BKK - NAKHONPATHOM :: พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย อ.นครชัยศรี
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย (Thai Human Imagery Museum)
ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับบ้านที่ราชบุรี ขากลับได้มีโอกาสแวะพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยล่ะ และก่อนที่เราจะเข้าไปชมด้านในของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เรามารู้จักประวัติของที่นี่กันก่อนดีกว่า
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์กลุ่มหนึ่งนำโดย อาจารย์ดวงแก้ว พิทยากรศิลป์ ที่สนใจการสร้างหุ่นขี้ผึ้ง และศึกษาค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ สามารถสร้างหุ่นขี้ผึ้งยุคใหม่จากไฟเบอร์กลาสที่มีความคงทน ประณีต งดงาม เหมือนคนจริงที่สุด จนคณะผู้ร่วมงานเห็นสมควรที่จะสนับสนุนให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติและศิลปินไทย จึงเริ่มโครงการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยในปี พ.ศ. 2525 สำหรับเป็นสถานที่สร้างและจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส เพื่อการอนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีไทย อันจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชน
สมเด็จพระณาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้งไทยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2532 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสแห่งแรกของประเทศไทย .. ทราบประวัติสถานที่แห่งนี้มาพอสมควรล่ะ เราไปซื้อบัตรเข้าชมกันก่อนดีกว่า ที่นี่เปิดทุกวัน สำหรับผู้ใหญ่ค่าเข้าชม 50 บาท พระภิกษุ แม่ชี นักบวช นักศึกษาในเครื่องแบบ 20 บาท นักเรียนอนุบาล-ม.6 ในเครื่องแบบ,สามเณร และเด็กสูงไม่เกิน 130 ซม. 10 บาท ชาวต่างชาติค่าเข้าชม 200 บาท เมื่อได้ตั๋วแล้วเราเข้าไปในอาคารกันดีกว่า
อาคารพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยนี้เป็นอาคารสองชั้น โดยมีการจัดแสดงด้วยกันสองชั้นคือ ชั้นล่าง จัดแสดงหุ่นชุดต่างๆ เช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงค์จักรี, พระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, ชุดพระอริยสงฆ์, ชุดมุมหนึ่งของชีวิต เป็นต้น เราไปชมชั้นล่างกันก่อนดีกว่า จากหน้าประตูเดิมเข้าไปก็จะเจอคุณลุงคนนี้นั่งอยู่ ตอนแรกนึกว่าเป็นคนเสียอีก ที่ไหนได้เป็นหุ่นขี้ผึ้ง ทำซะเหมือนเชียว
จากนั้นก็จะเข้าสู่โซนแรกคือห้องจัดแสดงพระอริยสงฆ์ ซึ่งได้แก่ พระครูภาวนารังษี, พระธรรมญาณมุนี, พระโพธิญาณเถร, ครูบาชัยวงศาพัฒนา, หลวงจีนคณาณัติจีนพรต, พระมงคลเทพมุนี, พระราชสังวราภิมณฑ์, พระสุพรหมยานเถร, พระนิโรธรังสีคัมภีร์ปัญญาจารย์, หลวงพ่อเกษม, สมเด็จพระพุฒาจารย์, พระครูวิมลคุณากร, พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์, พระอาจารย์มั่น, ครูบาศรีวิชัย ปั้นได้เหมือนจริงมาก
ห้องแสดงต่อไปที่พวกเราจะเข้าไปชมนั้น ถือเป็นไฮไลด์ของที่นี่เลยนะ ห้องจัดแสดงพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์พระบรมราชจักรีวงค์ รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ล่ะ
ห้องจัดแสดงต่อไป เป็นห้องจัดแสดงพระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า แม่ฟ้าหลวงของปวงชนชาวไทยนั่นเอง ภายในห้องนี้ประกอบไปด้วยประราชประวัติและพระกรณียกิจต่างๆ และภาพงานพระราชพิธีสุดท้าย
มองท่านแล้วทำให้นึกถึงโครงการต่างๆ ที่ท่านเป็นผู้ริเริ่ม และผู้สานต่ออย่างสมเด็จพระพี่นาง บัดนี้ไม่มีท่านทั้งสองแล้ว แต่สิ่งที่ประชาชนคนไทยจดจำคือ คุณความดีของพระองค์ท่านทั้งสองที่มีต่อปวงชนชาวไทย
ห้องจัดแสดงต่อไป เป็นห้องหุ่นชุดครอบครัวไทย เป็นห้องแสดงสุดท้ายสำหรับห้องจัดแสดงชั้นล่าง ซึ่งเดินไปเดินมาจะมาออกที่ด้านหน้าทางเข้า พวกเราก็เดินขึ้นชั้นสองกันต่อ ซึ่งห้องจัดแสดงชั้นบนแรกสุดจะเป็นการจัดแสดงชุด 3 ครูไทยได้แก่ ครูจวงจันทร์ จันทร์คณา (บรมครูพรานบูรพ์) ครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูไพบูลย์ บุตรขัน
แต่ชอบประโยคของบรมครูพรานบูรพ์ประโยคนี้จัง "คนเห็นคน เป็นคน นั่นแหละคน คนเห็นคน ใช่คน ใช่คนไม่ กำเนิดคน ต้องเป็นคนทุกคนไป จนหรือมี ผู้ดีไพร่ ไม่พ้นคน" หรือ "Man sees man as man is indeed man. Man sees man not-man is no man. All men born are invariably men. Rich or poor. high or low, All are equally men."
เดินเข้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ ห้องแสดงหุ่นชุดต่อไปคือ ชุด 3 บุคคลสำคัญของโลก ซึ่งได้แก่ มหาตมา คานธี, อับราฮัม ลินคอล์น, เซอร์ วินสตัน เชอรชิล เป็นต้น แต่ว่ามีรูปให้ดูเฉพาะมหาตมา คานธีล่ะ เพราะรูปอื่นไม่ค่อยชัดเลย
คานธีเป็นนักการเมืองที่ได้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศจากการปกครองของอังกฤษทำให้โลกต้องจดจำคานธี ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "มหาตมา" แปลว่า ผู้มีจิตใจสูงส่ง เป็นบิดาแห่งประชาชนชาติอินเดีย อับราฮัม ลินคอล์น ผู้ปลดปล่อยทาสของสหรัฐอเมริกา "รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน จะต้องไม่สูญสลายไปจากโลกนี้" เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งทั้งสามท่านมีบทบาททางด้านการเมืองในแต่ละประเทศ โดยส่วนตัวแล้ว เราเองเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้รอบตัว โดยเฉพาะเรื่องการเมือง มาที่นี่ได้ประโยชน์เยอะเลยล่ะ
ห้องจัดแสดงชุดต่อไปเป็นชุดวัฒนธรรมประเพณีไทย เรื่องการละเล่นของไทย ได้แก่ การเล่นรีรีข้าวสาร การเล่นแมงมุม การเล่นจ้ำจี้ การเล่นขี่ม้าช้างชนกัน และการเล่นหัวล้านชนกัน
ห้องต่อไปที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากเด็กๆ ก็เห็นจะเป็นชุดวรรณคดีไทย เรื่อง พระอภัยมณีของสุนทรภู่นี่ล่ะ ห้องนี้เหมือนห้องรวมดาววรรณคดีสุนทรภู่เลยล่ะ
"Suthorn Phu" A World Poet and the Best Beloved Bard of Thailand. สุนทรภู่กวีเอกของโลก มีชื่อเสียงในด้านสำนวนกลอนเป็นที่เลืองลือจนได้รับการยกย่องว่าเป็น บรมครูกลอนแปด และได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นกวีที่มีจินตนาการกว้างไกล สร้างโครงเรื่องและเนื้อหาของนิทานได้น่าสนใจ และชวนติดตาม
สุนทรภู่ได้รับประกาศเกียรติคุณให้เป็นกวีของโลก จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อปี 2529 นับเป็นเกียรติประวัติของกวีไทยและความภูมิใจของชาวไทยสืบไป
ห้องจัดแสดงชุดสุดท้ายที่ดูเหมือนจะเป็นโซนไฮไลด์ของชั้นบนก็คงจะเป็นชุดเลิกทาสนี่ล่ะ เพราะบางโซนไม่อนุญาติให้บันทึกภาพล่ะ
"Slavery in Thailand" ทาสในประเทศไทยมีมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาฮินดู กฏหมายลักษณะทาษ ฉบับแรกตราขึ้นเมื่อปีฉลู 2178 สมัยพระเจ้าปราสาททองจนสิ้นสุดที่รัชกาลที่ 5 สมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งพระองค์ได้ทำการเลิกบ่อนเบี้ยควบคู่ไปกับการเลิกทาสแบบเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งห้องแสดงนี้ดูแล้วหดหู่จัง เพราะสะท้อนถึงความเป็นอยู่ในสมัยนั้นที่ดูจะลำบากซะเหลือเกิน
ตอนแรกในความรู้สึกเรา คิดว่าพิพิธภัณฑ์คงไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ แต่พอเข้าไปดูจริงๆ ในแต่ละห้องจัดแสดงมีความรู้ที่เป็นประโยชน์มีคุณค่าแก่เยาวชนอยู่มากมายเชียวล่ะ หากใครว่างๆ ได้มีโอกาสแวะเวียนไปยังนครชัยศรี ก็ลองหาโอกาสเข้าไปดูที่นี่กันบ้างนะ แล้วเดี๋ยวครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งอีกแห่งที่จังหวัดราชบุรีดูบ้าง แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไปนะคะ..
| Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551 |
| Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 1:21:23 น. |
|
8 comments
|
| Counter : 4636 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: orcahappy (orcahappy  ) วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:35:46 น. |
|
| โดย: jack.zx IP: 58.8.156.85 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:11:42:11 น. |
|
| โดย: เด็กดี IP: 119.63.86.21, 117.121.208.2 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:12:34:30 น. |
|
| โดย: ปีใหม่จร้า IP: 117.47.75.152 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:9:55:08 น. |
|
| โดย: พลอย IP: 192.168.10.243, 223.207.179.89 วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:17:50:36 น. |
|
| โดย: พลอยน่าน IP: 119.42.101.44 วันที่: 6 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:10:54 น. |
|
| โดย: บีบี IP: 118.172.165.31 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:02:58 น. |
|
| โดย: ออ IP: 203.172.138.185 วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:25:06 น. |
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
