Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
8 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Saramat Malaysia @ Genting Highland Part 4

14-15 / 10 / 2008

ขึ้นรถที่ KL Sentral เวลา 15.30 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็ไปถึง Genting โชคไม่ดีที่ช่วงที่เราไป กระเช้าหยุดให้บริการ 2 อาทิตย์ ไม่รู้ทำไมดวงเป็นแบบนี้ไปฮ่องกงก็อด ไปสิงคโปร์ก็หยุดซ่อมบำรุง มาเกนติ้งก็หยุดให้บริการอีก สงสัยต้องกลับไปนั่งที่ดรีมเวิล์ด



เราพักกันที่โรงแรม Theam Park โดยจองกับทางเวบของ Genting โดยตรง ในราคาคืนละ 24.80 $ ซึ่งขอแนะนำว่าใครที่จะไปเที่ยวเกนติ้งจองโรงแรมโดยตรงกับเวบเลยจะถูกกว่าซื้อจาก agent เมืองไทยค่ะ ถูกกว่ากันแบบฟ้ากะเหวเลยด้วยล่ะ



ได้ key card มาแล้วค่ะ



Theam Park เป็นโรงแรมที่มีจำนวนห้องน้อยที่สุดบน Genting แต่ว่าได้ปรับปรุงใหม่ และห้องกว้างกว่า First World จึงทำให้ราคาสูงกว่า First World เราไม่อยากรอเช็คอินนานๆ จึงเลือก Theam Park เพราะ First World ขึ้นชื่อเรื่องเช็คอินนานหลายชั่วโมง



ห้องกว้างกำลังพอดีค่ะ ห้องสะอาดใช้ได้เลยค่ะ แต่ว่าไม่มีแอร์นะคะ มีพัดลม แต่โรงแรมทั้งหมดที่เกนติ้งล้วนไม่มีแอร์ทั้งนั้น



ห้องน้ำก็กว้างใช้ได้ค่ะ มีเครื่องทำน้ำอุ่นถ้าไม่มีต้องหนาวตายแน่ๆ



ว้าวววววว เราโชคดีค่ะได้วิวห้องสวย มองลงไปเห็นเครื่องเล่น outdoor แบบเต็มๆ





มองเห็นโรงแรม Firstworld ด้วยค่ะ สีสันสดใส เป็นโรงแรมที่ทำสถิติโลกด้วยจำนวนห้องมีมากที่สุดถึง 6300 ห้อง



ว๊ายๆ ฝนตกหนัก เมฆหมอกครึ้มไปหมดเกือบจะมองไม่เห็นอะไรแล้ว



งั้นก็นั่งๆนอนๆ รอฝนหยุด คนบางคนมัวแต่งอน เพิ่งจะมารู้สึกหิวนั่งกินหมี่ผัดที่หอบหิ้วมาจากกัวลาลัมเปอร์ เหอๆ หัวล้านใจน้อย

นั่งรอสักพักฝนก็เบาลง จึงออกไปเดินเล่นข้างนอก





เดินอยู่ได้ไม่นาน อากาศชื้นแฉะฝนก็ยังตกอยู่ปรอยๆ ทำให้ไม่นึกสนุกที่จะไปเดินดูสวนสนุก Outdoor



เดินผ่านศาลเจ้า แวะไหว้ก่อนดีกว่า



เราตัดสินใจเดินเข้าไปในตึกเพราะทนอากาศเฉอะแฉะไม่ไหว



555 เท่ห์ซะ



Lobby ของ Resort Hotel modern มั่กๆ เลย ถ้ารู้ข้อมูลมาก่อนว่าสวยแบบนี้เราเลือกพักที่นี่แน่นอน





เดินผ่าน Genting Skyway แหะๆ อยากขึ้นอะ เสียดายไม่เปิดให้บริการ



เราเดินผ่าน lobby ของ Highland Hotel และ Genting Hotel ก็แวะดูแวะถ่ายรูปกันมาตลอด







เจออะไรสวยๆ ก็หยุดแวะถ่ายรูป จนพี่ต้นบ่นว่ากลับไปเอารูปฉีกกินแทนข้าวได้เลย



เดินไปเรื่อยๆสักพักก็มาถึง สวนสนุก Indoor



เกนติ้งกว้างเหมือนกันนะ เดินจนเหนื่อยชักจะเริ่มหิวแล้วสิ พี่ต้นทำท่าเหมือนอยากจะกินข้าวแกง ว่าไงว่าตามกัน



ไอหยา....ซี้เลี้ยวอ้า คิดเงินอั๊วตั้ง 47 RM ตั้งแต่กินมามื้อนี้เป็นข้าวแกงที่แพงที่สุดเลย ข้าว 2 จาน น้ำมะพร้าว 1 ลูก เกือบ 500 บาท จะบ้าตาย แพงมากๆ จำไว้เลยใครที่ไปเกนติ้งอย่าไปกินร้านนี้ เลือกกินร้านอื่นที่หรูๆ มีราคาบอกแน่นอนดีกว่า

ช่างมัน แต่แอบเสียดายเงินอะ แต่ว่าไปแล้วก็อร่อยนะ แงๆ เทพีเสรีภาพไม่ช่วยเราเลย ปล่อยให้กินข้าวแพงโพดดดดดด



สวนสนุกเค้าก็สวยดีนะ ดูระยิบระยับ สีสันสดใส







เวณิชค่ะเวณิช น้อยแบบนี้ขอแค่ดูก็แล้วกันค่ะ ไม่นั่งจะดีกว่า



ให้เวลากับที่นี่มากเป็นพิเศษ เรา 2 คนเดินไปแทบทุกชั้น สำรวจว่ามีอะไรบ้าง



ร้านนี้หน้าร้านเก๋ดีไหมคะ



อยากเข้า Snow world แต่คุณสามีแย้งว่า แค่นี้ยังหนาวไม่พอหรือไง



มีของให้ช้อปเยอะเหมือนกันค่ะ



มีเกมให้เล่น





ทางเข้าคาสิโนค่ะ แต่เรายังเข้าไม่ได้พี่ต้นไม่ใด้ใส่กางเกงขายาว แล้วก็ลากแตะกันทั้งคู่เลย



ไปดูเคาท์เตอร์เช็คอินโรงแรม First world ดีกว่า เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ว่ามีเป็นร้อยๆ เคาท์เตอร์



ไฟสวยๆ บนต้นไม้หน้า Lobby โรงแรม First world



กลับไปที่ห้อง นั่งพักและโทรศัพท์กลับบ้าน ส่วนพี่ต้นเปลี่ยนกางเกงเป็นขายาวเพื่อจะไปคาสิโน เราไปคาสิโนแต่เล่นไม่เป็นด้วยกันทั้งคู่ อยากลองเล่น สลอตแมชชีน กับรูเร็ต ก็เล่นไม่ค่อยจะเป็น เดินไปเดินมายืนดูโต๊ะนั้นโต๊ะนี้เล่น แต่ว่าเงินริงกิตเราเหลือไม่มาก จึงไม่อยากแลกเพิ่ม หัวหูเหม็นบุหรี่ไปหมดจึงชวนกันกลับไปนอนดีกว่า ไม่รู้ว่าฝนตกหรือหมอกกลั่นตัวเป็นน้ำตกลงมา ทำให้อากาศหนาวเย็นแทบไม่อยากอาบน้ำเลยค่ะ หนาวมากๆ เลย

ตื่นเช้ามาหมอกเต็มท้องฟ้าเลยค่ะ อากาศหนาวเย็นทั้งปี และเป็นเมืองในหมอกสมคำร่ำลือจริงๆ







ลงไปทานอาหารเช้าด้วยกันนะคะ



อาหารเช้าเรียบๆ ง่ายๆ มีให้เลือกไม่กี่อย่าง กินอาหารเสร็จตั้งใจจะไปเดินเล่นสูดอากาศสดชื่น แล้วจะไปเดินเล่นที่สวนสนุก Outdoor แต่สู้อากาศเย็นไม่ไหว ลมแรงหนาวมากจึงขึ้นไปอยู่บนห้องรอเวลาเช็คอินแล้วไปขึ้นรถ 10 โมงครึ่งค่ะ

ระหว่างทางนั่งชมวิวทิวทัศน์



ทางคดเคี้ยว และชันมากๆ คนขับขับเก่ง แต่เบรคเหม็นไหม้ เหมือนผ้าเบรคจะหมด เสียงดังเชียว แต่เราก็นั่งหลับมาตลอดทางจนถึง KL Sentral



พอลงรถก็วิ่งไปขึ้นรถ Skybus เพื่อมุ่งหน้าสู่ LCCT ไปถึงก่อนเวลาตั้ง 3 ชั่วโมง กินข้าวที่ศูนย์อาหารเปิดใหม่ พอใกล้เวลาก็เดินไปเช็คอิน

แต่พระเจ้าช่วยกล้วยทอด โดนยกเลิกเที่ยวบิน เครียดค่ะเครียด ดีนะที่เค้าจัดการให้เราไปเที่ยวบินถัดไป แต่เราต้องนั่งรอประมาณ 5 ชั่วโมง โอยยยจะบ้าตาย แล้วทำไมไม่โทรบอกกันตั้งแต่แรก มาอ้างว่าติดต่อไม่ได้ได้ยังไง ทั้งที่เรา Roming ไปแย่มากๆ

งั้นก็เดินเล่นฆ่าเวลาไปก่อนก็แล้วกัน ดีที่เอา Laptop ไปได้นั่งเล่น Internet ไปพลางๆ



พอใกล้เวลาเช็คอิน เรารีบไปรอที่เคาท์เตอร์เลย เช็คอินคนแรกเลยคราวนี้ ก็แหงล่ะ ฉันรอมาตั้ง 5 ชั่วโมงแล้วนี่ยะ



แล้วก็เข้ามานั่งรอที่ Gate



โอยยย....จาก 15.30 เลื่อนเวลามาเป็น 20.20 ใครไม่หิวก็บ้าแล้วล่ะ งั้นเราต้องหาอะไรกินกันก่อนแล้วล่ะ เงินก็ไม่เหลือแค่ 2 ริงกิตเอง จะทำไงดี เดินเข้าไปถามว่าเค้ารับบัตรเครดิตไหม พอบอกว่ารับเราเลยรีบเข้าไปนั่งกินที่ร้านนี้



นั่งกินกันไปคุยกันไปอีท่าไหนก็ไม่รู้ คุยไปคุยมาทะเลาะกันซะงั้น เฮ้อ...ลิ้นกับฟันจริงๆ แต่ทะเลาะกันแรงเหมือนกันนะ แต่ดีที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองไงๆ ต้องสามัคคีกันไว้ก่อน

แต่เรายังไม่กลับไปสุวรรณภูมินะ เราจะแวะไปเที่ยวภูเก็ตอีก 4 วัน 3 คืน เอิ้กๆ เที่ยวกันให้จนไปข้างนึง ชีวิตเรานี่ถ้าตายไปคงไม่เสียดายเที่ยวมากจริงๆ แต่เสมือนคิดเป็นลาง เครื่องบินตกหลุมอากาศบ่อยมาก น่ากลัวสุดๆเลย อากาศแปรปวน สภาพอากาศแย่มากฝนตกตลอดเส้นทางบิน ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมาครั้งนี้กลัวสุดๆ เลย ในใจคิดถึงแม่กับอั่งเปา ถ้าเราเป็นอะไรไปเค้า 2 คนจะทำยังไง กลัวมากๆ นั่งกุมมือพี่ต้นไปตลอดทาง รู้สึกรักและอบอุ่นที่มีพี่เค้าอยู่ข้างๆ ใช่นะถึงเราจะทะเลาะกันขนาดไหน แต่ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ขอแค่เรามีเราก็ทำให้อุ่นใจและสุขใจ จากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้คิดว่า จริงแล้วเราก็รักเค้านะ ยังไงๆ เราก็จะไม่ยอมเลิกกัน การไปเที่ยวครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่าเรารักพี่เค้ามากขึ้น มากขึ้นทุกวัน

และรูปนี้เป็นที่มาที่ทำให้เราเอามาตั้งชื่อ หัวข้อ blog



สรุปค่าใช้จ่ายในการไปมาเลเซียครั้งนี้ สรุปแบบคร่าวๆละกันนะคะ

ค่าตั๋วเครื่องบิน ขอประมาณ เพราะว่าเราไปแวะภูเก็ตด้วย จึงขอแยกภูเก็ตไว้ไปอีก trip นึง ไป-กลับ คนละ 3000 * 2 = 6000 บาท

ค่าที่พัก 4 คืน ( 98+78+88 ริงกิต + 24.80 $ ) ประมาณ 3500 บาท

แลกเงินริงกิต และใช้จนหมดเกลี้ยง ประมาณ 7000 บาท

รูดบัตรเครดิต ซื้อของบวกอาหารอีก 1 มื้อ ประมาณ 2000 บาท (ไม่จำเป็นอย่ารูด มาเลเซียเป็นเขตพื้นที่เสี่ยง)

ค่ารถทัวร์และ Taxi ไป-กลับ สุวรรณภูมิ ประมาณ 2000 บาท

ทริปนี้ประมาณค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 20,500 บาท เฉลี่ยคนละ 10,250 บาทค่ะ




Create Date : 08 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 25 ตุลาคม 2552 2:07:05 น. 2 comments
Counter : 1372 Pageviews.

 
เห็นแล้วอยากไปมั่งค่ะ ทำไมรอบนี้งอนกันบ่อยจังค่ะ เจ๊


โดย: เหงาจับใจ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:09:47 น.  

 
เครื่องเล่นดูน่าหวาดเสียวมากๆๆ


โดย: j a r n i k วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:54:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.