Less is now.
<<
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
27 พฤศจิกายน 2560

Rayong memories, Thailand 2017



มาต่อกับบล็อกที่สองของทริปเที่ยวเมืองไทยของอิชั้นกันค่ะ หลังจากที่เจอพ่อกับแม่ที่กรุงเทพ อีกหนึ่งวันถัดมาไปวัดโพธิ์ บ่ายๆนั่งรถแท๊กซี่ไปบ้านพี่สาว (ลูกพี่ลูกน้อง)แถบชานเมืองกรุงเทพ ค้างที่นั่นหนึ่งคืน บ้านชานเมืองนี่อากาศดีมาก บ้านก็กว้างขวาง มีที่นั่งเล่นเย็นใจเยอะดี แต่ข้อเสียก็คือไกลจากที่ทำงานของพี่นี่แหละ เป็นอีกหนึ่งคืนดีๆ ที่นอนกองรวมตัวอยู่หน้าทีวีในห้องนั่งเล่น เม้าท์มอยกันไป ตามประสาคนไกลกัน ได้คุยกันเรื่อยเปื่อยนี่มันดีจริง

เช้าวันรุ่งขึ้น อิชั้นเหมารถแท๊กซี่ไปส่งพวกเราที่สัตหีบ เพื่อไปพักบ้านอิชั้นเอง (บ้านตัวเองแต่ไม่ได้อยู่ 555 ตอนนี้พี่สาวเป็นคนอยู่ให้แทน) เราแวะไปบ้านพี่ (ลูกพี่ลูกน้องอีกคน) เวอะ ญาติเยอะจริงแฮะ แวะไปกินข้าวเที่ยง นั่งฟังพ่อร้องคาราโอเกะไปหลายสิบเพลง Smiley รอเวลาพี่สาวเลิกงานไปเรื่อยๆ แล้วก็แห่ขบวนย้ายไปนอนบ้านเราอีกที โอย หลายท่าหลายทางกว่าจะถึงบ้าน 

วันรุ่งขึ้นอิชั้นก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ไหนๆก็มีพ่อแม่ขึ้นมาเที่ยวด้วย แต่พัทยา สัตหีบนี่เที่ยวกันแทบจะพรุนแล้ว ถามแม่ว่า อยากไปเที่ยวที่ไหน แม่ตอบกลับมาด้วยประโยคที่ทำให้มึนไปหลายยกคือ ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ทะเล Smiley เอิ่ม คิดซิคิด ลูกที่ดีจะพาแม่ไหน ที่ไม่ใช่ทะเล ในยามที่บ้านเราอยู่สัตหีบ!

ในที่สุดอิชั้นก็คิดขึ้นได้ว่า มีโรงแรมนึงอยู่ในแถบเขาๆที่จังหวัดระยอง มีสวน มีดอกไม้ แม่ต้องชอบแน่ๆ ค้นหาในเว็บบุ๊คกิ้งดอทคอมก็เจอ คือ บรุคไซด์วัลเล่ย์รีสอร์ท จองห้องแบบสองห้องไปราคาราวๆสามพันบาทพร้อมอาหารเช้า (แบบง่ายๆ ไม่ได้มีไลน์อาหารจัดเต็มมากนัก) เราสี่คน อิชั้น พ่อ แม่ พี่สาวเป็นคนขับรถตามกูเกิ้ล โดยมีอิชั้นช่วยดูทาง หลงบ้างงงบ้าง ก็ขับไปเรื่อยๆ แวะถามทางบ้าง ในที่สุดก็ถึงรีสอร์ทเสียที ตอนแรกพี่สาวอิชั้นขับเข้าไปในเขตบ้านพักเป็นหลังๆที่เค้าปล่อยร้างไว้ พวกเราดูเสียจริตกันไปมาก แต่ที่ทุกข์วิกฤติมากกว่าใครคือพ่อ พ่อถึงกับอุทานออกมาว่า ไม่ๆ พ่อไม่นอนที่แบบนี้ เดี๋ยวงูหลามมาคาบไปกิน โอ้ย ณ วินาทีนั้น ทั้งฮาทั้งตลกทั้งตกใจ แต่สุดท้ายแล้วเราก็หาที่ๆเราควรจะไปพักถูก รู้สึกโล่งใจมากค่ะ รีสอร์ทในส่วนที่เราไปพักนั้น เป็นตึกสีขาว ไม่มีลิฟท์นะคะ เดินหิ้วกระเป๋าขึ้นห้องกันเอง ตั้งอยู่ริมน้ำที่เป็นทะเลสาป มีสะพานแขวนเดินข้ามไปในส่วนร้านอาหารหรือสวนดอกไม้ มีสระว่ายน้ำสวยๆด้วย จุดถ่ายรูปเค้าก็ทำไว้ให้เยอะแยะ ใครไม่พักค้างคืน จ่ายเงินเข้ามาถ่ายรูปก็ได้นะคะ ไม่ได้แพงมาก มีแกะให้เด็กๆดูด้วย มีกิจกรรมเช่นพวกโหนสลิงข้ามน้ำ มีเป็ดให้นั่งปั่นเล่นออกกำลังขา ซึ่งจ่ายเงินเพิ่มก็ราคาไม่แพง คิดว่ามาเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวจะสนุกมากๆ รวมตัวกันเล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็น่าจะสนุกไม่น้อย

ขออนุญาตลงรูปตรงสะพานแขวน มีพ่อแม่พี่สาวติดอยู่ด้วย วิวตรงนี้ดี๊ดี ช่วงที่ไปนั้น ฝนบ้างไรบ้าง ชุ่มชื้นกันไป 





หลังจากเอาข้าวของไปเก็บที่ห้อง พักผ่อนกันนิดหน่อย เราก็ขับรถออกไปกินมื้อเที่ยงกันแถวๆหาดแม่รำพึง ไม่พ้นทะเลอีกจนได้เนอะ แต่แม่ก็โอเค  ก็ต้องโอเคแหละถึงขนาดนี้แล้ว ระหว่างทางจากรีสอร์ทไปทะเลนั้น ต้องข้ามเขาพอจะชันๆอยู่บ้าง มีงูเลื้อยผ่านถนนไปด้วยค่า โฮ่ๆๆ สะใจดีแท้ พาพ่อแม่มาแอดเวนเจอร์โดยที่ไม่ต้องทำไรเลย 555

ถึงหาดแม่รำพึง ฝนก็ตกรั่วมายกใหญ่ จอดรถริมหาดกางร่มเดินไปร้านอาหาร เจอร้านชื่อ จิม ริมหาด กรุณาใส่เสียง... ๋ ... ร้านจิมริมหาด ชื่อก็บอกว่าริมหาดเนอะ นั่งกินไปชมวิวทะเลยามฝนตกไปด้วย พอกินใกล้เสร็จฝนหยุดตกค่ะ มีเรือเล็กๆลำนึง วิ่งผ่านมาไม่ไกลจากหาดนัก พี่ผู้ชายคนนึงเค้าเหมือนกำลังจะตักอะไรสักอย่างกับกระชอนเป็นไม้ ด้ามยาวๆ จ้วงลงทะเลแล้วตักใส่เรือ เรามองอยู่สักครู่นึง พี่เค้าเอาเรือกลับเข้าฝั่ง เราเลยเดินออกไปดู มันคือแมงกะพรุนใสๆตัวใหญ่มากๆ ตัวบานเท่าตะกร้าใส่ปลานั่นแหละค่ะ 




จากการสอบถามพี่เค้าคือ หลังฝนตกแมงกะพรุนจะว่ายน้ำขึ้นมาบนผิวน้ำซึ่งจะมีเยอะมากๆ หลังจากนั้นเค้าจะเอาไปดองขายค่ะ ใช่ที่เรากินกันในเย็นตาโฟนั่นหรือเปล่าหว่า ลืมถามไป  

เล่าเรื่องอาหารมั่งดีกว่า เพราะว่าที่ติดใจอิชั้นอีกอย่างนึงคือ เราเพิ่งกินหอยหวานกันเป็นครั้งแรกในชีวิต อูย อร่อยค่ะ บวกน้ำจิ้มอร่อยๆเข้าไปด้วยนี่ แซ่บหลาย





 อ่ะ เอารูปหาดแม่รำพึงไปอีกสักรูป ยามฝนตกก็จะอึมครึมแบบนี้ ถ้าฟ้าใสๆนี่คงจะสวยไปมากกว่านี้้นัก





หลังจากมื้อเที่ยง ขับรถแวะไปแถบท่าเพ ซื้อของกินของแห้งเล็กๆน้อยๆติดมือกลับมาบ้าง แล้วกลับไปนอนเล่นต่อที่โรงแรม หลังจากนั้นก็นอนหลับสบายๆ ฟังเสียงฝนตกแผ่วๆไปทั้งคืน เช้ามาฝนหยุดตก อากาศดีมาก มีหมอกลงนิดๆ ทานอาหารเช้ากันง่ายๆ เช็คเอ้าท์ขับรถกลับสัตหีบกัน แต่พี่สาวอิชั้นก็ขับหลง แทนที่จะออกมาเจอสัตหีบ โน่น ไปออกตรงพัทยาเหนือโน่นแน่ะ หลงไปไกลดีแท้ วนกลับมาสัตหีบ เที่ยงพอดี แวะกินร้านข้าวอาหารตามสั่งหน้าปากซอยบ้านละกัน ง่ายดี ไม่หลงไปไหนแล้วล่ะ 

บล็อกนี้ยาวใช้ได้แฮะ เดี๋ยวบล็อกหน้าเขียนเรื่องตอนกลับไปอยู่บ้านชิลล์ๆที่ปัตตานีดีฝ่า เจอกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย 



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2560 15:41:44 น. 1 comments
Counter : 814 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา:3:57:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]