กำลังใจ....จากใครซักคน
เรื่องเล่าโลกสี่เหลี่ยม....... โรงพยาบาลแห่งหนึ่งชายสองคนกำลังป่วยหนักด้วยกันทั้งคู่ และถูกจัดให้อยู่ในห้องคนไข้เดียวกันชายคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้ลุกนั่งบนเตียง เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกบ่ายเพื่อช่วยให้ของเสียไหลออกจากปอดได้สะดวกขึ้นเตียงของผู้ป่วยคนนี้ตั้งอยู่ข้างหน้าต่างบานเดียวของห้องนั้น่ส่วนชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งต้องนอนจมอยู่บนเตียงตลอดเวลาเขาทั้งสองมักจะมีเรื่องราวพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเสมอทุก ๆ บ่ายเมื่อชายข้างหน้าต่างลุกขึ้นเขาก็จะเล่าให้เพื่อนร่วมห้องฟังถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่างบานนั้นขณะที่ผู้ฟังก็รู้สึกมีความสุขกับห้วงเวลาหนึ่งชั่วโมงดังกล่าวเพราะไม่เพียงทำให้โลกของเขากว้างขึ้นหากยังช่วยให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวากับกิจกรรมและสีสันของโลกข้างนอกนั้นอีกด้วย .........ครั้งหนึ่ง เขาได้ฟังการพรรณนาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่มีเป็ด และห่านเริงเล่นน้ำกันอยู่ในทะเลสาบขณะเด็ก ๆ สนุกสนานไปกับการละเล่นบนเรือหนุ่มสาวเดินเกี่ยวก้อยพลอดรักอยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้หลากสี และสายรุ้งโดยมีต้นไม้ชราสูงใหญ่เพิ่มความสงบงามให้กับสวนอีกทั้งยังพลอยเห็นภาพทิวทัศน์ของเมืองที่ตัดกับเส้นขอบฟ้าโพ้นไกลเนื่องจากผู้อยู่ใกล้หน้าต่างได้บรรยายทุกสิ่งอย่างละเอียดลออถี่ถ้วนชายอีกมุมหนึ่งจึงจินตนาการตามไปได้อย่างรื่นรมย์>ในบ่ายที่อากาศสบาย ๆ วันหนึ่งชายคนนั้นได้เล่าว่ามีขบวนพาเหรดกำลังเดินผ่านไปแม้ชายอีกคนจะไม่ได้ยินเสียงดนตรีจากวงดุริยางค์ก็ตามเขาก็สามารถสัมผัสมันได้ด้วยใจจากถ้อยบรรยายของเพื่อนร่วมห้องข้างหน้าต่างเป็นอย่างดี .................เวลาเคลื่อนคล้อยจากวันเป็นหลายสัปดาห์...เช้าวันหนึ่ง พยาบาลประจำเวรได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเธอเพื่อดูแลทำความสะอาดร่างกายให้ชายทั้งสองเธอได้พบว่าคนไข้ใกล้หน้าต่างได้สิ้นลมไปแล้วเขาจากไปอย่างสงบในขณะกำลังหลับ...นี่นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่เธออย่างมากจากนั้นเธอก็เรียกผู้ช่วยให้นำศพออกไปจากห้องเมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร ชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องจึงขออนุญาต ย้ายไปพักเตียงใกล้หน้าต่างพยาบาลยินดีจัดการให้ตามความประสงค์ของเขาและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็ขอตัวออกไปจากห้อง...... ปล่อยเขาไว้เพียงลำพังแล้วเขาก็ค่อย ๆ ยันตัวเองด้วยข้อศอกข้างเดียวเพื่อจะมองดูโลกข้างนอกด้วยสายตาของตนเองเป็นครั้งแรกแน่ละ...เขาควรจะมีความสุขที่มีโอกาสสัมผัสมันด้วยตนเองเขาชะเง้อคออย่างช้า ๆ เพื่อมองออกไปนอกหน้าต่างแต่แล้ว! ภาพที่เขาพบกลับเป็นเพียงกำแพงโล่ง ๆ>ชายผู้นี้จึงสอบถามพยาบาลในเวลาต่อมาอะไรกันเล่าที่ทำให้เพื่อนผู้จากไปของเขาเที่ยวได้พรรณนาเป็นคุ้งเป็นแควถึงสิ่งต่าง ๆที่อยู่นอกหน้าต่างบานนี้ให้เขาฟังพยาบาลคนเดิมแจ้งให้เขาทราบว่า... แท้แล้วชายคนนั้นตาบอดเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย..........แม้แต่กำแพง"บางทีเขาอาจอยากให้กำลังใจคุณก็ได้!"
นำมาแล้ว
อย่าไประแวงคนอื่นล่ะ
คนจิตใจดีๆยังมีตัวตนให้สัมผัสได้
ถ้าเปิดใจให้ว่างๆแล้วจะพบ
ความสุขอยู่ที่ความดีที่มอบออกไป
มากกว่าจะไปคอยรับ
ผู้ให้มีสุขกว่าเสมอ