World 02/09/51
- สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในต่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐบาลของ 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเดินทางมายังประเทศไทย

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 33.8 จุด แตะที่ 5,602.8 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) จากแรงขายที่ส่งเข้าทุบหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอริเคน"กุสตาฟ"ได้อ่อนกำลังลงแล้ว นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย.เนื่องในวันแรงงาน

- สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 355.58 จุด หรือ 1.67% ปิดที่ 20,906.31 จุด หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 20,844.15 จุด และระดับสูงสุดที่ 21,031.08 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 4.111 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ปีที่แล้ว

- เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยาสุโอะ ฟูกูดะ เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) แถลงลาออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดร่วงลง 54.29 จุด แตะที่ 12,779.89 จุด

- เอเจนซี - พายุเฮอริเคน "กุสตาฟ" เข้าใส่เมืองนิวออร์ลีนส์ในตอนเช้าวานนี้ (1) ทว่าได้ลดความรุนแรงลง อีกทั้งคาดหมายว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งห่างออกไปทางด้านตะวันตก ทำให้เมืองนิวออร์ลีนส์ไม่ต้องรับกับอิทธิพลเต็มๆ ของพายุ นอกจากนั้น ความเร็วลมที่ลดต่ำลงของพายุลูกนี้ ยังทำให้สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ถอยลงมา ในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดดำเนินการก่อนเวลาปกติหลายชั่วโมง จนอยู่ในระดับ 114.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 13.00 น.จีเอ็มที (ตรงกับ 20.00 น.เมืองไทย) ลดลงจากราคาปิดวันก่อน 1.06 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอน ก็ตกลงมา 1.31 ดอลลาร์ อยู่ที่ 112.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ "อาจ" ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ในสัปดาห์นี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวเร็วสุดในรอบกว่า 10 ปี ในขณะที่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ก็ประกาศใช้นโยบายต่าๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

- ธนาคารกลางอังกฤษเผยว่า ธนาคารต่างๆ ปล่อยกู้เพื่อซื้อบ้านให้ลูกค้า 33,000 รายในเดือนก.ค. เทียบกับ 35,000 รายในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเมื่อ 9 ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 35,000 ราย
ริชาร์ด ดอนเนลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของโฮมแทร็ค (Hometrack Ltd.) กล่าวว่า มูลค่าของที่พักอาศัยในอังกฤษและเวลส์ลดลงกว่า 5.3% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่าอีกนานกว่าราคาบ้านจะดีดตัวขึ้น

- รัฐบาลร่วมของเยอรมนีมีความคิดเห็นแตกแยกเป็นสองฝ่ายในประเด็นการรับมือกับสถานการณ์ที่รัสเซียบุกโจมตีจอร์เจีย โดยเยอรมนีมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินสหภาพยุโรปเพื่อถกประเด็นดังกล่าวเมื่อวานนี้ (1) ที่กรุงบรัสเซล

- จอร์เจียได้เทขายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในสัดส่วน 12.8% หรือคิดเป็นมูลค่า 187.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจเผชิญช่วงขาลง
ธนาคารกลางจอร์เจียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 11% จากระดับ 12% ในวันที่ 21 ส.ค. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตี ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ก.ค.จอร์เจียมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านผู้ว่าการธนาคารกลางจอร์เจียคาดว่าเศรษฐกิจจอร์เจียจะขยายตัวที่ระดับ 9% ในปีนี้ ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับ 12.4% ในปี 2550

- นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 7% ในที่ประชุมวันนี้

- จีนเตรียมใช้มาตรการลดภาษีและกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปิดฉากลง

- นางวิลารัตน์ โอสถาวรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว เปิดเผยว่า จีนเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยคาดการณ์ว่าในปี 2553 จะผลิตได้มากกว่า 10 ล้านคัน และภายในปี 2563 จะผลิตได้ถึง 15 ล้านคัน ซึ่งจะทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ได้มากที่สุดในโลก สำหรับปริมาณการใช้รถของประชากรจีนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยผลการสำรวจจำนวนรถของจีนในปีที่ผ่านมาเท่ากับ 40 ล้านคัน และมีการคาดการณ์ว่าหลังจากนี้จำนวนรถในจีนจะเพิ่มขึ้น 15-20% ทุกๆปี ซึ่งเมื่ออัตราการใช้รถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กิจการธุรกิจด้านยานยนต์ของจีนและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ธุรกิจประเภทชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ รวมถึงธุรกิจบริการหลังการขายขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในตลาดรถยนต์ คิดเป็นสัดส่วนของธุรกิจยานยนต์ในจีน 33.9% มูลค่า 403,50 ล้านหยวน

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคเดือนส.ค. 2551 ปรับตัวขึ้น 5.6% ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงจากอัตราการขยายตัวในเดือนก.ค.ที่ 5.9% ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี เนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกือบ 20% ในเดือนก.ค.และส.ค.

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com , //www.manager.co.th

ข้อสังเกต
1. เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ขี้นครับ (จากราคาเปิด) ลองตรวจสอบดัชนี FTSE 100 แล้วปรากฎว่า เกิด GAP ขึ้น โดยปิดวันที่ 29 ที่ 5648 แล้วเปิดตลาดวันที่ 1 ที่ 5605 ครับ (อ้างอิงจาก//www.allstocks.com , //futuresource.com)

2. ตลาด Commodity ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเนื่องจากพายุกุสตาฟอ่อนแรงลงครับ ซึ่งการอ่อนแรงของพายุได้มีการคาดการณ์มาก่อนแล้ว ทั้งนี้ผมมองว่าตลาดได้คาดหวังว่าความรุนแรงของพายุจะมากกว่านี้ รวมถึงได้เล่นข่าวนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เมื่อไม่เป็นไปตามคาด ก็จะส่งผลต่อตลาดครับ

3. USD Index ปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง ในขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น ส่วนเงินบาทอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 34.44 (09.30)

4. ธนาคารกลางอังกฤษจะประกาศปรับอัตราดอกเบี้ย ในวันที่ 4 ก.ย. ครับ (รู้สึกวันนั้นจะมีตัวเลขสำคัญๆของสหรัฐออกเพียบ...)

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 02 กันยายน 2551
Last Update : 2 กันยายน 2551 10:08:36 น.
Counter : 298 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
2 กันยายน 2551