--[รู้งี้หยิบ FHM ดีกว่า ไม่น่าพลาดเลยกรู T_T]-- หลาย ๆ ท่านคงเคยประสบกับปัญหาเฉกเช่นเดียวกับผม!!! ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือครับ อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็น นิยาย เรื่องสั้น การ์ตูน หนังสือโป๊ (อันหลังนี้ไม่ค่อยได้อ่านตัวหน้งสือซักเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาไม่สำคัญเท่ารูปภาพ พรวดดดด ....(เลือดกำเดาพุ่งอีกแล้วววว)) ครับ เรื่องของเรื่องมันก็เกิดขึ้นตรงที่ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือนี่แหล่ะครับ เหตุเกิดขึ้น เมื่อประมาณต้นอาทิตย์ที่แล้ว ที่ผมไปสังสรรค์กันที่บ้านเพื่อน แน่นอน ขึ้นชื่อว่า สังสรรค์ มันก็ต้องกินกันเป็นธรรมดา แต่สงสัยจะกินเยอะเกินเหตุ จึงทำให้ข้าศึกบุกโจมตีอย่างหนัก แบบไม่ทันให้ตั้งตัว "เฮ้ย.......Shift_หายล่ะ ปวดท้อง" ผมพูดขึ้นระหว่างกำลังดวล winning กับเพื่อน "ปวดท้องก็ไปขี้ดิ" "ไม่!!! กุไม่เข้าห้องน้ำคนแปลกหน้า" "แสรดดดด ถ้านับคนแปลกหน้าในบ้านกุน่ะนะ เมิงแหล่ะ ที่แปลกหน้า" ".............." ".............." ศึก winning ยังดำเนินต่อไปทั้งที่ยังปวดขี้อยู่นั่นแหล่ะครับ แต่ก็อย่างที่เขาว่ากันว่า ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง คนจะคลอดลูก ขี้จะแตก อะไรก็ห้ามไม่อยู่ และแน่นอน winning ก็ห้ามไม่อยู่เช่นเดียวกัน!!! ผมทิ้งจอย เผ่นเข้าห้องน้ำแปลกหน้าทันที!! ก็คงเหมือนกับเพื่อน ๆ หลายคนที่ จะเข้าห้องน้ำ ต้องมีหนังสือหรืออะไรก็ได้ติดมือเข้าไปอ่านด้วย อุปทานว่า ถ้าไม่ได้อ่านอะไรซักอย่าง มันจะขี้ไม่ออก!! ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ขี้จะออกหรือไม่ออก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมีอะไรอ่านหรือไม่เลยแม้แต่น้อย หนังสือไม่ใช่ยาถ่าย และ ยาถ่ายก็ไม่ใช่หนังสือ (เออสิ แล้วเมิงจะพูดทำไม) ถึงแม้จะคิดได้ก็ต้องหาอะไรเข้าไปอ่านอยู่ดี T_T "เฮ้ย บ้านเมิงมีหนังสือไหมวะ" "มี อยู่ในกล่องหน้าห้องน่ะ หาเอาแล้วกัน" "ขอบใจ" ว่าแล้วก็วิ่งจู๊ดไปที่กล่องหนังสือที่มันว่า ลงมือขุดคุ้ยหาหนังสือที่อยู่ในกล่องนั้น เดชะบุญ เจอแต่ FHM กับ ZOO เต็มกล่องไปหมด T_T หลังจากใช้เวลาประมาณมิลลิเซคคั่นวินาทีคิดแล้ว คาดว่า หากหยิบทั้ง FHM หรือ ZOO เล่มใดเล่มหนึ่ง เข้าไปอ่าน ผมอาจจะไม่ได้ขี้อย่างเดียว อาจจะต้องเสียเหงื่อให้กีฬาซ้ำเข้าไปอีกด้วย บังเอิญผมยังไม่อยากเสียเหงื่อตอนนั้น จึงทิ้งทั้ง FHM และ ZOO ไปด้วยความเสียดาย และค้นหาหนังสือต่อไป................... บุญพาวาสนาส่ง ให้ผมไปพบเข้ากับหนังสือชื่อดังเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือแปล เคยเอามาทำเป็นหนังแล้ว 1 ภาค แต่เจ๊งเพราะห่วยจนเกินทำยา ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแปลซักเท่าไหร่ เพราะเบื่อจำชื่อฝรั่ง!!! ชื่อคนไทยในนิยายไทย ยังจำไม่ค่อยจะได้เลย นับประสาอะไรกับชื่อฝรั่ง แต่อารมณ์นั้น ความคิดนี้ถือว่าไร้สาระเมื่อเทียบกับข้าศึกที่กำลังจะยึดเมืองหลวงของผมได้อยู่รอมร่อ!! เอาวะ........... และนั่นเอง คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมด เมื่อผมหยิบหนังสือเล่มนั้นติดมือเข้าไปอ่านในห้องน้ำ ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเสียงเคาะประตูดังขึ้น "เฮ้ย เมิงจมกองขี้ตายหรือไงวะ เข้าโคตรนานเลย" ครับ ผมอ่านหนังสือ ก็มันสนุกนี่นา สนุกกว่าในหนังที่ได้ดู 100 เท่า...... ถึงแม้ว่าผมจะอคติกับหนังสือแปล แต่ก็มีข้อแม้ว่า ถ้าหนังสือแปลเล่มนั้น อ่านฟรี ผมโอเค!!! (เรื่องของเรื่องคือ งกนั่นเอง T_T) หรืออ่านแล้วสนุกก็ยกเว้ณได้เหมือนกัน สำหรับหนังสือเล่มนี้ เข้าข่ายทั้งสองข้อด้านบน คือ อ่านฟรี และ สนุก!! แน่นอน ผมไม่อาจใช้เวลา 2 ชั่วโมงที่อยู่บ้านเพื่อน หรือ ครึ่งชั่วโมงในห้องน้ำ อ่านหนังสือเล่มหนากว่าฝาชักโครกเล่มนั้นให้จบได้ แม้เหน็บจะแหลกขาทั้งสองข้างของผมไปแล้วก็ตาม T_T ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ณ ตอนนั้น ทำให้ผมไม่รู้ว่า ไอ้เล่มที่ว่า มันมิใช่หนังสือจบภายใน 1 เล่ม!! ผมใช่เวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกลับมาถึงบ้าน อ่านมันจนจบ รวดเดียวจบ ไม่หลับไม่นอน คงเหมือนหลาย ๆ ท่านที่เจอหนังสือถูกใจ อ่านยังไงก็ต้องเอาให้จบ อ่านแล้วไม่อยากวาง เท่าที่ผมอ่านมาทั้งหมด หนังสือที่สามารถทำให้ผมเกิดความรู้สึกเช่นนั้นได้มีเพียง 48 เล่มเท่านั้น!!! (แสรดดดดดดดดดดดด พูดซะนึกเหมือนน้อยเลยนะ) เอ่อ ช้าก่อนครับ 48 เล่มที่ว่านั้นคือ นิยายเรื่อง "เพชรพระอุมา" ของคุณพนมธูป!!! พนมเทียน!!!! .................... ตึ่งโป๊ะ!!! (หากมุขนี้แป่กก็ต้องขออภัยด้วย) นอกจาก 48 เล่มนั้นแล้วก็ยังไม่เคยมีหนังสือเล่มไหนที่หนาขนาดนั้น แล้วผมต้องอ่านให้จบให้ได้โดยไม่วางอีกเลย แม้แต่แฮรี่ พอเถอะ ที่เขาว่าสนุก ๆ ก็ตามที ไอ้ 7 ภาคนี้เนี่ย ถ้าผมรู้ตั้งแต่แรก ผมคงอ่านมันเฉพาะเล่ม 1 กับ เล่ม 7 เพราะสนุกอยู่แค่ 2 เล่มนี้เท่านั้นเอง T_T ถามว่า ไม่ชอบแล้วทำไมถึงได้อ่าน ก็คงต้องบอกว่า ผมเป็นพวกโรคจิตชนิดหนึ่ง ที่ถ้าอ่านเล่ม 1 แล้ว ต้องอ่านเล่มต่อไปให้จบด้วย ทำให้ผมต้องอ่านแฮรี่ พอเถอะ ครบทั้ง 7 เล่มนั่นเอง เอาล่ะครับ เข้าเรื่องดีกว่า ออกทะเลบ่อยเหลือเกิน เรื่องสั้น ๆ เล่าให้ยาวเป็นหน้า ๆ ได้ จะถือว่าเป็นพรสวรรค์ หรือ สาปนรกดีล่ะเนี่ย T_T เมื่อผมอ่านไอ้เล่มที่ว่าจนจบ ผมถึงได้รู้ว่า มันยังมีเล่ม 2 ต่อ และ ยังไม่พอ หลังจากอ่านคำนำ เขาบอกว่า มันเป็น ไตรภาค มี 3 เล่มจบ!!! "บิดากุสิ้น!!!" ผมอุทานในใจ แล้วจะทำยังไงดีล่ะนี่ อารมณ์ค้างอย่างแรง ผมโทรไปถามเพื่อนทันที "เฮ้ย มีเล่มสองป่าววะ" "ไม่มีว่ะ มีแต่เล่มนั้นแหล่ะ กุซื้อมายังไม่ได้อ่านเลย อย่าลืมเอามาคืนกุด้วย" "แล้วเล่มสองมันออกยังวะ" "กุไม่รู้โว้ยยยยยยยยยย" "แสรดดดดดดดดดดดดด" ไอ้เพื่อนผมก็อย่างว่าแหล่ะครับ ทั้งบ้านมีหนังสือเป็นเรื่องราวอยู่เล่มเดียว คือไอ้เล่มที่ผมหยิบมา นอกนั้น ถ้าไม่นับหนังสือพิมพ์ที่รับทุกวันแล้ว ก็มีแต่ FHM กับ ZOO เต็มบ้านไปหมด ไอ้เล่มที่ผมหยิบมานี่ ก็มีคนซื้อมาให้มันด้วยซ้ำ และมันก็ไม่คิดจะอ่าน แต่ติดนิสัยหวงของ แม้จะไม่ได้ใช้ แต่ของกุ ยังไงก็ต้องเป็นของกุ อะไรประมาณนั้น ไอ้ผมก็ว่าจะยืมแล้วแกล้งตายไม่คืนซะหน่อย ดันดักคอให้เอาไปคืนซะงั้น T_T เอาล่ะครับ ก็อย่างที่บอกว่า อารมณ์มันค้างอยู่ที่เล่มแรก ทำให้ผมต้องดั้นด้นไปที่ร้านหนังสือ ในวันรุ่งขึ้นเพื่อหาเล่ม 2 เหมือนสวรรค์จะเป็นใจ หรือไม่ นรกก็กลั่นแกล้ง อะไรซักอย่างนี่แหล่ะครับ ที่เล่มสองมันออกมาแล้ว ออกมานานหรือยังผมไม่รู้ รู้แต่ว่า เล่มแม่มโคตรใหญ่!!! หนากว่าเล่มแรก 1 เท่า เล่มแรกนี่ปาหัวหมาแตกได้ แต่เล่มสองสามารถปาโดนหมา แล้วหมาตายโดยไม่ทรมานเลยด้วยซ้ำ "เมิงจะหนาไปไหน" ไอ้เรื่องหนาน่ะผมไม่ค่อยซีเรียสหรอกครับ แต่ที่ซีเรียสก็คือ เมื่อมันหนาขนาดนั้น แล้วราคามันจะขนาดไหน ลำพังจะซื้อหนังสือซักเล่ม เล่มละ 100 กว่าบาท ผมยังคิดแล้วคิดอีก จะซื้อดีหรือจะหายึดชาวบ้านดี แต่ไอ้เล่มนี่นี่ ก่อนผมจะมาซื้อ ผมก็ถามบรรดาเพื่อน ๆ ที่เป็นหนอนหนังสือทั้งหลายแล้วว่ามีให้กุยืมหรือเปล่า ก็ได้รับการปฎิเสธมาเป็นทิวแถวว่า ไม่มี!!!! หยิบมันขึ้นมาดู พลิกดูราคา โอ ........................... 500 กว่าบาท ป๊าดดดดดดดดดดดด หนังสือหรือนี่ ไม่ซื้อก็ไม่ได้ อย่างว่าแหล่ะ อารมณ์มันค้าง ควัก 500 สุดท้ายในกระเป๋าจ่ายคนขายไปด้วยมืออันสั่นเทา พลางคิดในใจ เอาน่า ไม่ได้ซื้อกันบ่อย ๆ แบกเล่มสองออกมาจากร้านด้วยตัวที่เบาหวิว เพราะต้องกินแกลบไปอีกหลายวัน เพื่อน ๆ เห็นหนังสือแล้วก็ได้แต่อุทานกันว่า "นั่นนิยาย หรือ คัมภีร์ไบเบิ้ล!!!" อะไรมันจะหนาปานนั้น ผมพลาดไปซะแล้ว พลาดที่ไปอ่านเล่มแรก ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เมื่อผมอ่านเล่มสองจบภายในระยะเวลา 2 วัน!!! แน่นอน อารมณ์มันค้างอีกแล้ว เล่มสามออกหรือยัง ผมเดินไปที่ร้านหนังสือร้านเดิมอีกครั้ง โอวแม่เจ้าโว้ย เล่มสามออกแล้ว โคตรบิดามารดาหนาเป็นเสาเอกอีกแล้วเช่นเดียวกัน!! กัดลิ้นตัวเอง ควักจ่ายไปอีก 500 กว่าบาท เพื่อนบอก เมิงจะบ้าหรือวะ ผมก็ได้แต่ตอบไปว่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว นี่เล่มสุดท้ายแล้ว (เพราะเค้าบอกว่าไตรภาค) เปิดอ่านคำนำสำนักพิมพ์ ก็ได้ทราบข่าวร้าย หรือข่าวดีก็ไม่รู้ว่า คนเขียนเพลินจัด สามภาคเอาไม่จบ จะยืดเป็น 4 ภาค!!! ผมก็ได้แต่อุทานด่าแม่คนเขียนในใจว่า "เมิงเคยถามคนอ่านมั่งไหม ว่าเขาจะอดตายก่อนหรือ จะอ่านหนังสือเมิงจบก่อน" แล้วหลัง ๆ มา ก็บรรยายเหลือเกิน จะทำอะไรซักที บรรยายสภาพแวดล้อมอยู่นั่น ก็ยังข้องใจอยู่ที่ว่า มือเรียวยาวเหมือนนกอินทรีย์นี่มันเป็นยังไง อ่านยังไงก็คิดไม่ออก ทะเลสาปอะไรซักอย่าง ทะมึนอยู่ลิบ ๆ เหมือนอยู่ในม่านหมอกแห่งปีศาจเย็นยะเยือก หรือไฟแห่งโลกันต์กำลังเผาผลาญอยู่บนผืนน้ำ!! อ่านแล้วก็งง ว่า ตกลง เมิงเย็นหรือเมิงร้อนกันแน่ เอาให้แน่ซักอย่างอ่านแล้วปวดกะบาลยิ่งนัก ก็ได้แต่บ่นไป เพราะกลับตัวไม่ทันเสียแล้ว เพราะถ้าผมรู้อย่างนี้ซะตั้งแต่ทีแรก ผมจะไม่หยิบเล่มแรกมาอ่านเลย ผมยอมเสียเหงื่อให้ FHM ดีกว่า มาเสียน้ำตาให้เล่ม 2 เล่ม 3 และ เล่ม 4 ที่กำลังจะออกตามมา (หรือออกแล้วก็ไม่รู้ T_T) ที่บ่นนี่ไม่ใช่ว่าไม่สนุก มันก็สนุกแหล่ะครับ แต่คุณคิดดูดิ หนังสือเล่มหนากว่าเขียงสับหมู กับ ชายหนุ่มที่ดูยังไง๊ ยังไงหน้าตามันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า เมิงอ่านหนังสือไม่ออกชัวร์!!! มันเข้ากันซะที่ไหน เดินถือไปไหนมาไหน ก็ได้รับสายตาเป็นคำถามมาว่า "เมิงจะถือสารานุกรมติดไปไหนมาไหนด้วยทำไมฟระ!!!" เชื่อไหม ตอนผมหยิบหนังสือเล่มนี้มาจากชั้นในร้านขายหนังสือ น้องเด็กฝึกงานในร้านนั่น มองผมแบบประมาณว่า "เมิงจะซื้อจริงเหรอ ที่บ้านไม่มีเขียงหมูหรือไง??" ตาโตเป็นไข่ห่านด้วยความไม่เชื่อสายตา T_T ว่าโจรกบฎภาคใต้ จะอ่านหนังสือเล่มหนาขนาดนี้!!! แล้วที่เคืองที่สุดก็คือ ซื้อมา ก็ไม่ให้ที่คั่นหนังสือมาด้วย แล้วคิดดูสิครับ อ่านแล้วไม่ได้คั่นหน้าไว้กับหนังสือหนาโคตรขนาดนี้ จะกลับมาอ่านอีกรอบ แล้วหาไม่เจอว่าตัวเองอ่านไปถึงหน้าไหนแล้ว T_T เมื่อก่อนนี้ผมจะใช้วิธีพับมุมหนังสือเพื่อคั่นหน้า แต่ไอ้เล่มนี้เนื่องจากมันแพงมาก ผมจึงไม่กล้าคั่นหน้าด้วยวิธีนั้นเพราะมันจะทำให้หนังสือยับ!!! ก็เลยต้องหาอะไรมาคั่นไว้เมื่ออ่านค้างอยู่ แล้วคิดดู เพื่อนผมมันมาเปิด ๆ ดูแล้วดึงที่คั่นออกตอนผมไม่ได้ระวังตัว!!! "ใครดึงที่คั่นออกวะ" "กุเอง" เพื่อนตัวแสบยกมือด้วยความสะใจ "แสรดดดดดดดดดดดด แล้วกุจะรู้ไหมว่ากุอ่านถึงไหนแล้ว" "เมิงก็อ่านใหม่อีกรอบดิวะ" " T_T " บัดซบ!!!! ปล.ลืมบอกชื่อหนังสือครับ เอรากอน ครับ คือหนังสือเล่มที่ว่า ใครที่คิดจะไปหามาอ่าน แนะนำให้หายืมเอาจะดีกว่า แต่ถ้าใครซื้อเล่ม 1 มาแล้ว ก็แสดงความยินดีด้วยครับ คุณจะต้องเสียอีกไม่ต่ำกว่า 1500 บาท เพื่อได้อีก 3 เล่มที่เหลือ T_T สมันน้อย เบอร์ 14
หนังสือเรื่องอะไรหรอครับ
คิดว่าจะเฉลย ชื่อหนังสือ ตอนท้ายสะอีก หรือ บอกแล้ว แต่เราไม่ทันอ่านหว่า โดย: vazabizs
 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:25:14 น.เอรากอน ... ดูหนังก็สนุกดีนะคะ แต่ว่าถ้าจะให้ซื้อมาอ่านก็คงต้องผ่าน
โดย: แค่เพียงสายลม
วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:08:30 น.หนังสือเล่มหนาๆ อ่านไม่ไหวอะ ชอบอ่านพ็อคเก็ตบุ๊ค ที่ไม่หนามาก ถึงจะหลายเล่มก็สู้ตายค่ะ แต่ก่อนนี้ชอบอ่านการ์ตูน เช่ามาหลายสิบเล่ม อ่านยัง 7 โมงเช้าจนหมด แล้วนอนตื่นมาตอน 5 โมงเย็น เช่าใหม่อีก แต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว เพราะทำงาน ตอนนี้ชอบนอนแทน (เฉพาะวันหยุด) นอนแค่วันละ 14-16 ชม. เวลาที่เหลือ ดูหนังกับกินข้าว ตื่น ดูหนัง กินข้าว นอน วนเวียนอยู่อย่างนี้ 2 วัน จนวันจันทร์
โดย: keng IP: 203.144.198.247 วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:56:01 น.
จะหามาอ่านบ้างค่ะ^^
 น้าหมัน... ว่างๆ เข้าไปดูเว็บของนู๋ด้วยนะ //www.fasaisai-888.com  ขอบคุณค่ะโดย: นู๋ส้มแก้มยุ้ย
 วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:11:38 น.พออ่านจบเล่ม 4 แล้ว
ผู้แต่งก็จะบอกว่า เนื่องจากนิยายได้รับความนิยมมาก จึงจะแต่งภาค 5 ต่อในเร็วๆนี้ ^^ โดย: kk IP: 125.26.181.94 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:48:09 น.
โคตรทุ่มเลยอ่ะน้า ^ ^"
อ่านจบรอบนึงแล้ว จะอ่านรอบสองอีกป่าวเนี่ย อ่านหลายๆรอบนะ จะได้คุ้ม ^ ^ โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้
วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:37:02 น.อ่านมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
ตอนแรกเดาว่าเป็น The Golden Compass ซะอีก 555 โดย: ฟ้าดิน
วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:12:05 น.อิอิ
โดย: หวงแหน IP: 124.121.179.43 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:03:17 น.
เราเดาถูกจาก
"หนังสือชื่อดังเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือแปล เคยเอามาทำเป็นหนังแล้ว 1 ภาค แต่เจ๊งเพราะห่วยจนเกินทำยา" ไม่รู้จัก ZO แต่เดาได้!!!!!!!!!!O เห็นด้วยกับคุณ : สายชลธี จากกระทู้ //www.pantip.com "อ่านที่ จขกท. เขียนสนุกกว่าอ่านเอรากอนอีกค้า" โดย: Elbereth
วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:49:25 น.เข้าใจแล้วว่าทำไมเขียนหนังสือเก่ง.....มุกฮากระจายขนาดนี้
ถ้ารวมเล่มสมันน้อย ฯ สองร้อยตอนเมื่อไหร่...คงมีแฟนหนังสือไม่น้อยนะนี่....ทำไมไม่เอาดีทางนี้ซะหน่อยล่ะจ้ะ.... โดย: Life's like that IP: 202.91.23.4 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:49:06 น.
คอนเฟิร์มว่าน้าหมันเป็นนักอ่านตัวจริง....ภาษาที่ใช้เป็นอิทธิพลของเพชรพระอุมา 48 เล่ม หรือเปล่า.....ได้ฮาเสมอ กับสำนวนแบบนี้.....มาเยี่ยมเยือนเหมือนเคย
โดย: รักแห่งสยอง IP: 118.173.255.72 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:18:18 น.
I don't know
that are u going to believe me... the story I told might sound impossible for u, so I'm not going to tell it... but I just want you to try it, to feel the same way I felt and to reconize the miracal that is the Gift form "GOD".. as he does done to my life and will also to you if you welcome him in to yours โดย: bb IP: 124.120.6.220 วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:47:33 น.
555555555555555+
เข้าใจอารมณ์เลย พลาดไปแล้ว 1 เล่ม 2 3 4 จะตามมา เคยเปนเหมือนกัน แค่มันก้แค่เล่มกะ 200 เอง มิใช่ 500 555 ตลกอ้ะ โดย: 55 IP: 113.53.174.52 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:22:04:46 น.
|
สมันน้อย เบอร์ 14
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
Custom Search
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link MY VIP Friend               |
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
แนะนำว่าควรอ่านป่ะคะ (แฮร์รี่ แค่อ่านเล่ม 1 ก็ไม่มีอารมณ์อ่านต่อแล้วล่ะค่ะ)
เขียนได้อารมณ์มากค่ะ นั่งหัวเราะอยู่คนเดียวที่อาเขต ... คนข้างๆ มองแบบแปลกๆ อารมณ์ประมาณว่า ยัยนี่บ้าป่าววะ ... แต่ขำมากค่ะ (ปกติเป็นคนเส้นลึกค่ะ)
ขอตามติดเป็นแฟน blog ค่ะ