ดอกเหมยในหุบเขา
เมื่อตะวันลับลา ฟ้าก็หมองมืดหม่น ทนเงียบเหงา อ้างว้าง เมื่อเธอลาลับไกล กลับอุ่นไอมิสร่าง ใจฉันค้าง เคียงเธอ
รู้หรือไม่ว่าข้างในดวงตาสองนั่น ฉันได้พบความอบอุ่นใจ รู้หรือเปล่าว่าข้างในรอยยิ้มของเธอ ฉันแอบเพ้อละเมอคร่ำครวญ อิ่มอกอวลไอ อยากจะบอกสักคำ ฉันได้ถลำหัวใจ ตกอยู่ในความรัก เมื่อตะวันนิทรา ฟ้าจะรอพบจันทร์ ฉันจะฝัน ถึงเธอ
เธอไม่ใช่ขอบฟ้าที่หายไป อย่าปล่อยให้ความรักเดียวดายกัดกลืนเราเลย ประโยคใหม่แว่บเข้ามา หลังราตรีคลุมครอบขุนเขา ผมฮึมฮัมบทเพลงหวานเศร้าคลอเสียงไวโอลินสายลม และเปียนโนแห่งหมอกฝนบนคีย์ใบไม้ คิดถึงเพื่อนกวีหนุ่มผู้หัวใจสลาย นิยายน้ำเน่าและมนต์เสน่ห์ของความรัก
ขอบฟ้าแห่งถ้อยคำหรือจำนรรจ์ของแสงสี เป็นประโยคแรกที่ผมนึกขึ้นได้เมื่อได้มายืนอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ ขณะดวงตะวันกำลังเริงสีแสง แรงเมลืองมลังอาบฟ้า และเทา-ครามของยามสนธยาเริ่มครอบงำผืนป่าและกัดกินขอบฟ้าเบื้องหน้า ทีละน้อย ทีละน้อย..... ลมกรรโชกแรง พร้อมอุ้มหอบกระไอหมอกคลุ้งจากซอกห้วยหลืบหุบเบื้องล่างล่องขึ้นมาแผ่คลุมลาดเชิงเขา หมอกแห่งความฟุ้งซ่านหรือม่านมัวมนของความคิดถึง ผมเตลิด สองความรู้สึกนี้คละเคล้าปะปน (รวมทั้งผันแปรอย่างรวดเร็ว)ยากที่จะแยกขาดจากกันได้ชัดเจน รอยต่อของเวลามักนำพาจินตนภาพแห่งกวีนิพนธ์มาด้วยเสมอ มนุษย์จะเป็นเช่นใด ถ้าสิ้นไร้ธรรมชาติ พวกเขาจะได้แรงดาลใจจากไหนมาสร้างสรรค์ศิลปะและสรรพวิทยาการทั้งปวง หรือจากกิเลสตัณหาธรรมดาสามัญของหมู่มวลมนุษย์ด้วยกันนี่แหละเป็นแรงผลักดัน
มองขึ้นไปตามไหล่เขาด้านขวา ต้นไม้เหมือนหญิงสาวยืนสยายผมครวญคร่ำน้ำตานอง
กลับเป็นฉากแห่งอารมณ์ที่ร้อนรุ่มทุรนทุรายของเส้นขอบฟ้าที่หายสาบสูญ ล้วนแล้วอาดูรและเดียวดาย ผมหายแปลกใจแล้วว่า ทำไมห้วงยามแห่งสายัณห์ ขณะตะวันเอ่ยคำอำลาฟ้านี้ จึงมีสถิถิติผู้คนฆ่าตัวตายมากกว่าห้วงยามอื่น ผมยืนตะลึงกับฉากสุดท้ายของสนธยา การยาตราของฝ้าหมอกและกรูกรรโชกของสายลมฝน ชวนให้หัวใจหม่น...โหยหา
a>
เดือนธันวาคม ไม่ว่าจะปีไหน ก็ล้วนแต่เกิดเรื่องฉุกละหุกรีบด่วนไปแทบทุกปี เพราะเป็นเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต้นฉบับต้องตุนล่วงหน้ามากกว่าปกติ
วันที่ ๓ ธันวาผมได้รับเชิญจากสถานทู๖ไทย ณ นครเวียงจันทน์ ให้ไปวาดภาพเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาและเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย สปป.ลาว ครบรอบ ๖๐ ปี ผมต้องเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เรื่องนี้ด่วนและฉุกละหุกพอสมควร ผมก็ดันทิ้งภู่กัน ขาหยั่งเขียนภาพไว้ที่ทุ่งดาว ต้องย้อนกลับมาเอาเพราะไม่มีเงินซื้อใหม่
ประสาคนจนที่(เสือก)อยู่ไกล ใครจะเชิญไปที่ไหน เลยเปลี่ยนใจ ไม่เชิญดีกว่า รุงรังยุ่งยากเรื่องยานพาหนะ ต้องย้อนกลับไปปักหลักบางกอกก่อนทุกที
ผมก็ขอนำงานที่(กำลังจะลงพิมพ์)มาให้ท่านอ่านไปพลาง ๆก่อน เผื่อท่านจะมีคำแนะนำติติงแจ้งไปทางกุลสตรีบ้าง เป็นการสร้างบรรยากาศให้คึกคัก (ก่อนที่เขาจะคัดออก 555) อย่างที่เคยเกริ่นไว้ในบล็อกก่อน ๆ ท่านใดที่เขียนจดหมายส่งโปสการ์ด ถึงกุลสตรี ผมจะมอบหนังสือ หุบเขาแสงตะวัน ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ให้ทุกท่าน
ต้นฉบับที่ท่านเห็นนี้ ตัดตอนมาจาก ดอกเหมยในหุบเขา กุลสตรี ฉบับ ๙๕๙ ปักษ์หลังธันวาคม ๕๓
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553 |
|
41 comments |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 11:01:51 น. |
Counter : 2281 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 6:10:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: silly 30 พฤศจิกายน 2553 11:12:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: กวิสรา IP: 67.167.94.141 30 พฤศจิกายน 2553 19:18:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: กองฟอน 1 ธันวาคม 2553 20:07:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 ธันวาคม 2553 23:33:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 2 ธันวาคม 2553 16:06:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 4 ธันวาคม 2553 6:34:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: A'Jim 4 ธันวาคม 2553 11:20:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปอน ปอน IP: 202.62.106.94 4 ธันวาคม 2553 11:56:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กวิสรา IP: 67.167.94.141 4 ธันวาคม 2553 14:14:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 7 ธันวาคม 2553 11:23:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผู้บ่าวมักเฝอ IP: 58.9.163.87 9 ธันวาคม 2553 13:11:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: www.24hotcasino.com IP: 110.164.235.120 13 ธันวาคม 2553 17:28:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 13 ธันวาคม 2553 23:45:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: J.U.M.E. IP: 58.9.253.25 14 ธันวาคม 2553 11:33:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปอ ปอ นอ IP: 58.9.168.2 14 ธันวาคม 2553 15:31:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|