Bloggang.com : weblog for you and your gang
บล็อกนิยายหวานสดใสของพิมพ์นรายินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ^^
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
๑๒.
พระจันทร์เสี้ยวหม่นแสง ทว่าดวงดาวลอยเด่นจรัส ทอประกายสะท้อนกับจุดสีขาวพราวไปทั่ว พิมลมาสรู้ดีว่า จุดสีขาวพร่างพราวบนต้นไม้คืออะไร
หญิงสาวจรดปลายเท้า ค่อยๆก้าวลงจากเรือน เหลียวซ้ายเเลขวาไม่เห็นใครก็รีบก้าวลงบันไดไม้เนื้อหยาบ เท้าเปล่าเปลือยทําเอาหญิงสาวสะดุ้งโหยงยามเมื่อสัมผัสกับพื้นหญ้าสากระคายเย็นชื่น
คนที่นี่ไม่ใส่รองเท้ากัน ไปไหนมาไหนก็เดินเท้าเปล่า พิมลมาสต้องลำบากมาก กว่าจะค่อยๆเดินไปยังจุดหมายที่ต้องการได้
ริมท่าน้ำตอนนี้ต้นปีบกำลังผลิดอกเป็นสีขาวพราวไปทั่ว กระทั่งบนพื้นหญ้าและเนินดินรอบๆ ก็ยังขาวพร่างพราวกรุ่นไปด้วยกลื่นหอมหวานเยือกเย็นแสนสดชื่น
หญิงสาวก้มลงเก็บเจ้าดอกไม้หลอดเล็กๆ นำมารวมกันไว้ในอุ้งมือ ชอบความน่ารักและกลิ่นหอมเย็นของมันมาตั้งแต่เด็กๆ ที่บ้านเธอก็ปลูกต้นปีบเอาไว้หลายต้น ปีบคงเป็นดอกไม้ที่ธรรมชาติมอบให้มวลมนุษย์ได้ชื่นฉ่ำหัวใจในช่วงที่อ่อนล้า
เธอจดจ่ออยู่กับการก้มลงเก็บดอกไม้ที่เกลื่อนพราวอยู่บนพื้นหญ้านุ่ม ทว่าเมื่อรู้สึกตัวอีกที ใบหน้างามก็ต้องฉงน เพราะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่
ท่าน้ำไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่ มีชายหญิงคู่หนึ่ง แต่งตัวด้วยผ้าแพรพรรณชั้นดี ทั้งคู่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ที่ท่าน้ำ
ทำไมเมื่อกี้เธอไม่เห็นสองคนนี้มาก่อนเลยละ
พิมลมาสเดินเข้าไปใกล้หนุ่มสาวที่ท่าน้ำอย่างสนใจ รู้สึกคุ้นตากับคนทั้งคู่ราวกับรู้จักมาเนิ่นนาน จนอดไม่ได้จะเข้าไปทัก
คุณคะ คุณ เอ๊ะ!
คนสองคนนั้นมิได้หันมาทางเธอ แต่แสงนวลเรื่อจากแสงดาวดารดาษเต็มฟ้า พอให้พิมลมาสได้แลเห็นอะไรหลายอย่าง รวมทั้งเสี้ยวหน้าของชายหญิงทั้งคู่ด้วย
ผู้หญิงคนนั้นเหมือนเธอ และผู้ชายคนนั้นก็เหมือนกับ...
นี่มันอะไรกัน!
เจ้าเรียกใครอยู่รึ
เสียงทุ้มเอ่ยทักขึ้นท่ามกลางความเงียบของบรรยากาศ มีเพียงหริ่งหรีดเรไรกรีดสรรพสำเนียงขับขานเป็นเพื่อน พิมลมาสหันขวับมามองเจ้าของเสียงทักด้วยท่าทางตระหนก คาดไม่ถึง
พี่พันภพ... เธอครางชื่อเขา ก่อนจะรู้สึกได้ ว่าไม่เหมาะสม เขาอาจจะโกรธที่เธอดันไปเรียกชื่อเขาเต็มยศ แทนจะเรียกแบบคนอื่น เอ่อ...ขอโทษค่ะ เจ้าพันภพ
เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าเอ่ยทักใครที่ท่าน้ำ นัดกับใครเอาไว้รึ ชายหนุ่มไม่สนใจสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขา ออกจะชอบที่เธอเรียกเขาแบบตอนแรกมากกว่า
เปล่าค่ะ มาสไม่ได้นัดใครไว้
ไม่จริงหรอก ข้าเห็นว่าเจ้าทักใครบางคน ตาคมเหลือบมองไปที่ท่าน้ำ บัดนี้ทุกอย่างนิ่งสนิท สายน้ำยังคงไหลเรื่อยเป็นปกติทุกอย่าง
มาสตาฝาดน่ะค่ะ คือ...เมื่อครู่มาสเห็นมีคนนั่งอยู่ที่ท่าน้ำ ก็เลยเรียกไป แต่ตอนนี้ ไม่เห็นแล้วค่ะ เธออธิบายเสียงอ่อย กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ตอนนี้ท่าน้ำไม่มีใครเลย แต่เธอมั่นใจว่าเมื่อครู่ไม่ใช่ตาฝาดไปเองแน่ๆ
เธอเห็นชัดเจนแจ่มแจ๋ว ผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนเธอและผู้ชายคนนั้นก็หน้าเหมือนกับ...
พิมลมาสเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวโต และพันภพเองก็ชะงักงัน จ้องมองเธอมาดุจเดียวกัน
ดวงตาคมกริบแข็งกร้าวของพันภพดุจดั่งห้วงมหรรณพอันกว้างใหญ่ หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเธอกำลังถูกดูดกลืนเข้าไปหาเขา ความรู้สึกนั้นรุนแรงจนเธอต้องรีบถอนสายตา เมินหนี
ลุงโกษาบอกมาส...เอ่อ บอกข้าว่า เจ้าพันเป็นผู้ช่วยชีวิตข้าขึ้นจากแม่น้ำเมื่อยามเย็น ข้าขอบพระคุณท่านนัก หากไม่ได้เจ้าพันเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือ ข้าคงตายไปแล้ว เธอรวบรวมกำลังใจ กล่าวกับเขาด้วยความซาบซึ้ง อดร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้าไม่ได้ กับสายตาคมดุที่จ้องนิ่งแน่วตรงมา
รู้สึกเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ละสายตาไปไหนนอกจากใบหน้าของเธอเลย บ้าแล้ว ทำไมคิดอะไรอย่างนี้นะยายมาส!
ท่านโกษาบอกว่า เจ้าถูกไอ้เดชมันตามเล่นงาน ข้าเข้าใจว่าเจ้าอยู่ในภาวะคับขัน แต่หาจำต้องเสี่ยงชีวิตหนีลงไปในน้ำเชี่ยวกรากเช่นนั้นไม่ รู้หรือไม่ มีชีวิตสังเวยให้ลำน้ำยมมาแล้วมากมายเพียงใด มิใช่เรื่องล้อเล่นหรอกนะแม่จันทร์ เขาเอ็ดเสียงขรึม สั่งสอน
ขอโทษค่ะ...ตอนนั้นข้าคิดอะไรไม่ออก ข้าเองก็ไม่ได้อยากตายหรอกนะคะพี่พัน อุ้ย เจ้าพัน
พิมลมาสต้องรีบยกมือปิดปากตัวเอง เธอเรียกเขาตามความเคยชินอีกแล้ว คิดว่าพันภพต้องไม่พอใจมากแน่ๆ แต่เขาก็ยังคงยินนิ่งเฉย ส่งตาดุขรึมมองมาไม่เปลี่ยน
ขนาดขรึม ดุ กระด้างอย่างนี้ พี่พันภพยังหล่อเหลาคมเข้ม ครั้งนี้เธอเห็นเขาชัดเจน สามารถพูดคุยกับเขาได้เหมือนคนปกติทั่วไป คงไม่มีสิ่งใดที่น่ายินดีสำหรับพิมลมาสเท่านี้อีกแล้ว
เธออยากถามเขานัก พี่พันจำมาสได้ไหม พี่พันคิดถึงมาส เหมือนที่มาสคิดถึงพี่เสมอมาหรือเปล่า
เจ้าหาใช่คนที่นี่ไม่...เจ้ามาจากที่ใดกันรึ ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงแผ่ว ตาคมกริบอ่อนแสงและหรี่ลง เฝ้ามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา ว้าวุ่น
เขาเคยเห็นนาง นับจากวัยเยาว์จนเติบโตเป็นหญิงสาวโฉมงาม เป็นสตรีเดียวที่ติดอยู่ในความฝันและความทรงจำของเขาทุกเมื่อเชื่อวัน ทว่าใครเลยจะเชื่อ บัดนี้สตรีที่เคยอยู่ในฝันของเขาเสมอ กลับมายืนอยู่ต่อหน้ามีเลือดเนื้อ ชีวิต เหมือนเช่นเขาและทุกคนที่นี่ทุกประการ
มาส...
จู่ๆ เขาก็เรียกชื่อเล่นเธอเสียงแผ่ว พิมลมาสตาโต ตื่นเต้น หัวใจไหวระทึก
"คะ เจ้าพัน"
"เจ้า...เป็นคนเดียวกับที่เข้ามาวนเวียนอยู่ในความทรงจำของข้าเสมอมาใช่หรือไม่ เจ้าใช้เวทมนตร์อันใดเล่นงานข้าอย่างนั้นรึ"
"เอ๊ะ หมายความว่า...ที่ผ่านมา พี่พันเองก็ฝันเห็นมาสเหมือนกันหรือคะ" เธอมองเขาตาโต ตื่นเต้น ไม่อยากเชื่อ
"ข้าเห็นเจ้า..."
เขาพูดแล้วก็หยุดมองหน้าเธอนิ่งอึ้ง พิมลมาสก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว เธอเพียงอยากมองหน้าเขาให้ชัด แต่ไม่นึกว่าคนตัวโตจะผวา ถอยหลังหนีเธอไปสองสามก้าวทำเอาหญิงสาวชะงักกึก ผิดหวังวูบ
พี่พันรังเกียจเธองั้นหรือ
"เอ่อ...ขอโทษค่ะ" เธอถอยหลังออกห่างจากเขาเช่นกัน คิดว่าพันภพอาจเอ็ดอึงเธอตามมาแต่ก็ผิดคาด เพราะอีกฝ่ายกลับก้าวตามมาแทน พิมลมาสตกใจ คิดว่าเขาจะตามมาลงไม้ลงมือ ค่าที่เธอบังอาจจะเข้าไปหาเขา เธอหลับตาปี๋เตรียมรอรับชะตากรรม แต่เสียงทุ้มกลับดังอยู่ใกล้จนเธอรู้สึกได้ถึงกระไออุ่นจากร่างสูงตระหง่านของเขา
"เจ้าขออภัยข้ารึ"
"ค่ะ ข้าขออภัยที่เดินเข้าไปใกล้เจ้าพัน...ข้าทําตัวไม่ดี ไม่มีมารยาท...เอ๊ะ"
หญิงสาวสะดุ้งโหยงหน้าตาตื่น เพราะแทนที่เขาจะลงไม้ลงมือทำร้ายอย่างที่เธอเข้าใจ อีกฝ่ายกลับคว้ามือเธอข้างหนึ่งเข้าไปกำไว้แน่น
พิมลมาสงงกับท่าทางของเขา ขณะที่กำลังกะพริบตาปริบๆได้แต่มึนงง ทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น คนตัวโตก็เอ่ยพึมพำออกมาเบาๆ
มือเจ้าอุ่นนัก ดูเยี่ยงไรก็เป็นคนเหมือนข้าเป็นแน่แท้
มาสก็เป็นคนอยู่แล้ว พี่พันลงไปช่วยมาสขึ้นมาเองนี่ค่ะ ถ้าพี่พันไม่ช่วยสิ มาสก็คงตายไปแล้วละ เธอบอกเขา แล้วก็ใจหายวาบกับตาคมกริบที่ทอดมองมา
เธออ่านสายตาเขาไม่ออก มันช่างล้ำลึก เปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาล เหมือนความลึกลับของหลุมดำในห้วงอวกาศ
เจ้าเป็นใครกันแน่...เป็นภูตผีปิศาจหรือไม่ เหตุใดข้าจึงฝันเห็นเจ้าเสมอมา เจ้าร่ายเวทย์มนตร์อันใดใส่ข้ารึ พิมลมาส
คนถูกถามอ้าปากค้าง ฉุนนิดๆที่เขาดันมองว่าเธอเป็นภูตผีปิศาจ แต่ที่ทำให้ตกใจกว่า กลับเป็นที่เขาเรียกชื่อเธอเต็มยศ
พี่พันรู้จักชื่อมาส!
มิใช่แค่ชื่อ ข้ารู้ด้วยว่า เจ้ามาจากบ้านเมืองที่ประหลาดล้ำ มิใช่สถานที่ที่มนุษย์ธรรมดาเขาอาศัยอยู่กัน เจ้าหาใช่มนุษย์ธรรมดาเหมือนพวกเราไม่ แต่ว่า... ชายหนุ่มก้มลง บีบกระชับอุ้งมือเล็กนุ่มนิ่มที่ยึดไว้ กระไออุ่นจากมือของหญิงสาว ซึมแทรกเข้าสู่หัวใจ
ตะ...แต่อะไรหรือคะพี่พัน พิมลมาสทำใจกล้า รุกถามเขา อยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนตรงหน้า อยากรู้ใจจะขาด
ครานี้ เจ้าที่อยู่ต่อหน้าข้า หาใช่เงาร่างประหลาดอย่างเคย เจ้าเหมือนมนุษย์ทั่วไปทุกอย่าง...รู้หรือไม่ ตอนข้าเห็นเจ้าอยู่ในลำน้ำยมนั้น...ข้า...
เขาอึกอัก ไม่ยอมพูดต่ออีก ตาคมกล้าของเขาละจากใบหน้าของเธอ เสมองเมินไปทางอื่นหน้าตาเฉย
พิมลมาสอยากจะคิดว่า พี่พันของเธอ เขิน ท่าทางของเขาทำให้เธอนึกถึงหนุ่มหัวโบราณขี้อาย ที่ไม่เห็นอีกแล้วในยุคสมัยปัจจุบัน
พี่พันทำไมเหรอคะ เป็นห่วงมาสเหรอ พิมลมาสซักไซ้ ยิ่งอยากรู้ หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวแรง เมื่ออีกฝ่ายมิได้ตอบคำถามเธอ แต่กลับส่งตาคมของเจ้าตัวมองมาที่เธอนิ่งแน่ว พิมลมาสเพิ่งเข้าใจความหมายที่ว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ก็เวลานี้เอง
แค่แววตาที่เขามองตรงมานิ่งแน่วไม่เคลื่อนไปไหน ก็สะกดให้เธอนิ่งงัน เต็มตื้นเอ่อท้นขึ้นมาในหัวใจ พานน้ำตาซึม ตื้นตัน
เธอพลิกมือตัวเองใต้อุ้งมือแกร่งสาก บีบกระชับตอบเขา ก่อนจะเอ่ยตามมาเสียงสะท้านเจือสะอื้น
มาสเองก็ฝันเห็นพี่พันเสมอ...มันทรมานมากเลยนะคะ กับการที่เราอยากรู้จักใครคนหนึ่งเหลือเกิน แต่ไม่สามารถพูดคุยกับเขาได้ มาสเชื่อมาตลอดว่าพี่พันต้องมีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่แค่คนในฝัน เพราะงั้น...มาสถึงยิ่งเจ็บปวด เพราะเข้าใจมาตลอดเวลา ว่าพี่พันคงไม่รู้จักมาส
ข้ารู้จักเจ้า ข้าเห็นเจ้าเสมอ ทั้งยามตื่นหรือหลับใหล พันภพเอ่ย พลางยกฝ่ามือหญิงสาวไปแตะข้างแก้มเรียวของตัวเอง พิมลมาสสะดุ้ง ร้อนวูบวาบที่ฝ่ามือของตัวเองก่อนจะไล่เรื่อยมาที่พวงแก้มและหัวใจ
พี่พันทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร นี่เขา...
ข้าปิตินักที่ได้มีโอกาสพบเจ้าเยี่ยงนี้ ต่อไปอย่าได้เสี่ยงอันตรายอีก...พี่จักดูแลเจ้าเองพิมลมาส
สิ้นคำพูดของเขา หญิงสาวก็ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ ไม่อยากเชื่อ ทุกสิ่งราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน ท่ามกลางแสงเดือนหมู่ดาว ริมสายน้ำไหลชุ่มเย็น รอบกายเธอและเขาพราวพร่างไปด้วยดอกปีบที่ร่วงหล่นส่งกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจ บรรยากาศรอบกายเย็นชื่นทว่าเธอกลับรู้สึกอบอุ่น มั่นคง
ทั้งที่จะว่าไป เธอเพิ่งมีโอกาสพูดกันจริงจังกับเขาเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ แต่เธอกลับสนิทใจ คุ้นเคย ราวกับว่ารู้จักเขามาเนิ่นนาน
อาจจะนานยิ่งกว่าอายุของเธอ ข้ามเลยไปหลายชาติภพแต่เก่าก่อน สุดประมาณ
ดวงตากลมโตคลอไปด้วยละอองน้ำใส เป็นครู่ใหญ่ๆที่เธอปล่อยให้เขากอบกุมฝ่ามือเธอแนบกับแก้มส่ากน้อยๆนั้นเอาไว้ กว่าที่พิมลมาสจะค่อยๆ ถอนฝ่ามือออกมาแนบลำตัว ใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ก้มลงต่ำ หลบสายตาคมกล้าของเขาอย่างขัดเขิน
เอ่อ...มาสต้องกลับเรือนแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ
เดี๋ยวสิ มานี่มาพิมลมาส เขาเรียกเอาไว้ก่อนที่เธอจะหันหลังวิ่งหนีไปอย่างที่ต้องการ พิมลมาสจำต้องเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายหล่อเหลาด้วยหัวใจที่ไหวระทึก เลื่อนลั่น
พี่รู้ว่าเจ้าชอบดอกปีบนัก พี่เก็บไว้บ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสได้มอบให้เจ้าสักครา วันนี้โชคดีนัก ได้มีโอกาสมอบให้เจ้าจนได้
มือใหญ่ยื่นช่อดอกปีบแสนสวย ค่อยๆบรรจงทัดดอกไม้สีขาวบอบบางเข้าใบหูเล็กของหญิงสาว พิมลมาสตัวแข็งทื่อหัวใจเต้นถี่รัว ตื่นเต้น อดไม่ได้จะมองหน้าเข้มขรึมของเขาด้วยดวงตาพราวสดใส
ขอบคุณค่ะ งั้น...นี่ค่ะ มาสให้พี่พันเหมือนกัน เธอยืนช่อดอกปีบในมือให้เขาบ้าง แต่เมื่อชายหนุ่มยื่นมือมารับ หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ หดมือกลับไปก่อน
จริงด้วย มาสเรียกพี่พันไม่ได้ ต้องเรียก เจ้าพันภพสินะ
ไม่ต้อง เจ้าเรียกพี่ได้ตามใจ ไม่จำต้องเรียกยศตำแหน่งของพี่
เขาอนุญาต ตาคมดุอ่อนโยน อบอุ่น หญิงสาวก้มลงอมยิ้มกับตัวเอง สุขใจราวกับมีลูกโป่งลอยฟ่องอยู่ในหัวใจ
พี่พันภพเป็นถึงเจ้าพันผู้ยิ่งใหญ่ มาสก็แค่สาวใช้ พี่พันไม่อายที่จะเป็นเพื่อนกับมาสหรือคะ เธออดไม่ได้จะกระเซ้า
พี่หาได้สนใจยศฐาหรือคำคนไม่ ขอบใจดอกปีบของเจ้า พี่จักนำไปวางไว้ข้างหมอน คืนนี้พี่คงฝันดีเป็นแน่แท้ พันภพตามมาดึงช่อดอกปีบในอุ้งมือบางของหญิงสาวไปทั้งหมด จากนั้นก็จรดปลายจมูกโด่งเป็นสันของตัวเอง สูดกลิ่นหอมหวานเย็นชื่นใจเข้าไว้เต็มปอด ใบหน้าคมสันจุดรอยยิ้มหวานละมุน ทำเอาคนมองดูอยู่ถึงกับตาค้าง หัวใจไหวโยน ตื้นตันจนน้ำตาร่วง
จะผิดมากไหม หากเธอจะเข้าไปกอดเขาเอาไว้อย่างที่ใจต้องการ คงไม่ได้สินะ ในเมื่อที่นี่ ผู้หญิงที่ดีจะต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว เก็บกริยา
มาสออกมานานแล้ว ขอตัวกลับเรือนก่อนนะคะ พี่พันก็...อย่านอนดึกนะคะ มาสไปละ เธออ้อมแอ้ม ก้มหน้าก้มตาบอกเขาแล้วหันหลังเดินหนี รีบใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ
แน่ใจแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เธอกลับมาอยู่ในยุคสมัยสุโขทัยจริงๆ ที่นี่ไม่มีใครเลยนอกจากพี่พันภพของเธอกับลุงโกษา สิ่งเดียวที่ดีที่สุดเวลานี้ แลกกับการที่เธอต้องแยกจากครอบครัวมา ก็คือการที่เธอได้รู้จักกับพันภพเสียที หลังจากที่เฝ้าคิดถึงเขามาเนิ่นนาน
เมื่อมาถึงเรือน หญิงสาวหยิบดอกปีบที่ทัดหูตัวเองลงมาพินิจดู ใจเหม่อลอย อดคิดถึงเจ้าของดอกไม้ไม่ได้
เขาเองก็ฝันเห็นเธอมานานแล้วเช่นกัน...มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอและเขาอยู่ต่างเวลากันมากกว่าเจ็ดร้อยปี
ชีวิตเธอดูช่างเต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ มีปริศนามากมายเหลือเกิน
วูบหนึ่งดวงตากลมโตหลุบลงมองกำไลข้อมือที่เธอสวมอยู่ มือเรียวลูบคลำไปตามลวดลายแบบโบราณงดงามนั้น อดนึกถึงคำพูดของคุณปู่สุนทรไม่ได้...
ไม่ใช่ให้เก็บ ปู่ให้เราใส่ติดตัวไว้ต่างหาก...กำไลนี้ จะช่วยหนูเชื่อมต่อกับอดีตได้ง่ายยิ่งขึ้น
พิมลมาสตาโต พอนึกคำพูดของคุณปู่สุนทรขึ้นมาได้ เธอก็นิ่งพินิจกำไลข้อมือตรงหน้าให้ละเอียดลออยิ่งขึ้น ลวดลายแบบโบราณดูไม่ออกนักว่าเป็นศิลปะสมัยใด ไม่แน่ นี่อาจจะเก่าแก่ยิ่งกว่าสมัยสุโขทัยก็เป็นได้
เธอเคยฝันเห็นชายหญิงในยุคเก่าโบราณกว่าสมัยสุโขทัย ผู้หญิงในฝันหน้าเหมือนเธอและก็สวมกำไลวงนี้เช่นกัน
ที่ท่าน้ำเมื่อครู่ เธอก็เห็นชายหญิงคู่เดิม และผู้หญิงคนนั้นก็สวมกำไลนี้ หรือของชิ้นนี้จะเกี่ยวข้องกับเธอมาเนิ่นนานแล้วนะ
หัวคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ครุ่นคิด ตรองไม่ตก ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอกันแน่ กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ
ยังมินอนอีกรึแม่จันทร์
แม่อบ สาวใช้ของแม่นายศรีนวลอีกนางหนึ่งซึ่งพักอยู่เรือนเดียวกันกับเธอ งัวเงียลุกขึ้นมาส่งเสียงถาม
พิมลมาสยิ้มแห้งๆ กุลีกุจอรีบวิ่งเข้าไปยังที่นอนปูเสื่อเนื้อหยาบ
กำลังจะนอนแล้วจ้ะ ขอโทษนะ ข้าเลยทำให้แม่อบต้องตื่น
ไม่เป็นไรจ้ะ มีอันใดเดือดร้อน อยากให้ช่วยเหลือ บอกข้าได้นะแม่จันทร์ อบแสดงความมีน้ำใจ เป็นเพื่อนที่ดี สิ่งนี้ช่วยให้พิมลมาสสบายใจไปอีกเปราะหนึ่ง
เธอล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มสีหม่นเนื้อบางคลุมตัวถึงช่วงอก อากาศหนาวเย็น ทุกสิ่งเงียบสงบ สงัด ยินเพียงเสียงหริ่งหรีดเรไรขับกล่อมเป็นเพื่อนส่งเข้านอนในยามราตรี
แต่ใครละ จะหลับเข้าไปลง...ในเมื่อเธอคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน
ถึงที่นี่จะมีพี่พันภพ แต่ก็ไม่มีพ่อกับแม่ของเธอ ทำไมต้องได้อย่างเสียอย่างด้วยนะ
มาสคิดถึงคุณพ่อคุณแม่จังเลย...มาสไม่รู้ว่าจะกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ได้ยังไง รอหนูก่อนนะคะ...หนูต้องหาทางกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ได้แน่ๆค่ะ
หญิงสาวหลับตา ปล่อยน้ำตาให้กลิ้งหล่นลงมาจากหางตา และก็หลับไปทั้งที่น้ำตายังไม่ได้แห้งเหือดไปจากใบหน้าอ่อนเยาว์
--------------------------
-----------------------------------
Create Date : 22 พฤษภาคม 2557
Last Update : 22 พฤษภาคม 2557 7:55:20 น.
Counter : 786 Pageviews.
5 comments
Share
Tweet
ขอบคุณ คุณ sakeena ค่ะ
แนวคิดน่าสนใจจังค่ะ จะตรงใจคนเขียนไหมน้าาาา เสียดายจังค่ะ ถ้าลงจบได้ คงได้เฉลยอ่ะ แต่ตอนนี้ลงจบไม่ได้แล้วนี่สิคะ T^T
ขอบคุณ คุณ nako ค่ะ
มีค่า แต่คนอ่านต้องลุ่้นคะว่าจะแก้ยังไงหนอ.....อิอิ ^0^
ขอบคุณ พี่หมูน้อย Iค่ะ
ค่อยๆ อ่านก็ได้ค่ะ เพราะษาลง18 ตอนไม่ลบทิ้งอยู่แล้วค่ะ อิอิ
คิดถึงพี่สาวนะคะ จุ๊บๆๆๆ >////<
****ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ขอบพระคุณทุกการติดตามค่าาาา
ษาค่ะ
------------------------
โดย:
พิมพ์นรา
วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:03:30 น.
"พันภพเอ่ยพลางยกฝ่ามือหญิงสาวไปแตะข้างแก้มเรียวของตัวเอง" กรี๊ดดดดด เค้าอยากเป็นนู๋จันทร์อยากลูบแก้มสากๆๆของพี่พันอะ
ลงจบไม่ได้กะบอกวิธีสั่งซื้อและโอนเงินเลยคะ ส่งด่วนพิเศษเลยนะ ^___^
โดย: sakeena IP: 124.120.230.102 วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:10:11 น.
หนูมาสจะกลับโลกปัจจุบันได้หรือเปล่า
โดย: nako IP: 49.230.188.137 วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:59:18 น.
ที่บ้านกองนิยายรกและเยอะมากเลยค่ะ จำไม่ได้ว่ามีเรื่องบ่วงอธิฏฐานหรือยัง แอบไปดูในเด็กดีเห็นเรื่องต่อ แอบอ่านไปแล้วด้วย สนุกกว่าเรื่องเดิมอีก เพราะชอบพระเอก อิอิ
จริงๆชอบพระเอกแสนดีมากกว่านะ แต่บางครั้งก็ชอบพระเอกแบบนี้เหมือนกัน (ขอให้ไม่เจอกับตัวเองเป็นพอ เพราะเอาเข้าจริงๆคนแบบนี้ไม่ชอบอ่ะ)
เมื่อไรออกเป็นเล่มอ่ะ ขี้เกียจรอแล้วเด้อ อยากอ่านเต็มๆ ชอบน้องบูมมาก (แต่ไม่อยากเจอนะ ชิส์)
สำหรับเรื่องนี้พี่ไม่แน่ใจว่าคำว่าภพเนี่ย มันมีไหมหรือเขาตั้งชื่อกันแบบนี้ไหม สมัยสุโขทัย พี่ว่าการแต่งนิยายย้อนยุคนานๆมันก็ยากเหมือนกันเนอะ
โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.24.206 วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:03:23 น.
เจอที่ไหนไม่รู้จำไม่ได้ ขี้เกียจหาแล้ว สามสี่วันที่ผ่านมาอ่านนิยายเยอะมาก ษาเขียนว่าราบลื่น จริงๆต้องเป็นราบรื่นนะจ๊ะ
โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.24.206 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:7:22:53 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พิมพ์นรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [
?
]
Group Blog
<<
พฤษภาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
22 พฤษภาคม 2557
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
All Blog
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๗
หนึ่งใจนิรันดร บทที่๑๖
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๕
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๔
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๑
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๐
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๘
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่ ๗ (ขอเปลี่ยนชื่อเป็น "หนึ่งใจนิรันดร" นะคะ)
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๖
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๕
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๔
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๓
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๒
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๑
Friends Blog
Doungtawan
ป้ามด
fluffyboy101
N_BEE810
เนยสีฟ้า
ammataya
wilmington
ธรารินทร์
เม-ดา
คีตภา
wayo
ลันเตา...
หมาดำล่องหน
หินสีม่วง
Webmaster - BlogGang
[Add พิมพ์นรา's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอบคุณ คุณ sakeena ค่ะ
แนวคิดน่าสนใจจังค่ะ จะตรงใจคนเขียนไหมน้าาาา เสียดายจังค่ะ ถ้าลงจบได้ คงได้เฉลยอ่ะ แต่ตอนนี้ลงจบไม่ได้แล้วนี่สิคะ T^T
ขอบคุณ คุณ nako ค่ะ
มีค่า แต่คนอ่านต้องลุ่้นคะว่าจะแก้ยังไงหนอ.....อิอิ ^0^
ขอบคุณ พี่หมูน้อย Iค่ะ
ค่อยๆ อ่านก็ได้ค่ะ เพราะษาลง18 ตอนไม่ลบทิ้งอยู่แล้วค่ะ อิอิ
คิดถึงพี่สาวนะคะ จุ๊บๆๆๆ >////<
****ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ขอบพระคุณทุกการติดตามค่าาาา
ษาค่ะ
------------------------