World 08 - 10/09/51
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากที่เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งทำลายความเชื่อมั่นในภาคการเงิน
"เรากลับมาสู่พื้นฐานอีกครั้ง" เดนิส อมาโต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Ancora Advisors ในคลีฟแลนด์ กล่าว พร้อมกับระบุถึงความเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่เข้าช่วยแฟนนี เม และเฟรดดี แมคว่า "การใช้กลยุทธ์ทางการเงินเหล่านี้ไม่ช่วยให้เกิดความสำเร็จในอนาคต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเงินแค่เพียงบางอย่างไม่ได้หมายความวว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นทันตาเห็น
นอกจากนี้ การร่วงลงเกินขาดของยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ก็เป็นปัจจัยลบต่อบรรยากาศการซื้อขายเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายในเดือนก.ค.ว่า ร่วงลง 3.2% แตะ 86.5 จากระดับ 89.4 ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ 88.6 และต่ำกว่าระดับในปีก่อนถึง 6.8%
ความกังวลเกี่ยวกับเลห์แมนได้ถ่วงการซื้อขายในภาคการเงินทั้งหมด โดยหุ้นของเลห์แมนดิ่ง 6.36 ดอลลาร์ หรือ 45% ปิดที่ 7.79 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การล่มสลายของเฮดจ์ฟันด์ Long-Term Capital Management เมื่อปี 2541
นักลงทุนกังวลว่า เลห์แมนจะมีชะตากรรมเดียวกับ แบร์สเติร์นส ที่ล้มละลายและถูกเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ (10)

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นเอ็กซ์สตราตา ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจะบั่นทอนความต้องการสินค้าประเภทนี้ให้ลดลงตามไปด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 30.70 จุด แตะที่ 5,415.60 จุด หลังจากที่เมื่อวันก่อนดัชนี FTSE ปิดพุ่งขึ้นถึง 3.9% ขานรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐในการประกาศแผนเทคโอเวอร์กิจการแฟนนีเม และเฟรดดี แมค (10)

- เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากที่ตลาดมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งนักลงทุนมองว่า วาณิชธนกิจรายนี้กำลังประสบปัญหาในการหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ
บ็อบ ซินช์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนเข้าทำธุรกรรม carry trade ด้วยการกู้ยืมเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น เงินเยนเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า เช่น สกุลเงินดอลลาร์ แต่ขณะนี้นักลงทุนเงินดอลลาร์กลับไม่เป็นที่สนใจของตลาด เนื่องจากนักลงทุนต้องการลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง หลังจากที่ดอลลาร์พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ มูลค่าของสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ที่ลดน้อยลงยังได้จุดกระแสความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐขึ้นมาอีกครั้ง (10)

- ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงแตะระดับต่ำกว่า 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบห้าเดือนเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่าเฮอริเคน "ไอค์" จะไม่มุ่งหน้าถล่มแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกตามที่หวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการที่ประธานกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าทางกลุ่มจะไม่ลดเพดานการผลิตในการประชุมวันนี้ (10)

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กทรุดลงปิดที่ระดับต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยราคาน้ำมันซึ่งปิดที่ระดับต่ำกว่า 104 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ดึงให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆร่วงลงตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นโลหะมีค่าไปจนถึงโภคภัณฑ์เกษตร
จอน แนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers กล่าวในบันทึกที่ส่งถึงลูกค้าว่า ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการร่วงลงของราคาทองก็คือการที่กองทุนเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ยังคงอยู่นอกตลาด
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโรก็มีส่วนทำให้ราคาทองค่ำร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากค่าเงินที่สูงขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากตลาดโภคภัณฑ์ (10)

- เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐได้ปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือนแล้วในปีนี้ โดยริชาร์ด ฟัลด์ ซีอีโอของเลห์แมน อยู่ในระหว่างการเจรจากับนักลงทุนต่างประเทศเพื่อระดมทุนและขายสินทรัพย์ (8)

- แมนพาวเวอร์ อิงค์ บริษัทจัดหางานรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกได้สำรวจความคิดเห็นนายจ้างตามร้านปลีกกว่า 14,000 รายในสหรัฐที่ระบุว่า พวกเขามีแผนที่จะปรับลดการจ้างพนักงานในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546
อัตราว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ราคาบ้านดิ่งลงอย่างหนักประกอบการการตั้งเงื่อนไขสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นได้ทำให้ผู้ซื้อมีความวิตกกังวลว่าจะต้องรัดเข็มขัดในช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดของปี ขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของระบบเศรฐกิจปรับตัวลดลง
โดยผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่านายจ้างจากกลุ่มธุรกิจ 6 ใน 10 ภาคอุตสาหกรรมจะปรับลดพนักงานลงในไตรมาสที่สี่ โดยคาดว่ามีธุรกิจเหมืองเพียงธุรกิจเดียวที่คาดว่าจะรายงานตัวเลขจ้างงานปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การก่อสร้างและการศึกษาจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (9)

- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ราคาสินค้าของโรงงานลดลง 0.6% จากเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2546 และตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมสถิติเมื่อปี 2539 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ราคาผู้ผลิตจะเพิ่มขึ้น 0.1%
ราคาผู้ผลิต 3 ประเภทที่ลดลงในเดือนส.ค.ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง ส่วนราคาผู้ผลิตพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมอาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบ และปิโตรเลียม ร่วง 0.1% จากระดับก.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี (8)

- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคโรงงานร่วงลง 0.2% จากระดับเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่อ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดว่า ผลผลิตจะร่วงลง 0.1% โดยดัชนีการผลิตอยู่ที่ 103.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2550
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ความต้องการภายในประเทศที่อ่อนตัวลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษนั้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิต เงินปอนด์ได้ตกลงถึง 10% เมื่อเทียบกับเงินยูโรในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดดอกเบี้ย
การผลิตคิดเป็นสัดส่วน 15% ของเศรษฐกิจอังกฤษ เมื่อเปรียบกับอุตสาหกรรมบริการที่ 75% โดยการผลิตในโรงงาน 10 ใน 13 ประเภทร่วงลง โดยมีการผลิตเครื่องไฟฟ้าและอุปกรณ์ออปติคอลที่ร่วงมากกว่าการผลิตสินค้าอื่นๆ (9)

- มติโอเปค ลดการผลิตน้ำมันลง 520,000 บาร์เรล เพื่อควบคุมผลผลิตในปัจจุบันที่ทางกลุ่มเห็นว่าอยู่ในระดับที่สูงเกินไป (10)

- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวในรายงานพิเศษซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่เอเชียเริ่มที่จะชะลอตัวลงแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้นและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ย่ำแย่ลงเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลก
แฟรงคลิน พูน ผู้อำนวยการกลุ่มกองทุนความมั่งคั่งของฟิทช์กล่าวว่า "ขณะที่ตลาดทุนมีความผันผวน ฟิทช์เริ่มไม่แน่ใจว่าภูมิภาคเอเชียจะสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ด้วยตัวเองท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวหรือถดถอย (Asia decoupling) และเชื่อว่าความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายจะแซงหน้ากระแสเงินกู้และ FDI" (8)

- กระทรวงการคลังไต้หวันเปิดเผยว่า การส่งออกของไต้หวันในเดือนส.ค. 2551 ขยายตัวขึ้น 18.4% จากปีที่แล้ว แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับยอดเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 8.0% มูลค่า 2.28 หมื่นล้านดอลลาร์
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ไต้หวันมียอดเกินดุลการค้า 7.57 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 47% จากระดับปีที่แล้ว ส่วนการส่งออกช่วง 8 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 16.8% แตะ 1.82 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 23.2% แตะ 1.75 แสนล้านดอลลาร์ (8)

- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 4.9% ในเดือนส.ค. 2551 หลังจากที่ขยายตัว 6.3% เมื่อเดือนก.ค. และ 7.1% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนส.ค. (10)

- โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ชเปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ประสบภาวะล้มละลายในญี่ปุ่นในเดือนส.ค. 2551 เพิ่มขึ้น 4.2% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1,254 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แล้ว สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากภาคธุรกิจขนส่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น (8)

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com , //www.goldhips.com

ข้อสังเกต
1. 2 วันที่ผ่านมาต้องไปนอกสถานที่เลยไม่ได้เอาข่าวมาลง ซึ่งสัปดาห์หน้าก็ต้องหายไปอีกทั้งสัปดาห์เช่นกันครับ

2. จากหลายๆข่าวที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าระบบเศรษฐกิจของโลกกำลังมีปัญหาไม่เว้นแม้แต่ในภูมิภาคเอเชีย

3. ความหวังเศรษฐกิจจะคึกคักในช่วง Q4 ชักจะเลือนลางลงทุกที (ภาพรวมของทั้งโลกเทียบกับปีที่แล้วนะครับ) แต่ยังไงก็น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญอยู่ที่ราคาน้ำมันและราคาพวก Commodity ต่างๆที่ลดลงในช่วงนี้ครับ

4. ทองคำลงไปที่ราคา 762 สร้าง New Low ใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้สร้าง RSI Low ใหม่ ซึ่งถ้าสร้าง RSI Low ใหม่ล่ะก็... ส่วนน้ำมันทำ RSI Low ใหม่ไปเรียบร้อย แต่จะเป็น Low สุดท้ายไหม ต้องจับตามองครับ (ซึ่งผมว่าน่ะจะสุดท้าย) แต่เท่าที่ดูพอแตะ 101 ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาพอสมควร ทำให้เด้งกลับไปที่ 104 ส่วน USD Index ดูรายสัปดาห์แล้ว ตัววัดหลายๆค่าติดสูงกันแล้ว (พร้อมลง) แต่จะลงแบบไหนนั้น ต้องมาดูอีกทีครับ (อ้างอิงจาก //futuresource.com)

5. เสียดายที่โปรแกรมวิเคราะห์ที่ผมถนัดไม่สามารถนำมาใช้ในที่ทำงานได้ (ใช้ได้แต่เชื่อมต่อกับ Server ไม่ได้) ไม่งั้นคงวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ดีกว่านี้...มั้ง (คอมที่บ้านก็พัง...)

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 10 กันยายน 2551
Last Update : 10 กันยายน 2551 10:20:58 น.
Counter : 287 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
10 กันยายน 2551