เรื่องเล่าสึนามิ :: ตอน :: กลับมาเขียนอีกครั้งแล้วค่ะ
;*'^'~*-.,_,.-* ... *-.,_,.-*~'^'*";

..
สวัสดีค่ะ เพื่อนบล็อกเกอร์..
แช่หน้าบล็อกไว้ตั้งแต่ปีใหม่ ก็คือตั้งแต่เริ่มมาทำงานที่เกาะพีพี "อีกครั้ง" หลังจากสึนามิ พัดเราขึ้นฝั่งไปเป็นคนเมืองกระบี่อยู่นานถึงสี่ปี..
ช่วงนี้ขอพักบล็อก "ตกแต่งบล็อกสไตล์สีน้ำฟ้า" และบล็อกอื่นๆ ไปก่อนนะคะ ขอนำเอ็นทรี่บันทึกคนสึนามิมาเล่ากันอีกครั้ง ก็กลับไปอ่านได้นะคะ.. ห้องเรื่องเล่าคนสึนามิ จะประกอบด้วยหลายเรื่องด้วยกัน..

เรื่องเล่าคนสึนามิ :: ตอน คนอ่านเริ่มอยากเขียน
ฟ้าหลังฝน เขาว่างาม.. ฉันก็เห็นงามด้วย แต่อยากบอกจังว่า มันหนาวนะ เพราะฟ้ายังฉ่ำฝนต่อ เหมือนว่าอาจจะตก หรือไม่ตกอีกก็ได้
การทำงานในสถานที่ท่องเที่ยว ใช่ว่าจะง่าย รับทรัพย์เนื้อๆ อื้อๆ อย่างที่เขาเล่าลือกันทั้งหมด การบริหารจัดการชีวิต การจัดเก็บเงินหลังการสร้างรายได้ ยังเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับใช้ตัวเองและครอบครัวต่อไป
นับจากประสบภัยสึนามิ ที่เกาะพีพี สึนามิได้กวาดทรัพย์สินและความรู้สึกทางใจส่วนหนึ่งของฉันไป นานถึงสี่ปีที่ไปล้มลุกคลุกคลานอยู่ในตัวเมืองกระบี่ กู้เงินมาประกอบการใหม่ เพื่อนๆ ช่วยเหลือกันมา ให้ขาดเลย ให้ยืมไม่มีดอกเบี้ยและกำหนดคืน ผู้ใหญ่หลายท่านเมตตาให้คำแนะนำ ให้การช่วยเหลือ แบบไม่คิดอะไร มากมายที่ได้รับ.. รู้สึกและสำนึกในบุญคุณทุกๆ ท่านเสมอ กราบขอบพระคุณในความกรุณา ที่ท่านหยิบยื่นให้ เพื่อให้รู้สึกดีที่มีชีวิตหลังสึนามิ ฉันก็เป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในสังคมชาวเกาะพีพี และได้ทำอะไรอีกหลายอย่างที่คิดว่า..ต่อไป ถ้าตายก็ไม่เสียดายชีวิต.. ฟ้าหลังฝนเช้าวันนี้.. ฉันตื่นแต่เช้าตามเคย ฮั่นแน่ะ. ตื่นเช้าตามเคยเป็นด้วยนะ ฮิฮิ ปกติอยู่ในตัวเมืองกระบี่ จะตื่นสายตามสมควร เพราะมีงานทำน้อย เล่นเน็ตได้มาก.. ช่วงนี้มีงานให้ทำมาก .. ถ้า.. การทำงาน คือการเปิดประตูร้านมาเพื่อเปิดระบบอินเตอร์เน็ตให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และขายตั๋วรถ ตั๋วเรือ ให้ลูกค้า มันก็ใช่ว่าจะมีงานอะไรมากมาย เพราะการทำงานคือการนั่งรอ แต่..ฉันใส่ใจในคนที่เดินผ่านไปมาแทบจะทุกคน จะแวะ หรือไม่แวะ จะใช้บริการหรือไม่ได้ใช้ ก็แล้วแต่..
ฉันเลือกที่จะใส่ใจ แม้บางครั้งเขาจะว่า.. "เกินไป" ก็เถิด อย่างตอนนี้หลังฝน หน้าร้าน นับจากเกสท์เฮ้าส์ ก่อนหน้าที่จะถึงร้านฉันสองร้าน และเลยไปอีกนับสิบร้านค้า ยังเป็นช่วงของถนนที่ถมด้วยดินและหิน
ฝนตกก็ฉ่ำแฉะไปด้วยโคลน และน้ำขังเป็นแอ่งๆ หน้าร้านมีฝาท่อที่ เขาไม่ใช้แล้ว ยกมาทิ้ง ตอนนี้มันกลืนเป็นเนื้อเดียวกับถนนแล้ว ฝาท่อทำจากกระเบื้องเคลือบเงา วางอยู่บนถนนดินแดงเละๆ ใครๆ ก็อยากเหยียบ เพราะมันดูไม่สกปรกมากนัก .. แต่มันลื่น.. ก็ต้องคอยบอกกันไป หรือไม่หนักเข้า ก็ตักน้ำมาราดโคลนให้ออกจากฝากระเบื้องที่ว่า.. ไม่งั้น.. คนที่เหยียบโคลนบนแผ่นกระเบื้องก็.. จะเหลือเรอะ.. บางที สาวๆ สวยๆ หุ่นดีๆ นุ่งน้อย ห่มน้อยลื่นพรืด.. ลงไปคลุกโคลน..
เฮ้อ จะมาว่าไม่บอก ไม่ได้นะ ทีนั้น.. (ไม่ใช่แค่บอกเล่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว หลายครั้ง)
ทำงานที่เกาะพีพีมาสองเดือนกว่า เกือบสามเดือน ธรรมชาติของเกาะพีพี แปลกไปจากวิถีเดิมที่ฉันเคยใช้ชีวิตเมื่อตอนก่อนเกิดสึนามิ.. คือปรากฎการณ์ปาร์ตี้ที่เกาะพงัน ได้ดึงลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นจากเกาะพีพีไป เรียกว่าเกาะเกือบร้าง.. นอกจากโลว์ซีซั่น และไฮซีซั่น ตอนนี้ เกาะพีพีเพิ่มปัญหาคือ.. ฟลูมูนไม่ฟลู
ปาร์ตี้ฟลูมูน ที่เกาะพงัน จะเป็นอย่างไร ว่าเร็วๆ นี้คงได้ไปสัมผัส และศึกษาบรรยากาศ .. แต่บอกก่อนนะ มุมมองของสีน้ำฟ้า..กับงานปาร์ตี้อาจจะไม่สนุกนัก
ตามประสาคนเกิดนานแล้วน่ะค่ะ
เอ้า.. มาว่ากันต่อ ถึงการทำงานหนึ่งวัน.. การทำงานในสถานที่ท่องเที่ยว เช้าๆ มักจะไม่มีคนตื่น แต่เราคนทำงาน ต้องตื่นก่อน นอนทีหลัง.. โดยประมาณเฉลี่ยการทำงาน ต่อวันก็ประมาณสิบสองชั่วโมง.. หรือมากกว่า นั่งไปเถอะ งานสบายๆ ระยะเวลาอาจจะนานสักนิด แต่ถ้าใส่ใจในหน้าที่การงาน จะสนุกไปเอง โดยไม่จำเป็นต้องอิดออด
เคยเป็นไหม.. เวลาเราทำงาน อาทิตย์หนึ่ง ห้า หรือ หก วัน ในงานสำนักงาน เช้าต้องไปตอกบัตรให้ทันแปดโมง เย็นนั่งนับเวลาเลิกงานห้าโมง และรอคอยวันหยุดอยู่กับบ้าน
ประจำอาทิตย์ และนั่งนับว่าเดือนนี้จะมีนักขัตฤกษ์สักกี่วัน.. ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้น.. การทำงานของฉันไม่ใช่อย่างนั้น กำหนด กฎเกณฑ์ แบบนั้นไม่มีอีกแล้ว.. นี่เป็นร้านของเราเอง ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย และต้องแบ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เป็นค่าเช่าร้านด้วยครึ่งหนึ่งของรายได้ (ยิ้ม) อย่าคิดว่าฉันเสียเปรียบนะคะ
เห็นใจเจ้าของที่ดีกว่า.. การทำงานที่นี่ไม่ใช่ได้เงินมากอย่างที่คิด กำไรจากยอดขาย
ได้ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น (หลังหักค่าใช้จ่าย) ร้านเล็กๆ ของฉันทำรายได้ไม่มากนักหรอก จะดีตรงที่มีวงเงินหมุนสูงขึ้นจากเดิม การทำธุรกิจของฉันคือการนำเงินในธุรกิจ
ของตนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่นำมาใช้ส่วนตัว .. ถึงกระนั้นฉันและสามีก็ยังขวนขวาย หาทางลงมาทำงานที่นี่
คนอื่นๆ ผู้ประกอบการที่นี่ เขา "โตขึ้น" เพราะเขานำเงินไปหมุน และขยับขยายธุรกิจ ส่วนฉัน.. ฉันขอแค่ทำงานเท่านี้ก็มีความสุข เพราะนอกจากงานนี้ ที่นั่งเฝ้าหน้าเค้าน์เตอร์
วันละหลายๆ ชั่วโมง ต่อไป ถ้าบริหารเวลาให้ดี ต่อไป ฉันก็ได้ทำงานที่ฉันรัก คือการเขียนหนังสือ การปั้นฝันให้เป็นตัวหนังสือ.. ส่วนสามี เขาก็ได้ทำงานเกี่ยวกับออกแบบเว็บไซต์ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ว่ากันไปตามเรื่อง.. เรามีความสุขในการทำงาน.. แค่นั้นเราก็พอใจแล้ว..
ทุกวันนี้ ทำงานให้มาก ทยอยใช้หนี้เน่าสะสม สมัยกลับขึ้นไปอยู่ในตัวเมือง หากใช้หนี้ให้เขาครบ.. อิสระในชีวิตคงมีมากกว่านี้..
ฉันมีเป้าหมายในชีวิต ฉันวางไว้แค่นี้ คาดว่าอีกประมาณสักปี.. สองปี จะทยอยใช้หนี้เกือบหนึ่งล้านบาทหนี้ให้หมด.. แล้วก็ทำงานที่เรารักต่อไป หนึ่งชีวิตของฉัน แค่นี้ก็พอแล้ว
คุณล่ะ.. สนุกไหมกับการใช้ชีวิตในวันนี้..
อย่าเพิ่งถอดใจนะ ไม่จริงหรอกรู้ไหม.. สีน้ำฟ้าไม่ค่อยชอบปลอบโยนด้วยคำว่า.. ท้อได้แต่อย่าถอย แล้ว
ไม่จริงใช่ไหม คุณก็ทราบดีพอๆ กับฉัน.. คนเรา ก็ต้องท้อกันบ้างแล้.. สี่ปีที่ผ่านมา หลังเหตุการณ์สึนามิ สอนอะไรให้เยอะเลย.. เอาไว้จะมาเล่าให้อ่านเป็นตอนๆ ไป
อย่าเพิ่งเบื่อรอไปก่อนเท่านั้นเอง.. นะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ.. ว่างก็แวะมานะคะ แล้วจะพาไปเลี้ยงข้าว

สีน้ำฟ้า .. สวัสดีค่ะ
ปล. ขออภัยเพื่อนๆ บล็อกเกอร์ที่แวะเวียนเข้ามา ขอบคุณพี่ๆ ที่จุดธูป จุดแล้ว จุดอีก จนหมดไปหลายดอก แล้วแจมเพิ่งโผล่ เรื่องมันยาวค่ะ.. เรื่องมันยาว ค่อยๆ เล่า เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทู๊กอย่าง จริงๆ
|
|
|