สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 ธันวาคม 2553
 

BKK - AYUTTHAYA :: รีสอรท์บ้านทรงไทยสไตล์อโยธาราวิลเลจ

"อยุธยา" เมืองแห่งตำนานราชธานีไทยในอดีต หากจะว่าไปแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเช้าเย็นกลับ แต่สำหรับทริปนี้ของเรามีจุดประสงค์เพื่อมาสำรวจ รีสอร์ทตามโครงการ Thailand Boutique Awards 2010 เพื่อค้นหาสุดยอดโรงแรมบูติกเมืองไทย ซึ่งที่รีสอร์ทที่พวกเราจะไปพักเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่เข้ารอบการประกวดครั้งนี้ ดังนั้นทริปนี้พวกเราจึงมีภารกิจต้องค้างที่จังหวัดอยุธยาหนึ่งคืนล่ะ


ซึ่งไหนๆ ก็มากันแล้วครั้นจะไม่ตะเวณเที่ยวก็ดูจะผิดวิสัยของ จขบ. แล้วล่ะ ดังนั้นทริปนี้พวกเราเลยออกจากกรุงเทพฯ กันแต่เช้าเพื่อไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในจังหวัดอยุธยากันก่อนเข้าที่พัก ซึ่งแน่นอนจุดหมายแรกนั่นก็คือ ตลาดน้ำอโยธยาตลาดน้ำสุดฮอตในขณะนี้ และต่อด้วย หมู่บ้านญี่ปุ่น ตามด้วย ตลาดโก้งโค้งและปิดท้ายด้วย ตลาดคลองสระบัว ทริปจึงเป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจเพราะเก็บสถานที่ท่องเที่ยวได้หลายที่เชียวล่ะ ห้าโมงเย็นแล้นน ไปทำภารกิจหลักของพวกเรากันดีกว่า


จากแผนที่ที่เตรียมมาพวกเราต้องหาวัดบรมวงศ์อิศรวรรารามวิหารให้เจอเสียก่อน ซึ่งพอมาถึงจุดนี้แล้วก็จะเห็นป้ายทางเข้ารีสอร์ทอยู่เป็นระยะๆ ผ่านเพนียดคล้องช้างแล้วข้ามสะพานเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ไม่นานนักก็มาถึงรีสอร์ทจุดหมายของเราแล้วล่ะ


ก่อนอื่นขอเข้าไปเช็คอินกันก่อนนะคะ ตามตารางเวลาที่นี่ให้เข้าเช็คอินได้เวลา ๑๔.๐๐ น. แต่ด้วยความที่ จขบ. แวะเยอะไปหน่อยเลยทำให้เข้าพักจริงๆ เวลา ๑๗.๐๐ น. พวกเราจอดรถเสร็จก็เดินขึ้นมาบนเรือนไทยรับรองแขกที่มีชื่อว่า "เรือนประภัสสร" เจ้าหน้าที่ต้อนรับพวกเราด้วยน้ำหวานเย็นชื่นใจ แก้วก็ห่อด้วยใบตองไอเดียเก๋ไก๋รักษาสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก







เหมาะสมกับที่ส่งประกวดในหัวข้ออนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเลยล่ะ เรามาดูด้านสถาปัตยกรรมกันบ้าง รีสอร์ทแห่งนี้มีบ้านเรือนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ๑๓ หลัง โดยแบ่งเป็นเรือนหลังเล็ก ๙ หลังสามารถพักได้ ๓ คน และเรือนหลังใหญ่ ๔ หลังสามารถพักได้ ๖ คน ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น เรือนพิกุล เรือนบุหงาส่าหรี เรือนกาสรอง เรือนจำปี เป็นต้น










บ้านแต่ละหลังก็มีเอกลักษณ์ลักษณะของบ้านเรือนไทยในสมัยเก่าที่แตกต่างกันไป และทุกหลังเป็นเรือนไม้สักทองเชียวนะ หลังจากที่เช็คอินเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจให้พวกเรา บ้านพักของเราอยู่ริมสุดของรีสอร์ทมีชื่อว่า "เรือนสุพรรณิกา" กุญแจหมายเลข ๙


ตามพวกเราไปดูด้านในกันเลยดีกว่า เริ่มจากบันไดที่มีประตูเล็กๆ ปิดเปิดตามสไตล์บ้านสมัยก่อน โดยจะมีกลอนล็อกด้านในแบบลักษณะขอสับ ภายในห้องเป็นห้องเสาสูงโปร่งเชียวล่ะ





ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้ครบครันไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น และอินเทอร์เน็ตไร้สายพร้อมสรรพเหมาะสำหรับนักเดินทางที่มีไลฟ์สไตล์ติดเทคโนโลยีอย่าง จขบ. เสียจริงๆ




ด้านห้องน้ำก็สะอาดใช้ได้เลยล่ะ มีเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมสรรพและอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำครบครัน อีกทั้งนอกชานก็มีเก้าอี้ไม้นั่งกินลมชมวิวริมน้ำป่าสักด้วยล่ะ





ด้านการตกแต่งรีสอร์ทที่นี่เน้นความเรียบง่ายเน้นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงไม่แปลกนักที่เรือนไทยแต่ละหลังจะร่มรื่นเพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ อีกทั้งบริเวณกลางรีสอร์ทยังมีเรือนไทยที่เป็นเรือนสำหรับนั่งพักผ่อนแบบชิวๆ อีกด้วยล่ะ








และโซนด้านหน้าเรือนรับรองก็จะเป็นส่วนของห้องประชุมซึ่งสามารถจุคนได้ถึง ๗๐ คนเลยล่ะ นอกจากนี้ยังมีมุมริมน้ำที่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครดังทางช่องห้าด้วยล่ะ













หลังจากเดินเก็บภาพในโซนด้านหน้าก็เดินมาเจอกับคุณเปรี้ยวเจ้าหน้าที่การตลาดของที่นี่ เธอใจดีเปิดห้องพักห้องใหญ่ให้เราได้ถ่ายรูปด้วยล่ะ ตามมาดูเรือนหลังใหญ่กันบ้างดีกว่า





ลักษณะภายนอกเป็นบ้านทรงไทยยกสูง ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าเรือนหลังเล็ก มีห้องน้ำสองห้องสำหรับชั้นบนและชั้นล่าง มีชานไว้สำหรับนั่งพักผ่อนกว้างขวางเชียวล่ะ ตรงบันไดก็มีชุ้มสำหรับนั่งอีกด้วย




พอถ่ายรูปเสร็จ จขบ. ก็แยกกับคุณเปรี้ยวเข้าที่พักขอแอบงีบเอาแรงเสียหน่อย เพราะหลังจากทานข้าวเย็นแล้วว่าจะออกไปชมแสงสีในตัวเมืองเสียหน่อย .. ติ๊กต๊อก หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าอาหารเย็นตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้วจ้า






แต่กว่าจะลุกจากที่นอนอาบน้ำแต่งตัว อาหารมื้อเย็นก็กลายเป็นอาหารมื้อค่ำไปโดยปริยาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดโต๊ะให้พวกเราในห้องสัมมานาล่ะ มาดูอาหารค่ำของพวกเรากันดีกว่า








เมนูแรกเป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ ตามด้วยแกงส้มผักรวมกุ้ง และเมี่ยงปลาทับทิม ขอบอกว่าแม่ครัวที่นี่ทำอาหารอร่อยมาก ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ก็หวานพอดี แกงส้มก็เข้มข้นได้ที่ แต่เมี่ยงปลาทับทิมนี่สิ เมนูโปรดของ จขบ. เลยล่ะ พอทานเสร็จก็ตบท้ายด้วยแตงโมและแก้วมังกร

ตอนแรกก็คิดว่าไม่เยอะ พอทานไปทานมาสามอย่างแบบจานใหญ่ๆ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ทานกันกว่าจะเสร็จเกือบสองทุ่มกว่าแน่ะ หลังจากนั้นพวกเราก็ขับรถออกไปชมแสงสีแห่งเมืองกรุงเก่ากันล่ะ






ใครบอกว่าอยุธยากลางคืนไม่มีอะไรให้เที่ยว หลังจากที่ขับรถวนรอบเมืองจึงรู้ว่า คำว่าชมแสงสีแห่งเมืองกรุงเก่าเนี่ย คือขับรถวนดูรอบๆ เมืองไม่ใช่ลงไปดูเป็นจุดๆ เพราะมืดและยุงเยอะมากอ่ะ พวกเราลงไปถ่ายรูปได้สองที่ก็โบกมือลาล่ะ ไม่ไหวยุงตัวใหญ่มากก็เลยนั่งรถชมวิวดีกว่า

บางจุดก็เป็นร้านอาหาร บางจุดก็เป็นร้านเหล้าล่ะ ก็มีที่เที่ยวอยู่เหมือนกันนะ ตอนแรกคิดว่าจะเงียบๆ เสียอีกถนนหนทางก็ประดับประดาด้วยไฟตกสวยดีอ่ะ วนไปวนมาสักพักก็กลับเข้าที่พักดีกว่า

แผนที่อโยธาราวิลเลจ คลิ๊กที่นี่ ส่วนราคาห้องพัก คลิ๊กที่นี่ ค่ะ

เช้าวันที่สองของการเดินทางมาจังหวัดอยุธยา หกโมงเช้าวันใหม่เจ้าหน้าที่โรงแรมโทรมาปลุกแต่เช้าเลย "ได้เวลาไปตักบาตรแล้วค่ะ" พวกเราก็เดินงงๆ ง่วงๆ ไปตักบาตรยามเช้า โดยหน้ารีสอร์ทมีพระพายเรือมารับบาตรเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของรีสอร์ทอโยธาราวิลเลจเค้าล่ะ



พอตักบาตรกันเสร็จก็ว่าจะเข้าไปนอนต่อ เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่าตอนเจ็ดโมงจะมีช้างอาบน้ำที่เพนียดคล้องช้างนะคะ ขี่จักรยานไปดูก็ได้นะคะตอนนี้ยังทัน แม่เจ้า .. จำได้ว่าตอนเข้ามาไกลอยู่เหมือนกัน ขืนขี่จักรยานไปน่องโป่งแน่ๆ ไปรถยนต์กันดีกว่า





ระหว่างทางก็ได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านแถบนี้ แหมตื่นเช้ากันจังอ่ะ พวกเราขับรถมุ่งหน้าไปเพนียดคล้องช้าง ไหนฟ่ะช้างอาบน้ำ ถามคนแถวนั้นเค้าบอกให้ไปตรงด้านหลัง พวกเราก็วนรถไปหาปรากฏว่า มาทันน้องช้างอาบน้ำพอดีเลยล่ะ






โดยปกติเค้าจะอาบน้ำไม่เกินเจ็ดโมงเช้าล่ะ ควานช้างก็ให้ช้างย่อตัวขึ้นลงในน้ำอ่ะ แล้วควานก็ขัดถูตามตัวให้น้องช้าง แล้วก็บอกให้ก้มตัวลงในน้ำ เออแฮะช้างเค้ารู้เรื่องด้วยอ่ะ พออาบน้ำเสร็จควานช้างเห็นพวกเรากำลังถ่ายรูปกันอยู่ก็เลยพาน้องช้างมาให้ถ่ายกันใกล้ๆ แม่เจ้า.. ตัวใหญ่จังอ่ะ


ควานช้างเค้าให้น้องช้างนั่งลงแล้วให้เรานั่งบนขาช้างถ่ายรูปได้ด้วยนะ แต่มิกล้ากลัวน้องช้างหนัก จขบ ตัวเล็กๆ ซะที่ไหนอ่ะ ที่สำคัญไม่อยากเห็นช้างนั่งช้างอ่ะ อิอิ






หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็ให้ติ๊บน้องช้างไป ๑๐๐ บาท โชคดีจังที่คุณเพื่อนเอาเงินติดมาด้วย ช้างก็เอางวงมาเก็บเงิน แหม.. แสนรู้จังอ่ะ พอไปถ่ายรูปกับน้องช้างเสร็จพวกเราก็กลับที่พักถึงประมาณเกือบแปดโมงแล้วล่ะ



















ไหนๆ ก็ไม่ได้ขี่จักรยานไปดูช้างอาบน้ำขอขี่จักรยานในรีสอร์ทนี่ก็แล้วกัน แต่จะว่าไปไม่ไหวนะให้ขี่จักรยานไปดูน้องช้างอาบน้ำ ไกลไปนิดหนึ่งอ่ะ ประกอบกับน้องหมาสี่ขาอยู่ระหว่างทางบานเลยอ่ะ








เดินไปเดินมาเผลอแป๊บเดียวได้เวลาอาหารเช้าแล้วล่ะ เช้านี้มีอะไรมั้งนะมาดูกัน เริ่มจากกาแฟ น้ำเต้าหู ข้าวสวยพร้อมแกงจืดเต้าหู้ตำลึง ตบท้ายด้วยผลไม้

















ทานกันซะอิ่มเลยอ่ะ พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนเข้าไปนอนต่อกันซะงั้นอ่ะ ตื่นกันมาอีกที่เกือบเที่ยงชารต์แบตกันเต็มที่เพื่อที่จะตะลุยเที่ยวเมืองอยุธยากันต่อล่ะ มาทั้งที่เที่ยวให้คุ้มเลยทีเดียว..



Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com



Create Date : 15 ธันวาคม 2553
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 0:24:55 น. 6 comments
Counter : 12867 Pageviews.  
 
 
 
 
น่าเที่ยวมากคะ คนอ่างทองแท้ ๆ ยังไม่เคยไปเลย กลับไทยจะตามรอยคุณไปนะคะ
 
 

โดย: We Are FroM BeLGiUM วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:2:34:48 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ..

คราวที่แล้วแวะไปเที่ยวตลาดบัว..

คราวนี้แวะมานอนพักบ้านทรงไทยงามๆบ้าง..

ชอบอยุธยาก็ตรงบ้านเรือนไม้ทรงไทนนี่แหละค่ะ

ได้บรรยากาศมากๆนะค่ะ

 
 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:11:03:49 น.  

 
 
 
แวะมาเที่ยว ยุดยา ครับ
 
 

โดย: Kavanich96 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:14:19:27 น.  

 
 
 
ชอบบ้านทรงไทยมากเลยครับ
 
 

โดย: วิทูร IP: 58.97.103.90 วันที่: 15 มิถุนายน 2556 เวลา:22:42:11 น.  

 
 
 
ขอถามนะครับผมอยากได้แบบบ้านทรงไทยเขาจะให้มัยครับกำลังจะปลูกบ้านถูกใจมาก"เรือนสุพรรณิกา" กุญแจหมายเลข ๙
 
 

โดย: วิทูร IP: 58.97.103.90 วันที่: 15 มิถุนายน 2556 เวลา:22:49:16 น.  

 
 
 
To K.วิทูร

ต้องลองติดต่อเจ้าของเค้าดูนะคะ
 
 

โดย: patthanid วันที่: 15 มิถุนายน 2556 เวลา:23:10:10 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com