สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


 
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 เมษายน 2556
 

PHETCHABUN :: หน้าร้อนนอนเขาค้อ ตอนที่ 7 แล้วก็ได้มาวัดพระธาตุผาแก้วหรือวัดผาซ่อนแก้ว

ตอนที่แล้วพวกเราไปดินเนอร์กันที่  บลูสกายรีสอร์ท เช้าวันใหม่ก็ได้เวลากลับบ้านกันแล้วค่ะ แต่ก่อนกลับพวกเรายังมีค้างอยู่อีกหนึ่งโปรแกรมนั่นก็คือ ไปไหว้พระวัดผาซ่อนแก้ว ตอนแรกตั้งใจจะไปวันที่สองแต่ปรากฏว่าเวลาไม่พอเลยต้องเลื่อนมาเที่ยวกันในวันที่สามซึ่งเป็นวันกลับแทนทางผ่านพอดี จากบลูสกายรีสอร์ทก็เดินทางมาไม่ไกลเพราะพวกเราใช้ทางลัดเพื่อขึ้นไปยังวัดผาซ่อนแก้วล่ะ







ก่อนหน้านี้ จขบ. เปิดเฟสบุ๊คใครสักคนเนี่ยแหละ เค้าโพสรูปวัดผาซ่อนแก้ว จขบ.นึกในใจว่าถ้ามีโอกาสมาเขาค้อจะต้องมาวัดนี้ให้ได้ เชื่อไหมว่าเพียงแค่อาทิตย์เดียว จขบ.ก็ได้มาเที่ยวเขาค้อแบบไม่คาดฝันซะงั้นอ่ะ ที่สำคัญในโปรแกรมมีวัดนี้ด้วยอ่ะ ปลกใจจัง!! เอาล่ะพอมาถึงวัดก็หาที่จอดรถไม่ยากค่ะจอดต่อๆ เค้าเนี่ยแหละเป็นทิวแถวเลย วินาทีแรกที่เห็นสิ่งปลูกสร้างวัดนี้ต้องบอกว่า "อลังการงานสร้าง" จริงๆ

ตามประวัติวัดผาซ่อนแก้ว ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547 ในนามพุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว ได้รับการอนุมัติจัดตั้งให้เป็นวัดชื่อว่า "วัดพระธาตุผาแก้ว" เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2553 วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เข้าค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยคุณภาวิณีและคุณอุไร โซติกุลได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน 25 ไร่ เพื่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์และพุทธศาสนิกนทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ร่วมถายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มเป็นจำนวนทั้งสิ้น 91 ไร่

โดยตามประวัติเล่าว่า ผาซ่อนแก้วแห่งนี้มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา มีชาว้านางแดงหลายคนเห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าแล้วหายลับเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างก็ถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์จึงเรียกกันต่อมาว่า "ผาซ่อนแก้ว" และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาจึงเรียกว่า "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดงและผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป









จากทางเข้าวัดพวกเราก็เดินมาตามทางผ่านซุ้มประตูที่ต้องบอกว่าอลังการมาก ขนาดพื้นยังสวยอ่ะ เอกลักษณ์ความงดงามของที่นี่ก็อยู่ตรงการปะติดะต่อวัสดุต่างๆ ลงบนฝานังไม่ว่าจะเป็นเครื่องลายคราม ลูปัด หินสี ฯลฯ ทุกอย่างปะติดะต่อกันอย่างลงตัวเลยทีเดียว เอาล่ะไหนๆ ก็มาแล้วอย่ามัวเพลินเดินชมด้านนอกอย่างเดียวค่ะ เราเข้าไปไหว้พระด้านในกันดีกว่าค๊า





ด้านในก็เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุซึ่งได้ประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชกลมหาสังฆปริณายก เพื่อให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนถวายการสักการะบูชา ฝาผนังก็เป็นภาพเขียนสวยงามเลยทีเดียว จขบ.ไหว้พระเสร็จก็มาทำบุญกันต่อที่นีเค้ารับบริจาคเงินเพื่อมทบทุนซื้อเพชรติดยอดฏาระอุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ (ที่เห็นด้านนอกกำลังก่อสร้างอยู่)







พอหยอดตู้แล้วก็จะได้รับเพชรมาหนึ่งกล่องจากนั้นก็ไปไหว้พระแล้วนำเพชรที่ได้ไปวางไปบนพานค่ะ จขบ.เชื่อว่าหากที่นี่สร้างเสร็จเรียบร้อยคงอลังการกว่านี้อีกล่ะ แต่โดยรวมแล้วที่นี่เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรมมากๆ เลยค่ะ เพราะดูสงบร่มรื่นสวยงามสบายใดีอ่ะ เอาล่ะเดินไปดูชั้นบนกันเลยค่ะ













พอเดินขึ้นมาชั้นสองก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของที่นี่ชัดเจนขึ้น เพราะสามารถเดินวนรอบแล้วชมวิว 360 องศาได้ด้วย สวยงามมากวิวดีมากเลยอ่ะ แถมลมงี้พัดเย็นเชียวล่ะ พอขึ้นมาข้างบนเนี่ยเริ่มมองภาพที่ดิน 90 กว่าไร่แห่งนี้ชัดเจนขึ้น เป็นพืนที่ปฏิบัติธรรมที่มีบริเวณกว้างขวางและงดงามมา ดูจากด้านบนลงมาจะเห็นถึงความร่มรื่นดูผ่อนคลายดีจัง













หลังจากชมความงามของวิวทิวทัศน์ด้านบนกันร่วมชั่วโมงกว่า ก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้านกันแล้วล่ะ จากวัดผาซ่อนแก้วพวกเราขับรถเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ ใช้เวลานานเหมือนกันนะเนี่ยหลับไปสองตื่น ก็มาถึงร้านอร่อยที่เค้าแนะนำว่า "ขาหมูอร่อย" ร้านนี้มีชื่อว่า "เปียง" อยู่ตรงวงเวียนหอนาฬิกาค่ะ หาไม่ยากหลงก็จอดถาม เพราะ จขบ. หลงและงงกันมาแล้วค๊า อิอิ







พอหาเจอร้านก็หาโต๊ะแล้วก็สั่งกันเลยค๊า ดูจากป้ายเค้าเน้นต้มเลือดหมูและข้าวขาหมูมาแล้วก็ต้องลอง ไม่ชิมไม่รู้สั่งกันมาครบเลยค่ะ โดยรวม จขบ.ว่าต้มเลือดหมูเบสิคนะ เครื่องในสดดีค่ะ ส่วนข้าวขาหมูเนี่ยให้เยอะมาก ความอร่อยมันอยู่ตรงใส้เนี่ยแหละ พอท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินทางกลับค๊า หนังท้องตึงหนังตาหย่อนหลับกันสนิทเลยเรา จนมาตื่นอีกทีก็ร้านกำนันจุลเนี่ยแหละ มาเพชรบูรณ์ทั้งทีต้องมีปลาส้มไปฝาก เพราะกำนันจุลเนี่ยขึ้นชื่อมากเหอะ แล้วพวกเราก็เดินทางถึงกรุงเทพมหานครกันอย่างสวัสดิภาพ ..

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับพี่เต้ยที่ทำได้ไปเที่ยวทริปนี้ ขอบคุณบลูสกายรีสอร์ทที่พา จขบ.ไปรู้จักกับเขาค้อหน้าร้อนก็นอนได้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปอีกครั้งที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีมิตรภาพเพิ่มขึ้นค๊า .. เอาล่ะจบทริปแล้นนน .. ตอนหน้าจะมาต่อกับรีวิวดองเค็มข้ามฤดูพิกกี้แก๊งค์ ณ อ่างขาง จากร้อนๆ ขึ้นไปหนาวกันบ้างค๊า




Create Date : 25 เมษายน 2556
Last Update : 11 ธันวาคม 2556 0:20:45 น. 2 comments
Counter : 3905 Pageviews.  
 
 
 
 
มาตามไปเที่ยวอีกแล้วค่ะ
ถ่ายจากมุมสูงนี้ ถ้ารอบๆเป็นพื้นที่สีเขียวไปหมดทั้งภูเขา
คงสวยมากๆเลยนะคะ

บรรยากาศดี แต่มองดูรอบๆแล้วเหมือนจะแล้งจังค่ะ

^^

 
 

โดย: lovereason วันที่: 25 เมษายน 2556 เวลา:20:29:17 น.  

 
 
 
 
 

โดย: Kavanich96 วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:6:21:10 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com