ทำทุกวันให้มีค่าแล้วชีวิตจะมีแต่ได้กับเสมอตัว~ (・Ω・)ノ(ノω-ヾ) (ゝω´・)b U,,・ω・) ( 'Θ')
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

ศีล สมาธิ ปัญญา

หลังจากที่ได้อ่านนิยายเกี่ยวกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและดูละครกาษานาคาแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกอยากขีดๆเขียนๆถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตัวเองออกมาเป็นบทความบ้างค่ะ

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนยอมรับว่าไม่เคยเชื่อเรื่องศาสนาเลยตั้งแต่เด็ก ถึงจะเข้าวัดทำบุญบ้าง แต่ไม่เคยตั้งจิตทำสมาธิสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลเลย เพราะไม่เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้จะมีอยู่จริง อาจจะเพราะเป็นคนที่เชื่อแต่เรื่องที่มองเห็นได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้ผู้เขียนตระหนักได้ว่า เรื่องบางเรื่อง คนเรามองเห็นไม่ได้ แต่เราสัมผัสได้ ขึ้นอยู่กับศรัทธาและจิตว่ามั่นคงมากน้อยแค่ไหน

ประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้สัมผัสมาทำให้เริ่มเชื่อในอานิสงส์ของการสวดมนต์ปฏิบัติธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่งมงาย แต่เป็นการปฏิบัติธรรมและดำเนินชีวิตในกรอบศีลธรรมที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น

ยิ่งได้อ่านนิยายและดูละคร บางคนอาจมองว่าเป็นแค่สิ่งที่แต่งขึ้นมา แต่ถ้าหากว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงเสียแล้ว แล้วทำไมผู้ที่เขียนเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาจึงมีความคิดเชื่อในเรื่องเวรกรรมและการทำบาปบุญคุณโทษได้
ยิ่งเมื่อผู้เขียนได้ศึกษาทางด้านปรัชญาและวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็ยิ่งเห็นว่าพระพุทธศาสนาผสมผสานทั้งความเป็นศาสตร์และศิลป์ไว้ได้อย่างคมคาย แม้แต่ไอสไตน์เอง ในระยะสุดท้ายของชีวิตก็ถึงกับอุทิศให้กับการเข้าถึงพระพุทธศาสนาด้วยตัวเองทีเดียว ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนน้อยทราบเท่านั้น

อันที่จริง ผู้เขียนไม่ต้องการถูกมองว่างมงาย หรือกู่ไม่กลับ
แต่การสวดมนต์ทำสมาธิส่งผลต่อจิตใจ ไม่ใช่สิ สำหรับตัวผู้เขียนเองขอใช้คำว่าส่งผลต่อการควบคุมจิตใจจะเหมาะสมกว่า

การได้ปฏิบัติธรรมทำให้จิตใจสงบและเย็นลง จากที่ทุกข์ก็เริ่มมองเห็นทางสว่าง มองเห็นแนวทางการแก้ปัญหา และที่สำคัญคือทำให้ตัวผู้ปฏิบัติธรรมเองรู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมสิ่งที่สามารถควบคุมได้อย่างมีสติ

สิ่งนี้ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญานั่นเอง

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนขอยอมรับอีกเรื่องว่าไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับการรักษาศีลเท่าใดนัก แ ต่เมื่อได้ลองพิจารณาดูแล้วก็เห็นว่าการรักษาศีลเป็นการละทิ้งสิ่งที่ก่อให้เกิดกิเลส อันทำให้จิตใจไม่สงบ ไม่จิตใจไม่สงบเสียแล้ว การทำสมาธิก็เกิดขึ้นไม่ได้ แล้วเมื่อไม่มีสมาธิ ก็ไม่เกิดปัญญา คือมองไม่เห็นทางสว่าง จิตใจที่เร่าร้อนก็วิ่งวนเวียนอยู่ในความมืดมน มองไม่เห็นทางออก เพราะจิตใจยังโดนกิเลสครอบงำ
อีกนัยหนึ่งก็คือ หากจิตตั้งอยู่นิ่งๆ จะมีสภาพเป็นกลาง แต่กิเลสทำให้การควบคุมจิตให้เป็นกลางเกิดขึ้นไม่ได้ กล่าวคือกิเลสเป็นตัวปรุงแต่งให้จิตเกิดความฟุ้งซ่านนั่นเอง




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
3 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 3:20:36 น.
Counter : 436 Pageviews.

 

ถ้าเป็นศรัทธา ไม่ใช่งมงาย ก็ไม่เป็นอะไรหรอก...
ส่วนตัวเราไม่เชื่อเรื่องศาสนา บุญ บาป เหมือนกันนะ
(โดยเฉพาะ motto ประเภท "ทำดีถวาย xxx" หรือ "บวชให้พ่อให้แม่" มันดูล่องลอยยังไงชอบกล)

แต่ถ้าทำสมาธิแล้วส่งผลดีต่อการควบคุมจิตใจจริง ก็ดีแล้ว.. และที่ดีที่สุดคือ เพียงค้นพบสิ่งนี้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ออกมาชื่นชมความดีโดยที่ยังไม่เคยสัมผัส ตรงนี้แหละที่น่าชื่นชม โฮ่ๆๆ

แต่เรื่อง Einstein มีคนแย้งว่าไม่จริงนะ.. อันนี้เราก็ไม่รู้ว่ะ

 

โดย: nanoguy 6 พฤศจิกายน 2550 1:14:29 น.  

 

ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ
ตถาคตตรัสถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และ ความดับแห่งธรรมเหล่านั้น

 

โดย: moonfleet 28 เมษายน 2551 19:22:16 น.  

 

ความแตกต่างระหว่าง วีรบุรุษ/วีรสตรี และ มหาโจร คือ

ทั้งวีรบุรุษ และ จอมโจร มี 2 อย่างเหมือนกันคือ
1. ความรู้ความสามารถ สูง
2. ความพยายาม หรือ ความอึด (EQ) อย่างเหลือเชื่อ

แต่ ที่แตกต่างกันคือง

วีรบุรุษ มีความคิดเป็น บวก หรือ เจริญในกุศลกรรม เป็นปากทางแห่งความเจริญ

ส่วน

จอมโจร หรือ อาชญากร มีความคิดเป็น ลบ หรือ เจริญในอกุศลกรรม เป็นปากทางแห่งความเสื่อม

ดังนั้น
ศีล สมาธิ ปัญญา เป็น เบื้องต้น ท่ามกลาง และ เบื้องปลาย ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

สำหรับเรื่องจิต
ปกติ จิตของมนุษย์เราเป็นประภัสสร คือ สว่าง
แต่ กิเลสทำให้มืดมัวไป เราจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามขจัดกิเลสเพื่อให้จิตของเราผ่องใส

ธรรมชาติของจิต จะทำดีทำชั่วพร้อมกันไม่ได้ ดังนั้น เราจึงควรบำเพ็ญ ทาน รักษาศีล และ เจริญภาวนาด้วยการนั่งสมาธิ

สำหรับเรื่องนรกสวรรค์นั้น จะเชื่อตอนเป็นหรือจะเห็นตอนตายก็แล้วแต่
สำหรับผู้มีปัญญา เขาจะพิจารณาดังนี้
ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา เพื่อขจัดกิเลส
1. ถ้าชาติหน้าไม่มีจริง ก็เจ๊า
2. ถ้าชาติหน้ามีจริง จิตก็ไปสู่ สุคติภูมิ

สำหรับผู้ไม่มีปัญญา และ ไม่ทำบุญ ทำทาน รักษาศีล แต่กลับทำตรงข้าม
1. ถ้าชาติหน้าไม่มีจริง ก็เจ๊า
2. ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็ เจ๊ง ดวงจิตก็ไปสู่อบายภูมิ

เหมือนโลกปัจจุบันนี้ มีเด็กมากมาย ที่พ่อแม่สั่งสอนว่า ลุกเอ๋ย จงหมั่นเล่าเรียนเขียนอ่านเถิดนะ โตขึ้นมา มีความรู้มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์นับไม่ถ้วน
เด็กหลายคนก็มีปัญญาที่จะเข้าใจ
เด็กหลายคนก็ไม่มีปัญญาที่จะเข้าใจ

ปกติก็ไม่ค่อย Comment ยาวๆนะ

 

โดย: moonfleet 29 เมษายน 2551 15:54:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


PPpIRCU
Location :
LonDoN~ United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




LSEist '11

( ^^)爻(^^ )

~ขอสงวนลิขสิทธิ์ในภาพถ่ายและบทความทุกชิ้น~
Piang Phanprasit

Créez votre badge
Photobucket

Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
Friends' blogs
[Add PPpIRCU's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.