Less is now.
<<
ธันวาคม 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
4 ธันวาคม 2560

Miss you...Phuket Thailand 2017



มาต่อกันกับไทยแลนด์ทริปของอิชั้นกันค่ะ หลังจากที่กลับไปอยู่กับพ่อแม่ หลานๆที่ปัตตานีแล้ว ก็ถึงเวลาไปเที่ยวกันสองคนกับสามี โดยที่ฮีบินมาเจอกันกับอิชั้นที่สนามบินภูเก็ต แต่หนึ่งวันก่อนจะบินไปภูเก็ตนั้น อิชั้นพาพ่อแม่พี่สาวและหลานๆไปค้างคืนที่หาดใหญ่หนึ่งคืน และพาหลานๆเจ็ดคน ไปเที่ยวหาดสมิหลาที่สงขลากันก่อน หลานๆแฮปปี้ดีดักกันมาก ที่รีสอร์ทมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กๆด้วย ใครไม่มีชุดว่ายน้ำก็ซื้อให้ หลานๆเล่นน้ำส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวได้ยินเสียงหัวเราะตลอดเวลา รอยยิ้มอิ่มใจ อิชั้นก็พลอยมีความสุขไปด้วย และแน่นอนว่าความทรงจำดีๆในวันนั้น ทั้งป้าและหลานๆไม่มีทางลืมมันไปได้แน่นอน เอารูปหลานสองคนมาลง รูปนี้เป็นรูปโปรไฟล์ของอิชั้นในเฟสบุ้คและอินสตาแกรมด้วย พอถึงวันบินจากหาดใหญ่ไปภูเก็ต น้ำตาไหลพรากตอนต้องจากพวกเค้า อืม นี่กลับไทยทุกปีนะคะ ถ้าสองสามปีกลับ น้ำตาคงท่วมหาดใหญ่เป็นแน่แท้ 





อิชั้นบินจากหาดใหญ่ไฟลท์ตอนเช้ากับบางกอกแอร์เวย์ (ที่มีเพียงวันละเที่ยว) ไปถึงภูเก็ตเดินลากกระเป๋าใบเล็กออกมาด้านหน้า ก็เจอรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณสามีแล้ว ฮีบินจากมิลานมาถึงสุวรรณภูมิตอนเช้าตรู่ ต่อเครื่องมาถึงภูเก็ตก่อนอิชั้นซะอีก เราสองคนซื้อตั๋วรถตู้จอยไปกับแขกคนอื่นไปหาดกะรน ค่ารถคนละ 250 บาท รถตู้มีการแวะขายทัวร์ด้วยนะคะ 555 แต่ใช้เวลาแป๊บเดียวไม่เกินสิบนาทีเราก็เดินทางต่อ ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงนิดๆกว่าจะถึงโรงแรมกะรนปริ๊นเซส โรงแรมอยู่ไม่ไกลมากจากวงเวียนหาดกะรน เดินไปได้ อิชั้นและสามีเดินไปเที่ยวงานลอยกระทงอยู่คืนนึง หาดกะรนจะมีถนนคั่นหาด แต่รถก็ไม่ได้เยอะมาก ข้ามถนนได้สบายๆ บางโรงแรมมี รปภ.ช่วยแขกดูรถให้ด้วย อิชั้นค่อนข้างซีเรียสเรื่องนี้เพราะคุณสามีข้ามถนนที่ไทยไม่เป็น กลัวมาก กลัวฮีมองรถผิดด้าน กลัวมอเตอร์ไซค์ย้อนสอน ย้ำฮีอยู่ทุกปีว่า ทางม้าลายบ้านเราไม่ศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีใครหยุดรถให้ โอย หลายเรื่อง กลัวเกินเหตุไปไหมเนี่ย เอารูปหาดกะรนไปดูแก้กลัวกันก่อนค่ะ 






เราอยู่หาดกะรนกันสิบวัน เป็นสิบวันที่ผ่านไปรวดเร็วมาก นี่แหละหนอ ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แป๊บๆ อ้าว ต้องเช็คเอ้าท์แล้วรึนี่ แล้วสิบวันที่หาดกะรน อิชั้นทำอะไรบ้าง ก็ตื่นเช้าสักประมาณ 07.30 ออกมาเดินเล่นที่ชายหาดออกกำลังกายเบาๆ ยืดเส้นยืดสาย ให้กระชุ่มกระชวย สูดอากาศดีๆ ตอน 08.00 หน้าโรงแรมจะมีรถเครื่องพ่วงข้างมาขายของกินสารพัดอย่าง หรือไม่ก็เดินไปหน้าวัดกะรน เดินออกกำลังกายไปในตัว มีรถเข็นขายขนมของกินไทยๆ อิชั้นมักซื้อขนมจีน ขนมสอดใส้มะพร้าว ข้าวเหนียวสังขยา ขนมชั้น ข้าวต้มมัด ขนมหวานไทยๆนี่แหละค่ะ ซื้อกินเองบ้าง ซื้อไปฝากน้องๆพนักงานที่ห้องอาหารเช้าของโรงแรมด้วย เพราะอิชั้นเบื่อครัวซองค์เบื่อขนมปังปิ้ง ส่วนกาแฟอิชั้นซื้อกาแฟซองสำเร็จรูปมาผสมกับกาแฟดำของโรงแรม ได้บรรยากาศเหมือนนั่งดื่มกาแฟอยู่บ้านที่ปัตตานีเลยละค่ะ



บางวันคิดถึงกาแฟอร่อยๆ ก็เดินไปที่หน้าโรงแรมดิโอลด์ที่อยู่ติดกัน หน้าหาดมีเวิ้งร้านค้าเป็นย่านร้านอาหาร ร้านนวด ร้านกาแฟ ร้านขายยา มินิมาร์ท ซักรีด ขายทัวร์ก็มี แลกตังค์ก็มา โอย สารพัด มีร้านกาแฟชื่อ Blue cafe and bar ใช้กาแฟยี่ห้อโปรดของอิชั้น illy กาแฟเค้าก็อร่อยดีนะคะ มีขนมเค้กขายด้วย ราคาก็ชิ้นละร้อยอัพ ราคาแรงตามประสาร้านหน้าหาด แต่ร้านตกแต่งสวย น่ารัก มีไวฟายให้ มีแอร์ มีเพลงเพราะๆให้ฟัง ก็ต้องยอมจ่ายเนอะ 





แต่มีอีกหนึ่งอย่างที่สร้างความปั่นป่วนใจแก่อิชั้นมากคือ อยากกินผลไม้ไทยๆ แต่ย่านที่อยู่นั้น ไม่มีร้านขายผลไม้ให้คนไทย มีแต่วางขายให้นักท่องเที่ยว อิชั้นต้องซื้อกล้วยไข่หวีละ 60 บาท สับปะรดกิโลละ 60 ทุเรียนหนึ่งพูเล็กจิ๋วนี้ 100 บาทขาดตัว ลำไยขีดละ 40 บาท มะม่วงลูกละ 60 บาท เป็นไงล่ะ สิบวันจ่ายค่าผลไม้มากกว่าค่าข้าวเสียอีกกระมัง 

ปล. แต่มีอยู่วันนึง เพิ่งจะรู้ซึ้งว่า 7/11 มีผลไม้ขายด้วย มีกล้วยหอม มะม่วงและฝรั่งพร้อมน้ำจิ้มมาให้เรียบร้อย เออ ดีจัง 





แต่ช่างมันเถอะค่ะ กลับไทยปีละครั้ง ก็จ่ายๆไปถือเสียว่า ช่วยกันจ่ายให้เงินทองมันหมุนไปหมุนมาอยู่ในประเทศเรานี่แหละ อย่าไปซีเรียสอะไรเนอะ 

มาดูรูปทะเลภูเก็ตดีกว่า หาดกะรนว่าสวยแล้ว เจอหาดในหานเข้าไป กรี๊ด สลบไปเลยค่ะ ต่อให้ร้อนแค่ไหน อิชั้นก็ใส่บิกินี่ลงโต้คลื่นสวยๆ น้ำใสๆ โอยๆ คิดถึงตะเล Smiley คิดว่าคราวหน้า สงสัยต้องไปพักหาดในหานแล้วแหละ มันสวยตรึงตาตรึงใจมากๆ 








ส่วนรูปนี้หาดราไวย์ ถึงแม้ชายหาดไม่สวยเท่าหาดอื่นๆ มีเรือจอดเยอะแยะ แต่วิวจากร้านอาหารริมทางนี่ก็สวยไม่เบานะคะ 



และมีอีกหนึ่งวันที่เราสองคน กล้าหาญชาญชัย เช่ารถเครื่องขี่ขึ้นเขาไปไหว้พระใหญ่ โอย ทางชันใช้ได้ แต่ก็ยังพอไหว วิวข้างบนสวยดี เค้าทำที่จอดรถไว้ให้อย่างดี มีระบบระเบียบ ลองไปเที่ยวกันดูค่ะ 









มีอยู่สองวันเท่านั้นที่ออกไปเที่ยวนอกหาดกะรน คือวันที่เช่ารถเครื่องไปหาดในหาน พระใหญ่ หาดราไวย์ และอีกวันคือแวะไปหาเพื่อนแถวๆถลาง เพื่อนคนนี้เรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยอยู่ปัตตานี ตอนนี้มีลูกสาวสองคน วัยแปดขวบและหกขวบ น่ารักน่าชัง พูดเจื้อยแจ้วไปตามประสาเด็ก พูดอังกฤษได้นะคะเพราะเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ภูเก็ตเค้ามีโรงเรียนอินเตอร์เยอะดี เด็กๆมีหลายทางเลือก ดีจัง และตอนเย็นเพื่อนก็พาไปกินแกงส้มปลากะพงใส่ยอดมะพร้าวอ่อนชามนี้ ที่ต้องเป็นตำนานสำหรับเราสองคน คือพี่เมาคุณสามีของอิชั้นฮีกินได้ ฮีตักปลาซดน้ำแกงได้ กินไปเช็ดน้ำมูกไป แล้วฮีก็บอกว่า มันอร่อยมาก กินได้ๆ และแล้วแกงส้มก็จะเป็นอีกหนึ่งจานอาหารไทยที่เข้าไปอยู่ในลิสต์ของฮีเป็นที่เรียบร้อย รู้สึกดีมากๆ ใช้เวลาถึง 11 ปีกว่าพี่แกจะกินเป็น 

ปล. ชื่อร้านปากน้ำซีฟู้ด ตรงถลางค่ะ เผื่อใครอยากตามรอย





แล้วถ้าไม่ออกไปไหน เราสองคนก็กินนอนนั่งเล่นอยู่ริมหาด (เตียงชายหาดคนละ 100 บาททั้งวัน) หรือริมสระว่ายน้ำ สั่งอาหารไทยจานเดียวจากครัวของโรงแรมบ้าง เดินออกมากินร้านริมหาดบ้าง หแต่ส่วนใหญ่ก็กินแซนวิชแกล้มน้ำแตงโมปั่นริมสระที่โรงแรมนั่นแหละ สะดวกดี เพราะอยู่ตรงแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาหารไทยก็จะรสชาติเพี้ยนๆไปบ้าง อันนี้สระเล็กของโรงแรม แช่ตัวได้เพลินๆ สระใหญ่จะอยู่ด้านบน





เหลือรูปหาดกะรน เช้าๆที่อิชั้นออกไปเดินเท้าเปล่าย่ำชายหาด เดินไปช้าๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย อยู่คนเดียวเสียบ้าง มันเป็นช่วงเวลาที่ดีเหลือเกิน อยู่กับธรรมชาติรอบตัว เสียงคลื่นเบาๆ ทรายนุ่มเท้าสีน้ำตาลอ่อนๆ เดินไปเดินมาเก้าโมงเช้าเดินกลับไปกินมื้อเช้าต่อ ส่วนรอบเย็นตอนแดดร่มลมตก อิชั้นมักวิ่งปนเดิน วิ่งไปสุดชายหาดกะรนตรงเชิงเขาติดหาดกะตะ แล้ววิ่งกลับมาหน้าโรงแรม ส่วนอีกวันก็วิ่งไปสุดหาดฝั่งโรงแรมเซนทารา แล้วกลับมาที่เดิม ชายหาดกะรนนี่กว้างขวาง ส่วนความยาว คาดคะเนด้วยสายตาของอิชั้นแล้วยาวกว่าสามกิโลเมตรแน่ๆ ทรายถึงแม้จะไม่ขาว แต่สีน้ำตาลอ่อนๆนั่นก็นุ่มเท้าไม่เบา มีคลื่นแรงบ้างเป็นบางวัน น้ำก็ใสพอที่จะเย้ายวนให้พวกเรากระโดดโลดเต้น เล่นน้ำกันเพลินๆทุกวัน

ปล. สามีซื้อห่วงยางโดนัทมาหนึ่งอัน ให้เมียเอาไปลอยคอเล่นน้ำทะเล วันนึงคลื่นพาออกไป เริ่มไกลหาดไปเรื่อยๆ อิชั้นรีบกระโจนลงน้ำ ตีขาลากโดนัทเข้าฝั่งด้วยอาการเสียขวัญไปพอสมควร คุณสามีหัวเราะชอบใจ นี่คือแผนการฆาตกรรมภรรยาหรือเปล่าหว่า Smiley //me เอียงคอครุ่นคิด.

ไปดูรูปหาดกะรนกันเถอะค่ะ 

หาดกะรนยามเช้า ไร้นักท่องเที่ยว



ยิ่งเช้า ยิ่งไร้ผู้คน เดินเล่นเย็นใจ สบายตาสบายใจที่สุด




ส่วนรูปนี้ ยามเย็นใกล้โรงแรมที่หน้าหาด ตรงโรงแรม Movenpick มีสนามเล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดด้วยค่ะ ไปดูเค้าเล่นกัน สนุกดี กระโดดตบกันเสียงดังฟุ่บฟั่บ อยากเล่นบ้าง แต่สังขารมินำพา แค่เดาะสักสองสามที แขนคงหักหรือไม่คงช้ำไปหลายวัน และไม่กล้าถ่ายรูปหนุ่มสาวตอนเค้าเล่นกัน เอารูปนี้ไปแทนเนอะ 




และรูปคลื่นยามเช้า ก่อนเช็คเอ้าท์กลับพัทยา




ส่วนรูปสุดท้ายนี้ ไม่มีไรมาก มิได้อยากโชว์หุ่นอะไรหนักหนา เอาหัวใจมาบังๆไว้สักนิด แต่เพียงแค่อยากบอกว่า ร่างกายคุณ คุณเป็นเจ้าของ จงรักตัวเอง มาออกกำลังกายกันค่ะ กินเท่าไหร่ก็เบิร์นออกไปบ้าง อย่าตามใจปากมากนัก ยิ่งวัยจะ 40 อย่างอิชั้น (กินเท่าไหร่มาลงที่พุงหมด) ทั้งเรื่องอาหารการกินหรือการออกกำลังกาย ไม่ต้องถึงกับตึง หย่อนๆยานๆไปบ้างตามกาลเวลาหรือตามแรงโน้มถ่วงของโลก จะ 40 หรือ 50 ก็ยังแจ๋วได้ มาออกกำลังกายกันเถอะ!






Create Date : 04 ธันวาคม 2560
Last Update : 5 ธันวาคม 2560 18:28:20 น. 2 comments
Counter : 965 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96, คุณnewyorknurse


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 5 ธันวาคม 2560 เวลา:3:45:40 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ
ภาพสวยมากค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 8 ธันวาคม 2560 เวลา:2:16:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]