World 05/09/51
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ จะร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลงหนักสุด หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า ธนาคารกลางจะใช้กฏข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นในการปล่อยกู้

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงดอกเบี้ย และลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรป ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงดอกเบี้ยเมื่อวานนี้
วิน ธิน นักวิเคราะห์จากบริษัทบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์ริแมน กล่าวว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนัก หลังจากอีซีบีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ แม้เศรษฐกิจในเขตยุโรปมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอยก็ตาม ซึ่งการตรึงดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้เป็นไปตามความคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ภายหลังการประชุมวานนี้ นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงผันผวนเนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ทำให้ยุโรปเสี่ยงที่จะเผชิญเศรษฐกิจขาลง นอกจากนี้ คณะกรรมการอีซีบีคาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนปี 2008 จะอยู่ในช่วง 1.1-1.7% และจะอยู่ในช่วง 0.6-1.8% ในปีหน้า หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วการคาดการณ์การขยายตัวอยู่ที่ 1.8% สำหรับปีนี้ และ 1.5% ในปีหน้า

- นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ส.ค.ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 194.4 ล้านบาร์เรล แต่ยังไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะร่วงลง 1.8 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 303.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 400,000 บาร์เรล แตะที่ 131.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้ว 38 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 26% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนก.ค.ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง และข่าวที่ว่าพายุเฮอริเคน"กุสตาฟ" แทบจะไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก อีกทั้งการคาดการณ์จากโอเปคที่ว่า ความต้องการน้ำมันดิบจะขยับขึ้นเพียง 1% ในปีหน้า ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 7 ปี

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอีก 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรได้กระตุ้นนักลงทุนให้ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดโลหะมีค่าและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองร่วงลงเช่นกัน
อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อทองคำแท่งรายใหญ่สุดของโลก ได้นำเข้าทองคำเพิ่มขึ้น 56% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนครั้งแรกในรอบ 11 เดือน เนื่องจากยอดขายอัญมณีพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนคาดว่า ราคาทองคำซึ่งดิ่งลงไปกว่า 3.5% ในปีนี้นั้น จะดีดตัวขึ้นเนื่องจากความต้องการอัญมณีในอินเดียและตะวันออกกลาง ปรับตัวสูงขึ้น
ธนาคารยูบีเอสคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการทองคำในอินเดียจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวิวาห์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. นอกจากนี้ กลุ่มผู้ซื้อจะซื้อโลหะมีค่าและทองคำเพื่อใช้ใน "เทศกาลทิวาลี" หรือ "เทศกาลแห่งความสว่าง" โดยยูบีเอสคาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

- กระทรวงแรงงานสหรัฐายงานว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 15,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่รายงานของ ADP Employer Services ระบุว่า นายจ้างภาคเอกชนปรับลดตำแหน่งงานลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

- ธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.00% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายวันนี้ แม้มีสัญญาณว่าเศรษบกิจถดถอยก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การตรึงดอกเบี้ยในครั้งนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งมองว่าธนาคารกลางจะพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ลงมาอยู่ในเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2% มากกว่าที่จะมุ่งกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
โดยปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษอยู่ที่ 4.4% ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น

- นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 9 ก.ย.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งผลิตน้ำมันได้ร้อยละ 40 ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก จะปฏิเสธข้อเรียกร้องของเวเนซูเอลาและอิหร่านที่ต้องการให้โอเปคลดเพดานการผลิต แต่จะตรึงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ระดับ 109 ดอลลาร์/บาร์เรลกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

- เจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี กล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียจะยังต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อปรับตัวสูง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังเป็นบวก โดยได้รับอานิสงส์จากจีนและอินเดียที่ยังสามารถขยายตัวได้พอประมาณและจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีเสถียรภาพมากขึ้น

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com

ข้อสังเกต
1. วันนี้งานยุ่งครับ ถ้าว่างจะมาเขียนครับ

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 05 กันยายน 2551
Last Update : 5 กันยายน 2551 9:07:04 น.
Counter : 310 Pageviews.

1 comments
  
เป็นกำลังใจให้คับแล้วก็
เอารอยยิ้มมาฝาก
อยากให้คนไทยรักกัน รักกัน

คลิปเดี่ยว7(ลำปางหนาวมาก)

.............................
ขออนุญาตวางLINK ฮาๆ
เพราะว่าอยากให้ไปหัวเราะ
ไปกลับมาแล้วจะลบก็ได้น๊า
โดย: พลังชีวิต วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:9:36:03 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
5 กันยายน 2551