Bloggang.com : samrotri : จุดหมายที่ดี โดย คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน ร.พ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

พฤศจิกายน 2549

>>

			1	2	3	4
5	6	7	8	9	10	11
12	13	14	15	16	17	18
19	20	21	22	23	24	25
26	27	28	29	30

12 พฤศจิกายน 2549

จุดหมายที่ดี โดย คุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

ข่าวจากคอลัมภ์ คิดทางขวาง น.ส.พ.คมชัดลึก วันที่ 12 พฤศจิกายน 2549
.......................................................

คนไทยถูกมองว่าหวั่นไหวง่าย รักง่ายหน่ายเร็ว ลุ่มหลงง่าย ไม่ชอบคนนี้จึงไปเลือกอีกคน พื้นฐานของความคิดเช่นนี้ทำให้ขาดความมั่นคงในชีวิตและทำให้สังคมขาดความมั่นคงไปด้วย

ระบบการเมืองในหลายปีที่ผ่านมามีลักษณะขาดหลักยึดที่มั่นคง เพราะเบื่อพรรคประชาธิปัตย์จึงเทคะแนนให้พรรคไทยรักไทย เมื่อความเป็นอยู่ดูดีขึ้นจึงยิ่งนิยม จนกลายเป็นการเทิดทูนบูชา ผู้คนในสังคมต่างพากันแบ่งแยก ใช้อารมณ์ ไม่ใช้ปัญญาในการสนับสนุนหรือต่อต้านผู้นำ

ความร้าวฉานมีในวงกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งแวะไปกราบนมัสการพระคุณเจ้า ก็จะได้รับข้อมูลว่าระวังนะวัดนี้สายอดีตผู้นำ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนก็คือผู้ที่ศรัทธาอดีตผู้นำเริ่มแสดงความไม่พอใจ สร้างกระแสความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคม

ธรรมะแห่งพุทธได้สอนว่า การดำเนินชีวิตต้องมีจุดหมายที่ดีซึ่งมี 3 ขั้น

ขั้นแรก คือ จุดหมายขั้นตาเห็น ซึ่งจุดหมายขั้นนี้มักเป็นประโยชน์ในปัจจุบันคือการมีสุขภาพดี มีอาชีพสุจริต มีสถานภาพครอบครัวดี จุดหมายขั้นแรกนี้เข้าใจได้ไม่ยากเพราะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน

ในขั้นที่สองเป็น จุดหมายขั้นเลยตาเห็น ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ต้องตรึกตรอง เช่น มีความภูมิใจในชีวิตที่สะอาด มีคุณค่า จุดหมายในลำดับนี้อาจมองไม่เห็นชัดเจน ผู้คนในสังคมมุ่งสู่จุดหมายนี้ได้ไม่มากนัก

ในขั้นที่สามเป็นจุดหมายสูงสุด ซึ่งเป็นจุดหมายที่ทำได้ยาก คือความไม่หวั่นไหวเมื่อถูกโลกธรรมกระทบ รู้เท่าทันตามเหตุและปัจจัย ใช้ชีวิตด้วยปัญญา

ดูจากจุดหมายในการดำเนินชีวิตทั้งสามขั้น ถ้าเราเข้าใจก็จะวิเคราะห์แยกแยะพฤติกรรมของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองได้ หากมองที่จุดหมายก็จะเห็นได้ว่า

การใช้ชีวิตของนักการเมืองหลายคนไม่สุจริต ต่างพยายามใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งวาระการเมืองที่ผ่านมา แม้จะแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ แต่ประชาชนก็ยากที่จะเข้าใจเพราะได้มีการปันประโยชน์มาปิดตาปิดปากด้วยโครงการเอื้ออาทรต่างๆ

ในด้านของประชาชนนั้นคงไม่ง่ายที่จะเข้าใจจุดหมายในขั้นที่สอง การดำรงชีวิตอย่างสะอาด มีคุณค่า เป็นสิ่งที่ดูขัดกับวัฒนธรรมของสังคม ผู้คนถูกกรอกหูทุกวันด้วยนโยบายวัตถุนิยม การหยิบยื่นผลประโยชน์ให้ ทำให้เกิดความละโมบ โลภ อยากมีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อประชาชนได้รับประโยชน์จึงหันไปเทิดทูนบูชาผู้ปันประโยชน์มาให้ โดยไม่ได้วิเคราะห์ดูว่าเป็นเงินบาปหรือไม่

มนุษย์จึงควรมีจุดหมายในชีวิตที่สะสมประโยชน์ทั้งสามขั้นซึ่งอธิบายให้ง่ายขึ้นก็คือ

ประโยชน์แห่งตน

ประโยชน์เพื่อผู้อื่น และสุดท้ายคือ

ประโยชน์ร่วมกัน

วิกฤติที่เกิดขึ้นเป็นเพราะทุกฝ่ายมุ่งเน้นกันแต่ประโยชน์แห่งตนโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ร่วมกัน ทุกโครงการมีการคอรัปชั่นอย่างไม่มีความละอายหรือเกรงกลัวต่อบาป

มนุษย์ที่มีจุดหมายในชีวิตเช่นนี้ดูยากเสียด้วย กว่าจะรู้สึกตัว ทุกอย่างก็แทบล่มสลายหมด ต้องดูให้ดีๆ

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 14:09:03 น.

1 comments

Counter : 434 Pageviews.

ทุกชีวิตมีจุดมุ่งหมายเสมอเว้นแต่จะทำได้หรือไม่เท่านั้นเอง

โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง

) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:00:23 น.

samrotri

Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน
ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ร.พ.พนมสารคาม และ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรฯ 0896112714

[Add samrotri's blog to your web]

Bloggang.com