สร้างครัวในแบบคุณ

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยที่จะสร้างบ้านซักหนึ่งหลัง การวางแปลนการใช้สอยสิ่งของต่างๆ และการดำเนินชีวิตประจำวันที่มีบ่อยๆ ควรจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะระบุ ตำแน่งเครื่องใช้ไม้สอย ให้กับคุณ และสมาชิกในบ้านให้ได้ประโยชน์สูงสุด นั่นคือการวางแผนที่ดี วันนี้ปุ๋ยกะแมงปอ จะมาช่วยหาข้อมูลเรื่อง การวางแปลนครัวนะคะ



พื้นห้องครัวทำความสะอาดง่าย

ห้องครัวเป็นอีกห้องที่สำคัญที่สุดในบ้าน เพราะห้องครัวเป็นห้องที่ใช้ทำอาหาร และนั่งรับประทานอาหารด้วยกันทั้งครอบครัว ดังนั้นการดูแลให้ห้องครัวสะอาดอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ พื้นห้องครัวเป็นพื้นที่ๆ มีโอกาสเปรอะเปื้อนได้มากกว่า พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ดังนั้นการเลือกพื้นห้องครัวด้วย กระเบื้องที่จะนำมาปูพื้นควรพิจารณาถึงวัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่าย สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกวัสดุปูพื้น คือ

- พื้นจะต้องไม่ลื่นเวลาเปียกน้ำหรือมีคราบน้ำมัน
- ทนทานต่อแรงกระแทก และรอยขูดขีด
- ง่ายต่อการทำความสะอาด
- มีสีเข้มเพื่อการอำพรางสิ่งสกปรกที่จะเกิดขึ้น

โดยที่วัสดุที่นิยมมีดังนี้ เช่น

1. เป็นวัสดุสังเคราะห์ ที่ผลิตมาจากไวนิล ยาง โพลียูรีเทน ซึ่งทนทานความชื้น มีความยืดหยุ่นตัวสูง ติดตั้งง่าย และไม่ต้องบำรุงรักษา
2. กระเบื้องหรือเซรามิก เป็นวัสดุที่ทนทานไม่ดูดซึมน้ำ เย็น แต่ค่อนข้างลื่น ดูแลรักษาง่ายยกเว้นชนิดที่ไม่ เคลือบ ซึ่งเหมาะสำหรับทำทางเดินมากกว่าเนื่องจากให้ความเป็นธรรมชาคิและไม่ลื่น
3. ไม้ในการใช้งานที่ห้องครัวควรเคลือบสารกันน้ำและทำให้แข็งขึ้นด้วยยูรีเทน
4. หินธรรมชาติ เหมาะที่จะใช้ปูพื้นเนื่องจากไม่มีร่องสะสมความสกปรก แต่จะมีความลื่นสูง ทำความสะอาด


Kitchen Plan Atep by Step สร้างครัวในแบบคุณ



การเริ่มต้นวางแผนทำห้องครัวนั้นมีหลักใหญ่ใจความสำคัญไม่แพ้กับการวางแผนสร้างบ้านสักหลัง เพราะการเริ่มต้นที่ดีย่อมนำมาซึ่งความสมบูรณ์แบบ ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าไอเดียที่จะช่วยให้คุณได้ห้องครัวที่ถูกใจ และคุ้มค่าการใช้งานนั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากตัวผู้ใช้งานเอง แต่ถ้าหากยังเฟ้นไอเดียในตัวคุณไม่ออก Kitchen Series ฉบับนี้ มีแนวคิดง่ายๆ ในการก่อร่างสร้างครัวมาฝากค่ะ



การทำครัวและเลือกชุดครัวควรเริ่มต้นศึกษาข้อมูลจาก
การหาข้อมูลสำหรับการทำห้องครัวนั้นควรแบ่งการหาข้อมูลออกเป็นสองประเภท

• ประเภทที่ 1 การหาข้อมูลจากตัวผู้ใช้

o การทำอาหารของเรานั้นเป็นอย่างไร ทำอาหารมากไหม บ่อยแค่ไหน ทำอาหารประเภทไหนบ้าง เช่น หุง อุ่น ตุ๋น ต้ม นึ่ง ทั้งนี้เพื่อเลือกภาชนะและเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งการเลือกประเภทของตู้เก็บของให้เหมาะกับการประกอบอาหาร

o ผู้ที่ใช้งานส่วนใหญ่เป็นใคร ตัวเราเองหรือแม่บ้าน ความสูงเฉลี่ยของผู้ใช้งานอยู่ที่เท่าไร ถนัดมือข้างไหน (ซ้ายหรือขวา) จุดนี้ไม่ควรมองข้าม เพราะการใช้งานภายในครัวต้องคำนึงถึงสรีระร่างกายของเราด้วย

o การออกแบบตกแต่งบ้านโดยรวมๆ เป็นแบบใด โทนสีอะไร เพื่อเลือกชุดครัวให้เข้ากับบ้านได้ง่ายขึ้น

o งบประมาณ ที่จะใช้กับห้องครัวมีเท่าไร

o ความต้องการพิเศษอื่นๆ เช่น การซื้อของใช้เข้าบ้านเป็นอย่างไร บ่อยแค่ไหน ซื้อครั้งละมากๆ หรือเปล่า

• ประเภทที่ 2 การหาข้อมูลจากภายนอก อย่างเช่น หาข้อมูลจากหนังสือ นิตยสาร เว็บไซต์ ที่มีความ

เกี่ยวข้องกับห้องครัว หรือแม้กระทั่งสอบถามจากผู้ที่เคยซื้อและใช้งาน เพื่อหาความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้กับห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสไตล์การตกแต่งควรเป็นอย่างไร ครัวแบบไหนที่เหมาะสมกับบ้าน (ครัวไม้หรือครัวปูน) วัสดุที่ใช้ควรเลือกแบบใดจึงจะเหมาะกับครัวของเรา เนื่องจากความต้องการในการใช้งานของแต่ละครอบครัวมีความแตกต่างกัน

ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เหล่านี้สามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับดีไซเนอร์ได้ โดยนำความต้องการของเราไปประกอบกับการออกแบบห้องครัว เพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริงนั่นเอง

2. สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงองค์ประกอบหลักๆ ที่จำเป็นต้องมี

ต้องเลือกดูว่าสินค้าในแต่ละประเภทนั้นเหมาะสมตามความต้องการในการใช้งานหรือเปล่า อย่างเช่น ในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ ถ้าต้องการห้องครัวที่เป็นทั้งครัวโชว์ให้ความรู้สึกอบอุ่น สวยงาม ขณะเดียวกันก็สามารถใช้งานได้ด้วยก็ควรเลือกครัวไม้ แต่หากต้องการห้องครัวที่ใช้งานได้ทนทานแข็งแรง การเลือกใช้ครัวปูนก็มีความเหมาะสม ตอบโจทย์การใช้งานได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของแต่ละบุคคลด้วย

ส่วนเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า ก่อนอื่นต้องดูลักษณะในการทำอาหารของเราว่าเหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไหน เช่น อาหารที่ทำใช้เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าเหมาะสมกว่ากัน อาหารที่ใช้กับไมโครเวฟส่วนใหญ่มีขนาดเท่าไร เพราะมีผลกับขนาดความจุของเตาไมโครเวฟ และใช้เตาอบในการทำอาหารบ้างหรือไม่
เรื่องสุดท้ายของตกแต่งภายในนั้น นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องประโยชน์การใช้สอยที่เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงรูปแบบและสไตล์ ซึ่งบางครั้งอาจรวมถึงวัสดุที่ทำด้วย เพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องครัวและการตกแต่งโดยรวมของบ้านด้วยเช่นกัน

3. ควรวางตำแหน่งชุดครัวและห้องครัวอย่างไรให้มีความเหมาะสมและถูกต้อง

การวางตำแหน่งของโซนต่างๆ ในครัวตามหลัก Dynamic Space แบ่งได้เป็น 5 โซน ได้แก่


โซนเก็บอาหารแห้ง เช่น ตู้เย็น อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ข้าวสาร


โซนเก็บภาชนะ เช่น จาน ชาม แก้ว ช้อนส้อม กล่องพลาสติกต่างๆ


โซนทำความสะอาด เช่น ซิงก์ล้างจาน ถังขยะ อุปกรณ์ทำความสะอาด ถุงพลาสติก เครื่องล้างจาน


โซนเตรียมอาหาร อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ เช่น มีด เขียง เครื่องเทศ


โซนปรุงอาหาร เช่น เตาไฟ เครื่องดูดควัน ไมโครเวฟ หม้อ กระทะ เตาอบ

ลักษณะการจัดวางโซนการใช้งานตามหลัก Dynamic Space ตามแปลนห้องครัวในแบบต่างๆ








การวางแปลนในห้องครัวเป็นรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล หรือแม้แต่ลักษณะการทำ
อาหาร การจับจ่ายซื้อของ การจัดเก็บ รวมถึงขนาดพื้นที่สำหรับทำห้องครัวนั้นๆ



4. การเลือกตำแหน่งของห้องครัวภายในบ้านควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
การเลือกตำแหน่งของห้องครัวนั้นควรคำนึงถึงการถ่ายเทอากาศที่เหมาะสม แสงแดดส่องถึง ไม่อยู่ในที่อับชื้นจนเกินไป ควรวางห้องครัวไว้ทางทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่แสงแดดส่องถึง และมีการถ่ายเทอากาศได้ดีตามลักษณะของภูมิศาสตร์ประเทศไทย ส่วนเรื่องการวางห้องครัวไว้ชั้นใดของบ้านนั้นไม่ได้มีข้อจำกัดใดๆ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้มากกว่าว่าสามารถทำงานได้สะดวกเพียงใด

5. ข้อแตกต่างระหว่างครัวขนาดเล็กและครัวขนาดใหญ่
ห้องครัวไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือเล็ก ล้วนมีขั้นตอนในการสร้างที่เหมือนกัน โดยเริ่มจากการออกแบบ การผลิต และการติดตั้ง ซึ่งระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนพอจะสรุปได้ดังนี้

ช่วงเวลาการออกแบบ
เวลาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบมากน้อยเพียงใด ถ้าให้รายละเอียดมากก็จะทำให้ดีไซเนอร์ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของเราได้มากเท่านั้น ระยะเวลาในส่วนนี้ก็จะสั้นและรวดเร็วขึ้น ในทางกลับกัน หากให้รายละเอียดน้อย ระยะเวลาในส่วนนี้ก็จะนานขึ้น มีการแก้แบบมากครั้งขึ้น โดยส่วนใหญ่บริษัทที่รับทำชุดครัวมักจะมีบริการออกแบบไว้คอยให้บริการอยู่แล้ว ถ้าเราเตรียมและให้รายละเอียดได้ครบถ้วน เช่น ทราบความต้องการเบื้องต้นในการใช้ครัวของตนเอง มีขนาดพื้นที่ของห้องครัวที่แน่นอน ใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน อย่างในโชว์รูมบางแห่งก็สามารถออกแบบให้ได้ทันทีโดยไม่เสียเวลารอ

เรื่องระยะเวลาในการผลิตชุดครัวของแต่ละบริษัทนั้นขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายของรูปแบบและวัสดุที่นำมาใช้ทำหน้าบานในรุ่นนั้นๆ โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ประมาณ 30-45 วัน สำหรับขั้นตอนการผลิตจากโรงงาน

ส่วนเรื่องงานติดตั้งนั้นควรเตรียมหน้างานให้พร้อมและถูกต้องตามรายละเอียดที่ดีไซเนอร์หรือหัวหน้างานได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งท่อน้ำดี น้ำทิ้ง ตำแหน่งไฟฟ้าต่างๆ (สำหรับหัวเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เครื่องล้างจาน หรือปลั๊กอเนกประสงค์) ถ้าหน้างานพร้อมและตรงตามที่ระบุก็ใช้เวลาในการติดตั้งเพียง 1-3 วัน แต่ในกรณีที่เป็นครัวไม้อยู่ที่ 3-7 วัน ส่วนการทำครัวปูน หากมีขนาดพื้นที่ในห้องครัวใหญ่ย่อมใช้เวลานานกว่าครัวที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากจำนวนตู้ที่นำมาติดตั้งต่อห้องมากกว่า จำนวนกระเบื้องที่ใช้ปูก็เยอะกว่า เวลาย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนข้อดีของห้องครัวขนาดใหญ่อยู่ที่การมีพื้นที่ในการทำงานหรือการเก็บของที่มากกว่า ส่วนข้อเสียของครัวที่มีพื้นที่ใหญ่ก็คือเรื่องงบประมาณนั่นเอง ครัวที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ย่อมใช้งบประมาณที่มากกว่าด้วย

6. กำหนดงบประมาณอย่างไรในการเริ่มทำครัว
การกำหนดงบประมาณในการทำห้องครัวนั้นก็คล้ายกับการทำห้องอื่นๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำ คือ ต้องกำหนดงบประมาณโดยรวมของบ้านไว้ก่อน แล้วค่อยๆ แบ่งงบตามสัดส่วนพื้นที่และความเหมาะสมของบ้าน อาจจะกำหนดคร่าวๆ จากการนำราคาโดยประมาณต่อเมตรของชุดครัวรุ่นที่คุณสนใจในแบรนด์นั้นๆ มาลองคำนวณกับพื้นที่จริงของบ้านดู แล้วจึงกำหนดงบประมาณจากตรงนั้นว่าราคาที่คำนวณออกมานั้นมากหรือน้อยเกินไปกับงบประมาณในการตกแต่ง


ส่วนท่านที่ต้องการหาความรู้เรื่องครัวไทย และ แต่งครัวใหม่เชิญอ่านทางนี้คะ

ปัญหาของการออกแบบต่อเติม ทาวน์เฮาส์ ก็คือ ช่องทางระบายอากาศ
หากเราต่อเติมเต็มพื้นที่จะทำให้เกิดปัญหาอับทึบ อากาศไม่ทะลุผ่านได้
ทำให้บ้านไม่น่าอยู่

อีกทั้งเราไม่สามารถจะคาดเดา ได้ว่าเพื่อนบ้านจะต่อเติม เช่นไร
หากเค้าต่อเติมเต็มพื้นที่ และเราต่อเติมเต็มพื้นที่ไม่เหลือช่องว่าง
อาจเกิดปัญหาได้ เช่น

1.ตัวบ้านจะอับทึบ เนื่องจากด้านหลังบ้านตัน ลมไม่สามารถพัดผ่านได้

2.แนวรั้วกั้นระหว่างบ้านเรากับเพื่อนบ้าน ไม่มีช่องให้น้ำฝนระบายออก
อาจทำให้เกิดน้ำขัง และรั่วซึมเข้ามาตามแนวรอยต่อของผนังได้

3.อื่นๆ อีกหลายเรื่อง

เพราะฉะนั้น วิธีที่ดี คือ ต่อเติมในพื้นที่เราแต่พองาม ให้เหลือพื้นที่โล่งไว้บ้าง เพื่อให้กระแสอากาศได้ไหลหมุนเวียนเข้าภายในบ้านได้



ตัวอย่าง ครับ คือ กั้นครัวไทย เล็กๆ มี เตาแก๊ส อ่างล้างจาน และที่วางเครื่องซักผ้า ใช้พื้นที่ประมาณ ครึ่งนึงของหน้ากว้างบ้าน
ส่วนความลึกก็ประมาณ 2.00เมตร ตามภาพ
จัดที่วางถังเก็บน้ำไว้อีกด้าน และจัดสวนเล็กๆช่วยบังถังเก็บน้ำ

ส่วนที่เหลือ ก็ไว้สำหรับตั้งเก้าอี้สนามแบบพับได้ สำหรับมานั่งทำงานรับลม ชมสวนหลังบ้าน

อนาคต หากเพื่อนบ้านเราต่อเติมอะไรไม่สวยงามขึ้นมา ค่อยทำแผงระแนงไม้บังเพื่อความเป็นส่วนตัว ทีหลัง




การแต่งครัวเก่าให้ใหม่คะ
สร้างลวดลายใหม่ให้กับห้องเดิมๆ



ตกแต่งห้องเดิมๆ ให้ใหม่สวยและสวยเก๋ด้วย 6 วิธีต่อไปนี้จะทำให้ห้องคุณมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

1. รวมงานไม้ธรรมดาเข้ากับกระเบื้องโมเสกอันหรูหรา ด้วยการทำผนังกรุไม้อัดเว้นร่องตามแนวนอนกว้าง 1 นิ้ว แล้วกรุกระเบื้องโมเสกแก้วที่มีผิวแวววาวให้ตัดกับสีของไม้ จะทำให้ผนังสวยเด่นขึ้นมาทันที

2. ตกแต่งผนังด้วยโคมไฟที่เป็นโครงถักจะทำให้แสงเงา สร้างลวดลายสวยงามโดดเด่นขึ้นมา เวลาเปิดไฟจะเกิดแสงสีและเงาที่สวยงามตกทอดบนผนัง

3. ปูกระเบื้องหรือแผ่นหินสลับกับซีเมนต์ขัดมันในห้องน้ำ วางแบบให้มุมกระเบื้องต่อกันทุกแผ่น หรือจะก่อผนังหนาสองชั้นแล้วลดระยะเข้าไปประมาณ 10 เซนติเมตร โดยทำขอบเป็นลวดลายโค้ง ก็จะได้ลวดลายง่ายๆที่ทำให้ดูเก๋ไม่เหมือนใคร

4. ทำประตูบานเปิดกระจกใสสูงถึงฝ้าเพดาน แล้วติดสติ๊กเกอร์ลวดลายสีแดงทั้งบาน แค่นี้ก็จะได้ผนังกั้นห้องแบบมีสไตล์ แถมยังช่วยพรางตาและเพิ่มสีสันให้ห้องเรียบๆดูสดใสขึ้น

5. แต่งบานตู้ built-in ให้ดูต่อเนื่องกัน ด้วยการฝังเส้นสเตนเลสเป็นแนวยาวต่อกัน เวลาปิดตู้ก็จะดูเหมือนผนังผืนเดียว หรือจะลองกรุลายไม้ไขว้สลับแนวตั้งแนวนอน ก็ได้

6. ตกแต่งฝ้าเพดาน ด้วยกระจกลามิเนตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.80 เมตร ให้ต่ำลงมา 40 เซนติเมตร พร้อมติดสติ๊กเกอร์ลวดลายกึ่งโปร่งใส ทำให้แสงที่ส่องผ่านลงมาดูมีสีสันขึ้น




แหล่งข้อมูล
//www.atkitchen.com
//ออกแบบบ้าน.net
//www.prakard.com

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2553		0 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 12:17:30 น.
Counter : 6674 Pageviews.
Share Tweet