงานว่าพายุเฮอริเคน"ไอค์"เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก และมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัส
ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จาก Oil Price Information Service ในนิวเจอร์ซี กล่าว่า "กลุ่มกองทุนยังคงกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าพายุเฮอริเคนไอค์อาจสร้างความเสียหายต่อโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัส"
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุเฮอริเคนไอค์ ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุลูกใหญ่ในวันนี้ ได้เคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโกพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งรัฐเท็กซัสแล้ว ส่งผลให้ทางการสหรัฐอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
จิม รุยเลอร์ นักอุตุนิยมวิทยาของเพลเนติคส์ ในรัฐเพนซิลวาเนีย กล่าวว่า พายุไอค์มีแนวโน้มว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับที่อันตรายในวันพรุ่งนี้ไปจนถึงวันศุกร์ในขณะที่เคลื่อนตัวผ่านน่านน้ำของอ่าว

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่ในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยราคาดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 750 ดอลลาร์หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร และราคาน้ำมันร่วงลงอย่างต่อเนื่องได้กระตุ้นนักลงทุนให้ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
คาร์ลอส ซานเชส นักวิเคราะห์จาก CPM Group กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับยูโร แม้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 6.22 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2550 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 5.884 หมื่นล้านดอลลาร์
"การพุ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และหันเข้าเทรดในตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าราคาทองคำใกล้จะดิ่งถึงก้นเหวแล้ว ซึ่งอาจจะปรับตัวลงอีกไม่มากนัก และจากนั้นจะ 'รีบาวด์' ตามกลไก"

- ลีห์แมน บราเธอร์ขาดทุนไตรมาสสาม 3,900 ล้านดอลลาร์ ดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อขายธุรกิจจำนองในอังกฤษและสินทรัพย์อื่นๆ แยกสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ไปตั้งเป็นบริษัทใหม่และตัดเงินปันผลมากกว่า 90% ซีอีโอปลงตก ยอมขายทั้งบริษัทหากมีคนซื้อ หุ้นร่วงต่อตามระเบียบ

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.ย.ลดลง 6,000 ราย แตะระดับ 445,000 ราย

- ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนที่ปรับตัวลดลงได้ส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3933 ดอลลาร์ต่อยูโรในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยุโรประลอกใหม่
ทั้งนี้ ทางการระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเขตยูโรโซนขยายตัวเพียง 1.3% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 1.7% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนจะยังคงซบเซาต่อไปอีก
ซาบูโระ มัตซึโมโตะ นักวิเคราะห์ด้านตลาดเงินจากบริษัท Sumitomo Trust Bank กล่าวว่า "วิกฤตซับไพรม์กดดันให้ประเทศในยุโรปและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เผชิญมรสุมทางเศรษฐกิจ ขณะที่สถานการณ์ในสหรัฐเริ่มดีขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ"

- ในการแถลงข่าวรายเดือนต่อผู้สื่อข่าว นายกฯอังกฤษประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวอังกฤษ 10 ล้านครัวเรือน ซึ่งรวมถึงการลดค่าฉนวนกันความร้อนสำหรับทุกครัวเรือนลง 50% และงดเก็บบิลค่าพลังงานในปีนี้สำหรับครอบครัวที่ยากจน ขณะที่ผู้รับเงินบำนาญและครอบครัวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 5 ขวบจะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ 16.50 ปอนด์ (29 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อสัปดาห์ ถ้าอากาศหนาวรุนแรง
การประกาศของนายกฯอังกฤษมีขึ้นหลังจากที่สมาพันธ์การเคหะแห่งชาติได้เปิดเผยข้อมูลว่า ชาวอังกฤษเกือบ 2.5 ล้านครัวเรือน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด จะขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีรายได้ต่ำจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
รายงานระบุว่า ภายในปี 2552 ครอบครัวอังกฤษจำนวน 5.7 ล้าน จะต้องใช้เงิน 10% ของรายได้ต่อปีไปกับค่าพลังงาน ซึ่งพุ่งขึ้น 100% นับตั้งแต่ปี 2548

- ผลสำรวจของบีบีซีในรอบสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ราคาอาหารในประเทศอังกฤษพุ่งขึ้น 8.3% นับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่กลุ่มเกษตรกรกล่าวว่า ฤดูการเพาะปลูกในปีนี้เริ่มต้นขึ้นในทางที่ดี แต่พายุฝนส่งผลให้การเก็บเกี่ยวล่าช้าออกไป โดยในบางพื้นที่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

- สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า เอดูอาร์ด โคคอยตี ผู้นำแคว้นเซาท์ออสเซเทีย แสดงความจำนงที่จะรวมแคว้นเข้ากับนอร์ทออสเซเทียในรัสเซีย และยินดีที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

- คณะรัฐมนตรีจีนอนุมัติแผนเพิ่มผลผลิตข้าวเพื่อรองรับความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจีนตั้งเป้าเพิ่มและรักษาผลผลิตข้าวให้ได้ 500 ล้านตันต่อปีภายในปี 2553 และจะเพิ่มผลผลิตให้ได้มากกว่า 540 ล้านตันต่อปีภายในปี 2563 ดังนั้นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว จีนได้กำหนดให้พื้นที่อย่างน้อย 120 ล้านเฮคเตอร์ (296 ล้านเอเคอร์) เป็นพื้นที่ปลูกข้าว เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวอย่างน้อย 95% ของปริมาณที่ต้องการในประเทศ

- นักวิเคราะห์ต่างแสดงความวิตกกังวลต่อแนวโน้มการลงทุนในภาคธุรกิจเหล็กของจีน ในยามที่บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่หลายแห่งกำลังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของอัตรากำไรขั้นต้น การระดมเงินทุนในตลาด และรายได้จากการลงทุนในครึ่งปีแรก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประมาณ 80% ของบริษัทเหล็ก ซึ่งรวมถึงบริษัทรายใหญ่เช่นเป๋า สตีล, วิสโก และอันสตีลที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการทำกำไรในภาคธุรกิจเหล็กที่อ่อนแอ อันเป็นผลสืบเนื่องจากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น และแม้ว่าราคาราคาเหล็กในช่วงครึ่งปีแรกที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลดีต่อบริษัทเหล็กอยู่บ้าง แต่ราคาสินแร่เหล็กยังคงบดบังตัวเลขในการทำกำไร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผู้ผลิตเหล็กเริ่มที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง ทั้งๆที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าราคาเหล็กจะพุ่งขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรประจำปีของกลุ่มธุรกิจเหล็กในช่วงที่เหลือของปีนี้

- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่น ชะลอตัวลงแตะระดับ 3%ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงมากกว่าที่ทางการญี่ปุ่นประเมินไว้ว่าจะชะลอตัวลงเพียง 2.4%

- สำนักงานสถิติแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหาร พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนมิ.ย. และขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3%
โยชิกิ ชินเกะ นักวิเคราะห์จากสถาบันไดอิจิ ไลฟ์ รีเสิร์ชในกรุงโตเกียวกล่าวว่า "ดัชนี ซีพีไอ ที่เพิ่มขึ้นอาจยังไม่มากพอที่จะกดดันให้บีโอเจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com

ข้อสังเกต
1. วันนี้งานยุ่งครับ ถ้าว่างจะมาเขียน

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 12 กันยายน 2551 9:18:31 น.
Counter : 274 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
12 กันยายน 2551