....ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน......
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

เลือกโคมไฟตกแต่งห้องต่าง ๆ


เลือกโคมไฟตกแต่งห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสมและสวยงาม




ปัจจุบันได้มีการออกแบบโคมไฟออกมาขายตามท้องตลาดทั่วไปในหลากหลายรูปแบบและ หลากหลายประเภทของการใช้งาน ดังนั้นโคมไฟประเภทต่าง ๆ ในวันนี้จึงเปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งชนิดหนึ่งเพื่อประดับและเพื่อใช้ งานตามวัตถุประสงค์ มิใช่ความหมายแค่ให้แสงสว่างแก่เราในอดีตอีกต่อไป นอกจากนี้การทำงานของโคมไฟบางประเภทถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวส่งเสริมส่วน อื่น ๆ ของห้องให้มีความโดดเด่นออกมา


เราสามารถแยกประเภทของโคมไฟออกมาได้คร่าว ๆ ดังนี้



โคมไฟส่องสว่างทั่วไป ( AMBIENT LIGHT )



นิยมใช้เป็นโคมไฟดาวน์ไลท์เป็นส่วนใหญ่ โดยทั่วไปจะใช้ในห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น จะติดตั้งโคมไฟในระยะห่างกันประมาณไม่เกิน 2.40 เมตร และต้องเป็นชนิดที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอ



โคมไฟชนิดตั้งพื้น (TORCHIERE)



เป็นโคมไฟที่ให้แสงนุ่มนวลสม่ำเสมอ เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะให้ความสว่างไม่เกิน 35 ตารางเมตร



โคมตั้งโต๊ะชนิดตกแต่ง ( DECORATIVE TABLE LAMP)



โดยส่วนใหญ่มักจะนำมาตกแต่ง มากกว่าที่จะใช้งานให้แสงสว่างจึงค่อนข้างมีรูปแบบหลากหลาย



โคมไฟห้อย ( CHANDELIER )



ใช้สำหรับส่องเฉพาะเจาะจงบนพื้นที่เพื่อสร้างให้เกิดความรู้สึกเป็นที่รวม กลุ่มของคน มักใช้ในห้องรับประทานอาหารหรือบริเวณเหนือชานพักบันได หรือบริเวณโถงทางเข้า



โคมไฟโต๊ะทำงาน ( TASK LIGTH )



เป็นโคมไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนโต๊ะทำงาน จึงต้องสามารถปรับมุมหรือทิศทางได้ง่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายช่วยลดแสงสะท้อนจากโคมไฟชนิดอื่น ๆ ภายในห้องได้อีกด้วย



โคมไฟชนิดราง (TRACK LIGHT)



เป็นโคมไฟที่เหมาะกับการส่องวัตถุหรือรูปภาพที่มักจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่แน่ นอนตายตัว สามารถขยับหรือเลื่อนดวงโคมให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย สำหรับการติดตั้งบนฝ้าเพดานที่มีความสูง 2.40 – 2.70 เมตร ควรจะติดตั้งให้ห่างจากผนังประมาณ 45 เซนติเมตร


ไฟซ่อนในตู้ (NICHES)



โคมไฟชนิดนี้ควรติดตั้งไว้ในชั้นบนสุดของตู้ และควรใช้กับชั้นที่ทำด้วยกระจก เพื่อที่แสงสว่างจากโคมไฟจะได้ส่องลงมาถึงส่วนล่างของตู้



โคมไฟส่องผนัง (WALL WASHING)



โคมไฟชนิดนี้มีจุดประสงค์ในการใช้อยู่ 3 ประการคือ ใช้เพื่อให้แสงสว่างแก่รูปภาพ ใช้ติดผนังที่มีการตกแต่งพื้นผิวและใช้สาดผนังทั่วไปเพื่อให้ความรู้สึกว่า ห้องกว้างขึ้น โคมไฟที่ใช้เป็นไฟส่องต้องเป็นชนิดที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอและควรวางห่างจาก ผนัง 0.45 ถึง 0.60 เซนติเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของผนังด้วย



โคมไฟสาดผนัง (GRAZING)



การให้แสงสว่างอย่างถูกต้องกับผนังสามารถทำให้ผนังเปรียบเสมือนงานศิลปะใน ตัวเองโดยเฉพาะถ้าผนังที่มีพื้นผิว (TEX TURE) สวย ๆ ควรจะติดตั้งโคมไฟสาดผนังให้อยู่ห่างจากผนังประมาณ 0.30 เมตร และดวงโคมให้จัดวางห่างกันประมาณ 0.30 ถึง 0.60 เมตร



โคมไฟห้อยเหนือเคาน์เตอร์บาร์ (BAR)



แสงที่ส่องกระทบแก้วและขวดบริเวณบาร์จะสร้างความรู้สึกงดงามเกินกว่าบรรยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใช้ไฟชนิดฮาโลเจน จะทำให้เครื่องแก้วเป็นประกาย ติดตั้งโคมไฟชนิดนี้ใกล้บริเวณชั้นกระจกหรือชั้นไม้โดยวางห่างออกมาประมาณ 1 เมตร



ระบบการให้แสงหลัก ซึ่งหมายถึงแสงสว่างพื้นฐานที่ต้องใช้เพื่อการใช้งานซึ่งแยกออกได้เป็นระบบต่างๆดังนี้



แสงสว่างทั่วไป (General Lighting)



คือ การให้แสงกระจายทั่วไปเท่ากันทั้งบริเวณพื้นที่ใช้งาน ซึ่งใช้กับการให้แสงสว่างไม่มากเกินไป แสงสว่างดังกล่าวไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามมากนัก



แสงสว่างเฉพาะที่ (Localized Lighting)



คือ การให้แสงสว่างเป็นบางบริเวณเฉพาะที่ทำงานเท่านั้น เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยไม่ต้องให้สม่ำเสมอเหมือนแบบแรก เช่น การให้แสงสว่างจากฝ้าเพดานโดยติดตั้งเฉพาะเหนือโต๊ะหรือบริเวณใช้งานให้ได้ ความส่องสว่างตามต้องการ การให้แสงสว่างลักษณะนี้ประหยัดกว่าแบบ ก) ข้างต้น



แสงสว่างเฉพาะที่และทั่วไป (Local Lighting + General Lighting)


คือ การให้แสงสว่างทั้งแบบทั่วไปทั้งบริเวณ และเฉพาะที่ที่ทำงาน ซึ่งมักใช้กับงานที่ต้องการความส่องสว่างสูงซึ่งไม่สามารถให้แสงแบบแสงสว่าง ทั่วไปได้เพราะเปลืองค่าไฟฟ้ามาก เช่น การให้แสงสว่างจากฝ้าเพดานเพื่อส่องบริเวณทั่วไป และที่โต๊ะทำงานติดโคมตั้งโต๊ะส่องเฉพาะต่างหากเพื่อให้ได้ความส่องสว่างสูง มากตามความต้องการของงาน



เลือกหลอดไฟให้ 7 ห้อง ในบ้านอย่างมืออาชีพ

1.ห้องนอน เป็นห้องสำหรับพักผ่อน จึงควรเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ ไม่ต้องมีแสงสว่างมากนัก เลือกหลอดไฟแบบคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ชนิดที่ให้แสงออกเหลืองอ่อน (Warm White) ช่วยทำให้ห้องอบอุ่น โดยปกติห้องนอนจะมีจุดให้แสงสว่างหลักคือ โคมไฟหัวเตียงฝั่งซ้ายขวา เพื่อใช้ทำกิจกรรมเล็กน้อยก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ สำหรับห้องนอนที่มีทีวีอยู่ปลายเตียง ควรติดตั้งดาวน์ไลต์ ขนาด 11 วัตต์ บริเวณปลายเตียงอีก 1 ดวง เพื่อช่วยตัดแสงจากหน้าจอโทรทัศน์

2.ห้องแต่งตัว เป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เนื่องจากมีผลต่อการเลือกสีของเสื้อผ้าหรือการแต่งหน้าของสาวๆ เจ้าของห้อง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นสาวแต่งหน้าเว่อร์ ดูหลอนเป็นที่สุด แต่ก่อนหลอดไฟห้องแต่งตัวนิยมใช้หลอดฮาโลเจน (หลอดไส้) เพราะให้แสงธรรมชาติ 100% แต่ปัจจุบันแนะให้เลือกใช้หลอดประหยัดไฟคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ mini lynx หรือ mini twister ขนาด 7 วัตต์ ซึ่งให้แสงสว่างเทียบเท่ากับหลอดฮาโลเจนขนาด 40-50 วัตต์ และมีค่าความถูกต้องสีของแสงมากกว่า 80% ขึ้นไป อีกทั้งยังกระจายแสงได้มากกว่าหลอดตะเกียบถึง 10%

สำหรับคุณผู้หญิง ที่มีโต๊ะเครื่องแป้ง ควรติดตั้งหลอดไฟคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ไว้ด้านบน และเสริมด้วยหลอดฮาโลเจนไว้ด้านข้างทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้เกิดความสมดุลของแสง กล่าวคือ ถ้าเป็นการแต่งหน้ามาทำงานในเวลากลางวัน การใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลัก จะช่วยให้สีสันบนใบหน้าไม่จัดจ้านเกินไปเมื่อต้องมาเจอแสงไฟในออฟฟิศส่วน ใหญ่ซึ่งเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์เช่นเดียวกัน

ส่วนงานกลางคืนขอให้ใช้ ไฟจากหลอดฮาโลเจนเป็นหลัก เนื่องจากงานกลางคืนส่วนใหญ่จะประดับประดาด้วยหลอดฮาโลเจน การแต่งหน้าโดยใช้แสงจากหลอดฮาโลเจนเหมือนกัน จึงช่วยให้ใบหน้ามีสีสัน ไม่ซีดหรือจางเกินไปเมื่อเจอกับแสงไฟในงาน


3.ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นเป็นมุมโปรดของใครหลายคนในบ้าน ถือเป็นมุมผ่อนคลายที่การให้แสงหรือสีในห้องจะเน้นที่ความรู้สึกสบายตาสบาย ใจ ส่วนห้องรับแขกก็เป็นส่วนต้อนรับของบ้าน แสงควรอบอุ่น การเลือกหลอดไฟสำหรับสองห้องนี้เน้นที่แสงขาวนวลถึงเหลือง ติดหลอดไฟคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ดีที่สุด

สำหรับไฟในห้อง นั่งเล่นหรือห้องรับแขกมีเคล็ดลับการติดตั้ง ควรให้หลอดไฟฉายแสงส่องกระทบกับผนัง ซึ่งช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น หรือจะเพิ่มบรรยากาศให้กับห้องด้วยการติดตั้งโคมไฟแบบอินไดเรกต์ ไลต์ (In direct light) หรือไฟส่องกระทบฝ้า เช่น โคมไฟ Cielo 300 ให้แสงสว่างกระจายขึ้นด้านบน มองแล้วสบายตาสุดๆ เพราะหลอดไฟป้องกันแสงจ้าส่องเข้าตา

4.ห้องทำงาน แสงที่เหมาะควรเป็นแสงขาวนวล สังเกตดูว่าในสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศโรงงานต่างๆ มักใช้หลอดไฟขาวเป็นหลัก สาเหตุก็เพราะต้องการสร้างบรรยากาศการทำงานนั่นเอง หลีกเลี่ยงการใช้แสงสีเหลืองอ่อนเนื่องจากแสงเหลืองเหมาะกับห้องที่ใช้ผ่อน คลายมากกว่า กลัวว่าติดไฟสีเหลืองไว้ในห้องทำงานแล้ว เจ้าของห้องจะไม่ยอมทำงานน่ะสิ ที่เหนือโต๊ะทำงานควรมีการติดตั้งหลอดไฟดาวน์ไลต์ที่ให้แสงสว่างกระจายไป ทั่วห้องได้ รวมทั้งบนโต๊ะทำงานควรมีโคมไฟตั้งโต๊ะ เพื่อให้แสงเพิ่ม และกลบเงาจากดาวน์ไลต์นั่นเอง

5.ห้องครัว ห้อง ครัวไทยแบบแกง-ต้ม-ผัด-ทอด ควรเลือกใช้โคมไฟดาวน์ไลต์แบบมีกระจกปิดเพื่อป้องกันฝุ่น ควัน และความชื้น เช่น โคมไฟ Wall lynx หรือหลอดคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ที่มีค่า IT 44 ขึ้นไป (วิธีเลือกซื้อหลอดไฟชนิดนี้ ให้สังเกตตัวเลขทั้ง 4 ตัว ที่ติดมากับหลอด โดย 4 ตัว แรกหมายถึงค่าป้องกันฝุ่น และ 4 ตัว หลังหมายถึงค่าป้องกันความชื้นและน้ำ)

ห้องครัวหรือห้องประกอบอาหาร นิยมใช้แสงสีขาวนวลถึงเหลือง ติดหลอดไฟเพื่อให้แสงสว่างเป็นจุดๆ ตามที่ต้องการใช้งาน เช่น ติด T5 บนฝ้าเหนือบริเวณเตาแก๊ส เพื่อให้แสงสว่างเวลาประกอบอาหาร อย่าลืมเลือกหลอดแบบมีกระจกครอบ เพราะเวลาเจอเข้ากับควันหรือน้ำในการประกอบอาหาร ความชื้นและคราบเขม่าลอยฟุ้งไปเกาะขั้ว อายุการใช้งานหลอดจะหดลงไม่ถึงครึ่งของอายุการใช้งานจริง

6.ห้องรับประทานอาหาร ห้องแห่งรางวัลของชีวิต-บางคนก็เรียกอย่างนี้ เป็นห้องที่ผู้รู้ด้านจิตวิทยาครอบครัวแนะนำว่า ไม่ควรมีโทรทัศน์อยู่ในห้อง เพราะแทนที่สมาชิกในครอบครัวจะคอนเนกชัน สังสรรค์ปฏิสัมพันธ์กัน ก็กลายเป็นไปจดจ่อกับจอโทรทัศน์แทน นอกจากนี้การรับประทานอาหารหน้าจอแบบกินไปดู (โทรทัศน์) ไป ทุกคราวคำจิตใจไปมุ่งที่โทรทัศน์ กลายเป็นคนอ้วนที่กินอย่างไร้สติ

ควร มีโคมไฟสีออกเหลืองนวล ชนิด Fresco 300, Fresco 400 หรือ T5 แขวนอยู่ตรงกลางโต๊ะอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มแสงสีให้อาหารดูน่ารับประทานมากขึ้น ทั้งนี้ควรเป็นหลอดกลมเนื่องจากกระจายแสงได้ทั่วถึง อาจเพิ่มโคมไฟลอยที่ผนังด้วย เพื่อเพิ่มบรรยากาศความอบอุ่นและทำให้ห้องมีมิติ

7.บริเวณรอบตัวบ้าน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่น้อย ช่วงนี้เศรษฐกิจตกสะเก็ด โจรลักเล็กขโมยน้อย ตัดช่องย่องเบาเพิ่มจำนวนอย่างน่ากลัว รถจอดไว้ในบ้าน พวกยังปีนเข้ามาถอดเอาแบตเตอรี่ไปหน้าตาเฉย ป้องกันได้ด้วยการตามไฟไว้เป็นระยะรอบตัวบ้าน โดยระยะห่างของไฟที่ได้ผลคือ 3-4 เมตร ซึ่งให้แสงทั่วถึง สว่างเพียงพอ









ที่มาของข้อมูล:
//www.nsthai.com/howtobuy_led.htm




 

Create Date : 29 พฤศจิกายน 2553
1 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 12:26:48 น.
Counter : 3749 Pageviews.

 

ถึง เจ้าของร้าน จากโรงแรม อินดิโก้ ภูเก็ต รบกวนติดต่อกลับที่ E-mail : salesco@indigo-pearl.com สนใจจะสั่งซื้อโคมไฟ แต่ไม่มีเวลาสมัครสมาชิก ...ด่วนนะค่ะ

 

โดย: มล IP: 203.113.29.242 23 มีนาคม 2554 16:25:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ปุ๋ยกะแมงปอ
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ปุ๋ยกะแมงปอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.