BKK - SUPHANBURI :: สามชุกตลาดร้อยปีเมืองสุพรรณ
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วได้มีโอกาสไปเที่ยวสุพรรณ สาเหตุที่ต้องไปก็สุพรรณครั้งนี้ก็เพราะว่าไปงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากกินเลี้ยงงานแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ก็วางแผนจะไปเที่ยวต่อ ตอนแรกคิดไว้ว่าจะไปวัดไผ่โรงวัว แต่ไปๆ มาๆ ปรากฏว่าเพื่อนดูรายการทีวีบวกกับคำชวนของเจ้าบ่าวบอกว่า ไปเที่ยวตลาดร้อยปีที่สามชุกสิ อะ ไม่รอช้าไปกันเลยดีกว่า จากอำเภอสองพี่น้องไปถึงอำเภอสามชุกระยะทางประมาณ 40 กิโล ก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสามชุก ตลาดร้อยปี
มองเข้าไปในซอยก็ไม่ค่อยมีคนมากสักเท่าไหร่ หรือว่าไม่ใช่น่าเทศกาลหรือเปล่าก็ไม่รู้ บอกตรงๆ เลยว่าไม่เคยรู้จักตลาดแห่งนี้มาก่อนเลย ก็เลยไม่มีข้อมูลอะไรในสมองสักอย่างเดียว อาศัยเดินเข้าไปเรื่อยๆ คงมีอะไรเองล่ะ
เริ่มจากต้นซอยก็มีร้านกาแฟร้านหนึ่งที่มีคนมารอซื้อกันแถวยาวเชียว เห็นเพื่อนบอกว่า ร้านนี้เค้าอร่อย
ก็เดินเข้าไปลองสักหน่อยสิ ก็สั่งเค้าไม่ถูก คนขายเค้าเลยบอกว่า จ้ำบะ หรือเปล่า ก็งงอะไรหว่า เอานี่แหละ รสชาติของจ้ำบะขอบอกว่า หวานสุดๆ ไม่หวานได้ไงง่ะ กาแฟเย็นใส่น้ำหวานแฮลบลูบอยง่ะ รสชาติแปลกๆ ดี ยังไงก็ต้องลองไปลองดูกันเองนะจ๊ะ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถึงตาเห็นก็ไม่เท่าลองชิม
เดินเข้ามาอีกหน่อยก็เจอร้านขายน้ำพริก แล้วก็ร้านขายขนมลักษณะคล้ายๆ ขนมเบื้องแต่ไม่มีครีม ใช้โรยน้ำตาลกับงาแทน (สอบถามน้องที่อยู่สุพรรณหลังจากกลับมาแล้วเค้าบอกว่าเป็นขนมอร่อยของที่นั่น)
เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านขายข้าวอบกุ้งห่อใบตอง ดูน่าทานเชียวล่ะ กะว่าขากลับจะมาแวะทาน แต่อดเพราะหมดเสียก่อนเค้าบอกว่า บ่ายสามโมงครึ่งก็หมดแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่ไปช้า รีบทานเสียก่อนเดินเข้าไปข้างในจะดีกว่า
จากนั้นพวกเราก็เดินต่อเข้าไปข้างในก็เห็นทางลงไปทางแม่น้ำก็เลยแวะไปเสียหน่อย ก็จะเจอแม่น้ำสายใหญ่อยู่ด้านข้างของตลาดร้อยปีแห่งนี้
และก็ตามธรรมเนียมของกลุ่มเราต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้เสียหน่อย ซึ่งไม่มีใครน้อยหน้าใครเรียงคิวกันถ่ายมุมเดียวกันตลอด
จากนั้นก็เลี้ยวไปทางซ้าย วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลย พวกเราก็งงๆ ตลาดมีแค่นี้เองเหรอ พอดีมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินมา แม่ค้าแถวนั้นเค้าแนะนำให้ไปที่ร้านถ่ายรูปโบราณ ก็เลยตามเค้าไป เห็นเค้าว่ากันว่าเป็นไฮไลท์ของตลาดแห่งนี้เลยทีเดียว
ภายในร้านก็จะมีรูปถ่ายโบราณเต็มไปหมดเลยล่ะ ถ้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเอ๊ะคุ้นๆ ดารามาถ่ายรูปที่นี่กันหลายคนเลย
และที่สำคัญเสน่ห์ของร้านนี้คงจะเป็นเจ้าของร้านคนนี้ที่ดูน่ารัก เชื้อเชิญพวกเราถ่ายรูปด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
ในเมื่อมากันถึงที่แล้วไม่ลองถ่ายรูปก็ดูจะแปลกสำหรับกลุ่มเราแล้วล่ะ ก็เลือกกันอยู่นานพี่กุ้งเลือกเป็นท่านขุน ดูแกถูกอกถูกใจเป็นพิเศษ พี่เจตก็ชอบเสื้อลายสก๊อตแต่งออกมาแล้วดูเหมือนชาวต่างชาติเลยล่ะ เกตก็เลือกชุดสมัยก่อนแต่ดูแล้วออกมายังกับสาวฮานอยซะงั้น และตูนที่ไม่ต้องเลือกชุดไหนเลยเพราะไม่มีชุดให้เปลี่ยน พวกเราพยายามยุให้ใส่กระโจมอกก็ไม่เอา ระหว่างรอถ่ายรูปก็เลยถ่ายกันก่อนซะหน่อย เป็นธรรมเนียมเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงร้านเค้า
รอกันสักพักก็ได้คิวถ่ายรูป ขอบอกว่าแต่ละคนก็สุดฤทธิ์ไม่แพ้กัน รูปที่ถ่ายอีกสามอาทิตย์เค้าถึงจะส่งมาให้ที่บ้าน ต้องคอยลุ้นกันว่าจะออกมาเป็นยังไง (ผ่านไปเกือบเดือนก็ได้รูปอย่างที่เห็นนี่ล่ะ)
จากนั้นพวกเราก็เดินต่อไปตามทางเรื่อยๆ ก็พบร้านขายของต่างๆ เหมือนย้อนกับไปเดินสมัยก่อนเลย
พอเดินกันไปได้สุดซอยก็ย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อเดินทางกลับ สำหรับตลาดแห่งนี้จริงๆ แล้วมีที่ที่น่าสนใจอีกหลายที (หลังจากที่ดูรายการราตรีสโมสรถึงได้รู้นั่นเอง) เพราะพวกเราไปกันแบบงง ๆ เลยได้ดูไม่เท่าไหร่ แต่มีอีกอย่างที่สะดุดใจเราก็คือ เป็ดร้านที่อยู่ตรงหน้าร้านขายกาแฟจ้ำบะนั่นแหละ น่าทานเชียวล่ะ
Create Date : 04 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 0:19:07 น. |
|
10 comments
|
Counter : 2300 Pageviews. |
|
|
|