จริงจากหัวใจ จริง จริง [เรื่องสั้น]
;*'^'~*-.,_,.-* ... *-.,_,.-*~
บนหน้าสมุดบันทึกออนไลน์หลายคนเริ่มบ่น พักนี้เธอเป็นอะไร ทำไมเขียนแต่เรื่องเศร้า --ฉันรู้จักคนถามดี และไม่อยากให้เธอเป็นห่วงเป็นใยฉันไปมากกว่านี้ ก็เลยตอบไปว่า -- ไม่รู้สิมันเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับกระมัง เวลาเราอิ่มสุขมากๆ ฉันก็มักจะนึกถึงเรื่องเศร้าๆ เพื่อให้ความสุขที่ได้รับในขณะนั้นๆ มันเจิดจรัสมากๆ มากพอที่จะจดจำเอาไปไว้เขียนยามฉันเศร้า
อ้าว ถ้างั้นเวลาเธอเศร้า เธอก็เขียนถึงเรื่องมีความสุขหรือ พิลึกคน เพื่อนเก่าแก่ ซึ้ซ้ำย่ำปึ้กกันมาบนโลกออนไลน์เมื่อสามปีก่อนเหน็บเอา
ประมาณนั้น
พอตอบไปเช่นนี้ ก็คิดถึงคุณอีก ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ผมยาวลากระมาถึงต้นคอ แต่งกายสไตล์ศิลปินเพื่อชีวิต..เพื่อชีวิตของคุณคนเดียวนะ ยีนส์เก่าๆ กับเสื้อยืดเดิมๆ จนแทบจะกลายเป็นคนที่สวมเสื้อผ้าชุดเดียวในโลกอยู่แล้ว ทีร่าน่ะ ชอบพูดคำนี้จัง ประมาณนั้น บ่อยจนผมจำได้แล้วนะเนี่ย พูดจบก็หัวเราะ
เอ๋า จะให้ทีร่าตอบยังไงล่ะเจ้าคะ เป็นคำตอบกลางที่ลงตัวที่สุดแล้ว นา.. ประมาณนั้น
....................จะมาที่ตรงนี้อีกไหม...เมื่อยามค่ำคืน มานอนฟังเสียงคลื่นแล้วฝัน จะคิดถึงไหม..คนของความผูกพัน ถ้าเราห่างกัน..แล้วแสนไกล คืนคงเศร้า..แม้ดาวเกลื่อนกระจาย คนหนึ่งหาย..อีกคนจะคิดถึงไหม ไม่ห้าม..ไม่หวง..แต่อยากขออะไรอย่านะ..อย่าพาใครมานั่งลงที่ตรงที่ของเรา ไม่กล้าห้าม แต่อยากขออะไรอย่านะ.. อย่าพาใครมานั่งตรงที่ของเรา.. เสียงกีร์ต้าโดดเด่น กับเสียงขับร้องนุ่มๆ ก้องอยู่ริมหู
จ่ายค่าลิขสิทธิ์หรือยังล่ะจ้ะ เอากลอนเค้าไปทำเพลงน่ะ มีแต่แสงวับๆ จากดวงตาตอบกลับมา
บรื๋อส์ ไม่ต้ง ไม่ต้องจ่ายแล้ว ไม่เอ๊า ไม่คิดแล้ว เสียงหัวเราะของเราคลอคลื่นในคืนวันที่พระจันทร์หม่นแสง และดวงดาวเปล่งประกายระยิบระยับ
ผมจะไปสมัครเป็นครูอาสา ไปด้วยกันไหม คุณพูดขึ้นในวันที่พระจันทร์เต็มดวง แต่ริมหาดทรายที่เดิมของเรา
หมะ กับป๊าคงไม่ยอม ส่งเรียนมาจนปูนนี้ เพิ่งได้ทำงานใช้หนี้ป๊าไม่ถึงปีเลย หน้าคุณเศร้า แววตาที่เคยพราวแสงแข่งดวงดาว ก็อับเฉาเหมือนดาวคืนนี้ที่ถูกรัศมีของพระจันทร์กลบเสียสิ้น
นั่นสินะ ผมตัวคนเดียว อย่างไรก็ได้ แล้วจะเขียนจดหมายมาหานะ
ค่ะ ฉันตอบได้เท่านั้นจริงๆ
อย่านะ อย่าพาใครมานั่งตรงที่เขาเรา
ค่ะ
พรุ่งนี้ ผมจะออกเดินทางแล้วนะ
ค่ะ จากนั้นเรานั่งกุมมือกันเงียบๆ ปล่อยให้ความเงียบถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อกัน ผ่านอุ่นไอของผิวเนื้อ มือของคุณอุ่นจัดจนมือของฉันที่เย็นเยียบเริ่มอุ่นตาม
สามเดือนผ่านไป เรายังคงติดต่อกันทุกทาง โทรศัพท์ จดหมาย หรือบางครั้งคุณเข้าเมืองก็จะส่ง e-mail มาหา หรือถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็ได้คุยกับทางโปรแกรมเอ็มเอสเอ็น วันหนึ่งก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ เมื่อคุณโทรมาหา..
ผมจะแต่งงานแล้วนะ.. เสียงจากปลายสายที่ส่งผ่านโทรศัพท์เหมือนกระซิบริมหู ..ฉันเงียบ เงียบไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
ค่ะ
ทีร่า
คะ ดีใจด้วยค่ะ
ประมาณนั้นใช่ไหม เสียงเขาเหมือนพยายามกลั้วเสียงหัวเราะมาให้ได้ยิน
ไม่ค่ะ ไม่ได้ประมาณ แต่เป็นความรู้สึกยินดีจากหัวใจ ยินดีด้วยค่ะ
คืนนี้ฉันยังนั่งอยู่ตรงที่เดิม ที่ข้างๆ ว่างเปล่า คิดถึงคุณเหลือเกิน คืนนี้ฉันจะกลับไปเขียนบันทึกอีกสักเรื่อง เป็นเรื่องราวที่ฉันคิดถึง แล้วจบด้วยกลอนสักบท .. หวังว่าใครคงจะจับความรู้สึกไม่ได้เหมือนเคย
ยามเย็นที่เปลี่ยวเหงา สีของท้องฟ้า...บอกเราว่าค่ำคืนกำลังจะมาเยือนย่ำ อยู่กับตัวเอง..และสมุดบันทึกที่เรียงร้อยถ้อยคำ ท้องฟ้าสีมืดดำ..เหมือนเรื่องราวที่รออยู่ข้างหน้า
เก้าอี้ข้าง..ข้างยังว่างเปล่า เก็บตรงนี้ไว้ให้เขา..คนไกลอีกฝั่งฟ้า จรดตัวอักษรบนสมุดทุกวันที่มีเวลา จบบรรทัดสุดท้ายทุกทีว่า... คิดถึงคนดีที่แสนไกล
จบบรรทัดสุดท้ายจากความคิดถึงทั้งหมดที่มี บอกคนดีว่า..จะนานแค่ไหนก็จะรอ
|
|
|
ต่อจากนี้ไปขอให้มีความสุขมากๆนะคะ