สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 สิงหาคม 2553
 

BKK - AYUTTHAYA :: ลงเรือขึ้นรถไหว้พระเก้าวัดเสริมสิริมงคลจากนนท์สู่อยุธยา

นานๆ จะมีโอกาสได้มาทำบุญพร้อมกับครอบครัวในวันแม่ปีนี้จึงเป็นอีกปีที่พิเศษและประทับใจ นอกจากจะมีความสุขกับการพาครอบครัวเที่ยวแล้วยังได้ทำบุญเก้าวัดเสริมสิริมงคลด้วยล่ะ


พวกเรานั่งเรือจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดนนทบุรีโดยวัดแรกที่จะแวะไหว้พระเป็นวัดที่มีชื่อว่า "วัดเฉลิมพระเกียรติ" วัดคู่บ้านคู่เมืองมากกว่าร้อยปี เดิมที่เคยเป็นป้อมทับทิมป้อมเก่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งนิวาสสถานของพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยานพระอัยกาและเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระศรีสุลาไลย พระราชชนนี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้สร้างเป็นพระอารามหลวงขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยพระราชทานนามว่า "วัดเฉลิมพระเกียรติ"






จากนั้นก็ล่องเรือไปต่อวัดที่สอง "วัดปรมัยยิกาวาส" ตั้งอยู่บนเกาะเกร็ดเป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมคนมอญเรียกว่า "เกี่ยมุเกี๊ยะเติ้ง" สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๗ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระเจ้าบรมอัยยิกาเธอกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูรผู้ทรงอภิบาลพระองค์มาแต่ทรงพระเยาว์ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดปรมัยยิกาวาส"




นั่งล่องเรือกันมาเสียนานก็ได้เวลาเปลี่ยนจากเรือเป็นรถบัสที่ท่าเทียบเรือแกรนด์เพิรล์ เพื่อไปยังจุดหมายต่อไปนั่งคือไหว้พระ ณ จังหวัดอยุธยา


จุดหมายแรกนั่นคือ "วัดพนัญเชิง" ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลู ริมฝั่งแม่น้ำแควป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าสร้างในสมัยเมืองอโยธยาเป็นราชธานี พระเจ้าดวงเกรียงกฤษณราช (พระเจ้าสายน้ำผึ้ง) เป็นผู้สร้างวัดนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางสร้อยดอกหมาก สมเด็จพระเอกาทศรฐเป็นผู้สร้างพระเจ้าพะแนงเชิง คือองค์พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) สร้างก่อนกรุงศรีอยุธยา ๒๖ ปี เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระเจ้าสายน้ำผึ้งผู้เป็นพระอัยยกา นามเดิมหลวงพ่อโตเรียกว่า "พระเจ้าพะแนงเชิง" ต่อมาในรัชกาลที่ ๔ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "พระพุทธไตรรัตนายก" จึงได้นามมาตลอดจนปัจจุบันนี้








เนื่องจากวันนี้เป็นช่วงเทศกาลเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องปริมาณรถหนาแน่นมาก ดีนะที่ทัวร์ใช้รถตำรวจท่องเที่ยวนำไม่งั้นคงทำเวลาไหว้พระเก้าวัดไม่ทันแน่ๆ จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังวัดพระใหญ่ แต่เนื่องจากว่ารถเยอะมากไม่สามารถฝ่าพันเข้าไปได้ดังนั้นจึงต้องผ่านไปยังวัดธรรมิกราชแทน




วัดธรรมมิกราชเดิมชื่อวัดมุขราช สร้างโดยพระยามิกราชพระราชโอรสพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ก่อนกรุงศรีอยุธยามีพระเจดีย์องค์ใหญ่ สิงห์ล้อม ๕๒ รูปสถาปัตยกรรมแตกต่างกันสร้างก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๙ พระอุโบสถมีพระประธานเป็นปูนปั้นปิดทองสมัยรัตนโกสินทร์ เศียรพระพุทธรูปสำริดเดิมอยู่ในพระวิหารหลวงหรือวิหารทรงธรรม เป็นศิลปะแบบอู่ทองคล้ายกับพระพุทธไตรรัตนายกวัดพนัญเชิง


หากได้มีโอกาสมาไหว้พระที่จังหวัดอยุธยาจะเห็นว่าวัดหลวงส่วนใหญ่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่แทบทั้งสิ้น ว่ากันว่าการสร้างพระหรือวัดส่วนใหญ่ช่างจะใช้กุศโลบายอันแยบยล เพื่อความเคารพและศรัทธาในศาสนา จากนั้นก็ไปต่อยังวัดที่ห้านั่นคือวัดหน้าพระเมรุราชิการาม





"วัดหน้าพระเมรุราชิการาม" ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมืองตรงข้ามกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พุทธศักราช ๒๐๔๖ เดิมมีชื่อว่า "วัดพระเมรุราชิการาม" ที่ตั้งของวัดนี้เดิมคงเป็นสถานที่สำหรับสร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้นต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้น


ตามตำนานเล่าว่า พระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ทรงสร้างวัดนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๐๔๖ วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเมื่อครั้งทำศึกกับพระเจ้าบุเรงนองได้มีการทำสัญญาสงบศึกเมื่อ พ.ศ. ๒๑๐๖ ได้สร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นระหว่างวัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาวาส จากนั้นก็ไปต่อยังวัดที่หกมีชื่อว่า "วัดพระมงคลบพิตร"





พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระมงคลบพิตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๑๙๙๑ - ๒๑๔๕ เดิมนั้นพระมงคลบพิตรประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันออก แล้วสร้างมณฑปครอบในปี พ.ศ. ๒๒๓๖ ต่อมาในสมัยพระเจ้าเสืออสุนีบาตตกลงมาต้องยอดมณฑปพระมงคลบพิตรเกิดไฟไหม้เครื่องมณฑปทรุดพังลงมาจึงได้บูรณะใหม่เป็นมหาวิหาร ต่อมาโดนข้าศึกเผาก็มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙


บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดแห่งนี้มีตลาดด้วยล่ะ ไกด์แนะนำร้านโรตีอร่อยชื่อว่าบังโช็ป มาถึงที่แถมมีคนการันตีขนาดนี้แล้วมันต้องลองกันเสียหน่อย


เตี่ยเลยซื้อซะหกกิโลส่วนแม่ขาช้อปอยู่แล้ว เดินพุ่งเข้าไปซื้อปลากลดแห้งก่อนเลย เพราะอยุธยาแหล่งปลาเยอะราคาไม่แพง แม่บอกว่าจะเอาไปต้มโคล้งเสียหน่อย เรื่องกินอะไม่ต้องห่วงช้อปกันแหลก



ลืมเล่าให้ฟังว่ามีหมาตัวหนึ่งนอนนิ่งเชียว ข้างหน้ามีถังขอเศษสตางค์เพื่อเป็นอาหารหมา เออแฮะน่ารักดี เขียนคิ้วให้มันอีกต่างหากมันก็นอนนิ่งอยู่แบบนั้นนั่นล่ะ จากนั้นพวกเราก็ไปต่ยังวัดทีเจ็ด "วัดโลกยสุธา"






วัดนี้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยามีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ปูนปั้น และปรางค์ก่ออิฐฉาบปูนเป็นศิลปะในสมัยอยุธยาตอนกลางมีอายุมาถึงอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันเหลือเพียงพระพุทธรูปปางไสยาสน์และซากพระวิหารหกเหลี่ยมเท่านั้น

สำหรับวัดนี้ใช้เวลาเร็วมาก เพราะแค่ให้แวะไหว้พระแล้วก็ขึ้นรถกันเลย เล่นเอาเหนื่อยเชียวล่ะ เนื่องจากต้องทำเวลาเดี๋ยวไม่ได้เก้าวัด จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังวัดที่แปด "วัดท่าการ้อง" เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยอยุธยา สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. ๒๐๙๒ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามบันทึกพระราชพงศาวดาร วัดท่าการ้องมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยามากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ฝึกฝนศิลปะแม่ไม้มวยไทยของนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงนายขนมต้ม





และในปี ๒๓๐๙ วัดท่าการ้องได้เคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่าค่ายหนึ่งก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา จนมีคำกล่าวว่า "นกกาจากวัดการ้องบินไปเสียบอก ณ ยอดพระปรางค์วัดพระศรีมหาธาตุใจกลางกรุงศรีอยุธยา น้ำตาหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิงไหลนองพระเนตร อันเป็นลางบอกเหตุสิ้นแล้วแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา



ในปัจจุบันวัดท่าการ้องเป็นอีกวัดที่ตกแต่งวัดได้แปลกจนครั้งหนึ่งเคยได้ขึ้นออกทีวีว่าเป็นวัดห้องน้ำสะอาดที่สุดมาแล้ว จากนั้นก็ไปต่อยังวัดสุดท้ายของทริปไหว้พระเก้าวัดนั่นคือ "วัดกษัตราธิราชวรวิหาร"





วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีมีพระปรางค์เป็นประธานของวัด ในสมัยรัชกาลที่ ๑ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังและกรมขุนอิศรานุรักษ์ ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม วัดกษัตราเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดกษัตราธิราช" ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


สถานที่สำคัญภายในวัด คือ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง



ก็เป็นอันเสร็จสิ้นทริปลงเรือขึ้นรถไหว้พระเก้าวัดในวันแม่ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพาคนสูงอายุควรจะมาทัวร์เป็นที่สุด เพราะไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ ทำเอาแม่กับเตี่ยติดใจอยากไปเที่ยวแบบทัวร์อีก .. งานเข้าเลยเรา อิอิ



Create Date : 17 สิงหาคม 2553
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 23:41:27 น. 3 comments
Counter : 2999 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดียามเช้าค่ะ
ขอตามมาไหว้พระด้วยคนค่ะ
 
 

โดย: iamorange วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:6:42:04 น.  

 
 
 
ตามมาไหว้พระด้วยคนนะคะ
 
 

โดย: auau_py วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:9:58:34 น.  

 
 
 
เชิญชม //www.AYOTHAYA AMULET.COM
 
 

โดย: บาง วัดมกุฎ IP: 125.27.45.53 วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:19:52:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com