2563 VS 2020 คุณสาจินส่งหนังสือมาให้อ่านหลายเล่มค่ะ และแต่ละเล่มก็ล้วนได้กลิ่นเครื่องเทศนะคะ ฉันงมมะงุมมะงาหราอยู่นานทีเดียวค่ะ ในการทำความเข้าใจ เหมือนจะอ่านแล้วผ่านเลย จนวันหนึ่งฉันชมรายการทีวีทางไทยพีบีเอส "2563 เปลี่ยนประเทศไทย" ฟังไปดูมาคลับคล้ายคลับคลากับเล่มนี้ค่ะ India 2020 (นับไปอีก 10 ปี เหมือนกันค่ะ) ไม่ทราบได้ว่าใครลอกใคร แต่หัวข้อกับโจทก์ฟังดูคล้ายกัน มาลุ้นกันในอีก 10 ปีข้างหน้านะคะ ว่าใครจะได้เลื่อนชั้น To be a Developed Country น่าลุ้นไม่หยอกนะคะ   Create Date : 01 กรกฎาคม 2553 32 comments Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 10:21:39 น. Counter : 1501 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีค่ะ..พี่รยา ตามลุ้นด้วยกันเนอะ   โดย: chenyuye 1 กรกฎาคม 2553 10:56:13 น.

Morning..ค่ะ อ๊ะ!!!เจิมๆๆ   โดย: เริงฤดีนะ 1 กรกฎาคม 2553 11:02:39 น.

เราไม่ต้องรอจน 2563 แล้วค่อยเปลี่ยนประเทศหรอกครับพี่ เราเปลี่ยนได้เดี๋ยวนี้เลย ด้วยการเปลี่ยนความคิดตัวเองให้ดีก่อนเลย ปล. เพลงของพี่มาโนชเพลงนี้ผมก็ชอบมากครับ 555   โดย: กะว่าก๋า 1 กรกฎาคม 2553 12:11:33 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ คุณ sachin อ่าน Osho มั้ยครับ แต่ผมคิดว่าท่านกฤษณะมูรติก็เขียนหนังสือได้น่าอ่านมากครับ ผมว่างานท่านอ่านง่ายกว่างานของท่านรพินฐนาถ ฐากูรน่ะครับ   โดย: กะว่าก๋า 2 กรกฎาคม 2553 7:29:22 น.

ผมบ้าอ่านหนังสือการ์ตูนกำลังภายในครับพี่ เค้าบอกว่า ถ้าใจมีดาบ ต้นหญ้าในมือก็ยังน่ากลัวเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 2 กรกฎาคม 2553 11:50:04 น.

ไหว้มาชวนไปไหว้พระพิฆเนศด้วยกันค่ะ..พี่รยา   โดย: chenyuye 2 กรกฎาคม 2553 19:26:00 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 3 กรกฎาคม 2553 7:45:45 น.

พ่อของพี่ท่านวางหัวโขนลงได้ ผมว่าท่านเก่งมกาๆเลยนะครับ หลายคนที่ผมรู้จัก แม้ไม่มีหัวโขน แต่ก็ผยองสิ้นดีเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 3 กรกฎาคม 2553 9:38:00 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 4 กรกฎาคม 2553 7:35:39 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2553 7:22:51 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 6 กรกฎาคม 2553 7:22:27 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 7 กรกฎาคม 2553 7:34:17 น.

ดีจังครับ... มิตรภาพที่เบ่งบาน นึกถึงอินเดีย ผมจะนึกถึงเรื่องหนึ่งที่ติดอยู่ในใจมากเลย ก็คือเรื่อง วรรณะ และความขัดแย้งทางศาสนา โดยส่วนตัวผมว่า เรื่องนี้ในระยะยาวอาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความวุ่นวายอันใหญ่หลวงในประเทศเขาได้ ยิ่งถ้ามีการพัฒนามาก ความเหลื่อมล้ำของรายได้จะยิ่งมาก ผมไม่ทราบว่าในหนังสือจะวิเคราะห์ถึงปัญหาเหล่านี้ไว้หรือไม่   โดย: bite25 7 กรกฎาคม 2553 10:46:40 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2553 6:43:04 น.

เป็นความจริงเสมอไปไหมคะว่า ความสุขที่ได้มาจากกิเลส ตัณหา ความทุกข์จะรออยู่ปลายทาง และความสุขที่ได้มาจากธรรมะนั้น พิสูจน์ กันแล้วว่า ยั่งยืนอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง และจะต้องทำอย่างไรคะ ถ้าความสุขที่อยากพบอยู่ตรงกันข้ามกับธรรมะ . . . . ผมคิดว่าที่สุดของธรรมะนั้น ไม่มีทั้งความสุขและความทุกข์ครับ เป็นสภาวะว่างๆ อยู่เหนือสุขและอยู่เหนือทุกข์ เหมือนลูกบอลกลมๆใสๆ ที่แดดแผดเผาก็ไม่เป็นไร ฝนตกต้องก็ไม่เปียก การปฏิบัติธรรมในความหมายของผม ไม่ได้เป็นการรับแต่สุข ผลักไสทุกข์ หรือเกิดความปิติอิ่มเอิบในธรรม จนคิดว่าปฏิบัติธรรมแล้วจะมีแต่ความสุขในชีวิต ซึ่งจริงๆแล้ว ชีวิตคนเราก็เกิดมาพร้อมกับความทุกข์ที่แน่นอน เช่น การต้องพบรักและพลัดพราก การเจ็บป่วย การแก่ และที่สุด ความตายก็เป็นทุกข์อย่างยิ่งของคนเรา แต่ถ้าเราเข้าใจธรรมะอย่างถ่องแท้ เราจะไม่กลัวตาย....เพราะเราจะเข้าใจว่าเราเกิดมาได้อย่างไร และเมื่อเราตาย เราจะตายไปไหน การรู้จุดเริ่มต้นและการสิ้นสุดของชีวิต ทำให้เราไม่กลัวที่จะใช้ชีวิต ชีวิตที่ใช้ไปด้วยความกลัวมันจะต้องพึ่งพาความสุขและความทุกข์ ในการทำให้รู้สึกว่าตัวเรายังมี "ตัวตน" แต่การที่เราเข้าใจชีวิต มันจะัทำให้เรารู้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อทำ "หน้าที่" เมื่อหมดหน้าที่ก็จากไป จะจากไปแบบกลับมาเกิดใหม่ หรือไปแล้วไปลับไม่เกิดใหม่อีก ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของความคิด ซึ่งเป็นตัวที่จะกำหนด "ตัวตนใหม่" ของเรา ถ้าการพูดว่า "อยู่เหนือสุข เหนือทุกข์" ฟังดูยากและเป็นไปไม่ได้สำหรับปุถุชน ผมอยากให้เราใช้คำว่า "เข้าใจสุข เข้าใจทุกข์" ก็ได้ครับ เมื่อเข้าใจและสิ้นสงสัยในการเกิดแะลดับไปของสุขทุกข์ ผมว่ารู้สองข้อนี้คนเราก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างคุ้มค่าแล้วล่ะครับ   โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2553 12:50:41 น.

ผมเพิ่งเปิดดูตำราเรียนวิชาพุทธศาสนา ของระดับ ป.3 ในรัฐบาลนายอภิสิทธื์ แล้วผมก็พบว่า นี่เป็นหนังสือพุทธศาสนาที่นอกจากจะไม่น่าอ่านแล้ว ยังไม่ไ่ด้พัฒนาระดับสติปัญญาของผู้เรียนเลย ไม่แปลกใจเลยครับ ว่าทำไมประเทศเราจึงมีเด็ก ป.3 ถึง 250000 คนที่ไม่รู้หนังสือ และถามตอบวิชาการไม่ผ่านเกณฑ์   โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2553 13:48:27 น.

สวัสดีค่ะ..พี่รยา แถวนี้ฝนใกล้ตกอีกแล้ว หนึ่งมาชวนพี่รยาไปรับลมเย็นๆ ที่เซี่ยงไฮ้ด้วยกันจ้า...   โดย: chenyuye 9 กรกฎาคม 2553 14:11:58 น.

นั่นสินะครับ ทำไมผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทำไมยุคนี้เด็กเก่งภาษาอังกฤษแต่ไม่เก่งภาษาไทย ผมไม่โทษใครหรอกครับ เห็นรายชื่อ รมต.ศึกษาแต่ละคน ผมว่าประเทศนี้ก็วังเวงสิ้นดีครับ (ก็ไหนว่าท่านให้ความสำคัญกับการศึกษามากที่สุดไงครับ)   โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2553 16:41:09 น.

ขึ้นมาข้างบนแล้วค่ะ..พี่รยา อย่าลืมตามมาเที่ยวกันต่ออีกรอบนะคะ   โดย: chenyuye 9 กรกฎาคม 2553 16:50:28 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 10 กรกฎาคม 2553 7:12:36 น.

เฉพาะวันที่ไฟดับวันนั้นวันเดียว ผมอ่านหนังสือจบไป 8 เล่มครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 10 กรกฎาคม 2553 10:21:06 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 11 กรกฎาคม 2553 7:24:05 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 12 กรกฎาคม 2553 7:47:28 น.

ผมคิดถึงการนิพพานอย่างจริงจัง ผมไม่อยากกลับมาเกิดอีกแล้ว เพระากลับมาก็ต้องเจอทุกข์สุขแบบเดิมๆ ผมเบื่อแล้วน่ะครับ บอกลูกบอกเมียไปแล้ว ว่าฉันไม่กลับมาเกิดอีกแล้วนะ ครั้งนี้เราควรรักกันให้ดีที่สุด การทำดีมีความเสี่ยงไหม ผมว่าเสี่ยงพอๆกับการทำความชั่ว หากใจเรามุ่งแต่จะรับสุขรับทุกข์ เพราะความจริงทั้งสุขและทุกข์ก็ไม่มีสิ่งใดที่ยั่งยืนคงทนถาวรเลย พูดแบบง่ายๆแต่ทำยาก ก็คงต้องบอกว่า สุขก็ช่างมัน ทุกข์ก็ช่างมัน มันก็เป็นไปของมันอย่างนั้นเองน่ะครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 12 กรกฎาคม 2553 11:27:28 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 13 กรกฎาคม 2553 7:37:40 น.

เมื่อวานก็นอนคุยกับมาดาม ผมยังพูดเล่นๆกันอยู่เลยว่า ไม่อยากเกิดแล้วนะ ชาตินี้รักกันใหม่มากที่สุดล่ะกัน มาดามบอกว่า งั้นเดี๋ยวชั้นขอตามไปด้วยคน 5555   โดย: กะว่าก๋า 13 กรกฎาคม 2553 12:45:22 น.

สวัสดีค่ะ..พี่รยา ยกมายั่วน้ำลายกันจ้า....   โดย: chenyuye 13 กรกฎาคม 2553 15:58:14 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 14 กรกฎาคม 2553 7:45:08 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 15 กรกฎาคม 2553 7:29:44 น.

ขอบคุณมากๆ...สำหรับความรักความห่วงใยที่มีให้มาโดยตลอด โจจัง   โดย: พลังชีวิต 15 กรกฎาคม 2553 21:29:17 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่   โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2553 7:59:53 น.

สำเนาถูกต้อง . . . เม้นท์ของพี่ทำให้ผมนึกถึงนักร้องที่ต้องก็อปปี้เงาเสียงและรูปแบบ อย่างเช่น ไมเคิล ตั๋ง หรือ เจเน็ต เขียว ทั้งสองคนต้องเป็น "คนอื่น" ตลอดเวลา ทั้งๆที่โดนศักยภาพแล้ว สามารถเป็น "ตัวเอง" ได้โดยไม่เคอะเขิน แต่เพราะร้องและเป็นคนอื่นมาโดยตลอด ภาพที่คนฟังคนดูติดตาก็คือ "ตัวปลอม" แต่ผมกลับมองว่านี่ก็เป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่งของพี่ทั้งสองคนนะครับ คนเราไม่จำเป็นต้องเป็น "ต้นแบบ" ก็ได้ แม้จะเป็นการเลียนแบบ แต่ถ้าเลียนแบบอย่างดีที่สุด เขาก็ยังเป็น "ตัวจริง" ได้ในใจตัวเองครับ คนที่ทำตามความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น ก็ใช่ว่าจะมีความสุขนะครับ   โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2553 10:35:27 น.