Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Bali ... Sea Sun Fun ... 2 nd

15 / 10 / 2009

ก่อนอื่นขอแปะ link วันแรกก่อนนะคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=patblog&month=10-2009&date=26&group=6&gblog=16

วันนี้เป็นวันที่ 2 บนเกาะบาหลี ในการมาเที่ยวในครั้งนี้ขอตื่นแบบสบายๆ ให้รถมารับ 9 โมงเป็นอย่างต่ำ เพราะจะได้มีเวลาชื่นชมความงามของที่พักและมีเวลาละเลียดอาหารเช้า

ตื่นมาแล้วก็ขอเก็บบรรยากาศภายในห้องพักก่อนเลย



อากาศที่ระเบียงตอน 8 โมงเช้ายังสดชื่น ซึ่งถ้าอยู่เมืองไทยก็ยัง 7 โมงเช้าอยู่เลย



ทานอาหารเช้าที่นี่ค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์นะคะ แต่ไม่หลากหลาย





คนอื่นๆกินอะไรไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ ถ่ายเฉพาะที่ตัวเองกินเท่านั้น





อิ่มแล้วเดินผ่านร้านขายของที่ระลึกของทางรีสอร์ทเพื่อไปหาวิจาญ่าที่รอเราอยู่ ลืมบอกไปเลยว่าถ้ามาบาหลี ซื้อ sim บาหลีใช้ก็สะดวกดีนะ แหม่มแนะนำให้เราซื้อ simpati โทรกลับไทยแค่นาทีละบาทเอง ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่อินโดนีเซียเราก็ใช้ sim นี้โทรกลับบ้านและก็โทรติดต่อกับวิจาญ่า

วันนี้ตามโปรแกรมที่เรากำหนดใว้ วิจาญ่าต้องพาเราไปวัดถ้าช้างเป็นลำดับแรก

Goa Gajah Temple



ซื้อตั๋วก่อนค่ะ คนละ 6000



ถ้าใส่กางเกงขาสั้น หรือแต่งตัวไม่สุภาพ ก็ต้องมาเช่าผ้าใส่ตรงนี้ค่ะ



เดินเข้าไปข้างใน มองลงไปข้างล่างก็แบบนี้เลยค่ะ



มีลานหินตะปุ่มตะป่ำด้วยค่ะ สวย และแปลกดี วิจาญ่าบอกเป็นซากปรักหักพังที่ตกลงมากองไว้



อ้าว...โดนปาปารัสซี่แอบถ่ายซะแร้น





มีสระน้ำด้วยแต่ทำไมน้ำไม่ค่อยสะอาดเลย



หลอกม่อนว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ม่อนรีบจ้วงน้ำใหญ่เลย อิอิ แต่ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงๆสงสัยงานนี้ม่อนได้พบเนื้อคู่แน่ๆ



และนี่แหละคือที่มาของวัดถ้้ำช้าง เพราะข้างในมีพระพิฆเณศ และมีศิวลึงค์



ขอถ่ายรูปคู่หน่อยนะคะ คู่เราเดี๋ยวรักกัน เดี๋ยวกัดกัน



แล้วถ่ายหมู่ 5 คนแบบนี้ แน่นอนคนถ่ายให้คือวิจาญ่า 555 จ้างมาคุ้มมากเลยฮะ ทั้งขับรถ ทั้งเป็นไกด์ และถ่ายรูปเป็นครั้งคราวเพราะบางทีก็พึ่งขาตั้งกล้อง



ตามเข้าไปดูในถ้้ำเถอะค่ะ



ข้างในไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เหม็นอับด้วยอยู่นานๆแล้วหายใจไม่ค่อยจะออก



ใกล้ๆกันนี้มีสวน มีน้ำตกค่ะ ไปชมกันสักหน่อยนึง











ขึ้นต้นด้วยภาพนี้ก็จากวัดถ้ำช้างไปด้วยภาพนี้ค่ะ



ขึ้นรถแล้วไปต่อกันที่ Tirta empul temple วิหารศักดิ์สิทธิ์สร้างในศตวรรษที่ 13 ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านมาอาบน้ำกันมากมาย โดยเฉพาะวันที่เราไปเป็นวันสำคัญทางศาสนาของเค้าด้วย คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษจากปกติก็มากอยู่แล้ว

ก่อนเข้าไปต้องซื้อตั๋วด้วย คนละ 6000



เค้ามาทำบุญกัน เราเลยขอถ่ายรูปด้วย ดูสิคะว่ากลมกลืนไหม



ผู้หญิงที่นี่เอาของทูนหัว จากที่สังเกตไม่ค่อยเห็นผู้ชายทำ



เดินมากันเป็นแถวเป็นขบวน คนทำบุญกันเยอะมาก



พิธีกรรมทางศาสนาของชาวบาหลีที่นับถือศาสนาอินดู สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ดังนั้นเค้าจึงปลูกฝังความเชื่อ ความศรัทธากันมาตั้งแต่เด็กและสืบทอดกันมาจวบจนทุกวันนี้





กระทงดอกไม้เซ่นไหว้เทพเจ้า



เดินเข้าไปข้างในกันนะคะ



ประตูแต่ละวัดจะคล้ายๆกันหมด





มีสระปลาขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้า ปลาเยอะมากๆ มีอาหารปลาขายด้วย ม่อนไปซื้อมาหว่านปลาแย่งกันตอดใหญ่เลย



เดินเข้ามาอีกนิดก็มาตลึง ตึง ตึง กับการต่อแถวเข้าคิวกันอาบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์



ชาวบาหลีเชื่อว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยชำระล้างและเป็นศิริมงคลกับตนที่ได้มาอาบ แต่น้ำไม่สะอาดเลยค่ะ ยิ่งคนเยอะแบบนี้ยิ่งขุ่นมาก เต็มไปด้วยเศษดอกไม้ เราก้มหน้ามองเห็นน้ำเป็นมันลอยขึ้นแผ่นฝ้าเลย



แต่เรากับม่อนก็แอบไปวักและอธิษฐานขอให้ตัวเองมีความสุข



พอจะเดินเข้าไปวิหารชั้นในที่เค้าใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อนๆ ก็โดนเรียกให้ไปจ่ายเงินนุ่งโสร่ง ไป 5 คน มีเราคนเดียวเท่านั้นทีแต่งตัวเรียบร้อยสุดไม่ต้องเช่าโสร่งเลย ใครที่จะไปเที่ยวบาหลีไม่จำเป็นต้องนุ่งโสร่งนะคะ นุ่งกระโปรงยาวๆ ไว้ก็พอ



นี่ไง โสร่งเช่าใส่แล้วสวยแบบนี้



ขำอาเฮียนุ่งโสร่ง ตอนแรกจะไม่ยอมเข้าเพราะไม่อยากใส่ ไหนจะสะพายกระเป๋าตัวเอง แล้วยังต้องแบกกระเป๋าเมียอีก น่าสงสารจริงๆ



นี่ต้องแบบนี้ถึงจะสวย ชาวบาหลีเค้าแต่งตัวกันเต็มยศเวลาที่มาทำบุญ



แต่คนนี้ไม่ใช่บาหลีนะคร้า คนนี้ไทย+จีนค่ะ แต่ไหงใครๆมาทักว่าเป็น สิงคโปร์บ้าง มาเลย์บ้าง เกาหลีบ้าง สรุปแล้วไม่รู้ว่าเหมือนชาติไหน ไงๆ ก็คนเอเซียนี่แหละจ้า เตี้ย ล่ำซะขนาดนี้



พอเข้ามาวิหารชั้นในแล้วก็จะมาพบการกราบไหว้แบบนี้



มีบ่อน้ำแร่อยู่ด้วยค่ะ นี่ละมังที่เป็นแร่ธาตุและเป็นที่มาของคุณประโยชน์ของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลออกไปผสมกับน้ำข้างนอกให้คนต่อแถวอาบ



เด็กๆที่นี่ก็แต่งตัวเต็มยศตามพ่อแม่มาทำบุญ



บางคนมีข้าวสารแปะหน้าผากไว้ด้วย ประมาณ 2-3 เม็ด



อากาศร้อนมากๆ เดินได้ไม่นานก็ออกมาด้านนอก มาเจอกับรูปปั้น



ระหว่างรอเพื่อนก็ถ่ายรูปเล่นกันไป



กลุ้มใจคุณสามี ทริปนี้เลยกลายเป็นตัวโจ๊กให้เพื่อนๆขำไป เพราะถ่ายรูปทีไร ทุกคนก็จะบอกให้ He ทำท่าและทำตาแบบบารองที่ได้ดูไปตั้งแต่คืนแรก
ขอทุกครั้งพี่ท่านก็จัดให้ซะทุกครั้ง



บริเวณที่จอดรถมีร้านขายสินค้ามากมาย คนขายบางคนพูดไทยได้ด้วย แต่ตื้อสะบัดเลย จะให้ซื้อของบอกว่าไม่เอาก็ลดราคาให้ ลดมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ และแต่ละร้านก็จะมีกระทงดอกไม้แบบนี้วางไว้กับพื่้น ตอนเช้าดอกไม้ก็สด พอสายบ่ายดอกไม้ก็เหี่ยวหมดแล้ว เลยดูเลอะเทอะมากกว่าจะดูสวยงาม



ถ้าไม่ซื้ออะไรก็เตรียมตัวขึ้นรถได้ วิจาญ่ารออยู่แล้วค่ะ วันนี้ขอแนะนำชายวัยกลางคน อายุ 57 ปี มีนามว่า วิจาญ่า มีลูกมีภรรยาแล้ว เป็นชายใจดี ใจเย็น และสุภาพมากๆ พูดภาษาอังกฤษดี ซึ่งเป็นคนขับรถเช่า เค้าจะอยู่และมารับเราเที่ยวทั้ง 4 วัน



ออกจาก Tampaksiring ซึ่งมี holly spring water temple กับ Tirta empul temple เราก็จะไปที่ ไร่กาแฟ Coffee Plantation เพื่อจะไปดู Traditional process for special luwak coffee



เข้าไปดูเค้าตากกาแฟ คั่วกาแฟกันค่ะ







เป็นกาแฟท้องถิ่นสัญชาติบาหลี ไม่ค่อยส่งกลิ่นหอมยั่วจมูกเหมือนสตาร์บั๊คเลยค่ะ



พอไปนั่งเค้าก็จะชงมาให้เราลองชิมดูค่ะ





นั่งคุยกันไป ชิมกันไป พอหมดก็ออกไปโดยไม่ได้อุดหนุนเค้าเลย นับว่านิสัยดีจริงๆ ถ้าวันๆ มีแบบนี้เข้ามาสัก 10 กรุ๊ปเค้าคงไม่แจกให้ชิมแล้ว



ไปต่อค่ะ จุดหมายปลายทางต่อไปคือ Kintamani ใครๆ ที่มาบาหลีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะว่าที่นี่เป็น View for mount and lake batur

ระหว่างทางก็ชมถนนหนทางไปด้วย ถนนที่บาหลีไม่กว้างนะคะ แคบๆ ขับยากพอสมควร ป้ายก็ไม่ชัดเจนพยายามสังเกตหลักกิโลก็ไม่เป็นผลเลยค่ะ เราหาไม่เจอ เค้าอาจจะมีนะแต่พวกเรามองไม่เห็น



ก่อนจะไป Kintamani วิจาญ่าจอดให้พวกเราลงที่ Pura ulun danu Batur ก่อน



Pura แปลว่า วัด สถานท่องเที่ยวบาหลีเต็มไปด้วยวัด ที่นี่เราเสียรู้ให้ค่าเช่าชุดทั้งที่จริงแล้วเค้าให้บริจาคตามศรัทธา แม่ค้าหน้าวัดวุ่นวายกับพวกเรามาก จะคิดค่าเช่าชุดคนละ 100000 คุณสามีอารมณ์เสียไม่ยอมจ่ายเพราะเรียกแพงเกินกว่าเหตุ ขนาดเราใส่กระโปรงยาวคลุมเท้าขนาดนั้นก็จะให้เราเช่า ผ้าคาดเอวมีก็ไม่ยอมบอกว่าใช้ไม่ได้ วิจาญ่าก็รู้ว่าพวกเราไม่พอใจเค้าพยายามไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่เป็นผล พวกเราเลยทำท่าจะหันหลังกลับและแสดงอาการไม่พอใจ เค้าก็เลยลดราคาให้เหลือคนละ 10000 บาท โอว....จากแสนเหลือหมื่น แต่คุณสามีก็ยังไม่พอใจอยู่ดีเค้าเลยไม่เข้า บอกว่าถ้าจะเข้าก็เข้าไปกันเองจะนั่งรออยู่ข้างนอก ไหนๆก็มาแล้วก็เลยเข้าไปสักหน่อยแต่แอบเซ็ง ขอเตือนว่าใครที่จะไป Pura ulun danu Batur ให้ระวังด้วยนะคะ ขนาดเราหาข้อมูลไปเป็นอย่างดีแล้วยังเจอ







คนไม่สวย แต่ประตูสวยไหมคะ



สถาปัตยกรรม โดยเฉพาะรูปปั้นและการจัดสวนของบาหลี ไม่เป็นรองใคร



จากที่เข้ามา 2-3 วัด ก็เริ่มเห็นแล้วว่าก็คล้ายๆ กัน





อากาศร้อนสู้แดดไม่ไหว จึงขอบายรีบเดินกลับมาที่รถ คุณสามีนั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างนอกรีบมาสมทบ ขึ้นรถไปชมวิวภูเขาไฟกันดีกว่า



Kintamani เป็นจุดชมวิวที่สวย มีภูเขาไฟกุนุงอากุงซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 3142 เมตร เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับเมื่อปี 1963 ปะทุรุนแรงสร้างความหายนะให้กับบาหลีเป็นอย่างมากแต่แปลกที่วัดเบซากีห์ (เดี๋ยวเราจะไป) กลับไม่เป็นอะไรเลยทั้งที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนไหล่เขาที่เป็นทางที่หินลาวาไหลลงไป ขนาดทะเลยังแดงเถือกไปด้วยไฟ





ทะเลสาปที่เห็นเรียกว่า บาตรู (lake batur)



ปรับโทนสีสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง โอยยยย...อยากถ่ายรูปฝีมือเทพ



มีเธอ



มีฉัน



มีเรา



มีลูกบุตรธรรม 555 เพื่อนคนนี้เหมือนเป็นลูก พ่อแม่ไปไหนม่อนไปด้วยเพราะม่อนรวย เราจึงเต็มใจ หุ หุ



มีน้อง



และมีเพื่อน



มื้อกลางวันในวันนี้ เราเตรียมการไว้แล้วว่าขอไปร้านที่สามารถมองเห็นวิวและภูเขาไฟ ซึ่งในละแวกนั้นล้วนเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วยกันทั้งสิ้น ร้านแรกที่วิจาญ่าแวะให้ดูหรูหราและสะอาดดีมาก วิจาญ่าคงรู้แล้วว่ารสนิยมของเรานั้นอยู่ประมาณไหน พอลงไปปรากฏว่าที่นั่งบริเวณด้านนอกเต็ม คนเรื่องมากอย่างเรามีหรือจะยอม เดินออกมาหาวิจาญ่าบอกว่าขอเปลี่ยนร้าน เห็นสามีทำหน้าไม่ค่อยพอใจเพราะเกรงใจวิจาญ่า แล้วเราก็มาลงเอยกันที่ร้านนี้ ค่าอาหารหัวละ 70000 รวม Tax และ Service C. แล้วก็ตกอยู่ที่ 80000 กว่าๆ ต่อคนแถมไม่รวมเครื่องดื่มอีกต่างหาก



อาหารรสชาติงั้นๆ แต่ขนมหวาน ถั่วแดงกวน กล้วยชุปแป้งทอดราดน้ำผึ้งอร่อยเหาะ



เรามากินอาหารทีนี่ก็เพราะต้องการวิวนี้





เมื่ออิ่มแล้วก็ย้ายกองทัพไป Pura Besakih หรือ Mother temple in Bali ระหว่างทางก็แวะจุดชมวิวเป็นระยะๆ



ยัยคนนี้แพ้ท้องอยากกินผลไม้ ระบบท้องไส้ She ปั่นป่วนไม่ขับไม่ถ่ายมาหลายวัน มีอาการปวดท้องใกล้คลอดมา 4 ปีกว่าๆ เลยไปสอยมังคุด สละ มาพอเป็นกะษัย คลายกล้ามท้อง



และแล้วเราก็มาถึงวัดเบซากิห์ วัดแม่ของชาวบาหลีที่ความศักดิ์สิทธิ์สุดๆตามความเชื่อ จนมีคำกล่าวว่า ถ้าใครมาบาหลีแล้วไม่ได้มาวัดแม่เชิญตีตั๋วกลับมาอีกครั้งได้เลยเพราะ You มาไม่ถึงบาหลี





และก่อนมาที่นี่ก็มีกิตติศัพท์ร่ำลือว่า มีการเรียกเก็บเงินยิบย่อย จะโดนตื้อขอเงินค่านั้นค่านี้จิปาถะ ไอ้เราก็ระวังตัวเตรียมตัวว่าต้องโดน บอกเพื่อนๆว่าให้ทำหน้าเฉยๆ ไม่ต้องสะทกสะท้านอะไรแล้วเดินผ่านไปเลย

แต่...ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้วนะคะ ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าเดี๋ยวนี้เค้าเปลี่ยนแผนการเรียกเงินใหม่จากนักท่องเที่ยว คือเค้าจะเรียกเข้าไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วให้เราลงชื่อบริจาค แต่ขอโทษทีในสมุดที่เค้าให้เขียน โอววว...เค้าต้อง make ข้อมูลหรือว่าปรุงแต่งข้อมูลแน่ๆ โชว์ตัวอย่างรายที่บริจาคด้วยจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าแสน 2 แสนบ้าง 4 แสนบ้าง พวกเราก็กลัวจะน้อยหน้าว่าให้น้อยเกินไป รู้สึกใจไม่ดีและอายถ้าจะเขียนลงไปเป็นหลักหมื่น วิญญาณฆ่าได้แต่หยามไม่ได้เข้าสิง จึงเขียนลงไป 100000 เศรษฐีมาเองล่ะงานนี้ พอให้ไปแล้วก็มานึกว่า เออ...โดนเข้าแล้วไหมล่ะ บ่นอุบกับสามีตลอดทาง แต่เจ้าพ่อประคุณบอกว่า ไม่แพงเพราะว่าเค้าให้ไกด์เรามา 1 คนนะ แนะนำและชวนคุยดีมากเลย ดูสิ...คนอื่นไม่เห็นมีไกด์เดินตามมีแต่เรา เพราะเราเป็นกิตติมศักดิ์ ขอร้อง...คุณพี่ไม่ต้องย้ำ อิชั้นเคืองค่ะ ถือซะว่าช่วยกันเอ็งมาบ้านข้าก็โดนฟัน งั้นข้าไปบ้านเอ็งก็ให้เอ็งฟันเป็นการหายกัน





บันไดเยอะค่ะที่เบซากีห์ ลำพังแค่เอาตัวเอง นมอีก 2 กิโล พุงอีก 8 ขีด ขึ้นบันไดก็หอบแฮกๆ แล้ว แต่คนบาหลีเอาของทูนหัวเดินตัวตรงเต็มบันทัดขึ้นไปอีก ข้าน้อยขอคารวะ ถ้าอิชั้นคิดจะประกวดนางงามรถไถเมื่อไหร่จะมาขอฝึกด้วยคนนะคะ



สถาปัตยกรรมชั้นๆ แบบนี้เค้าเรียกว่าอะไรนะคะ ลืมอะ วานผู้รู้ช่วยบอกที



แฟนพันธุ์แท้พี่เบิร์ดมาเอง ตั้งแต่อัลบั้ม หาดทราย สายลม สองเรา เลียนแบบภาพจากปก



ร้อนเหลือกำลัง พวกเราโชคดีเกินเหตุ ไม่เจอฝน อากาศแจ่มใสเป็นยิ่งนัก หวังว่าจะไปเจอแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เล่น surf กับคลื่นยักษ์สึนามิก็เลยต้องผิดหวัง แหะๆ ล้อเล่น โปรดอย่าถือสานะคะ





เจ้ย...ทำไมหน้าตารูปข้างบนกับข้างล่างเหมือนกันแบบนี้ล่ะ



อยู่เบซากีห์สมควรแก่เวลาแล้ว ขอลาจากด้วยประตูผ่าซึกสัญลักษณ์ของชาวบาหลีไปก่อน เพราะเรายังมีจุดหมายอื่นที่ต้องไปเยือน



ตอนออกมาจาก Pura ผู้นำชมท้องถิ่นตามมาส่งถึงรถ คุณสามีปรึกษาว่าจะให้เงินเค้าอีกดีไหม เพราะว่าเค้าคุยดีและมีมารยาทมาก สงสารเค้าอีกแต่เราก็ใจแข็งบอกว่าเราให้เค้าไปเยอะแล้วนะ เลยรีบขึ้นรถกลัวใจอ่อน

เวลาก็เย็นย่ำแล้ว เราต้องไปอีก 1 ที่คือ Tegalalang

ระหว่างทางมีร้านขายของเต็มไปหมด เหมือนบ่อสร้างสันกำแพงเลย เสียดายมากๆที่มาซะเย็นแบบนี้ ไม่งั้นคงได้ถ่ายรูปกับร้านสวยๆ และได้ของติดไม้ติดมือกลับมาบ้านบ้าง เสียดายมากมาย นี่เราพลาดอีกแล้วที่จัดสรรเวลาได้ไม่ดีมาจนร้านปิด แต่ไหงปิดไวจังแค่ 5 โมงเย็นเอง



ลุงคนนี้นั่งขายหมวกยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายเราเป็นอย่างดี แต่พอเราเดินไปใกล้ๆ ลุงก็ขอเงินซะงั้นคงขอเพราะเห็นเราถ่ายรูปลุงมา



Tegalalang จะมีนาขั้นบันไดให้เราดู สีเขียวขจีของต้นข้าวปลูกลดหลั่นกันไปสวยดีจัง





Rice terrace at Tegalalang ไม่เสียดายที่ได้มา ความคิดเห็นส่วนตัวเราชอบมาก



ที่นี่มีร้านกาแฟฮิปๆ ตั้งหลายร้าน โดยเฉพาะร้านนี้ที่วิจาญ่าพามาแวะ แหล่มไปเลยค่ะ







ตอนแรกตั้งใจจะนั่ง drink กันที่นี่ แต่ว่า ต้องใสเจีย เสียใจเพราะว่าร้านเค้ากำลังจะปิดแล้วจ้า ที่บาหลีนี่นะ อะไรๆก็ปิดไวซะเหลือเกิน



สบายใจเหลือเกิน ธรรมชาติบำบัด



มื้อเย็นวันนี้ เราไป Dinner กันที่ UBUD เลือกร้าน Nomad



ก่อนเข้ามาในร้านพนักงานต้อนรับจะทัดดอกลีลาวดีให้ด้วย พร้อมกับแจกผ้าเย็นหอมสมุนไพรให้อีก น่ารักมากๆ





บรรยากาศในร้านก็โรแมนติก การตกแต่งในร้านก็ Modern



อาหารอร่อยอีกต่างหาก ที่สำคัญไม่แพงด้วย





น้้ำผลไม้ปั่นก็อร่อย สั่งมาหลากหลายเลย แตงโม กล้วย ส้ม แต่คุณผู้ชายสั่งโค้ก



วันนี้วิจาญ่าก็ได้ค่าล่วงเวลาอีกแล้วค่ะ เพราะว่าเค้าพาเราไปแวะซุปเปอร์มาเก็ตอีก เพราะว่าโทรศัพท์เรามีปัญหานิดหน่อย



กว่าจะถึงที่พักก็เกือบสามทุ่ม อยากว่ายน้ำที่รีสอร์ทแต่ว่าดึกแล้วเลยอดอีกตามเคย งั้นเข้าไปอาบน้ำเย้ยแสงจันทร์ดีกว่า คืนก่อนแช่อ่างวันนี้ขอเป็น Shower



เปิดไฟแข่งกับแสงจันทร์



แล้วก็นอนหลับฝันดี



นอนมองหลังคา เค้าใช้วัสดุทำหลังคาแปลกดีค่ะไม่ทราบว่าทำจากอะไรดูๆก็เหมือนหญ้าคา แต่มันดูทนกว่าสวยกว่า



เช้ามาก็ต้อง Check out แล้วขออำลาคืนนี้ที่ Santi Mandala



แล้วติดตามวันที่ 3 ต่อไปนะคะเราจะพาไปเที่ยวอีก


Create Date : 27 ตุลาคม 2552
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 0:19:48 น. 4 comments
Counter : 2722 Pageviews.

 
ตามมาแล้วค่ะ แหม...ขยันลดรูปจริงๆเลยค่ะ แอนเอาลองเฟสบุคอย่างเดียวเลยค่ะ ไปบาหลีมาตอนที่กลับเมืองไทยเดือนพฤษภามิถุนาค่ะ แบบว่าเรียกว่าเป็นเอเชียทัวร์เลยก็ว่าได้เพราะว่าไปสิงคโปร์ ลังกาวี เคแอล ไทย เวียงจันทน์ บาหลี เกาหลีแล้วค่อยกลับมาอเมริกาคืนเหนื่อยมากๆเลยเพราะว่าไม่เคยเที่ยวติดกันรวดเดียวเกือบ ๒ เดือนขนาดนั้น แล้วบล๊อคบาหลีจะมีอีกกี่บล๊อคคะ ไว้แอนจะได้มาดูอีกค่ะ ฝากไปตามด้วยเนอะ มาร่วมกันชื่นชมค่ะ ดูแล้วทัวร์เราสองคนคล้้ายกันค่ะ แต่ว่าชิมกาแฟคงจะคนละที่เพราะว่าแก้วไม่เหมือนกันนิ ฮิฮิ ร้อนมั๊ยคะตอนท่ีไปหน่ะค่ะ ตอนแอนไปร้อนตับแลบจนบางวันก็ปล่อยสามีไปเที่ยวคนเดียวก็มี


โดย: ขาหมูเอาแต่หนัง (annasugars9000 ) วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:23:33:51 น.  

 
ไหนๆๆๆ ท่านผู้ใดบอกว่าไม่มีคนชม
นู๋เนี่ย แฟนพันธุ์แท้ ตามดูรูปเฮียทัดดอกไม้ ส๊าวสาวว ได้ใจคร๊าบบเฮีย อิอิ


โดย: Barbara IP: 124.121.83.218 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:0:14:52 น.  

 
แวะมาทักทายและเข้ามาชมบรรยากาศที่บาหลีครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:12:03:46 น.  

 
เบซากีหนูก็อด T_T

มาเกาะบล๊อกพี่เที่ยวแทนละกันนะคะ


โดย: some dance to remember วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:57:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.