มิถุนายน 2549

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
เรื่องยาว : ~~~เงาของพระจันทร์~~~ (ตอนจบ )


โผเข้ากอดแม่ก่อน หางตาร้อนผ่าว แรงกอดสองแม่ลูกแน่นจนไม่มีช่องว่าง ปล่อยให้พ่อยืนมองตาปริบ ๆ แล้วจำต้องสะกิด ส่งสายตา ‘กอดพ่อมั่ง เจ้าซี’ เธอหัวเราะทั้งน้ำตา กราบที่ต้นแขนก่อนจะกอดพ่อให้แน่น สาสมกับความคิดถึง

สามคนพ่อ-แม่ลูก พากันไปรับประทานโจ๊กที่หน้าสถานีรถไฟนั่นเอง ระหว่างรอก็คุยกันกระหนุงกระหนิง สลับเสียงหัวเราะกันเป็นบางครั้งคราว ส่วนใหญ่ซีกับแม่จะผลัดกันพูด ผลัดกันเล่า พ่อก็ยังเป็นพ่อที่น่ารัก ที่ฟังทั้งคุณลูกและคุณภรรยาที่รักอย่างไม่รู้จักเบื่อ สายอีกหน่อยครอบครัวสุขสันต์ก็พากันเดินตลาดเช้า ในตัวเมือง ช้อปปิ้งกันเพลิน จนข้าวของล้นหลังรถมาใส่ในเบาะหลัง ข้าง ๆ ตัวซี

‘สวนส้มตัวซี’ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว ๆ 50 กิโลเมตร ดังนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่า พอจอดรถเด็กรับใช้ที่มาช่วยขนของบอกว่ามีแขกมารออยู่ที่บ้านสามคน คนหนึ่งคือส้ม ส่วนอีกสองคนไม่เคยเห็นมาก่อน ขบวนของพ่อ แม่ ลูก เดินเรียงกันมายังห้องรับแขก ซีเป็นคนรั้งท้าย และสุดท้ายความสงสัยก็สิ้นสุด เมื่อเห็นส้มนั่งหงออยู่ในห้องรับแขก โดยครามกับคุณมาลัยกำลังนั่งพลิกนิตยสารในมือหยุดชะงัก หันมามองผู้มาใหม่ โดยอัตโนมัติบรรดาผู้อาวุโสน้อยทั้งสามคนต่างยกมือไหว้ผู้ใหญ่พร้อม ๆ กัน

ส้มเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศอึมครึม โดยการผายมือไปทางคุณมาลัยและคราม

“คุณป้ามาลัย กับพี่คราม เป็นเพื่อนของส้มกับซีค่ะ” และผายมือต่อไปยังพ่อกับแม่ของซี

“คุณพ่อกับคุณแม่ของน้องซีค่ะ” ต่างก็ยกมือไหว้กันและกัน ตามอาวุโส ผู้มาใหม่ตามมานั่งสมทบในโซฟาสีครีมที่ตั้งอยู่กลางห้อง

“พอดีพี่ครามลาพักร้อน ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน คุณป้าอยากมาเชียงใหม่ คุณครามโทรไปชวนส้ม ส้มก็เลยแนะนำให้มาที่นี่ และถือโอกาสมาเยี่ยมพ่อกับแม่ด้วยค่ะ” ส้มพยายามเป็นตัวเชื่อมสัมพันธไมตรี ซีได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร ครามก็อมยิ้มในหน้า

“ทานอะไรกันหรือยังคะ”

“ก็..เอ่อ ทานบนเครื่องบินมารอบหนึ่งแล้วค่ะ” คุณมาลัยยิ้มแย้ม และเริ่มทำตัวตามสบายขึ้น หลังจากที่เกร็ง ๆ อยู่เหมือนกัน จู่ ๆ ลูกชายตัวดีก็เดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน คว้าแขนเธอให้จัดกระเป๋าเสื้อผ้าบอกว่าไปเชียงใหม่ด่วน กว่าจะรู้เรื่องก็ตอนได้คุยกันระหว่างขับรถไปสนามบินแล้ว.. เฮ้อ..ลูกหนอลูก

“งั้น เดี๋ยวให้ซีเข้าครัว ทำอาหารเลี้ยงแขกนะ” ผู้เป็นแม่หันมาพยัก เพยิด มาทางลูกสาว ซียิ้มแต่ยังไม่ยอมสบตาใครอีกคน ทำเหมือนว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้น

“งั้น ซีขอตัวไปดูในครัวนะคะ”

“จ้ะ” แม่พยักหน้า ส้มลุกขึ้นขอตัวตาม, ครามก็ทำตามบ้าง เด็ก ๆ เดินตามกันออกมา ทิ้งให้ผู้ใหญ่สนทนากันอยู่ในห้องรับแขก

ส้มฉากตัวออกไป บอกว่าจะเข้าห้องน้ำ ก็เหลือแต่ซี คราม และความเงียบ ที่ตามกันไปห้องครัว

“ซี” เขาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ

“คะ” ซีค้นตู้เย็น นำของออกมาวางบนโต๊ะ เตรียมทำอาหาร

“พี่ขอโทษสำหรับหลาย ๆ สิ่งที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพี่ไม่ชัดเจนเอง ทั้งที่พี่....” เธอเลิกคิ้วมองหน้าเขา

“พี่จะขอโทษซีทำไมเนี่ย” เจ้าตัวดียิ้ม ตาใส

“เราเป็นพี่ เป็นน้องกัน พี่ไม่ได้มีอะไรผิดต่อซี เราสนิทกันเกินไปน่ะค่ะถึงแม้ว่าจะพบกันไม่บ่อยนัก พี่อย่าคิดมากสิ”

“แต่……”

“แต่อะไร ไม่เห็นจะมีอะไรให้แปลก เราสองคนได้ไมตรีมาจากโลกไซเบอร์ ผู้หญิงกับผู้ชายคบกันไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยคำว่ารักเสมอไป จริงอยู่..เรามีความรู้สึกที่ดี ที่พิเศษต่อกัน” เธอสบตาเขาแน่วแน่

“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องรักกัน แต่งงานกันนี่นา” เขาพยักหน้าหงึก ๆ ดวงตาสดใส ไม่มีเค้าคนอมทุกข์อีกต่อไป ไอ้ตัวปากแข็ง หน็อย !

“เข้าใจล่ะ นี่พี่ก็ชวนคุณมิ้นท์เขามาด้วยนะ” ดวงตากลมโตแฉลบลงพื้นนิดหนึ่ง ก่อนตวัดกลับมาสบตาเขาเหมือนเดิม เสียงแข็งนิด ๆ เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอก.. จริง จริ๊ง

“อือ ค่ะ”

“นี่จะแกงอะไร”

“จะทำพะแนงไก่ ไข่เจียว และน้ำพริกกะปิ ปลาทู พอไหวไหมคะ”

“ได้ ๆ พี่ช่วยนะ”

“เป็นจริงอ่ะ”

“ดูถูก” เขาพับแขนเสื้อเชิ้ต ทำท่าทะมัดทะแมง ซีหลบตา แล้วก็เผลอค้อนเขาไปจนได้ ส้มแอบดูสถานการณ์อยู่ข้างนอก พอเห็นไม่มีอะไรก็เดินเตร่ออกไปข้างนอก ไม่มายุ่ง ปล่อยให้หนุ่มสาวจัดการกันเอง

--------------***************************--------------

พระจันทร์ข้างขึ้น เกือบเต็มดวงลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า เสียงหรีดหริ่งร้องระงม ครามสูดหายใจลึก ๆ เข้าปอด ท่าทางผู้ใหญ่เข้ากันได้ดี เพราะคุณแม่ของซี วัยใกล้เคียงกันกับแม่ของเขา เห็นว่าจะชวนกันไปไหว้พระวันพรุ่งนี้

สายลมเย็นยามราตรีพัดโชยแผ่วเบา เขาถอนหายใจอายุก็ปาเข้าไปไม่น้อยแล้ว ทำไมเขาโง่กับความรัก อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายจึงทำให้ไม่ละเอียดอ่อนกับเรื่องบางเรื่อง ดีว่าแม่ ที่เป็นแม่ผู้ประเสริฐกับเขาเป็นผู้ชี้ทางสว่าง ทำให้เขามองพระจันทร์ได้เต็มตา ไม่ใช่หลงมองแต่เงาของพระจันทร์ที่อยู่ในน้ำ เงาสะท้อนของแสงพระจันทร์นั้นสวย แต่บอบบางเพียงแค่สายลมพัดน้ำไหวระริกให้เกิดลูกคลื่นเงาพระจันทร์ก็จะจางหายไป แต่ถ้าหากมองสูงขึ้นไปอีก พระจันทร์ตัวจริงที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้านั่นต่างหาก ที่สวยจริง และสวยนานกว่า

ส้ม.. สาวประเภทสองที่แทบจะมองไม่ออกว่าเธอเคยเป็นผู้ชาย เพื่อนที่แท้จริงของซีนั่นก็อีกคน ที่ช่วยไขความกระจ่างบางอย่างให้เขา

ก็เหลือแต่ซี แม่สาวที่ปากแข็งอย่างวายร้าย ที่หารู้ไม่ว่าตอนนี้ความลับของเธอไม่ได้ลับต่อไปอีกแล้ว เขานึกขอบคุณหลาย ๆ สิ่งที่ประกอบกันขึ้นมา

“อะ ..แฮ้ม” เขาหันมาทางต้นเสียง เลิกคิ้ว

“ส้มว่า พระเอกน่ะเลิกมาเก๊กอยู่คนเดียวในมุมมืดดีกว่า โน่นแน่ะ นางเอกของเรานอนเล่นอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง มุมโปรดของเค้าล่ะ ไม่ไปชวนสนทนาหน่อยหรือคะ” เขาผิวปากหวือ

“แล้วผู้ใหญ่นอนแล้วหรือ”

“ค่ะ ท่าน ๆ เข้านอนกันหมดแล้ว ทางสะดวกแน่นอน” ส้มเอียงคอ ชูมือสองนิ้ว สัญลักษณ์ของการให้กำลังใจ

“ขอบคุณนะครับส้ม สำหรับทุก ๆ อย่างที่ผ่านมา ผมอาจจะไม่ใช่คนดีนัก แต่สัญญาผมจะไม่ทำให้แม่ ส้ม หรือทุก ๆ คนผิดหวังแน่นอน”

“หลายคนที่โง่กับความรัก จนบางครั้งกามเทพแทบจะฆ่าตัวตาย” ส้มค่อน เจือเสียงกลั้นหัวเราะ เขายิ้มตาม

“ผมนี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ นั่นแหละ กว่าจะรู้”

“ไปเถอะค่ะ.. เดี๋ยวนางเอกหนีเข้านอนก่อนแล้วจะอด” ส้มเดินนำกลับเขามาในบ้าน แต่เดินเลยไปทางห้องนอน เปิดทางให้หนุ่มสาวได้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง

--------------***************************--------------
“พี่นั่งด้วยได้ไหมซี” เธอผงกศรีษะจากเก้าอี้นอน หันมามอง ระเบียงชั้นสองซึ่งเป็นมุมส่วนตัวที่ซีชอบที่สุด กับการได้อาบแสงจันทร์ บัดนี้มีคนมารุกรานเสียแล้วสิ

“เชิญค่ะ” พยักหน้าแล้วก็ปล่อยศรีษะเอนพิง เก้าอี้นอน สบาย ๆ

“พรุ่งนี้เราไปวัดไหนนะ”

“แม่จะพาไปหลายวัดค่ะ เห็นว่าจะให้ครบเก้าวัดประมาณนั้นแหละ แล้วคุณมิ้นท์ตามมาเมื่อไหร่คะ” เขาสาวเท้านั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เป็นเก้าอี้ผ้าใบ คล้าย ๆ เก้าอี้ชายหาด แต่เนื้อผ้าทำจากผ้าฝ้ายดิบ มองเห็นสีขาวสลัว ๆ กลิ่นเทียนหอมไล่ยุง หอมกลิ่นตะไคร้นำมา ชวนให้ชื่นใจ

“เอ่อ..พี่ล้อเล่นน่ะ มิ้นท์เขาจะไปเที่ยวฮ่องกงกับลูกชายรัฐมนตรี เลยไม่ได้มาด้วย”

“อ้าว..พี่ครามเก๊าะอกหักล่ะซี” เธอผงกศรีษะขึ้นมา มองคนข้าง ๆ

“ไม่หรอก แต่ก็เกือบไป”

“มิ้นท์เขาคบอยู่กับลูกชายรัฐมนตรีนานแล้ว พอมาเจอพี่ เขาก็มีไมตรีด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสนใจพี่เกินกว่า เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง”

“จริงอ่ะ”

“ฮื่อ” เสียงจิ้งหรีดกรีดเสียงดังระงม หนุ่ม-สาวทอดสายตามองออกไกลออกไปถึงพระจันทร์ และท้องฟ้ายามราตรีกาล

“ซี” เขาผุดนั่งและกุมมือสาวน้อยตรงหน้า เธอขึงตาแล้วชักมือกลับ แต่เขาไม่ยอมปล่อย

“พี่ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก แต่ระหว่างเราพี่จะรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ นี้ไว้ ซีเห็นด้วยไหม”

“ไม่ทราบสิคะ” เธอยังพยายามชักมือออก ไม่สบตากับใครทั้งนั้นแหละ แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย

“ให้โอกาสพี่นะซี ที่ผ่านมา ผลมันพิสูจน์ออกมาแล้ว พี่ขาดซี พี่แทบขาดใจเลย”

“แหวะ” เขาปล่อยมือ ซัดมะเหงกลงไปดังป๊อก ซีคลำศีรษะป้อย ๆ

“เด็กบ้า” เขางึมงำ ๆ ทิ้งตัวหงายลงเก้าอี้แรง ๆ ด้วยความที่ตัวสูง ศรีษะเลยโขกกับขอบบนของเก้าอี้ผ้าใบ ที่ฐานทำจากไม้ดังโป๊ก !

“คิก ๆ” ซีหัวเราะ

“นั่นแหละ กรรมสมัยนี้มันติดจรวดนะ พี่คราม”

เขางึมงำ พึมพำ อะไรไม่รู้ในความสลัวของราตรีที่มีแสงจันทร์ฉาย ซียิ้มเอนตัวลงนอนดังเดิม หนุ่ม-สาว ปล่อยความคิดไปจนสุดหัวใจ โดยมีเสียงของธรรมชาติดังกังวาน

------
อาจจะเป็นเพราะรักเราร้อนรนเกินไป
อาจเป็นเพราะหัวใจรุ่มร้อนจะไขว่คว้า
หาสิ่งที่ฝันหาวันที่เป็นดังใจ
ยิ่งตามหายิ่งห่างไกลยิ่งทรมาน

ค่ำคืนที่มีน้ำตา
ใจที่พังทลายลงมา
แต่ยังมีแสงจันทร์สว่างให้เรามองเห็น

ค่ำคืนยังคงงดงาม
เป็นไปตามที่มันเคยเป็น
และยังมองเห็นความสุขอยู่กับเราไม่ไกล

เกือบจะลืมว่าฟ้างามนั้นงามเพียงใด
เกือบจะลืมว่าหัวใจมีใครให้ผูกพัน
ทุกอย่างรายล้อมมากมายใต้เงาพระจันทร์
และความรักอยู่ตรงนั้นไม่เคยห่างไกล

เหมือนได้พบและหยุดพัก
ทบทวนเรื่องเดิมให้เรามีวันนี้ที่สุขใจ

** เพลงค่ำคืนที่งดงาม (ละครพระจันทร์ลายกระต่าย)



Create Date : 08 มิถุนายน 2549
Last Update : 25 สิงหาคม 2550 11:59:25 น.
Counter : 583 Pageviews.

4 comments
  
อ่านแล้วลงชื่อค่ะ
โดย: ป้ามด วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:19:57:57 น.
  
จริง ๆ แล้วอยากบอกเหลือเกินว่า ดีใจมากที่ป้ามดมาอ่านค่ะ
ถือว่าเป็นเกียรติยิ่ง สำหรับคนที่หัดเขียนอย่างแจม



แล้ววันหน้า..จะปรับปรุงให้ดีกว่านี้แล้วค่อยมาลงค่ะ
โดย: แจม (สีน้ำฟ้า ) วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:1:48:19 น.
  
เป็นเพื่อนเก่าสีน้ำฟ้า ที่ไม่เคยได้อ่านลีลาการเขียนมาก่อน เพิ่งอ่านครั้งแรก อ่านแล้วก็เพลินดีนะ เนื้อเรื่องหวานแหวว ไม่เพ้อฝันจนเกินจริง และเป็นไปได้สำหรับโลกไซเบอร์แห่งนี้ วิธีเล่าเรื่องก็ธรรมชาติดี แต่ถ้าใส่อุปสรรคในเนื้อเรื่องให้มากกว่านี้ จะน่าสนใจมากขึ้น เพราะอะไรที่ดูได้มาง่ายดาย มันไม่ค่อยลุ้นจ้ะ แต่ก็เป็นกำลังใจให้ฝึกปรือวิทยายุทธแก่กล้ายิ่งๆ ขึ้นไปนะจ๊ะ สร้างสรรค์ผลงานแข่งกับโฟเอสนะ (โฟเอสสร้างสรรค์อีกแล้วครับท่าน)

ทำอะไรที่ใจรัก ทำไปเหอะ อย่างน้อยมันสำเร็จไปครึ่งแล้วล่ะ
โดย: Sweety...Bell IP: 62.163.177.40 วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:21:05:42 น.
  
ขอบคุณนะคะ Sweety .. Bell .. ระฆังหวานแหว๋วที่ไหนหนอ มาวางเสียงแล้วก็จากไป

พักนี้เรา "ยุ่ง" กับงานค่ะ

ก็เลยไม่ค่อยได้มาอัพบล็อค หรือตอบความเห็น ช้าอย่างนี้คงไม่น้อยใจนะ

หรืออีกที..พักนี้ยังหมกมุ่นอยู่กับการเขียนกลอนค่ะ
โพสที่ถนนนักเขียน ไม่ได้โพสซ้ำในบล็อค เกรงใจเจ้าของพื้นที่ค่ะ
ในเมื่องพันทิปเหมือนกัน ไม่อยากโพสทั้ง 2 แห่ง

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.158.49 วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:39:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สีน้ำฟ้า
Location :
กระบี่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



MY VIP Friend