Bloggang.com : weblog for you and your gang
บล็อกนิยายหวานสดใสของพิมพ์นรายินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ^^
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
๑๓.
กลิ่นดอกไม้กลางคืนโชยเอื่อยผสานมากับสายลมเย็นฉ่ำชื่น รอบตัวของหญิงสาวแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ใบหญ้าหนาทึบสูงตระหง่านแผ่เงื้อมเงากว้างใหญ่ไพศาล โอบล้อมอยู่โดยรอบ
หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆกาย งุนงงว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน
ที่นี่ไม่ใช่เรือนทาสของแม่ศรีนวล แต่ดูใหญ่โตอลังการงดงามและเก่าแก่ยิ่งกว่าหลายสิบเท่า น่าจะเรียกว่าเป็น ปราสาทเลยก็น่าจะได้
หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปบนทางเดินปูด้วยเเผ่นศิลาหินทราย ทอดยาวเข้าไปสู่ทางเข้าตัวปราสาท
ด้านในปราสาท สิ่งก่อสร้างทุกสิ่งล้วนงดงามอลังการ ทว่าโถงกว้างนั้นกลับเงียบเหงา ร้างไร้ผู้คน
...ไม่สิ มีอยู่คนหนึ่ง นั่งชุกตัวอยู่ในมุมมืด ดูเเสนโดดเดี่ยวเดียวดาย
หญิงสาวก้าวเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ภายใต้อาภรณ์เดินดิ้นทองเเล่ง งามล้ำ
พิมลมาสเขม้นมอง พอเห็นหน้าของบุรุษผู้งามสง่าชัดเจน ก็ถึงกับสะดุ้งชักเท้าถอยหลังไปหลายก้าว
นางผู้นั้น มันเกลียดชัง หาได้ไยดีต่อเจ้าพี่ไม่ ซ้ำยังบังอาจกล่าวถ้อยล่วงเกินต่อท่านมากมาย เช่นนี้เเล้วจักทรงยกย่อง เชิดชูมึนอีกรึ
หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง เเต่งเครื่องทรงดุจเจ้าหญิงโบราณ ตามเข้ามาเเผดเสียงเข้าใส่ เดือดเนื้อร้อนใจ ทว่าอีกฝ่ายหาได้สนใจนางไม่ เขายังคงจ้องมองบางสิ่งในอุ้งมือ บางสิ่งที่พิมลมาสเห็นเเล้วถึงกับกะพริบตาปริบๆ
ก็ในมือเขานั่น
เธอรีบยกเเขนขึ้นมาดู กำไลของเธอยังอยู่ ถ้าเช่นนั้น กำไลข้อมือเเบบเดียวกันกับของเธอที่อยู่ในมือผู้ชายคนนั้นละ ทําไมช่าง เหมือนกัน อย่างนี้
ดวงตากลมโตละจากสิ่งของที่อยู่ใต้อุ้งมือเเกร่ง เงยขึ้นไปเพียงเล็กน้อยก็เจอกับใบหน้าคุ้นเคย เป็น 'เขา' อีกเเล้ว
นี่มันก็เรื่องของข้า หาได้เกี่ยวข้องกับเจ้าไม่
เจ้าพี่พันภพ เหตุใดจักต้องทรงโปรดนางนั่นนักหนา มันก็แค่นางเชลย แค่เครื่องบรรณาการ มีสามีแล้ว หาใช่หญิงพรหมจรรย์ไม่ หญิงแพศยาการีเยี่ยงนั้น เจ้าพี่จักไปสนพระทัยมันอีก ป่านนี้มันคงหัวเราะเยาะหยันเจ้าพี่เอาสนุกปาก
กลับตำหนักของเจ้าไปเสียคำเยีย
ชายหนุ่มตะคอก เสียงดุดันมีอำนาจ เขาดูมีสง่าราศี ดูเหนือกว่าผู้คนทั่วไป กระทั่งพิมลมาสเองก็ยังอดกลัวเขาไม่ได้
เจ้าพี่ไล่ข้าได้ แต่ท่านหาเปลี่ยนแปลงความจริงไปได้ไม่ ท่านเป็นที่เกลียดชิงชังของจันทร์ฉาย นางหามีใจต่อท่านจริงแท้ไม่ ข้าต่างหากที่คงมั่นต่อเจ้าพี่เสมอมา...เจ้าพี่ควรจักแต่งตั้งให้ข้าเป็นมเหสี หาใช่สตรีที่มัวหมองเพราะต้องมือบุรุษอื่นมาแล้วไม่
ข้าบอกให้เจ้าออกไป สุรเสียงห้าวกระด้างขึ้นตามแรงอารมณ์คุกรุ่น ใบหน้าดุเข้มแสดงความเจ็บปวดร้าวรานยิ่งกับสิ่งที่คำเยียเอ่ยออกมา
พิมลมาสรู้สึกได้ถึงความทุกข์ใจแสนสาหัสของชายหนุ่มตรงหน้า...เห็นเขาเจ็บเธอก็เจ็บตามไปด้วย...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ มันราวกับว่าเธอรู้จักสนิมสนมกับผู้ชายคนนี้มาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
อย่าให้ข้าต้องเรียกทหารมาไล่เจ้าออกไปเลย ถึงอย่างไรเจ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นสนมของข้า ข้ายังอยากไว้หน้าเจ้าอยู่ อย่าได้ทำให้ข้าสิ้นความอดทน ออกไป!
สุรเสียงห้าวขุ่นห้วนดังสำทับตามมาอีก คราวนี้ผู้ถูกขับไสถึงกับตัวสั่น เม้มริมฝีปากแน่นฮึดฮัด แต่สุดท้ายแล้วก็จำต้องยอมถอยฉากออกไปแต่โดยดี
พิมลมาสมองตามหลังร่างระหงของฝ่ายนั้นไป ก่อนจะวกกลับมาสนใจอยู่กับวรกายสูงใหญ่ สง่างาม รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่พี่พันภพของเธอ แม้จะหน้าตาเหมือนกัน แต่ไม่มีวันใช่ ในเมื่อเขาคนนี้ดูแล้วคงเป็นพวกเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แต่พี่พันภพของเธอเป็นเจ้าพัน ผู้คุมกองกำลังทหารม้าของเมืองศรีสัชนาลัย มิได้ใหญ่โตหรูหราดั่งเช่นชายผู้นี้
แต่ถึงจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนละคนกัน ทว่าหลายอย่างในตัวผู้ชายคนนี้กลับสะกดใจไม่ให้พิมลมาสเมินผ่านไปไหนได้
เธอเห็นเขาเสียใจ เฝ้านั่งมองกำไลข้อมือวงนั้นด้วยความอาลัยรักล้นพ้น เจ้าของกำไลนี้ คงเป็นคนสำคัญของเขามาก
จันทร์ฉาย...ชื่อนี้ก็แปลว่า พระจันทร์ เหมือนกันกับชื่อเธอสินะ
แล้ว...ทำไมเขาชื่อ พันภพ เหมือนกับพี่พันของเธอเลยละ
หญิงสาวก้าวเข้าไปหยุดอยู่ข้างกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่โดยไม่รู้ตัว เธอเอื้อมมือไปอย่างไม่แน่ใจ แต่หัวใจนำหน้าความคิดอื่น อดประหลาดใจไม่ได้เมื่อปลายนิ้วเรียวของตัวเองแตะถูกร่างอุ่นไปด้วยเลือดเนื้อของเขา
ชายหนุ่มรูปงามหันขวับมามองเธอในทันที พิมลมาสเบิกตาโตตกใจ ตะลึงงัน ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนจะหลุดเรียกชื่อเขาออกมา
พี่พันภพ...
จันทร์ฉาย เจ้าจริงๆ เจ้าเข้าใจพี่แล้วใช่รึไม่!
เอ๊ะ หญิงสาวอุทาน ตกใจที่อีกฝ่ายลุกขึ้นมาคว้าตัวเธอเข้าไปรัดไว้แน่น กระไออุ่นจากร่างสูงตระหง่านของเขา ช่างเหมือนกันกับพันภพของเธอราวกับเป็นคนเดียวกัน
นี่มันอะไร ทำไม...
เจ้ามาหาพี่สินะ พี่ดีใจนัก...จงอย่าได้ใส่ใจถ้อยคำของผู้ใด พี่จักดูแลเจ้าให้ดีที่สุด พี่สัญญา
เอ่อ... หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อเหลือบไปเห็นเงาร่างสูงใหญ่เป็นสีขาวตัดกับความมืดที่โรยตัวอยู่โดยรอบ
เขาอีกแล้ว...ผู้ชายหน้าคมเคร่งในชุดขาวสว่างดูคล้ายกับเครื่องทรงของกษัตริย์โบราณ ผู้ชายคนนี้มักมาหยุดคอยมองเธอกับพันภพเสมอ...เขาเป็นใครกันแน่นะ
เธอทอดสายตามองชายผู้นั้นอย่างฉงน เขามักจะมายืนเงียบๆ คอยมองเธอกับพี่พันเสมอ...ครั้งนี้ก็อีกเช่นเคย ที่ฝ่ายนั้นมิได้พูดหรือแม้แต่จะขยับตัวเลยด้วยซ้ำ
พิมลมาสมองสบตากับบุรุษนิรนามในระยะไกล แวบหนึ่งเธอหนาวเยือก สะท้านในช่องอก รู้สึกเศร้าจนบอกไม่ถูก ชื่อหนึ่งลอยผุดขึ้นมาจากความทรงจำส่วนลึก
เจ้าพี่ไชย...โอ๊ย!
หญิงสาวอุทาน จู่ๆอ้อมแขนของเขากอดรัดเธอราวกับจะป่นกระดูก เธอดิ้นรนพยายามหาอิสรภาพ แต่ไม่อาจหลุดพ้นจากความเจ็บร้าวที่รัดรึง กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น
แม่จันทร์ เจ้าเป็นอันใดรึ
โอ๊ย! พิมลมาสลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแรงเขย่าจากมือสากของอบ ดวงตากลมโตเบิกโพลง ตื่นตระหนก เหงื่อแตกซิกเต็มใบหน้านวล
ดูสิ เหงื่อออกเต็มไปหมด เจ้าฝันร้ายมากเลยรึแม่จันทร์ อบหัวเราะขันคนที่นอนดิ้นทุรนทุรายไปมา พอตื่นก็มองเธอตาโต แป๋ว งุนงง
ฉันฝันไปเหรอ...
ก็ฝันน่ะสิ ข้าเห็นแม่จันทร์นอนกระสับกระส่ายไปมา แล้วสุดท้ายก็ร้องลั่น ข้าเลยมาปลุกนี่ละ อบอธิบายกลั้วเสียงหัวเราะขัน
ฝันไปจริงๆสินะ พิมลมาสลุกขึ้นนั่ง เหลือบมองไปรอบๆตัว จริงอย่างที่อบว่ามา ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ในฝันของเธอเมื่อครู่ ไม่มีปราสาทงามตระการ และพี่พันภพที่กอดเธอจนกระดูกแทบป่นคนนั้น
เธอเพียงฝันไปเท่านั้นเอง...
หญิงสาวลุกขึ้นนั่งพลางยกมือเสยผมยาวที่ระลงมาปรกใบหน้า และเลยเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเปียกชุ่มไปด้วยในตัว
ไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนเถิดแม่จันทร์ เหงื่อเจ้าออกเยอะมาก จักได้สดชื่นขึ้น อบชวนยิ้มๆ
อาบน้ำ เธอหมายถึง อาบน้ำที่ท่าน้ำเหรอ
อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ เล่นเอาคนฟังหน้ามุ่ย
ตายละ อาบน้ำในคลอง เธออาบเป็นเสียเมื่อไหร่กัน แถมอากาศตอนเช้ามืดอย่างนี้ หนาวจะแย่ ใครจะอาบเข้าไปลง!
หลังการอาบน้ำในคลองที่แสนทุลักทุเลผ่านไป พิมลมาสก็มานั่งเรือลำเล็กๆ โดยมีอบเป็นฝีพายให้อยู่ทางด้านหลัง กวาดตามองไปสองฟากฝั่งน้ำที่ร่มรื่น เขียวชอุ่ม ท้องน้ำเป็นสีเขียวใสมีกุ้ง ปลา แหวกว่ายไปมาอย่างสุขสำราญใจ
ผู้คนที่นี่ไม่ได้หนาตาเหมือนอย่างปัจจุบัน นานๆทีถึงจะผ่านบ้านสักหลัง ส่วนมากแล้วเป็นบ้านชาวบ้านที่ปลูกด้วยไม้อย่างหยาบๆ นานๆ ครั้งถึงจะผ่านเรือนเศรษฐี พรั่งพร้อมไปด้วยข้าทาสบริวาร ดูคึกคักจอแจแต่เช้า คล้ายกันกับเรือนของแม่นายศรีนวลไม่มีผิด
คนที่นี่ตื่นกันแต่เช้าทุกบ้านเลยนะอบ พิมลมาสหันไปชวนคนข้างหลังคุย
จริงสิ แม่จันทร์มิใช่คนที่นี่ จริงสิ แล้วเมืองที่แม่จันทร์จากมา ผู้คนมิได้ตื่นแต่เช้า เตรียมหุงหาข้าวปลาใส่บาตรพระท่านหรอกรึ
ก็...มีเป็นบางบ้าน แต่ที่นี่...แทบทุกบ้านเลยนะอบ
ใช่จ้ะ พวกเราชอบทำบุญโอยทาน พ่อขุนทรงเป็นแบบอย่างให้กับลูกขุนทั้งหลาย ทรงนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากนครศรีธรรมราชมาแสดงธรรมสั่งสอนชาวเมืองสุโขทัยเรา ข้ายังเคยตามแม่นายไปฟังเทศนาที่สุโขทัยหลายครา แต่เดี๋ยวนี้แม่นายมิค่อยได้ไปสุโขทัยแล้ว ตั้งแต่ที่ขุดพระบรมธาตุได้กลางเมืองศรีสัชนาลัย พ่อขุนก็ทรงสถาบกไว้ที่วัดช้างล้อม แม่นายไปกราบพระบรมธาตุทุกวันพระเดือนดับเดือนเต็มเลยเชียวละ
เหรอจ๊ะ ดีจังเลย พิมลมาสอมยิ้ม ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นจริงอย่างในประวัติศาสตร์ที่เคยเรียนมา สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั้น ทรงนับถือ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา มีการนิมนต์พระสงฆ์ลังกาวงศ์ ผู้เชียวชาญพระไตรปิฏกมาจากเมืองนครศรีธรรมราชเพื่อให้มาเทศนาสั่งสอนพระพุทธศาสนาแก่ชาวเมืองสุโขทัย
ชาวเมืองสุโขทัยที่พอจะมีฐานะหน่อย มักนิยมสร้างพระพุทธรูป แล้วสลักคำอธิษฐานลงบริเวณฐานของพระพุทธรูป เธอเคยอ่านเจอในบันทึกของหลักศิลาจารึกต่างๆ ที่พบสมัยสุโขทัย บ้างก็ขอให้ได้ไปพบพระศรีอริยเมตไตรย บ้างก็ขอให้เกิดชาติใหม่งดงามพร้อมด้วยวรรณะผิวพรรณ ความเชื่อเรื่องพวกนี้ ยังคงสืบทอดไปถึงยุคปัจจุบัน
อบพายเรืออยู่นานพอควร ระยะทางจากบ้านมาถึงตลาดเรียกว่าพอเรียกเหงื่อจากอบได้ทีเดียว พิมลมาสไม่ได้ช่วยอะไรเพื่อนใหม่นัก นอกจากเดินตามหลัง ช่วยอบถือของเมื่อมาถึงตลาด
ตลาดของที่นี่เรียบง่าย ไม่มีของอะไรมากมายนัก ส่วนมากจะเป็นผลหมากรากไม้ ผักสด หรือขนมพื้นๆแบบง่ายๆ ไม่เตะตาอะไร มีร้านใหญ่หน่อยดูจะเป็นที่นิยมสุด เพราะมีขายหลายอย่าง ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องเทศสำหรับประกอบอาหาร
อบซื้อของไม่มากนัก ของส่วนใหญ่ที่เรือนแม่นายศรีนวลจะมีครบหมดแล้ว เมื่อได้เครื่องเทศที่ต้องการ อบก็เดินนำพิมลมาสกลับมาที่เรือ
พายเรือมาตั้งไกล ซื้อของไม่กี่อย่างแค่นี้เองเหรอแม่อบ พิมลมาสเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
ที่เรือนขาดไม่กี่อย่าง ผักผลไม้ที่บ้านแม่นายท่านมีพร้อมมูล ขาดแค่ไม่กี่อย่างเท่านี้ละ
พิมลมาสเห็นแล้วเหนื่อยแทนอีกฝ่าย พายเรือมาตั้งไกล เพื่อจะซื้อของนิดหน่อย ช่างลำบากแท้
แต่ว่า...ไหนๆมาแล้ว ข้าว่าจักแวะไปเก็บสายบัวเสียหน่อย ยายปริกจะได้แกงสายบัวเย็นนี้
สายบัวเหรอ พิมลมาสสนใจ และเพียงอีกฝ่ายพายเรือต่อมาพ้นคุ้งน้ำไปเล็กน้อย บึงบัวสายออกดอกสีแดงอมชมพูสดก็ละลานตาไปทั่วทั้งลำคลอง
หญิงสาวเบิกตาโตกับภาพที่เห็นต่อหน้า มีเรือชาวบ้านหลายลำจอดเก็บสายบัวกันคึกคัก แต่ดอกบัวสีสวยชูช่อสลอนเต็มคุ้งน้ำไม่มีทีท่าจะลดน้อยลงไปเลย ราวกับเก็บเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด
สวยจังเลยอบ
เจ้านี่แปลกจริง แถวบ้านเจ้ามิมีบัวสายเช่นนี้รึ อบจอดเรือเทียบกับกอบัวที่อยู่ใกล้ จัดแจงเก็บบัวสายอย่างชำนิชำนาญ
พิมลมาสยิ้มแห้งมองตามอบ แล้วลงมือช่วยบ้างแต่ยังคงเก้ๆกังๆ ไม่คล่องแคล่ว
กระทั่งได้สายบัวจำนวนพอสมควรแล้ว อบจึงดันเรือออกแล้วมุ่งหน้ากลับทางเก่ากับที่ผ่านมา ปล่อยให้พิมลมาสชื่นชมกับธรรมชาติสวยงามสองฟากฝั่งคลองไปเงียบๆ จวบกระทั่งเรือบ่ายหัวมาใกล้จะถึงท่าน้ำบ้านท่านพระยาไมตรีพิทักษ์พงศ์ไม่กี่วา พลันนั้นจู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้น
อีอบ หยุดเรือบัดเดี๋ยวนี้!
ตาเถรหก! อบสะดุ้งโหยง หน้าตาตื่น เกือบเผลอปล่อยไม้พายหลุดมือ พิมลมาสหันขวับไปมองผู้ที่นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเรืออีกลำที่มุ่งตรงเข้ามาจะถึงตัวเธออยู่แล้ว
พันเดช! พิมลมาสจำเขาได้แม่น ผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเกลียดขี้หน้าที่สุด ไม่ว่าจะในโลกนี้หรือโลกปัจจุบัน!
เขามาดักรอเธอถึงที่นี่เลยเหรอ!
อย่าเจ้าค่ะ อย่าทำอันใดข้าเลย ข้ากลัวแล้วเจ้าค่ะ เจ้าพัน...
อบ พิมลมาสงุนงง ท่าทางของแม่อบดูหวาดกลัวเดชเอามากๆ เนื้อตัวนางสั่นงันงก เอาแต่ก้มหน้าหลับตาปี๋ ไม่ยอมพายเรือต่อเสียแล้ว อย่างนี้เธอจะทำอย่างไรดีละ
อบ อย่าไปสนใจมัน พายเรือต่อไปสิ จะถึงเรือนท่านพระยาแล้ว ถึงเรือนเราก็ไม่เป็นไร...
คิดว่าจะหนีพ้นข้ารึ แม่จันทร์ เดชคำรามก้อง เจ้าผาดนำเรือเข้ามาจอดเทียบ พอได้จังหวะ เจ้าพันหนุ่มก็คว้าแขนกลมกลึงของพิมลมาส ออกแรงฉุดกระชากเต็มที่
มากับข้านี่ ตรงนี้มิมีผู้ใดช่วยเจ้าได้แล้ว
โอ๊ย!! พิมลมาสหวีดร้อง แต่ให้เจ็บเพียงใดเธอก็ไม่ยอมข้ามไปที่เรือของอีกฝ่ายแน่นอน
ให้ตายยังดีกว่ายอมให้คนคนนี้แตะต้องตัว!
ปล่อยฉัน เนี่ยเหรอสิ่งที่ทหารเขาทำกัน ฉุดคร่าผู้หญิงที่เขาไม่เต็มใจ...ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ตรงนี้มีทหารฉุดผู้หญิงชาวบ้านอ่อนแอไม่มีทางสู้อยู่ค่ะ ช่วย...อุ๊บ!!
พิมลมาสสะดุ้ง อึกอัก ดิ้นรนเต็มแรง แต่ไม่อาจสลัดมือหนาที่เลื่อนเข้ามาอุดปากเธอเอาไว้ได้ เธอขืนตัวไม่ยอมถูกดึงไปที่เรือของฝ่ายนั้น แต่ก็สู้แรงมหาศาลของเจ้าพันหนุ่มไม่ได้เลย
ร่างบอบบางถูกช้อนเอวลอยหวือไปจากเรือลำน้อย เรือโคลงเคลงอย่างแรง แต่ไม่ล่ม หากกระนั้นอบก็อดใจหายใจคว่ำมิได้
ครานี้เป้าหมายของเจ้าพันเดชมิใช่นางแต่เป็นแม่จันทร์ สาวใช้คนใหม่ของแม่นายศรีนวลหรอกรึ!
เจ้าพันเจ้าคะ ปล่อยแม่จันทร์เถิดเจ้าค่ะ แม่จันทร์มารับใช้แม่นายท่านแล้ว...เจ้าพันกระทำการเช่นนี้ มิเท่ากับหักหน้าแม่นายท่านรึเจ้าคะ
อบกลั้นใจพูด ด้วยสงสารผู้หญิงเหมือนกัน แม่จันทร์นั้นมีกริยาหน้าตาที่งามหมดจดนัก คงน่าเสียดายหากต้องถูกข่มเหงรังแกจากชายโฉดอย่างเจ้าพันเดช
ทว่า สาวชาวบ้านฐานะต่ำต้อยอย่างนางหรือ จักมีใครรับฟัง
มึงไม่ต้องเสือก อีอบ ถ้ายังไม่อยากตายก็พายเรือกลับเรือนไปเสีย ใครถามถึงแม่จันทร์ ก็บอกว่ามันหนีตามผัว ไม่กลับไปอีกแล้ว โอ๊ย! พันเดชสะดุ้งโหยง ร้องลั่น เพราะพิมลมาสกัดนิ้วเขาเต็มที่
มือใหญ่ผลักร่างบางออกไป ความโกรธแล่นเข้าครอบงำ ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ มิเคยมีสตรีนางใดอาจหาญทำร้ายเขาเช่นนี้
พูดดีๆ หารู้เรื่องไม่ ต้องให้ข้าใช้ไม้แข็งใช่ไหมแม่จันทร์!
ปล่อยฉัน...ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย พี่พันภพ ช่วยมาสด้วย!
พลั่ก!!
กำปั้นใหญ่โตของเดชที่ซัดเข้าใส่บริเวณช่องท้องของหญิงสาว ได้ผลชะงัดนัก นางหยุดร่ำเรียกหาศัตรูที่เขาชิงชัง ร่างบางตัวงอเป็นกุ้ง และทรุดลงไปในพลัน
แต่ถึงเช่นนั้นแล้ว แม่จันทร์ก็ยังมิสิ้นฤทธิ์ แทนที่นางจักทิ้งตัวลงนั่งสงบเสงี่ยมในอ้อมแขนของเขาให้สบาย หญิงสาวกลั้นใจทิ้งตัวลงไปในกระแสน้ำที่เย็นเฉียบเบื้องล่าง
ตูม!!
เสียงน้ำแตกซ่านเซ็น ท่ามกลางอาการตกตะลึงของทุกคน พันเดชคาดไม่ถึงว่ากระทั่งจุกสิ้นเรี่ยวแรง นางก็ยังพยศ มิยินยอมพร้อมใจกับเขาถึงเพียงนี้
แม่จันทร์!
พันเดชไม่เสียเวลาแม้แต่จะคิด ชายหนุ่มโดดน้ำลงไปควานหาตัวหญิงสาว กว่าจะหาเจอแล้วดึงขึ้นมาพ้นจากน้ำได้ ร่างน้อยก็แน่นิ่ง สิ้นสติไปแล้ว
แม่จันทร์ เจ้าอย่าเป็นอันใดไปเชียวนะ แม่จันทร์!! ชายหนุ่มเขย่าร่างน้อย เห็นใบหน้านางเผือดซีดไม่มีสีเลือดก็ยิ่งร้อนเร่า นึกโทษตัวเอง หากเขาไม่ทำร้ายนาง นางคงไม่จมน้ำช่วยตัวเองไม่ได้เช่นนี้
บัดซบ ไอ้ผาด มึงมาช่วยกูทีสิ...เฮ้ย!!
เดชอุทานลั่น เบิกตาโพลง เมื่อหันไปมองลูกน้องคนสนิทแล้วแทนจะเจอไอ้ผาดคนเดียว แต่กลับพบร่างสูงทะมึนของใครอีกคนที่หัวบันไดท่าน้ำ
พระยาไมตรีพิทักษ์พงศ์!
บัดซบจริงๆ พันเดช เดี๋ยวนี้เอ็งริอ่านมาดักฉุดผู้หญิงถึงหน้าบ้านข้าเชียวรึ เจ้ามันเอาใหญ่เกินไปแล้ว
เสียงดุดัน มีอำนาจทำเอาพันเดชกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตาดุกร้าวเหลือบมองไปที่ไอ้ผาดซึ่งอยู่บนเรือ เห็นมันก็หัวหดไม่ต่างกันกับผู้เป็นนาย
พันเดชก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมแขน เสียดายใจจะขาด พระยาไมตรีไม่น่าออกมาเลย ปกติท่านไม่น่าจักออกมาที่ท่าน้ำได้จังหวะเช่นนี้สิ ทำไมดวงตกอย่างนี้นะ
เสียงน้ำเคลื่อนไหวดังใกล้เข้ามา พันเดชซึ่งจ่อมจมกับความผิดหวัง ไม่มีแรงแม้จะขยับตัว ไม่กี่อึดใจ พันภพที่ตามบิดามาก็ลุยน้ำมาคว้าเอาร่างน้อยนุ่มนิ่มของพิมลมาสไปจากอ้อมแขนเดชเสียแล้ว
แต่เท่านั้นยังไม่หนำใจพันภพ ชายหนุ่มเสยหมัดลุ่นๆ เข้าไปที่ปลายคางบุ๋มของเดชเต็มแรง เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับเมาหมัด ล้มหน้าคว่ำลงไปในน้ำ
เจ้าพัน เจ้าพันอย่าทำร้ายเจ้าพันเดชนะขอรับ!
ถ้ามึงห่วงนายมึงก็ตามลงมาช่วย แล้วพากันไสหัวไปให้พ้นจากหน้าบ้านกู ต่อไปถ้ากูเจอหน้าพวกมึงอีก กูจะเอาคืนให้สาสม!
พันภพประกาศกร้าว กระด้างเอาเรื่อง มืออีกข้างของชายหนุ่มกอบกระชับร่างอ่อนปวกเปียกของหญิงสาวเอาไว้แนบอกอย่างหวงแหน กริยานั้นของชายหนุ่ม ตกอยู่ในการสังเกตสังกาของพระยาไมตรีพิทักษ์พงศ์ หรือแม้กระทั่งอบ ที่เฝ้าดูอยู่อย่างใจหายใจคว่ำ
อบรู้อยู่แล้วว่าแม่จันทร์นั้นงามนัก แต่ไม่คาดว่านางจักเสน่ห์แรงถึงขนาดทำให้เจ้าพันทั้งสองซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่นานแล้ว ยิ่งแตกหัก และที่สำคัญ...
เจ้าพันภพผู้มิเคยแยแสสตรีผู้ใด กลับห่วงใยนางมากมายถึงเพียงนี้
รีบพานางจันทร์มันขึ้นมาข้างบนก่อนเถิดพันภพ จักได้ดูอาการมัน จมน้ำไปไม่นานเท่าไหร่ คงจักพอช่วยทันหรอก ท่านพระยาสั่งลูกชายเสียงเรียบ แววตาหนักอกหนักใจ แต่มิได้ห้ามปราม รู้ว่าบุรุษเวลาที่ลุ่มหลงตกลงไปในบ่วงรักนั้น มันห้ามยาก
แม่จันทร์ สาวใช้คนใหม่ที่เมียของเขาเพิ่งรับเข้ามาอยู่ที่เรือนนางนี้ ท่าว่าจักสร้างเรื่องยุ่งยากไม่จบง่ายๆเสียแล้ว
----------------------
----------------------------
Create Date : 29 พฤษภาคม 2557
Last Update : 29 พฤษภาคม 2557 20:45:22 น.
Counter : 826 Pageviews.
7 comments
Share
Tweet
****คุยต่อจากคราวที่แล้วค่าาาา ^^
ขอบคุณ คุณ sakeena ค่ะ ^^
แหะๆ นี่เพิ่งเริ่มต้นเองนะคะ ต่อไปจะมีมากกว่าแค่ยกมือนางเอกแตะแก้มตัวเอง อุ๊บ!!! แต่พี่พันออกจะหัวโบราณหน่อยค่ะ หนุ่มโบราณนี่เนอะ
กว่าเรื่องนี้จะได้อกเป็นเล่ม คงอีกหลายเดือนเลยค่ะ ทางกองตั้งใจทำกันมาก เลยออกจะช้าหน่อยค่ะ รอก่อนนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
ขอบคุณ คุณ nako ค่ะ
ถ้าอ่านถึงบทที่18 ที่ลงเป็นตอนสุดท้าย จะเดาได้เลยค่ะ ว่านางเอกจะได้กลับบ้านหรือเปล่า ^////^
ขอบคุณ พี่หมูน้อย ค่ะ
อร๊าย ช่วยดูคำผิดให้เค้าด้วย ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ส่วนเรื่องธารแสงดาว ภาคต่อบ่วงอธิฏฐาน เรื่องนี้มีบางอย่างที่ผิดไปจากแต่เดิมที่ษาเคยเขียนค่ะ ไม่รู้ว่าคนอ่านจะว่ายังไงบ้าง เดี๋ยวลงถึงแล้วจะมาคุยเรื่องนี้กันค่ะ แต่ว่า เขียนพระเอกร้ายๆ หน่อยเนี่ย ษาเขียนลื่นมากเลยค่ะพี่ ประหนึี่งเป็นตัวตนของเรา (แว้กกกกกกกกก)
น้องบูมน่ารักน่าสงสารมากเลยค่ะ เขียนไปก็สงสาร เหมือนษารังแกเด็กเลยค่ะ แฮ่....
ต้องขอบคุณพี่หมูน้อยมากเลยนะคะ หายไปนานแค่ไหน ษายังคิดถึงพี่เสมอนะคะ อิอิ >////<
*******ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ^^
ษาค่ะ
โดย:
พิมพ์นรา
วันที่: 29 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:55:50 น.
เจ้าพี่พันภพผู้นั้นคือใคร ใยมีปราสาทใหญ่โต โอ๊ยๆๆๆๆๆอยากรู้ๆๆ
รอฉากที่ไม่ได้แค่ยกมือแตะแก้ม คริๆๆๆ อู๊ๆๆๆ (มโนในหัวนำไปก่อน)
โดย: sakeena IP: 124.122.163.250 วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:10:32:22 น.
อดีตซ้อนอดีต เกิดอะไรขึ้นหนอ
ว่าแต่พร่อพระยาคะ ไม่ใช่ความผิดของหนูจันทร์นะที่มีคนแย่งมารัก ต้องไปโทษคนเกเรนู่น
โดย: nasa IP: 110.78.186.148 วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:44:20 น.
เจ้าพี่พันภพ...อีกคนเป็นใคร...อดีตซ้อนอดีต...คู่แค้นยังเป็นคู่เดิม หรือปะ เจ้าพี่ไชย กะพันเดช เป็นคนเดียวกันป่าวนะ รออ่านต่อนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
โดย: ดอกฝิ่น IP: 119.63.78.246 วันที่: 31 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:25:32 น.
เอ๋... ทำไมมีพี่พันภพอีกคนอ่ะ รอุลุ้นตอนต่อไปค่า
โดย: nako IP: 49.230.146.206 วันที่: 1 มิถุนายน 2557 เวลา:23:27:32 น.
ตอนนี้อยู่หัวหินแล้วเด้อ เมื่อวานไปห้าง คนกรุวเต็บเพียบ งงๆอยู่รถติดมากเลย T-T อยู่เชียงใหม่ดีๆไม่ชอบ
โดย: พี่หมูน้อย IP: 118.173.238.202 วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:9:10:13 น.
กี่ภพกี่ชาติกันนี่ แถมชาติอดีตเก่าสุด มาศมีสามีแล้วหรือคะ ก่อนมาเจอพันภพ
แพศยากาลีค่ะ
โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 10 มิถุนายน 2557 เวลา:21:17:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พิมพ์นรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [
?
]
Group Blog
<<
พฤษภาคม 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
29 พฤษภาคม 2557
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
All Blog
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๘ (ลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ^^)
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๗
หนึ่งใจนิรันดร บทที่๑๖
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๕
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๔
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๓
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๒
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๑
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๑๐
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๙
หนึ่งใจนิรันดร บทที่ ๘
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่ ๗ (ขอเปลี่ยนชื่อเป็น "หนึ่งใจนิรันดร" นะคะ)
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๖
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๕
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๔
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๓
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๒
มนตร์จันทร์พันภพ บทที่๑
Friends Blog
Doungtawan
ป้ามด
fluffyboy101
N_BEE810
เนยสีฟ้า
ammataya
wilmington
ธรารินทร์
เม-ดา
คีตภา
wayo
ลันเตา...
หมาดำล่องหน
หินสีม่วง
Webmaster - BlogGang
[Add พิมพ์นรา's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอบคุณ คุณ sakeena ค่ะ ^^
แหะๆ นี่เพิ่งเริ่มต้นเองนะคะ ต่อไปจะมีมากกว่าแค่ยกมือนางเอกแตะแก้มตัวเอง อุ๊บ!!! แต่พี่พันออกจะหัวโบราณหน่อยค่ะ หนุ่มโบราณนี่เนอะ
กว่าเรื่องนี้จะได้อกเป็นเล่ม คงอีกหลายเดือนเลยค่ะ ทางกองตั้งใจทำกันมาก เลยออกจะช้าหน่อยค่ะ รอก่อนนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ
ขอบคุณ คุณ nako ค่ะ
ถ้าอ่านถึงบทที่18 ที่ลงเป็นตอนสุดท้าย จะเดาได้เลยค่ะ ว่านางเอกจะได้กลับบ้านหรือเปล่า ^////^
ขอบคุณ พี่หมูน้อย ค่ะ
อร๊าย ช่วยดูคำผิดให้เค้าด้วย ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ส่วนเรื่องธารแสงดาว ภาคต่อบ่วงอธิฏฐาน เรื่องนี้มีบางอย่างที่ผิดไปจากแต่เดิมที่ษาเคยเขียนค่ะ ไม่รู้ว่าคนอ่านจะว่ายังไงบ้าง เดี๋ยวลงถึงแล้วจะมาคุยเรื่องนี้กันค่ะ แต่ว่า เขียนพระเอกร้ายๆ หน่อยเนี่ย ษาเขียนลื่นมากเลยค่ะพี่ ประหนึี่งเป็นตัวตนของเรา (แว้กกกกกกกกก)
น้องบูมน่ารักน่าสงสารมากเลยค่ะ เขียนไปก็สงสาร เหมือนษารังแกเด็กเลยค่ะ แฮ่....
ต้องขอบคุณพี่หมูน้อยมากเลยนะคะ หายไปนานแค่ไหน ษายังคิดถึงพี่เสมอนะคะ อิอิ >////<
*******ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ^^
ษาค่ะ