มิถุนายน 2549

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
เรื่องยาว : ~~~เงาของพระจันทร์~~~ (บทที่ 4 )


ได้เวลาเลิกงานซีเดินตามทางเท้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี จังหวะที่ก้าวเท้าขึ้นบันได เสียงโทรศัพท์ก็ดัง เธอเลยชะงัก หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าถือขึ้นมากดรับสาย โดยไม่ทันมองเบอร์โทรเข้า

“สวัสดีค่ะ พี่ซี มิ้นท์เองนะคะ”

“อ๋อ จ้า..ว่าไงคะ”

“คุณครามเล่าให้ฟัง ว่าพี่ซีจะไปเที่ยวระยองด้วยวันสุดสัปดาห์นี้หรือคะ”

“ไม่แน่ใจนะ”

“เอ่อ.. คือมิ้นท์”

“มีอะไรหรือเปล่าคะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“มิ้นท์เช็คห้องพักแล้ว ห้องเต็มน่ะค่ะ พี่ซีรังเกียจมั้ยถ้าจะไปพักที่บ้านมิ้นท์เลย เพราะคุณครามก็ไปพักที่บ้านค่ะ หนนี้”

“พี่ไม่รังเกียจหรอกจ้ะ เกรงใจมากกว่า แล้วคิดว่าพี่คงไม่รบกวนน้องมิ้นท์หรอกนะ พอดีพี่นัดส้มเขาไว้ ว่าจะไปต่างจังหวัดเหมือนกัน”

“อ้าว เป็นอย่างนั้นไปเสียได้ อืม .. พี่ซีคะ มิ้นท์มีเรื่องจะปรึกษาด้วย”

“ว่ามาเลยจ้ะ ยินดีรับฟัง”

“คุณครามจะพามิ้นท์ไปซื้อแหวน”

“จ้ะ”

“เอ่อ.. ไม่ใช่แหวนหมั้นอะไรหรอกนะคะ แต่ว่าเขาจะให้ของขวัญตอบแทนที่มิ้นท์ซื้อโทรศัพท์ให้เขาน่ะค่ะ พี่ซีไปกับมิ้นท์นะคะ”

“วันไหนล่ะจ้ะ”

“ก็ ตอนบ่ายวันศุกร์ หลังจากนั้นก็ขับรถออกไปทางระยองเลยค่ะ มิ้นท์อาศัยรถคุณครามไปเลย ดีออกขี้เกียจขับรถ”

“สงสัยจะไม่สะดวก พี่ต้องเตรียมตัวเดินทางน่ะ เชิญตามสบายนะคะ”

“เสียดายจัง มิ้นท์อยากให้พี่ไปด้วย จะได้ช่วยเลือกแหวนให้มิ้นท์”

“ไว้ให้พี่ช่วยอย่างอื่นดีกว่าจ้า”

“แหม พี่ซีอ่ะ อะไรก็ไม่ได้สักอย่าง”

“โอ๋..อย่างอนเลยนะ ไว้ให้พี่ช่วยอย่างอื่นดีกว่า อ้าว ๆ รถมาแล้ว พี่ต้องขึ้นรถกลับบ้านแล้วล่ะ ไว้ค่อยคุยกันอีกนะคะน้องมิ้นท์”

“ค่ะ ๆ ถ้างั้นสวัสดีค่ะพี่ซี”

ซีเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าตามเดิม แล้วก็เดินครุ่นคิดไปตามทางโดยลำพัง

--------------***************************--------------

“ฮัลโหล”

“ไม่ไประยองกับพี่จริงหรือซี”

“ไม่อ่ะค่ะ พี่คราม ไว้คราวหน้าดีกว่า นัดกับส้มไว้ว่าจะไปต่างจังหวัด”

“จังหวัดไหน”

“ไม่บอก” เสียงปรับเสียงให้สดใส ดังว่าหยอกล้อกับปลายสาย เสียงเขาฮึดฮัด ฟึดฟัดมาตามสาย เธอไม่ปริปากอะไร

“เออ แล้ววันศุกร์นี้ว่าจะพาน้องเค้าไปซื้อของขวัญ”

“ค่ะ โทรมาเหมือนกัน”

“เหรอ ๆ ไปด้วยกันไหม”

“ไม่สะดวกค่ะพี่”

“งั้นเย็นนี้ไปกินข้าวกับพี่นะ”

“ไม่อ๊าว.. หนังสือที่ซื้อมายังอ่านไม่หมดสักที”

“เอ๋า หนังสือมันดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ มันรออยู่บ้าน ของตายอยู่แล้ว ส่วนพี่น่ะ เป็นพี่ เป็นเพื่อนที่มีชีวิต หัดใส่ใจพี่เชื้อบ้างสิฟระ”

“อ้าว.. ไหงพูดจากับน้องไม่เพราะเลยอ่ะ” เริ่มขึ้นเสียง

“เออ”

“แน่ะ เดี๋ยวงอนนะ”

“งอนก็ง้อ โธ่ ซี ไปกินข้าวกับพี่นะ ไปคนเดียวมันเหงา”

“เหอะ ไม่ไป๊ โทรไปชวนน้องมิ้นท์สิคะ”

“เดี๋ยววันศุกร์ก็เจอกัน”

“แปลก คนรักกันน่าจะหายใจเป็นกันและกัน มายุ่งอะไรซีเล่า” สุดท้ายก็แว้ดไปจนได้

“เฮ้ย.. อารมณ์เสียมาจากไหน”

“…………………” ไม่รู้จะตอบอย่างไรนี่

“นี่จะเลิกงานแล้วใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับ”

“อย่าเลยพี่ ซีจะรีบกลับ”

“บ้านไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย”

“เหอะน่า.. อย่ามาใส่ใจ สนใจซีเลย” เธอตัดสินใจกดแป้นโทรศัพท์ ตัดบทการสนทนา ยื่นมะเหงกให้ส้มที่มองมาตาแป๋ว

“ไป..ต่างคนต่างกลับ”

“วันนี้ให้ส้มขับรถไปส่งมั้ย ว่าง”

“อ้าว แล้วซ้ามง สามีไปไหนล่ะ”

“ไปประชุมต่างจังหวัด ชวนไปด้วยเหมือนกันแต่ขี้เกียจ”

“เป็นงั้นไปคนเรา” ส้มยืนรอ ซีเก็บโต๊ะ เปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋ามาคล้องไหล่ พยักหน้าเดินออกจากที่ทำงานพร้อมกัน

“วันนี้เจ้านายเรียกส้มเข้าไปถาม” ส้มเดินนำ ไปแล้วชวนคุยต่อระหว่างยืนรอลิฟท์

“อือ”

“ซีจะลาออกจริง ๆ หรือ”

“ฮื่อ” ซีพยักหน้า แกล้งเปิดกระเป๋าสะพายเหมือนค้นหาอะไรสักอย่าง

“หาอะไร”

“มือถือ..หยิบมาแล้วล่ะ” ซีเงยหน้ามาสบตากับเพื่อนรัก

“ก็มีคนแทนแล้วไง โชคดีไปที่เจ้านายรับน้องฝึกงานเขาทำต่อเลย ซีถามน้องเค้าแล้วเขาก็อยากทำ”

“ก็ดี แต่รู้สึกใจหายอย่างไรก็บอกไม่ถูก เราเคยเจอกันทุกวัน” ซีจับมือส้มมาแนบแก้ม

“เราก็ไม่ได้จากกันไปไหน ส้มเป็นเพื่อน และเป็นคนที่ซีรัก มันจะอยู่ตรงนี้เสมอ” เธอจับมือเพื่อนมาวางไว้ที่หน้าอก จังหวะที่ลิฟท์มาสองคนจึงเดินจูงมือกันเข้าลิฟท์ มีคนอยู่หลายคน ทั้งสองจึงต้องยุติการสนทนา ยิ้มให้กัน และต่างปล่อยให้จินตนาการเข้าครอบครองช่วงเวลาที่มี

--------------***************************--------------

หลังจากเจ้านายเรียกไปคุย ซีให้เหตุผลว่าพ่อกับแม่แก่มากแล้ว และเรียกร้องให้เธอกลับไปอยู่บ้านและสืบทอดกิจการ เจ้านายบ่นเสียดาย แต่ก็ไม่สามารถขัดได้ กับสายตาและน้ำเสียงที่มุ่งมั่นของซี เห็นส้มว่าเจ้านายเรียกส้มไปคุยเหมือนกัน หลังจากนั้น เจ้านายก็สั่งให้ซีเคลียร์งาน แล้วก็อนุมัติให้ออกได้

เธอมองข้าวของที่เก็บใส่กล่อง วางตั้งไว้ชิดผนังห้อง ก่อนจะเดินสำรวจไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมที่แคบ ๆ ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เริ่มทำงาน อยู่กับส้มจนกระทั่งส้มย้ายออกไปอยู่กับแฟน ต่อนี้ไปคงจะเหลือแค่ความทรงจำกับที่นี่

เธอเดินลูบขอบหน้าต่าง เลยออกไปที่ระเบียง ที่ซึ่งชอบออกมานอนมองพระจันทร์ในยามค่ำคืน ถ้าหากคืนไหนเดือนหงาย จุดเทียนหอมไล่ยุงเอาผ้าห่มกับหมอนออกมานอนตรงนี้หลับสบายจนถึงเช้าก็บ่อยไป แต่ตอนนี้เตียงนอนว่างเปล่า ไม่มีเบาะรองสวย ๆ ที่เธอใช้ตกแต่งเหมือนเมื่อวาน ตอนนี้เหลือให้เห็นแต่เนื้อไม้ที่ถูกลูบด้วยสีฟ้าจางจนซีด

เสียงเคาะประตูดังรัวอยู่ด้านนอก.. ซีกระพริบตาหันมากลับมา ส้มเป็นฝ่ายเปิดประตูเดินเข้ามาหา เพราะประตูไม่ได้ล็อคไว้ ซียิ้มรับพยายามให้ยิ้มนั้นสดใสที่สุด

“เรียบร้อยแล้วหรือ”

“จ้ะ”

“คนขับรถรับจ้างมาแล้ว ให้เขาขึ้นมาช่วยยกกล่องข้าวของพวกหนัก ๆ ด้วย” ซีหันไปยิ้มกับชายหนุ่มที่เดินตามส้มมา

“รบกวนด้วยนะคะ ยังไงก็ช่วยระวังหน่อย บางกล่องเป็นจอคอมพิวเตอร์บ้าง บางกล่องเป็นจานหรือถ้วยชามบ้าง วางแรง ๆ เกรงว่าจะแตกน่ะค่ะ” คนขับรถพยักหน้า

“ขอบคุณที่มาช่วยค่ะ เดี๋ยวซีจะเพิ่มเงินเป็นพิเศษ” ซียิ้มให้

“ครับผม” ชายหนุ่มคนเดียวในที่นั้น เริ่มลำเลียงของ สองสาวก็เลยต้องช่วยกันหิ้วคนละไม้ ละมือ นานทีเดียวกว่าจะเสร็จ ส้มเป็นคนนำกุญแจไปคืนที่ออฟฟิศประจำอพาร์ทเม้นท์ ซีเข้าไปนั่งอยู่ตอนหลังของรถกระบะ ที่มีที่นั่งแบบสองตอน คนขับรถสตาร์ทรถรออยู่ พอส้มมาประจำที่นั่งที่ว่างอยู่ตอนหน้าของรถกระบะคันนี้ก็แล่นออกไป จุดหมายแรกคือบ้านของส้ม ซียกพวกคอมพิวเตอร์ เครื่องเรือน อะไรต่าง ๆ ให้ส้ม หรืออีกทีส้มจะเอาไปบริจาคก็ได้ ถ้าหากไม่ใช้ เหลือติดตัวกลับบ้านเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า 1 กระเป๋าและกล่องหนังสือ 1 กล่อง

“ทำไมไปรถไฟอ่ะซี หนนี้ส้มรีบนะ ไปส่งซีเสร็จก็ต้องรีบกลับมาทำงานวันจันทร์”

“แหม ให้ซีอ้อยอิ่งกับการเดินทางบ้างสิ ส้มก็“

“จ้า แม่สาวช่างฝัน เออ นี่ซีเขียนจบหรือยัง นิยายที่ว่า”

“เขาเรียกนวนิยาย เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งเขียนใหม่ ๆ “

“นั่นแหละ ๆ จบไหม”

“ยังเลย เหลือตอนสุดท้าย ไม่รู้จะจบยังไง”

“อ้าว ก็ต้องแฮปปี้เอ็นดิ้งสิ คนอ่านจะได้ประทับใจ”

“บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นนี่” เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะ ซีมองเบอร์โทรเข้าแล้วรับสาย

“สวัสดีค่ะแม่”

“ค่ะ ขนของออกจากที่พักมาแล้ว ก็เอาไปไว้บ้านส้มอย่างที่บอกค่ะ”

“ค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่บนรถ ยังไม่ถึงบ้านส้มเลยค่ะ”

“กลับรถไฟค่ะ ก็คงถึงราว ๆ หกโมงเช้านั่นแหละ ถ้ารถไฟไม่เข้าช้ากว่ากำหนด”

“หนูกลับตู้นอน ส้มก็ไปด้วยแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“ค่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” รอจนซีวางหูเสร็จสรรพ ส้มก็เอ่ยถามต่อ

“แม่มารับหรือ”

“ใช่ แม่กับพ่อจะมารับเอง ที่สถานีรถไฟ”

“ดีจัง เสียดายเวลามีน้อย ไม่งั้นนะ ส้มจะให้ซีพาไปเที่ยวน้ำตก”

“ก็ไปได้นี่”

“ไม่เอา ขี้เกียจ เที่ยวแถวในเมืองก็พอ ส้มยังไม่อยากติดใจเชียงใหม่ จนต้องย้ายมาของานพ่อทำอีกคน”

“ได้นะส้ม ส้มชวนสจ๊วตมาด้วย เดี๋ยวให้พ่อหางานให้”

“ไม่รู้เหมือนกัน ดู ๆ ก่อน ส้มเป็นโรคคิดถึงซีมากไหม ถ้ามากส้มจะชวนเขาดู” ซียิ้มรับ

“ซีมึนศีรษะจัง สงสัยเมารถ ขอนั่งพักเงียบ ๆ นะ” ส้มหันมามองใบหน้าขาว ซีดของซีอย่างเป็นห่วง แล้วพยักหน้าหงึกหงัก สงสัยจะนอนน้อย คิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง ซีควานหาเพราะสักครู่เธอหย่อนมันลงไปในกระเป๋าสะพาย พอกดรับสาย ปรากฏว่าอีกฝ่ายวางไปแล้ว ยังไม่ทันจะกดดูเบอร์โทรเข้า ก็มีสายโทรเข้ามาอีก เธอจึงกดรับทันที

“ค่ะ ซีค่ะ”

“สวัสดีค่ะ แม่ลัยมีอะไรให้ซีรับใช้หรือคะ”

“ค่ะใช่ พี่ครามไประยองแต่ซีไม่ได้ไปด้วย”

“อ๋อ แม่ลัยโทรไปที่สำนักงานหรือคะ”

“เอ่อ..” สองสาวสบตากัน พอดีจังหวะรถเบรกอย่างแรง

“อุ้ย” ซีจึงหน้าคะมำไป

“ว้าย” ส้มเองก็ไม่ทันระวังเหมือนกัน

“อ๋อ.. รถเบรกกะทันหันค่ะ ไม่มีอะไร ไม่มีใครเป็นอะไรค่ะ”

“กำลังจะไปบ้านเพื่อนค่ะ”

“ค่ะ ถ้ามีโอกาส ซีจะแวะไปเยี่ยมอีก รักษาสุขภาพนะคะ”

“สวัสดีค่ะ” ซีถอนหายใจ สอดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพาย ส้มหันมามอง เห็นเพื่อนรักหลับตาพิงขอบหน้าต่างหลับตานิ่ง จึงหันกลับไปมองถนนต่อ พลางคิดในใจ ซีเอ๊ย..ทำไมไม่ยอมรับว่ารักเขา แล้วก็คุยกันตรง ๆ ดี ๆ ทำไมต้องหนี ท่าทางคุณครามก็เหมือนจะรัก แต่ทำไมต้องมียายมิ้นท์ เด็กท่าทางร้ายลึกคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ไม่รู้ ส้มถอนหายใจรู้สึกหนักหน่วงในความรู้สึก ไม่รู้จะช่วยเพื่อนได้อย่างไร ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ที่ไม่สามารถจะสอดมือเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้ตลอดเวลาเสียด้วย

--------------***************************--------------

“ครับแม่”

“อยู่ระยองครับ”

“ว่าจะกลับวันจันทร์เลย จะดอดไปจีบสาวแถวระยองสักหน่อย” เขาหัวเราะมาตามสาย คุณมาลัยได้แต่สายศรีษะ

“นี่คราม แล้วหนูซีล่ะ”

“เห็นว่าจะไปต่างจังหวัดกับเพื่อน”

“เขาลาออกจากงานแล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดต่างหาก”

“หา.... พลั่ก” เธอได้ยินเสียงแค่นั้นแล้วสัญญาณก็ขาดหายไป

“ฮัลโหล ๆ ๆ “ สงสัยโทรศัพท์หล่นอีกแล้วมั้ง ลูกชายฉัน.. แหม.. หันมาข้างหลังเห็นน้องแดงยืนรี ๆ รอ ๆ อยู่

“ว่าไงจ้ะ น้องแดง”

“พ่อกับน้าจะขับรถไปส่งเฟอร์นิเจอร์ให้น้าลีกับน้าชาติที่นครนายกค่ะ” คุณมาลัยพยักหน้า อย่างเข้าใจ

“เอา ๆ ไปสิ มีสะตุ้ง สตางค์ไหม เดี๋ยว ๆ แม่ไปหยิบให้ น้องแดงจะได้มีสตางค์ซื้อขนม” น้องแดงยิ้มแป้น ยกมือไหว้คุณมาลัย ดวงตาเปี่ยมด้วยรักและศรัทธาอย่างหมดหัวใจ คุณมาลัยกระวีกระวาดเดินหายไปทางห้องนอน ใส่ใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนลืมที่จะรอลูกชายที่รักโทรกลับมาเสียอย่างนั้น

--------------***************************--------------

ครามมองโทรศัพท์มือถือตัวเอง ที่มันหล่นกระจายไปคนละทางสองทางอย่างท้อ ๆ แล้วเริ่มเดินเก็บมันทีละชิ้น รวบรวมได้ครบมาประกอบใหม่ อันนี้ก็ยังเป็นโทรศัพท์อันเดิม เขาไม่ได้รับของ นักศึกษาสาว ลูกเจ้าของบังกะโล เพราะโทรศัพท์ของเขา ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย ใช้ได้เหมือนเดิม และอีกอย่างคือไม่สามารถทำใจรับของกำนัลราคาเป็นหมื่น ๆ จากเด็กที่ยังแบมือขอเงินพ่อ-แม่ไปเรียนหนังสือได้

ความคิดในใจเขายังวนเวียนอยู่กับสาวหน้าตาสดใส ท่าทางกวน ๆ และเป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ ไม่ขี้งอน ไม่เรื่องมาก ไม่ค่อยมีจริต คิดยังไงก็ทำอย่างนั้น ชายหนุ่มวางโทรศัพท์มือถือที่ประกอบเสร็จไว้บนโต๊ะทำงาน เดินอ้อมไปนั่งที่เก้าอี้ เขากำลังอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่สำนักงานระยอง ซึ่งตอนนี้พนักงานเลิกงานและทยอยกลับบ้านกันไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นไม่มีอะไรมากวนความคิดให้ขุ่นมัว พี่จะโทรหาเธอดีไหม ซี ?

--------------***************************--------------



Create Date : 08 มิถุนายน 2549
Last Update : 25 สิงหาคม 2550 12:02:51 น.
Counter : 290 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สีน้ำฟ้า
Location :
กระบี่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



MY VIP Friend