Bloggang.com : weblog for you and your gang
บล็อกนิยายหวานสดใสของพิมพ์นรายินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ^^
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
๙.
พิมลมาสลืมตาตื่นในเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่แปลกไป ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม มีบางสิ่งในใจเธอที่่เปลี่ยนไป...ถ้อยคำของพันภพ ยังก้องสะท้อนอยู่ในความทรงจำ
เขาให้เธอรอ...พี่พันมีเรื่องอะไรอยากคุยกับเธอกัน แล้วที่เขาเรียกเธอว่า แม่จันทร์ อีกละ
พิมลมาสอดยิ้มไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่พันจะถูกแม่ศรีนวลเล่นงานอย่างไรบ้าง
"มาส ตื่นหรือยังลูก"
"ตื่นแล้วค่ะ คุณแม่"
วรรณวลีกวาดตามองเมื่อลูกสาววิ่งมาเปิดประตูรับ ค่อยหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าพิมลมาสยังปกติดีทุกอย่าง
"หนูโอเคนะจ๊ะ"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูลงไปช่วยคุณแม่ทำกับข้าวนะคะ" พิมลมาสยิ้มร่าเริง ดวงตาแจ่มใส ชีวิตชีวา กระทั่งคนเป็นแม่เห็นแล้วยังอดแปลกใจไม่ได้
"เอ...วันนี้ลูกสาวแม่ดูอารมณ์ดีจังเลย มีเรื่องดีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" วรรณวลีเอ่ยถามยิ้มๆ
"ไม่มีอะไรนี่คะ มาสก็อารมณ์ดีอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้วละค่ะ"
ลูกสาวค้านเบาๆ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง จัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลงไปช่วยมารดาที่ห้องครัวอย่างกระตือรือร้น
หลังมื้ออาหารเช้าของครอบครัวผ่านไปแล้ว ภัทรก็ออกจากบ้านไปทำงานเหลือแต่วรรณวลีกับพิมลมาสที่ต้องอยู่บ้านกันตามลำพัง พิมลมาสใช้เวลาว่างจากช่วยงานบ้านมารดา นั่งคิดว่าเธอจะทำอย่างไรกับอนาคตต่อไปดี การเปิดร่นแกลเลอรี่สักร่น เป็นตัวเลือกที่เธอสนใจที่สุด นั่นเพราะหญิงสาวไม่อยากแยกจากบิดามารดาไปไหนไกล ทำเลแถวบริเวณด้านหน้าทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จึงเป็นที่ที่เธอสนใจยิ่ง
พิมลมาสจมอยู่กับความคิดของตัวเอง กระทั่งเวลาผ่านไป วรรณวลีจึงมาเคาะประตูชวนลูกสาว
ไปหาซื้อของใช้เข้าบ้านด้วยกันไหมลูก
ไปสิคะคุณแม่ หญิงสาววางสมุดโน้ตในมือลง หันไปส่งยิ้มตาใสให้มารดาอย่างกระตือรือร้น
ไม่นานต่อมา สองแม่ลูกจึงได้มาเดินเล่นอยู่ในร้านขายของ ช่วยกันเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นอย่างเพลิดเพลิน
เมื่อซื้อของครบตามที่ต้องการแล้ว พิมลมาสก็หอบหิ้วของทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ท้ายรถ เรียบร้อยแล้วก็จัดแจงอ้อมไปด้านที่นั่งคนขับ แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นก่อน
หนู หนูมาสใช่ไหมจ๊ะ
พิมลมาสหันขวับไปมองสาวใหญ่ที่เรียกเธอพลางก้าวเข้ามาหาอย่างยินดี ใบหน้าคมงามของผู้อาวุโส คุ้นตาเธออยู่เหมือนกัน แต่ยังนึกไม่ออก
จำป้าได้ไหมจ๊ะ เมื่อเดือนก่อนที่เราเจอกันที่วัดพระปรางค์ไงจ๊ะ ที่ป้าเป็นลมแล้วหนูก็ช่วยเหลือเอาไว้วันนั้น... สาวใหญ่รื้อฟื้นความทรงจำของอีกฝ่าย พิมลมาสนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง
อ๋อ หนูจำได้แล้วค่ะ คุณป้าน่ะเอง
จ้ะ วันนั้นพอป้าฟื้นขึ้นมาก็ไม่เห็นหนูเสียแล้ว คนที่วัดเขาบอกว่า หนูช่วยป้าเอาไว้ ต้องขอบใจหนูมากเลยนะจ๊ะ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณป้าไม่เป็นอะไร หนูก็ดีใจค่ะ
หนูจะว่าอะไรไหมจ๊ะ ถ้าป้าอยากจะขอตอบแทน...ด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันหนูสักมื้อ สาวใหญ่ยื่นข้อเสนอแสนสุภาพ
เอ่อ...ต้องขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ แต่วันนี้คงไม่สะดวก หนูมากับคุณแม่น่ะค่ะ
งั้นก็ขอเชิญคุณแม่ของหนูด้วยก็ได้จ้ะ ตกลงนะหนู ป้าอยากตอบแทนหนูบ้าง ไม่ต้องเกรงใจนะจ๊ะ
สีหน้าท่าทางกระตือรือร้นของผู้อาวุโส ทำให้พิมลมาสได้แต่ยิ้มแหย ปรายตามองไปด้านในรถ ที่มารดานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
วรรณวลีเองก็เยี่ยมหน้าออกมามองอย่างแปลกใจเหมือนกัน
มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ มาส
คุณป้าคนนี้...เอ่อ...
ป้าชื่อก้านแก้วจ้ะ สาวใหญ่แนะนำตัวเองยิ้มแย้ม
ค่ะ คุณป้าก้านแก้วอยากจะเลี้ยงอาหารกลางวันเราสักมื้อน่ะค่ะ คุณแม่จะว่าอะไรไหมคะ
อุ้ย ไม่รบกวนขนาดนั้นหรอกค่ะ วรรณวลีรีบปฏิเสธทันที
รบกวนอะไรกันคะ ถ้าวันนั้นไม่ได้หนูมาสช่วยเหลือดิฉันคงแย่แน่ๆ อย่าถือเป็นการรบกงรบกวนอะไรเลยนะคะคุณ ดิฉันอยากเลี้ยงคุณกับหนูมาสจริงๆ ค่ะ
วรรณวลีถึงกับอึ้งไปเมื่อเจอะลูกอ้อนของอีกฝ่าย เธอเหลือบมองหน้าลูกสาว ก็เห็นพิมลมาสพยักพเยิดเป็นทำนอง แล้วแต่คุณแม่จะตัดสินใจ ดังนั้นวรรณวลีจึงพยักหน้าออกมาในที่สุด
เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ดิฉันชื่อวรรณวลี เป็นแม่ของยัยมาสนะคะ แล้วคุณ...
ดิฉันชื่อก้านแก้วค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
วรรณวลียิ้มเป็นมิตรให้ก้านแก้ว เช่นเดียวกับพิมลมาส ทั้งหมดต่างถูกชะตาและคุยกันถูกคออย่างไม่น่าเชื่อเลย ว่านี่จะเป็นการพบปะพูดคุยกันเป็นครั้งแรกของวรรณวลีและก้านแก้ว
มื้ออาหารกลางวันในสวนอาหารเป็นไปด้วยความเพลิดเพลิน ก้านแก้วคุยเก่ง หาเรื่องมาคุยกับวรรณวลีและพิมลมาสได้ตลอดเวลาโดยที่คนฟังไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หรือรำคาญ ออกจะเพลินคุยด้วยจนล่วงเวลามาเกินกว่าหนึ่งชั่วโมง
ตายจริง บ่ายโมงครึ่งแล้วเหรอเนี่ย ก้านแก้วอุทานเมื่อก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือโดยไม่ตั้งใจ พลันนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของสาวใหญ่ก็ส่งเสียงดังขึ้น
ขอคุยโทรศัพท์นิดนะคะคุณลี หนูมาส
ตามสบายเลยค่ะ วรรณวลียิ้มบางๆ ให้เพื่อนใหม่ ก่อนจะหันไปมองลูกสาวที่นั่งข้างๆ กัน ทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อบทสนทนาของก้านแก้วที่ได้ยินตามมา
รู้แล้วจ้ะ แม่ขอโทษ แม่มัวแต่คุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยเดียวเอง อย่าโกรธเลยนะจ๊ะ...ตอนนี้แม่อยู่ที่สวนอาหาร ห่างจากที่ทำงานของลูกนิดเดียวเอง...อะไรนะ ลูกจะแวะมาหรือจ๊ะ แม่ว่าไม่ต้อง...หา ลูกก็มากินข้าวที่ร้านนี้เหมือนกันเหรอ ก้านแก้วอุทานเสียงสูง เบิกตาโตอย่างลืมตัว เธอเริ่มสอดสายตามองหาคู่สนทนาที่รู้แล้วว่าฝ่ายนั้นอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน แต่ว่าจะอยู่ตรงส่วนไหนกันเล่า ในเมื่อสวนอาหารแห่งนี้แสนจะกว้างขวาง แบ่งเป็นโซนกลางน้ำแบบโอเพ่นแอร์ และโซนในห้องแอร์กรุกระจกล้อมรอบด้านใน
แต่ถ้าลูกชายอยู่โซนกลางน้ำอย่างเธอในเวลานี้ก็คงมองเห็นไปนานแล้ว คงอยู่ในห้องกระจกติดแอร์ด้านในมากกว่า...
ดิฉันขอตัวประเดี๋ยวนะคะ ลูกชายเขาก็มาทานอาหารที่ร้านนี้เหมือนกัน เขากำลังจะมาหาดิฉันน่ะค่ะ
คุยกันที่โต๊ะนี่เลยก็ได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ วรรณวลีเอ่ยปากอย่างมีน้ำใจ ทว่าอีกฝ่ายส่ายหน้าไปมา โบกมือหย็อยๆ
อุ้ย ไม่ดีหรอกค่ะ เกรงใจคุณวรรณวลีกับหนูมาสแย่เลย...อ้าว นั่นไงคะ ลูกชายของดิฉัน! ก้านแก้วเบิกตาโตเมื่อหันไปเห็นร่างสูงเพรียวสะดุดตาของบุตรชายตนเองซึ่งกำลังก้าวดุ่มๆ ตรงเข้ามา
แต่แปลกนัก เธอรู้สึกอย่างกับว่าสายตาของลูกมิได้มุ่งตรงมาที่เธอ แต่เป็น...
น้องมาส!
นายพีรัช!
หะ เราว่าไงนะลูกมาส วรรณวลีงุนงง ได้ยินเต็มสองหูที่ลูกสาวเรียกชื่อผู้ชายออกมา กริยาอาการของพิมลมาส อย่างกับว่าลูกรักจะรู้จักกับลูกชายของก้านแก้วอย่างไรอย่างนั้น
หนูมาสรู้จักตาพีด้วยหรือจ๊ะ ก้านแก้วพลอยเหลอหลาหน้าฉงน
เอ่อ...คือ...คงจะเรียกรู้จักไม่ได้หรอกค่ะ เพราะหนูกับนาย...เอ่อ คุณพีรัช...เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเองค่ะ
น้องมาสจริงๆ ด้วย!
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ปฏิเสธความเข้าใจผิดของทุกคน พีรัชก็ปราดเข้ามาเอ่ยทักชื่อเล่นเธออย่างตื่นเต้นยินดี เล่นเอาหญิงสาวทำหน้าไม่ถูก
ไม่นึกว่าเขาจะเป็นลูกชายของคุณป้าก้านแก้วที่แสนมีมนุษยสัมพันธ์ไปได้ ไม่อยากเชื่อจริงๆ!
ตาพี นี่เรารู้จักหนูพิมลมาสด้วยเหรอลูก ก้านแก้วถามลูกชายอย่างประหลาดใจแกมยินดี
พิมลมาสเหรอครับ ชายหนุ่มทวนชื่อเต็มของหญิงสาวที่ถูกชะตา ก่อนจะยิ้มกว้างแลเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ ครับ ใช่ ผมกับน้องมาส เรารู้จักกันมาก่อนแล้วละครับ
ไม่ใช่สักหน่อย ฉันไม่ได้รู้จักคุณ พิมลมาสไม่ชอบการตีขลุมหน้าด้านของเขา จึงค้านออกไปไม่ไว้หน้า
พูดอะไรของคุณเนี่ย วันนั้นเรายังจับมือกันอยู่เลย จำไม่ได้หรือครับ ชายหนุ่มทำไม่รู้ไม่ชี้
วันนั้นคุณมาจับมือฉันเองต่างหาก อย่ามามั่ว
ลูกมาส มีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะ วรรณวลีเห็นลูกสาวเถียงกับหนุ่มหล่อที่เข้ามาใหม่แล้วก็ยิ่งแปลกใจ ปกติพิมลมาสไม่เคยออกอาการ เหม็นหน้า ใครอย่างนี้มาก่อนเลยนี่นา
ตาพี นี่คุณวรรณวลี คุณแม่ของหนูมาส รู้จักคุณน้าแล้วหรือยังลูก ก้านแก้วได้โอกาส รีบสอบถามลูกชาย พีรัชจึงละสายตาจากหญิงสาวหน้าหวานไปยกมือไหว้มารดาของเธออย่างนอบน้อมผิดปกติวิสัยของเจ้าตัวไปมาก
สวัสดีครับคุณแม่
อุ้ย! วรรณวลีอุทาน หน้าเจื่อน แต่ลูกสาวของเธอถึงกับถลึงตาดุวาวเข้าใส่ชายหนุ่ม
แม่ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ เรียกผิดคนแล้วมั้งคะ พิมลมาสตำหนิไม่อ้อมค้อม
แหมคุณ คนเราอนาคตมันไม่แน่นอนสักหน่อย วันนี้เป็นคุณน้า วันหน้าท่านอาจจะเป็น แม่ ผมอีกคนก็ได้
หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ขุ่นเคืองกับความพยายาม ตีขลุม จนออกนอกหน้าของอีกฝ่าย
ดูเขาช่างมั่นใจเหลือเกินว่าจะต้อง ได้ ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ
ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนก็จริงนะคุณพีรัช...แต่ของบางอย่าง มันแน่นอนอยู่ยังไงก็อย่างงั้นละค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนได้เหมือนกัน
คุณท้าทายผมเหรอ?
อุ้ยๆ ใจเย็นๆ ก่อนจ้ะ อย่าเพิ่งมีเรื่องกันลูก คนกันเองทั้งนั้น...เอ่อ นั่งก่อนสิจ๊ะลูกพี ก้านแก้วเห็นท่าจะยิ่งบานปลาย จึงพยายามไกล่เกลี่ย หวังให้บรรยากาศดีขึ้น ที่ไหนได้...
พีรัชดันเลือกนั่งเก้าอี้ข้างๆ กับพิมลมาส แถมยังลากไปจนติดกับหญิงสาว จงใจป่วนประสาทอีกฝ่ายเห็นๆ!
ไหล่หน้าเบียดเกยกับไหล่บอบบางของเธอเต็มที่ พิมลมาสเอนตัวหนี แต่ไม่ลืมจะส่งตาขุ่นให้คนไร้มารยาท
ตาพี เขยิบออกมาสิลูก ไปเบียดน้องอย่างนั้นได้ยังไงกัน เป็นก้านแก้วเสียเอง ที่ต้องเอ็ดอึงลูกชายเบาๆ ขายหน้าไม่น้อยกับความห่ามไม่รู้กาลเทศะของพีรัช
ยังดีอยู่นิด ตรงที่พอเธอสั่งแล้ว พีรัชก็ทำตาม แม้ดูเจ้าตัวจะไม่เต็มใจนัก แต่ชายหนุ่มก็ยอมเลื่อนเก้าอี้ถอยห่างให้ให้นิดหน่อย
ถึงกระนั้นพิมลมาสก็ยังคงอึดอัด ไม่สบายใจอยู่ดี คนเราลองไม่ถูกชะตาเสียแล้ว แค่ต้องนั่งใกล้ ตกเป็นเป้าสายตาของอีกฝ่ายก็แทบหายใจไม่ออกแล้ว
พิมลมาสเพิ่งเข้าใจคำว่า รังสีอำมหิต ก็ตอนนี้เอง ถึงแม้ว่าเธอจะมิได้หันไปมองผู้ชายที่นั่งข้างๆ กันเลย แต่ก็สามารถรับรู้ได้ตลอดเวลาว่าเขามองเธออยู่ แทบไม่ละสายตาเสียด้วย!
หญิงสาวได้แต่ปลอบตัวเอง อยากให้อาหารมื้อนี้จบลงเร็วๆ เพื่อที่เธอจะไม่ต้องมานั่งอึดอัดทรมานอยู่อย่างนี้
เพราะมัวแต่ครุ่นคิดอยากจากไป ทำให้พิมลมาสไม่ซึมซับเอาข้อมูลเกี่ยวกับพีรัชที่ก้านแก้วเอ่ยบอกเอาไว้เลย ที่เธอรับรู้อย่างเดียว และแน่ใจว่าเชื่อได้ก็คือ ผู้ชายคนนี้นิสัยไม่ดี เป็นอันธพาลไร้มารยาท ทำร้ายได้กระทั่งคนแก่อย่างคุณโกษา
นี่ต่างหากคือความจริงที่เธอรู้มาโดยตรง ไม่ต้องผ่านการบอกเล่าจากใคร
เอาละ ทีนี้หนูจะเล่าให้แม่ฟังได้แล้วหรือยังจ๊ะ ว่าไปรู้จักมักจี่กับพ่อพีรัชเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
วรรณวลีถามลูกสาวทันทีที่เดินกลับเข้ามานั่งด้วยกันในรถส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว
สาวใหญ่ยังคงติดใจเรื่องระหว่างพีรัชกับพิมลมาสอยู่ ฝ่ายชายดูง่ายมากว่าสนใจลูกสาวของเธอเต็มเปา แต่พิมลมาสก็ออกแนวไม่ชอบหน้าชายหนุ่มเปิดเผยเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้วรรณวลีอดฉงนมิได้
คุณแม่ว่าเขาเป็นยังไงบ้างละคะ ลูกสาวย้อนถามแทนที่จะตอบ
เขาเหรอ...ก็ดีนี่จ๊ะ ถึงจะดูห่ามๆ ล้นๆไปนิด แต่เขารูปหล่อมากเชียวนะ แม่ว่าสาวๆ น่าจะถูกชะตากับผู้ชายหน้าตาท่าทางอย่างนี้
แต่หนูไม่ใช่นะคะ หนูไม่ชอบผู้ชายแบดบอย... ลูกสาวโอดหน้ามุ่ย
เอ้า ลูกไม่ชอบแบบนี้แล้วชอบแบบไหนกัน แม่ไม่เห็นลูกจะพาใครมาแนะนำตัวกับแม่สักคนเลยนะ วรรณวลีซักต่อ
มาสยังไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ อยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ไปนานๆ มากกว่า พิมลมาสเอียงแก้มไปซบไหล่มารดา ทำประจบอ้อน ทำวรรณวลีหัวเราะคิก ยกมือลูบศีรษะของลูกสาวอย่างอ่อนโยน
จ้า ลูกตัดสินใจยังไง แม่ก็ตามใจหนูจ้ะ เพียงแต่...แม่อยากจะบอกให้หนูเข้าใจนะ พ่อกับแม่ไม่ได้ขัดขวางหากว่าหนูจะมีความรัก...ลูกรักใคร พ่อกับแม่ก็พร้อมจะรักคนคนนั้นด้วยจ้ะ
พิมลมาสอมยิ้ม ซึ้งใจกับถ้อยคำของมารดา
แต่ปัญหาของเธอก็คือ จนนาทีนี้ พิมลมาสก็ยังไม่แน่ใจเลยว่า พี่พันของเธอ มีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้หรือเปล่า
พิมลมาสใช้เวลาว่างหลังจากอาหารเช้า ออกเดินเล่นเรื่อยไปที่หน้าอุทยานฯ สำรวจวิถีชาวบ้านและความเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างตั้งแต่ในช่วงที่เธอไปต้องร่ำเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้กลับมาอยู่บ้าน ถนนหนทางดีขึ้นกว่าแต่ก่อน บ้านเรือนเพิ่มขึ้นหนาตา ความเจริญสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น แลกมาด้วยการตัดต้นไม้ทิ้งไปมากมาย
บ้านเรือนละแวกนี้ส่วนใหญ่นิยมปลูกกันใกล้กับลำน้ำยม แม่น้ำสำคัญซึ่งเป็นเหมือนสายเลือดเลี้ยงชีวิตของชาวสุโขทัย ในยามหน้าน้ำหลากมา ลำน้ำยมมักท่วมทุกปี เป็นกิจวัตรอยู่อย่างนี้ ดังนั้นชาวบ้านแต่โบราณจึงต้องปลูกบ้านยกพื้นสูง แต่ในปัจจุบันวิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไป จึงมีบ้านชั้นเดียวรูปแบบต่างๆ ผุดขึ้นมาให้เห็นมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าบ้านชั้นเดียวเหล่านี้ หากปีไหนน้ำมามากแล้วจะท่วมเดือดร้อนขนาดไหน
หญิงสาวเดินไปหยุดอยู่ที่ร้านขายของชำเล็กๆ สั่งน้ำนมถั่วเหลืองมาดื่มแก้กระหาย จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ชมบรรยากาศสองฟากฝั่งริมถนน มองหาทำเลอยากเปิดร้านแกลเลอรีเล็กๆของตัวเองไปด้วยในตัว
ทว่าเพียงไม่นาน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นป่วนประสาท
ปิ๊นๆ
เสียงกดแตรดังลั่นเล่นเอาหญิงสาวสะดุ้ง พิมลมาสหันไปมองข้างหลังพร้อมรีบก้าวชิดข้างทางเดิน ก่อนจะนึกขึ้นได้ ว่าเธอก็เดินอยู่ริมทางเท้าแล้วแท้ๆ
ทว่าพอเห็นคนที่ชะโงกหน้าออกมายิ้มวางมาดเข้าเท่านั้น อารมณ์ดีๆของหญิงสาวก็หายวับไปในพริบตา
สวัสดีครับน้องมาส บังเอิญจังเลย
เธอนิ่วหน้า มองรอยยิ้มปั้นแต่งของพีรัชแล้วหันหลังเดินหนี ยอมเสียมารยาท แต่ ไม่อยาก คุยกับเขาสักนิด
อ้าวๆ เดี๋ยวสิครับน้องมาส อย่าเพิ่งไปสิ นี่! ชายหนุ่มข้างหลังร้องเรียก แต่พิมลมาสไม่สนใจ หญิงสาวก้าวดุ่มๆ ไปข้างหน้า แต่ครู่หนึ่งก็รู้สึกได้ว่าพีรัชขับรถตามมาติดๆ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจข้ามถนนเปลี่ยนเส้นทาง
ไม่เดินเล่นต่อแล้ว กลับบ้านดีกว่า...
น้องมาส เดี๋ยวสิครับ เอ๊ ทำไมเดินหนีกันอย่างนี้ละ
เสียงห้าวห้วนไม่สบอารมณ์ของพีรัชยังดังตามมา แต่พิมลมาสไม่สนใจ ความไม่ชอบหน้าเขามีมากเกินกว่ามารยาทที่ควรรักษา
กับคนอย่างนายพีรัช ไม่ต้องแก่มารยาทนักก็คงได้หรอก!
เธอจ้ำอ้าว เดินเร็วๆ ไม่เหลียวหลัง เสียงรถที่แล่นตามมาค่อยๆ หายไป แม้ไม่หันไปดู พิมลมาสก็แน่ใจว่าฝ่ายนั้นคงเลิกขับรถตามเธอแล้ว หญิงสาวชะลอฝีเท้าลงแล้วหันไปมองข้างหลัง ดีใจที่สลัดฝ่ายนั้นหลุดมาได้ ทว่าพริบตานั้นรอยยิ้มของเธอก็เหือดหาย
นายพีรัชลงจากรถแล้วเดิน ตาม มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
แหม ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้ พี่ตั้งใจจะมาหาน้องมาสตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โชคดีจัง ได้มาเจอก่อนจะถึงบ้านเสียอีก...น้องมาสมาเดินเล่นหรือครับ
ชายหนุ่มจ้ำอ้าวเข้ามาเดินตีคู่ ชวนคุยสนิทสนมอย่างกับรู้จักกันมานานแรมปี
มาถึงตอนนี้ พิมลมาสเลี่ยงไม่ได้แล้วที่จะต้องจำใจตอบโต้เขาไปบ้าง
คุณบอกว่ามาหาฉัน รู้จักบ้านฉันด้วยเหรอ
รู้จักสิครับ ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง พยักหน้ายิ้มยั่ว ล้อดวงตากลมโตบ่งบอกความฉงนของเธอ แหม อย่ามองอย่างนั้นสิ แค่บ้านของผู้หญิงที่สนใจ พี่หาแป๊บเดียวก็เจอแล้ว
คุณมีธุระอะไรกับฉัน พิมลมาสวางหน้าให้เป็นปกติ ทำไม่สนใจกับ ขนมจีบ ที่เขาทุ่มใส่โต้งๆ แต่คนอย่างพีรัชไม่มีอ้อมค้อมเลย
พี่ก็บอกแล้วไงครับ ว่าพี่สนใจน้องมาส
หญิงสาวชะงักกึก นิ่วหน้า มองเขาตาขุ่น
แสดงว่าคุณไม่ได้มีธุระอะไร ที่เป็นสาระเลยใช่ไหมคะ
พี่สนใจน้องมาส แค่นี้ก็สาระสุดๆแล้ว ชายหนุ่มยังคงหลงตัวเองไม่แคร์สื่อ
พิมลมาสถอนหายใจเฮือก มองเขาโกรธๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ก่อนที่เธอจะเมิน เดินหนีเขาดื้อๆ
อ้าว น้องมาส เดี๋ยวสิ รอพี่ด้วย พีรัชรีบก้าวตามมาติดๆ ไม่ปล่อยให้คนที่สนใจหลุดไปง่ายๆ
ฉันไม่ว่างจะมาไร้สาระกับคุณหรอกนะ แล้วก็เลิกเรียกฉันน้องมาสได้แล้ว ฉันไม่ได้สนิทกับคุณขนาดนั้น พิมลมาสหันมาตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างหมดความอดทน ไม่เคยพบเคยเจอใครหน้าหนาอย่างนี้เลยจริงๆ ให้ตายสิ!
ไม่สนิทอะไร น้องมาสไม่รู้สึกเลยจริงๆเหรอ ว่าระหว่างเรามันมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา พีรัชค้านเสียงเข้ม ดวงตาคู่สวยคมจ้องเขม็งอยู่ที่ใบหน้าเนียนของหญิงสาว
พูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ
ไม่จริงหรอก พี่รู้ว่ามาสเข้าใจ มาสก็ต้องเหมือนพี่นั่นละ ที่รู้สึกคุ้นเคย รู้สึกเหมือนว่าเราสองคนรู้จักกันมานาน...พี่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน นอกจากมาสคนเดียว
พิมลมาสเบิกตาโต มองฝ่ายตรงข้ามอย่างงุนงง ไม่คาดว่าจะได้ยินคำพูดทำนองนี้จากคนอย่างเขา
ท่าทางพีรัชตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววกวนประสาทอย่างเคยเสียด้วย เขาทำให้เธอยิ่งงง มึนตึ้บ
ไม่...ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณ เข้าใจผิดแล้วละ
ไม่จริง พี่รู้ว่ามาสต้องรู้สึกเหมือนพี่นั่นละ ชายหนุ่มรีบคว้าข้อมือบางขึ้นมากำรวบไว้แน่น กลัวว่าเธอจะหนีหายไปไหนเสียก่อนจะได้ฟังเขาให้จบ พี่ยังจำได้นะ ตอนที่เราพบกัน มาสจ้องพี่อยู่ตั้งนาน...มาสเองก็รู้สึกเหมือนที่พี่รู้สึก แต่มาสไม่ยอมรับความจริงมากกว่า
บ้า ฉันไม่รู้สึกอะไรกับคุณทั้งนั้น...อย่ามาจับ ปล่อยฉัน
เธอดึงมือตัวเอง อยากให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา แต่พีรัชไม่ยอมปล่อย กลับยึดมือเธอเอาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ไม่เอาน่าน้องมาส อย่าทำงอแงเป็นเด็กอย่างนี้สิครับ พี่มาดีนะ ไม่ได้มาร้าย ไม่เห็นต้องทำท่ารังเกียจกันขนาดนี้เลยนี่นา
ปล่อยฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉัน ช่วยเข้าใจด้วยว่าสำหรับฉันแล้ว คุณเป็นคนแปลกหน้าอยู่ค่ะ
พิมลมาสกระชากเสียงตอบโต้เขาไม่ลดละ เพราะอาการแข็งขืนต่อต้านของเธอนี่เอง ที่ทำให้พีรัชโกรธจัดจนกระชากร่างบางเข้ามาใกล้ ประจันหน้ากันในระยะกระชั้นชิด เรียกได้ว่า ลมหายใจเป่ารดกันเลยก็ว่าได้
ทว่าหญิงสาวมิได้รู้สึกตื่นเต้น วาบหวามหวั่นไหว ต่อให้ชายหนุ่มตรงหน้าสุดจะหล่อเหลารูปงาม แต่กริยาของเขาที่ทำต่อเธอเวลานี้ คะแนนของพีรัชในสายตาของพิมลมาสจึงติดลบไปมากมาย
แปลกหน้าอะไร เราเจอกันครั้งที่สามแล้ว รู้จักชื่อกันแล้วด้วย ยังจะเรียกว่าแปลกหน้าได้ยังไง...ไม่เอาน่า พี่รู้นะ ว่าน้องมาสก็แค่เล่นตัวเพื่อให้ดูน่าสนใจ ไม่ต้องเล่นตัวอะไรพี่ก็สนใจมาสจะแย่อยู่แล้วละ
พีรัชหลงตัวเองอย่างร้ายกาจ คนฟังแทบอยากขย้อน
ฉันไม่ได้ปลื้มคนเพราะหน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก เธอค้านเสียงเข้ม มองเขาตาวาวโรจน์ เกรี้ยวกราด อย่างคุณ ก็มีดีแค่รูปร่างหน้าตา แต่จิตใจ...คงไม่ต้องให้ฉันขยายใช่ไหม ว่าคนที่กล้าทำร้ายคนแก่น่ะ มันทุเรศขนาดไหน
พิมลมาสเน้นย้ำจริงจัง มิได้มีวี่แววล้อเล่นเพื่อเรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด ทำเอาพีรัชถึงกับชะงัก หน้าเจื่อนไป
พูดเรื่องอะไรน่ะ พี่ทำร้ายคนแก่ที่ไหน...เอ๊ะ หรือน้องมาสจะหมายถึงตาแก่ หมอดูปากเสียนั่น
คุณลุงเขาชื่อโกษา แล้วถึงคุณจะไม่ชอบใจคำพูดของคุณลุงยังไง ก็ไม่ควรส่งคนไปลงไม้ลงมือทำร้ายแก ลุงโกษาแกแก่คราวปู่คุณด้วยซ้ำ
ไอ้สองตัวนั่นมันเสล่อไปเอง พี่ไม่ได้สั่งให้มันไปเล่นงานตาแก่นั่นเสียหน่อย... พีรัชหน้าเจื่อน เหมือนจะรู้ตัวอยู่บ้างเหมือนกันว่าพลาดไป แต่ทิฐิของเจ้าตัวมีอยู่มากเกินกว่าจะยอมรับว่าตัวเอง ผิด
น่าแปลก ทั้งที่เธอเพิ่งรู้จักกับเขาแท้ๆ แต่พิมลมาสกลับมั่นใจว่าเธอมองเขาทะลุปรุโปร่งไปถึงสันดาน!
ขอโทษเถอะค่ะ ฉันไม่ว่าง ขอตัวก่อนนะคะ เธอปัดมือทั้งสองข้างของเขาที่ไหล่ของตัวเองออกไป เอ่ยเสียงเข้มหนักแน่น
น้องมาส ฟังพี่ก่อนสิ นี่!
พีรัชร้องเรียกหญิงสาว ไม่อยากให้เธอจากไปง่ายๆ อย่างนี้ แต่พิมลมาสเดินลิ่วๆ จ้ำอ้าว ทำราวกับเกลียดชังอะไรเขานักหนา
เห็นแล้วมันอดมีน้ำโหไม่ได้!
ร่างสูงก้าวตามหญิงสาวไปไม่ยอมให้เธอคลาดสายตา ขาเขายาวกว่าเธอมาก อย่างไรเสียพิมลมาสไม่มีทางจะหนีพ้นมือเขาไปไหนได้แน่นอน
ชายหนุ่มแสยะยิ้มย่ามใจ ตั้งใจจะสยบม้าพยศให้เชื่องยิ่งกว่าแมวเหมียว ทว่าจู่ๆ พิมลมาสก็เลี้ยวจากถนนทางเดินเข้าไปในเพิงขายน้ำข้างทางหน้าตาเฉย
พีรัชส่ายหน้า ระอาแกมเอ็นดู หยุดยืนรอหญิงสาวอยู่หน้าร้าน คิดว่าเดี๋ยวเธอก็ต้องออกมาอยู่ดี พิมลมาสก็แค่ยื้อเวลาออกไปได้นิดหน่อยเท่านั้น
แต่เขาคิดผิด เพราะนับแต่วินาทีนั้น บางสิ่งสำหรับพิมลมาสก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
-----------------------------------------
------------------------------------
Create Date : 13 พฤษภาคม 2557
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 9:27:56 น.
Counter : 633 Pageviews.
2 comments
Share
Tweet
****** ขอบคุณคุณ sakeena ค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานมากๆเลยนะคะ แต่คราวนี้จะพยายามมาต่อให้ครบกำหนด สิบแปดบทเร็วๆ ค่ะ อิอิ นางเอกเป็นสาวยุคใหม่ ไม่ปิดบังค่ะ แต่พระเอกเรานี่สิ...หัวโบราณมากค่ะ อิอิ ^^
******* ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ
ษาค่ะ
--------------------------------------
โดย:
พิมพ์นรา
วันที่: 13 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:31:21 น.
ถูกชะตาแม่ แต่เกลียดลูกชาย
ไปใ้ห้พ้นอย่ามายุ่งกะแม่จันทร์ของพี่พันนะ ไปไป๊ ชิ้วๆๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
โดย: sakeena IP: 124.120.67.33 วันที่: 13 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:18:34 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พิมพ์นรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [
?
]
Group Blog
<<
พฤษภาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
13 พฤษภาคม 2557
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
All Blog
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๗
หนึ่งใจนิรันดร บทที่๑๖
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๕
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๔
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๑
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๐
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๘
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่ ๗ (ขอเปลี่ยนชื่อเป็น "หนึ่งใจนิรันดร" นะคะ)
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๖
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๕
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๔
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๓
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๒
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๑
Friends Blog
Doungtawan
ป้ามด
fluffyboy101
N_BEE810
เนยสีฟ้า
ammataya
wilmington
ธรารินทร์
เม-ดา
คีตภา
wayo
ลันเตา...
หมาดำล่องหน
หินสีม่วง
Webmaster - BlogGang
[Add พิมพ์นรา's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอโทษที่หายไปนานมากๆเลยนะคะ แต่คราวนี้จะพยายามมาต่อให้ครบกำหนด สิบแปดบทเร็วๆ ค่ะ อิอิ นางเอกเป็นสาวยุคใหม่ ไม่ปิดบังค่ะ แต่พระเอกเรานี่สิ...หัวโบราณมากค่ะ อิอิ ^^
******* ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ
ษาค่ะ
--------------------------------------