Bloggang.com : weblog for you and your gang
บล็อกนิยายหวานสดใสของพิมพ์นรายินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ^^
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
๑๘.
บริเวณหน้าประตูเมืองศรีสัชนาลัยทั้งสี่ด้าน ในค่ำคืนนี้ ตระการตาไปด้วยพลุและไฟพะเนียง บ้านเรือนต่างตามประทีปสว่างไสว หนุ่มสาวทยอยกันถือโคมลอยทำจากวัสดุธรรมชาติต่างๆ บ้างก็เป็นกาบมะพร้าวบ้าง กาบกล้วย ดอกไม้ หรือวัสดุอื่นใดเท่าที่พอหากันได้ นำมาปักธูปจุดเทียนสว่างเรืองรอง แล้วจึงลอยล่องโคมลอยของตนเองไปบนสายน้ำที่ไหลเชี่ยว
กลุ่มควันจากการเผาเทียนเล่นไฟฟุ้งไปทั่ว หนุ่มสาวและเด็กๆ หยอกล้อเล่นสนุกกัน สองข้างทางเดินมีขนมหน้าตาแปลกๆ หลายอย่างที่พิมลมาสไม่รู้จัก แต่ดูแล้วก็น่าจะทำกันตามประสาชาวบ้านออกมาวางขายคึกคัก ทั่วทั้งเมืองช่างสว่างไสวมลังเมลืองสมกับคำขวัญประจำเมืองของสุโขทัย
รุ่งอรุณแห่งความสุข
ที่วังค่ำคืนนี้ ท่านมหาอุปราชและเหล่าลูกขุนพร้อมทั้งพระสนมนางใน ต่างก็จักทำการลอยประทีปโคมลอยแบบของเจ้าด้วย ไปรอดูไหมละ พันภพเอ่ยชวน คิดว่าพิมลมาสคงอยากเห็นผลงานของตัวเอง ที่อุตส่าห์สอนพระสนมศรีลักษณาไว้
ไปสิ แต่เราดูอยู่ไกลๆ ก็พอนะคะ มาสไม่อยากให้พี่พันเข้าไปเบียดเสียดกับคนเยอะ พี่พันยิ่งไม่สบายอยู่ เธอไม่ลืมอาการของเขา ตลอดเวลาที่เข้ามาเดินเล่นในเมืองด้วยกัน พิมลมาสก็ทำตัวอย่างกับเป็นผู้ปกครองเขาทีเดียว
ชายหนุ่มนึกขันคนตัวเล็ก แต่มิได้นึกรำคาญหรือขุ่นเคืองใดๆ กลับอุ่นใจ ซาบซึ้งกับกับความรักที่นางมอบให้
พันภพพาหญิงสาวมาที่ท่าน้ำฝั่งตรงกันข้ามกับพระมหาราชวัง นั่งรอเพียงไม่นานขบวนของพระมหาอุปราชก็เสด็จออกมาลอยกระทงซึ่งทำจากใบตองแซมด้วยดอกไม้งดงาม ดั่งดอกไม้ยักษ์ที่ส่องแสงวิบวับท่ามกลางสายน้ำในยามรัตติกาล
เมื่อดอกบัวยักษ์เรืองแสงล่องลอยตามกันไปเป็นสาย ดูช่างสวยงามราวกับภาพในฝัน
พิมลมาสเฝ้ามองตามจนกระทงทั้งหมดนั้นลับหายไปกับสายตา รู้สึกภูมิใจยิ่งที่ได้มีโอกาสทำสิ่งดีๆเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอันสวยงามน่าประทับใจเช่นนี้
มาสทำกระทงเอาไว้สำหรับพี่พันด้วย ไว้เราค่อยกลับไปลอยด้วยกันที่บ้านนะคะ เธอหันมาบอกเขา หลังจากที่กระทงของเจ้านายที่ฝั่งตรงข้ามลอยลับหายไปกับคุ้งน้ำแล้ว
เจ้าเรียกโคมลอยว่า...กระทง รึ
ค่ะ ต่อไป ประเพณีนี้จะเปลี่ยนชื่อเรียก จากการลอยพระประทีปหรือลอยลอยโคม เป็น งานลอยกระทงทรงประทีป หรือเรียกสั้นๆว่า งานลอยกระทงค่ะ เธอบอกเขาพร้อมยิ้มสดใส ดวงตากลมโตพริบพราวมีชีวิตชีวา
ถ้าเช่นนั้น งานลอยกระทงที่บ้านเจ้า ก็คงสวยงาม ท้องน้ำคงเต็มไปด้วยโคมรูปดอกโกมุทพวกนั้นเต็มไปหมด...พี่อยากเห็นจริงๆ ว่ามันจักงดงามเพียงใด เสียงทุ้มแผ่วจางช่างหมองหม่นจนคนฟังใจหาย
ก็เหมือนกับที่เราเห็นเมื่อกี้ละค่ะ พิมลมาสกุมกระชับมือใหญ่ของเขาไว้มั่น บีบเบาๆ ให้กำลังใจ แต่ที่มาสเคยเห็นมันมากกว่านี้มากมาย...เอาไว้ปีหน้า มาสจะทำกระทงเยอะๆ ให้พี่พันภพเห็นว่าเวลาที่กระทงลอยอยู่เต็มท้องน้ำไปหมด มันสวยงามแค่ไหน ถึงพี่พันจะไม่ได้เห็นของจริง แต่มาสจะทำให้เห็น จะเล่าให้ฟัง...จะวาดรูปให้ดูด้วยค่ะ
พี่จักรอดู รอฟัง...รอที่จักอยู่กับเจ้าเสมอ...ไม่ว่านานแสนนานแค่ไหน สืบจากนี้ไป...ขอให้พี่เป็นฝ่ายรอเจ้าเถิด
พี่พัน พูดอะไรน่ะ มาสไม่เข้าใจ
หญิงสาวงุนงง จู่ๆ เขาก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้ มองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ถ้อยคำนั้นก็นุ่มนวลแต่ฟังแล้วช่างแปร่งหู
ลุกเถอะ ก่อนที่พี่จักกลับเรือนคืนนี้ พี่มีที่หนึ่งจักต้องพาเจ้าไปก่อน อีกเช่นเคยที่พันภพไม่ยอมตอบคำถามของหญิงสาว แต่กลับผุดลุกขึ้น ฉุดให้เธอลุกตามมาด้วยอย่างเสียมิได้
พิมลมาสงุนงง ไม่เข้าใจเขาเลย วันนี้ดูเขาแปลกไปทั้งวัน ราวกับไม่ใช่พันภพคนเดิมที่เธอเคยคุ้น ดูเขามีอะไรบางอย่างที่ปกปิดเธอเอาไว้
แต่มันคืออะไรกันละ
พันภพพาหญิงสาวขึ้นม้าตัวโปรด เดินทางออกนอกกำแพงดินที่โอบล้อมตัวเมืองเอาไว้เล็กน้อย ก็มาถึงวัดพระปรางค์ ชายหนุ่มบังคับม้าตรงมาที่ริมน้ำด้านข้าง แม่น้ำยมค่ำคืนนี้ไหลเชี่ยวและแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมา แสงจันทร์กระจ่างเต็มดวงส่องให้เห็นทุกอย่างแจ่มชัด แม้บริเวณนี้จักปราศจากแสงไฟและผู้คนก็ตาม
พี่พันภพพามาสมาที่นี่ทำไมหรือคะ
เธอเอ่ยถามขณะที่อีกฝ่ายอุ้มพาเธอลงมาจากหลังมาลงมาหยุดยืนบนพื้นหญ้าชุ่มชื้นไปด้วยกระไอน้ำค้าง
ท่านโกษาเล่าว่า พบเจ้าที่บริเวณนี้... เขาบอก พลางรั้งแขนเธอให้ก้าวเดินตรงไปที่ชายน้ำด้วยกัน พื้นหญ้าขาวพราวไปด้วยดอกปีบแสนสวยส่งกลิ่นหอมละมุนละไมชวนชื่นใจ ทว่าพิมลมาสเวลานี้ เต็มไปด้วยความฉงน
ลุงโกษาเล่าเรื่องมาสให้พี่พันฟังด้วยหรือคะ
ท่านเล่าทั้งหมด...พี่รู้จักสนิทสนมกับท่านมาตั้งแต่จำความได้ ท่านโกษารู้ทุกเรื่องของพี่ พี่ไม่รู้จะหาทางออกกับเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ยังไง ก็เลยไปปรึกษาท่าน
จริงเหรอคะ แล้ว...ท่านว่าไงบ้างคะพี่พัน
ท่านตรวจชะตาให้พี่ แล้วบอกว่า ดวงของพี่เป็นดวงที่ถูก สาปแช่ง ...มีชะตาที่ไม่มีใครอ่านได้...เป็นชะตาของคนสาบสูญ ไม่มีภพ...ไร้แผ่นดิน
คนฟังนิ่งอึ้ง ใจหายวาบ พลอยเจ็บปวดไปกับเขาด้วย แต่ยังคงแข็งใจปลอบโยนเสียงสั่นน้อยๆ
ไม่หรอกค่ะ ก็แค่หมอดู...มันอาจไม่เป็นจริงอย่างงั้นก็ได้นี่คะ
มันเป็นความจริงทุกอย่าง อย่างที่ท่านโกษาทำนายเอาไว้...ท่านบอกว่า วันหนึ่งเมื่อถึงเวลา พี่จักได้พบกับนางในฝันของพี่ แล้วเราก็ได้มาพบกันจริงๆ... พันภพหันไปมองหญิงสาวเต็มตา เช่นเดียวกับที่เธอเองก็เห็นเขาชัดเจน
ดวงตาคมดุมีอำนาจดุจราชสีห์ ยามนี้แสนเศร้าหมองหดหู่ หัวใจเธอราวกับถูกบิดให้ปลิดหลุดจากขั้ว
พี่ไปหาท่านโกษาวันที่เจ้าตกน้ำ แล้วก็ได้ช่วยเจ้าขึ้นมา พาเจ้ามาอยู่ด้วยกันที่เรือน...เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มันหาใช่เรื่องบังเอิญ แต่ทุกสิ่งมันได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วต่างหาก
ถูกกำหนดไว้แล้ว...อะไรกำหนดละคะพี่พัน หญิงสาวส่ายหน้า ไม่เชื่อ ทว่าเมื่อพันภพเอ่ยขึ้นมาเท่านั้น เจ้าหล่อนก็ถึงกับสะอึกอึ้ง
เราสองผูกพันกันด้วยแรงอธิษฐาน สัจจาคงมั่นที่เคยให้กันไว้เนื่องแต่บรรพกาล...เวรกรรมผูกพันเราให้มาเจอะเจอ แม้ว่าจักอยู่ต่างด้วยกาลเวลา สัจจาของเราทำให้เรารักกัน แม้จักมิได้มีโอกาสพูดคุย...ตลอดอสงไขยอันยาวนาน พี่และเจ้า มีความรักมั่นต่อกัน แต่รักมั่นคงของเรานี้ ได้สร้างบ่วงกรรมขึ้นมามากมาย
พิมลมาสน้ำตาร่วง ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่เขาพูดไม่เป็นความจริง แต่เธอเองก็รู้เท่าๆกับเขา สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองย่อมบ่งบอกได้ในทุกคำตอบดียิ่งกว่าใดๆ
เธอมักเห็นภาพหลอนของชายหญิงที่หน้าเหมือนเธอและพันภพเสมอตามที่ต่างๆ เห็นความรักและคำมั่นสัญญาที่หนุ่มสาวทั้งสองให้ไว้ด้วยกันทุกภพชาติ เห็นถึงความผูกพันที่ร้อยรัดคนทั้งคู่เอาไว้ด้วยบ่วงแห่งสัตย์สาบานซึ่งมิเคยไถ่ถอน
แต่ความรักมั่นคง จะเป็นบาปกรรมได้อย่างไรกันเล่า
มาสไม่เข้าใจ...หากเราผูกพันกันด้วยสัญญามั่นที่มี แล้วจะเป็นการก่อกรรมได้ยังไงละคะ
คนผิดหาใช่เจ้าไม่ แต่เป็นพี่เอง อภัยให้พี่ด้วยพิมลมาส... เขายกมือใหญ่แนบไว้กับข้างแก้มนุ่มละมุนของหญิงสาว ตาคมปลาบจ้องมองเธอนิ่งแน่วไม่ละไปไหน พี่ไม่อาจมีชีวิตอย่างคนธรรมดาได้ สัจจาของเราดึงเจ้ามาร่วมทุกข์กับพี่...และเพราะเจ้าต้องจากบ้านเมืองตัวเองมา ทำให้พ่อแม่ของเจ้าต้องเสียใจ เป็นทุกข์น้ำตาตก ตัวเจ้าเองก็ไม่มีความสุขเลยเช่นกัน...ตลอดมา พี่ทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานเสมอ เวียนวนอยู่เช่นนี้เป็นวัฏจักร เพราะฉะนั้น...พี่จึงเห็นด้วยกับที่ท่านโกษาแนะนำด้วยเมตตา
ลุงโกษาแนะนำอะไรพี่พันเหรอคะ... พิมลมาสเอ่ยถามอย่างยากลำบาก ในลำคอจุกแน่นเจ็บร้าวไปหมด
เธอสังหรณ์ใจไม่ดีเลย แล้วก็จริงเสียด้วย!
ท่านโกษาให้พี่ขอถอนคืนสัตย์สาบานของเจ้า ปลดปล่อยเจ้าจากพันธะสัญญาที่เคยมีต่อกัน
พิมลมาสเบิกตาโพลง ตะลึงงัน ไม่คาดฝันว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากอีกฝ่าย
พี่พันพูดอะไร...ถ้าคำสาบานนั้นผูกพันเราไว้ด้วยกัน นั่นก็หมายความว่า การที่เราได้กลับมาพบกันเป็นเพราะสัญญาครั้งนั้น...หากถอนคืนคำสาบาน...เราอาจไม่ได้พบกันอีกเลยก็ได้นะคะ...
พันภพนิ่งขึง แววตาหมกมุ่นครุ่นคิด เขาเองก็หาความสบายใจมิได้เลย ทั้งเจ็บปวด กดดัน อัดอั้นไม่ได้ต่างกับเธอเลย
ทว่ารักแท้คือสิ่งใดเล่า...คือการได้ ครอบครอง โดยไม่สนใจผลที่ตามมา หรือคือการเสียสละย่อมปลดปล่อยอีกฝ่ายไปเสียจากความเจ็บปวดทรมาน
พันภพได้เลือกแล้ว และยินดีจะจมหายไปกับกาลเวลาเบื้องหน้าของพิมลมาส!
"หากเราสองสิ้นซึ่งบุพเพต่อกันแล้ว พี่ก็ขออวยพรให้เจ้าได้พบกับคนดีที่คู่ควร...ให้บุรุษผู้นั้น นำพาแต่ความสุข ความเจริญมาสู่ชีวิตเจ้า...บางที ชายผู้นั้นอาจกำลังรอคอยอยู่แล้วในโลกของเจ้า"
"ไม่เอา...มาสจะอยู่กับพี่พันภพ มาสไม่ทิ้งพี่ไปไหนเป็นอันขาด อย่าทิ้งมาสนะ...อย่าทิ้งมาส..." เธอร่ำไห้ น้ำตานองหน้า ทะลักทลาย มือบางคว้าแขนหนาของเขาเอาไว้แน่น หวังว่าเขาอาจจะเปลี่ยนความคิด ทว่า...
พันภพสลัดแขนหลุดไป เมินมองไปทางอื่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม จริงจัง
"หามีทางเลือกอื่นอีกแล้วไม่ จงเชื่อพี่ ตั้งจิตมั่นแล้วถอนคืนคำสาบาน บัดเดี๋ยวนี้เราสองจักแยกขาด อย่าได้เกี่ยวพันกันด้วยแรงสาบานอีก สืบไปจนทุกชาติภพ!"
"พี่พันภพ!"
พิมลมาสแทบขาดใจ น้ำตาหลั่งไหลปานจะกลายเป็นสายเลือด ลมหายใจของเธอเหลือน้อยลงจนแทบไม่รับรู้สิ่งใด ใบหน้าเย็นชาของเขาเบือนหันไปทางอื่นราวกับว่า พันภพจะไม่หันมามองเธออีกแล้วจนตราบนิรันดร
"ไม่เอา...มาสไม่ถอนคืนคำสาบาน...มาสไม่มีวันถอนคืน พี่พันอยากถอนก็ทำไปคนเดียวสิ พี่พันไม่ต้องผูกพันกับมาสก็ได้ มาสจะตามพี่พันเอง มาสไม่มีวันแยกจากพี่พันเป็นอันขาด" เธอประกาศก้องจริงจัง สองตาคลอขังไปด้วยน้ำตากบมิดแทบมองไม่เห็นสิ่งใด ร่างบอบบางสั่นสะท้าน เสียงหวานแหบโหยเจือสะอื้นดังกระท่อนกระแท่น "กว่าเราจะได้มาพบกัน ต้องรอคอยแสนนาน...แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอคะ ไม่ว่าเราจะทำผิดอะไรไว้...เราก็ใช้กรรมของเรามามากพอแล้ว...ทำไมเราจะต้องจากกันอีก ในเมื่อต่างที่ต่างเวลาเรายังมาเจอกันได้เลย มาสไม่เชื่อหรอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้!"
พิมลมาสโผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว พลันนั้นเองที่พันภพสะดุ้งเฮือก ทว่าหญิงสาวมิทันได้สังเกต เธอกำลังเสียใจ โศกเศร้าจนลืมนึกถึงบางสิ่งไปสนิท
"เชื่อพี่เถิดพิมลมาส...อย่าได้ดื้อดึง...หากพี่สำคัญต่อเจ้ามากพอ ถือว่าพี่ขอร้องเจ้าก็ได้...ได้โปรดลืมพี่เสียเถิด ถือว่าเราไม่เคยพบกันมาก่อนก็ได้ เจ้าไปเถิดนะ กลับไปวันเวลาของเจ้า...พี่ถอนคืนสัตย์สาบาน นับแต่บัดนี้สืบไป เราสองจักไม่ผูกพันด้วยสาบานแต่เก่าก่อน เจ้าจักไม่ต้องทุกข์ทรมานเพราะพี่อีก"
ไม่... หญิงสาวส่ายหน้า น้ำตาไหลพรากแต่พันภพกระชับต้นแขนเธอไว้แน่นเข้า พลางส่งสายตาคาดคั้น
ต้องได้ พิมลมาส อยู่กับพี่เจ้าจักไม่มีวันมีความสุข...เจ้าต้องถอนคืนคำสัตย์ของเจ้าเสีย เดี๋ยวนี้!
ไม่!
พิมลมาส
อย่าบังคับมาสเลยนะพี่พัน...จะทุกข์ยาก เจ็บปวดแค่ไหน มาสก็ยินดี ถ้านี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะดึงให้เราได้มาพบกัน...มาสไม่อยากจากพี่ไปไหนอีก การต้องจากพี่พันไป ก็เป็นความทุกข์ทรมานของมาสเหมือนกัน... เธอสะอื้นเหมือนเด็กน้อย เอาหน้าซุกอกเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน ทำเอาพันภพ อ่อนยวบ ลงไปทันที
ไม่มีใครรู้เท่าเขาอีกแล้ว ว่าต้องใช้ความพยายามมากมายเพียงใด จึงสามารถตัดนางได้ เขาไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย คิดถึงแต่นางเท่านั้น
มือใหญ่สอดโอบกอดหญิงสาว ลูบไล่แผ่นหลังนุ่มนิ่มของเธอ แสนสุขใจที่มีพิมลมาสอยู่ในอ้อมแขนเช่นนี้ ต่อให้ต้องแลกด้วยความเจ็บปวดใดๆ เขาก็ไม่แยแส ทว่า...
เพื่อความสุขที่แท้จริงของพิมลมาส เขาต้องทำ!
มาส คนดีของพี่...พี่รู้ว่ามาสเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อพี่ เขาก้มลงไปกระซิบเอ่ยเสียงแผ่วข้างใบหูนุ่มนิ่มของหญิงสาว หวังว่านางจะเข้าใจถึงความปรารถนาดีที่เขามีให้ พี่ซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้านัก...แต่ด้วยกรรมเก่าตามมา พี่เป็นคนกรรมหนัก มิรู้ว่าจักต้องพบจุดจบเมื่อไหร่ ต่อให้เจ้าเต็มใจจักลำบากกับพี่ แต่พี่ก็ไม่สบายใจ ไม่มีความสุขด้วยห่วงเจ้านัก
เขากดหลังศีรษะให้ใบหน้าของเธอชิดแนบกับแผ่นอกกว้างของเขา ร่างสูงใหญ่สะท้านน้อยๆ
ถ้าการรั้งเจ้าเอาไว้ที่นี่จักทำให้เจ้าต้องทรมานตลอดไป...ก็สู้ปล่อยให้เจ้าได้ไปพบกับเส้นทางที่ดีกว่าซึ่งรอเจ้าอยู่มิดีกว่ารึ...พี่ไตร่ตรองดีแล้ว สัจจะสาบานด้วยรักแท้ของเรา มิควรทำร้ายใคร...มิเช่นนั้นแล้ว ก็อย่าได้สาบานกันจักดีกว่า
พี่พัน... หญิงสาวสะอื้นให้แทบขาดใจ สองแขนเรียวเล็กโอบกอดเขาไว้แน่นเข้า แต่ยิ่งใกล้เพียงใด หัวใจก็ยิ่งทุรนทุรายเจ็บปวด
การต้องพลัดพรากจากคนรัก ก็ไม่ต่างจากถูกกรีดเนื้อควักหัวใจเอาออกไป...เธอจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร หากขาดหัวใจไปเสียแล้ว...
ถือว่าพี่ขอเถิดพิมลมาส...คืนคำสาบานของเจ้ามา เราอาจมีโอกาสพบกันอีกในกาลเบื้องหน้า และเมื่อนั้น...บุพเพของเราจักไม่ทำร้ายใครให้เจ็บปวดอีก เขาดันร่างเธอออกห่างเล็กน้อย เพื่อจะได้มองหน้านวลผ่องให้ถนัด สะท้อนใจนักเมื่อแลเห็นน้ำตานองหน้าของนางผู้เป็นที่รัก
พันภพใช้ปลายนิ้ว ช่วยเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน แม้จะรู้ว่าไร้ผล เพราะน้ำตามิเคยแห้งเหือดไปจากใบหน้างามของนางเลยก็ตาม
พ่อแม่ของเจ้ายังรออยู่...กลับไปหาพวกท่าน ทำหน้าที่ของลูกที่ดี กลับไปนะพิมลมาส เขาหว่านล้อม อ่อนโยน และหญิงสาวก็ยิ่งสะอื้นตัวโยน
เขาพูดถึงขนาดนี้ แสดงว่าเธอไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่นแล้วสินะ...
มาสถอนคืนคำสาบานก็ได้...มาสจะไม่ผูกพันกับพี่พันภพด้วยสาบานแต่เก่าก่อนของเราอีก... เธอเอ่ยกระท่อนกระแท่นเจือสะอื้นแทบฟังไม่ได้ศัพท์ แต่มาสจะรอพี่พัน ครั้งนี้ไม่มีคำสาบานใดๆ มาสแค่อยากให้พี่พันรับรู้ ต่อให้นานแค่ไหน มาสก็จะรอพบพี่พันเสมอ...
เธอเงยหน้ามองเขา ใบหน้าหวานแสนเศร้าหม่นหมอง ทว่าดวงตากลมโตเป็นประกายมุ่งมั่น จริงจัง คนตัวโตอดไม่ได้จะยิ้มบางๆ ทั้งตื้นตันและซาบซึ้ง
ขอบใจเจ้านัก...พี่หวังว่าสักวัน คงมีโอกาสได้ตอบแทนเจ้าบ้าง...เอาสิ่งนี้เก็บติดตัวเจ้าไว้นะ
เอ๊ะ
พิมลมาสอุทานได้แค่นั้น แล้วก็มองพันภพสวมกำไลทองคำของเธอกลับเข้ามาที่ข้อมือของเธออย่างงุนงง
นี่เป็นกำไลที่พี่ทำให้เจ้าเมื่อแสนนานมาแล้ว มันผูกพันด้วยเราสองมาเนิ่นนาน หากเจ้าให้พี่ไว้ในอดีต กาลข้างหน้าเจ้าก็จักต้องกลับมาที่นี่อีก จงนำมันกลับไปด้วย ถือว่าเป็นของดูต่างหน้าพี่...ลาก่อนนะพิมลมาส
พี่พัน... ได้ยินคำลาของเขา หัวใจเธอแทบสลาย น้ำตาไม่มีจะไหล แม้เรี่ยวแรงจะทรงกายก็ยังหมดสิ้น
กลิ่นดอกปีบหอมฟุ้งรุนแรง จากหวานหอมชื่นใจกลับกลายเป็นฉุนเอียนชวนเวียนศีรษะ พระจันทร์เต็มดวงที่กลางฟากฟ้าทอแสงเงินยวงสว่างวาบจนเธอแสบตา มองไม่เห็นสิ่งใด
มันขาวโพลนไปหมด แม้กระทั่งคนตัวโตที่ยืนอยู่ต่อหน้า
พี่พัน...พี่พัน...
พิมลมาสรู้สึกว่าพื้นที่เธอยืนอยู่มันโคลงเคลง หญิงสาวรีบคว้ามือใหญ่อบอุ่นของพันภพเอาไว้แน่น ไม่ปรารถนาปล่อยให้เขาไปไหน พันภพเองก็บีบกระชับมือเธอเอาไว้เช่นกัน ทว่าครู่เดียวชายหนุ่มก็ถอนฝ่ามือจากไป
สิ่งสุดท้ายที่พิมลมาสจดจำได้ก่อนจะหมดสติไป ก็คือดวงตาคมเข้มที่ทอดมองมาของเขา...ช่างเศร้าหมองหดหู่ชวนให้ใจหายเหลือเกิน
------------------
---------------
Create Date : 22 มิถุนายน 2557
Last Update : 22 มิถุนายน 2557 9:25:44 น.
Counter : 2210 Pageviews.
6 comments
Share
Tweet
***** จำเป็นต้องทิ้งเอาไว้แบบเศร้าๆ นะคะ เพราะว่า หากลงต่อจากนี้ จะเป็นการสปอยด์เรื่องค่ะ เรื่องนี้โทนจะเศร้า แต่เป็นรักลึกซึ้งค่ะ พยายามจะไม่ให้เศร้ามาก แต่บางฉากก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เอาเป็นว่า ทั้งสองต้องฝ่าฝันอุปสรรค พิสูจน์ความมั่นคง อีกเยอะพอควรเลยค่ะ
ต้องขอบคุณ คนอ่านทุกท่าน ที่ติดตามในทุกรูปแบบนะคะ ตัวเล่มของจริง จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้บ้างค่ะ แต่เพื่อให้เรื่องสมบูรณ์ขึ้น อ่านง่ายขึ้น ถ้าได้ปกที่สมบูรณ์จะเอามาอวดนะคะ ^^
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตาามค่า ผิดพลาดประการใดไป ต้องขออภัยด้วยนะคะ จุ๊บๆๆๆ
ษาค่ะ
---------------------------
โดย:
พิมพ์นรา
วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:9:39:52 น.
เสียดายไม่ได้อ่านแต่แรกค่ะ
เอาไว้จะตามอ่านเรื่องใหม่นะคะ ^^
โดย:
lovereason
วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:20:52:48 น.
เรื่องนี้เศร้ามาก คาใจอีกละ เดี๋ยวต้องรีบไปอ่านต่อในหนังสือละ จะวางแผงเมื่อไหร่คะ
โดย: nasa IP: 110.78.186.251 วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:0:31:12 น.
พี่พันๆๆๆๆอย่าไปนะ เมื่อไหร่เค้าจะได้เจอพี่พันอีกเนีย อย่าให้รอนานนะ
โดย: sakeena IP: 124.120.42.174 วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:9:41:23 น.
ฮื่อ..ฮื่อ..ฮื่อ.. พี่พันไปละ คาใจจริงๆ เป็นเล่มเมื่อไหร่แจ้งข่าวกันด้วยน๊า...คิดถึงน่ะ
โดย: ดอกฝิ่น IP: 119.63.78.246 วันที่: 26 มิถุนายน 2557 เวลา:14:31:06 น.
*****ตอบทุกท่านนะคะ ^^
ขอบคุณ คุณ lovereason ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ น่ารักจังเลย >///<
ขอบคุณคุณ nasa ค่ะ
แหะๆ ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ตอนนี้กำลังอีดิทต้นฉบับอยู่เลยค่ะ ไว้ถ้าใกล้กำหนดอออกอีกที จะรีบมาแจ้งให้ทราบนะคะ น่าจะไม่เกินปีนี้นะคะ แหะๆ ^///^
ขอบคุณ คุณ sakeenaค่ะ
ขอบคุณค่าาา รักแล้วรอหน่อยนะคะ จุ๊บๆๆ
ขอบคุณคุณ ดอกฝิ่น ค่ะ
รีบอีดิทงานอยู่ค่ะ น่าจะใกล้แล้วละค่ะ คืบหน้ายังไง จะรีบมาแจ้งให้ทราบนะคะ ขอบคุณมากเลยค่าาาา^^
******ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามค่า ^___^
ษาค่ะ
------------------
โดย:
พิมพ์นรา
วันที่: 29 มิถุนายน 2557 เวลา:13:51:13 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พิมพ์นรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [
?
]
Group Blog
<<
มิถุนายน 2557
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
22 มิถุนายน 2557
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
All Blog
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๗
หนึ่งใจนิรันดร บทที่๑๖
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๕
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๔
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๑
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๐
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๘
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่ ๗ (ขอเปลี่ยนชื่อเป็น "หนึ่งใจนิรันดร" นะคะ)
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๖
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๕
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๔
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๓
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๒
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๑
Friends Blog
Doungtawan
ป้ามด
fluffyboy101
N_BEE810
เนยสีฟ้า
ammataya
wilmington
ธรารินทร์
เม-ดา
คีตภา
wayo
ลันเตา...
หมาดำล่องหน
หินสีม่วง
Webmaster - BlogGang
[Add พิมพ์นรา's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ต้องขอบคุณ คนอ่านทุกท่าน ที่ติดตามในทุกรูปแบบนะคะ ตัวเล่มของจริง จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้บ้างค่ะ แต่เพื่อให้เรื่องสมบูรณ์ขึ้น อ่านง่ายขึ้น ถ้าได้ปกที่สมบูรณ์จะเอามาอวดนะคะ ^^
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตาามค่า ผิดพลาดประการใดไป ต้องขออภัยด้วยนะคะ จุ๊บๆๆๆ
ษาค่ะ
---------------------------