ไร่แสงอรุณแดดอุ่นริมฝั่งโขง

17-18 /12/ 2010

ออกจาก Le Meridien ก็ขับรถมุ่งหน้าไป อ.เชียงของเลยค่ะ ชมธรรมชาติสองข้างทางด้วยใจหวั่นๆ เปลี่ยวจัง... ดีนะที่เดินทางมาตอนกลางวัน ถ้ามาตอนกลางคืนคงใจตุ๊บๆ ต้อมๆ กว่านี้





จะบอกดีไหมคะเนี่ย ว่ากว่าจะมาถึงก็หลงเล็กๆถึงปานกลาง เสียเวลาไปประมาณ 20 กิโล

ไร่แสงอรุณอยู่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ติดกับฝั่งลาวเพียงแค่แม่น้ำโขงกั้น รับสัญญาณโทรศัพท์จากฝั่งลาว ใครใช้ระบบ Dtac True หมดสิทธิ์ มีเพียง GSM ที่พอจะรับได้ เมื่อมาถึงที่นี่ประหนึ่งว่ามาต่างประเทศ(ลาว)

ที่นี่ห่วงใยลูกค้ารีบโทรไปหาแต่เช้า ถามไถ่ว่าเดินทางมาถึงไหนแล้ว ใจดีตั้งแต่ยังไม่ได้พบหน้า




เมื่อหย่อนก้นนั่ง น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ก็ส่งถึงมือ



การมาครั้งนี้ได้ซื้อ voucher มาจากงานท่องเที่ยวไทย แต่มาช่วง hight จึงต้องจ่ายส่วนเกินเพิ่มขึ้นอีก และห้องที่ปรารถนา ห้องเดือนแจ่ม ห้องริมโขงไม่ต้องพูดถึงโดนจองเต็มตลอด เพราะความลังเลที่จะกำหนดวันตั้งแต่แรก จึงได้ห้องบึงบัว

เรายังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน มาถึงก็เปิดเมนูสั่งอาหาร แล้วไปนั่งรับประทานที่ริมฝั่งโขง เดินผ่านแปลงผักเขียวขจี




ติดแม่น้ำโขงและมองเห็นฝั่งลาว



เป็นเวลาบ่ายสามโมง แต่วันที่เราไปโชคดีอากาศเย็นๆ แดดไม่จัด



ร่มสีแดงเด่นเชียว






อาหารที่สั่งไว้มาแล้ว ราดหน้าผักกรอบๆ ของเรา



ผัดไทกุ้งสด



ของย้ยอ้อ



และเครื่องปรุง คนไทยหัวใจเผ็ด



ก่อนจะไปเข้าห้องพัก ได้สั่งอาหารมื้อค่ำไว้ด้วยแล้ว ไร่แสงอรุณห่างไกลชุมชนพอสมควร ในละแวกนั้นไม่มีร้านอาหาร ถ้าจะออกไปทานข้างนอกต้องขับรถไปไกลพอสมควร ที่รีสอร์ทจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

เข้าไปดูห้องพักก่อนค่ะ น้องๆเค้ารอเพื่อจะยกกระเป๋าไปส่งที่ห้องแล้วล่ะ





ส่วนของบ้านพักจะอยู่อีกฝั่งของถนน เดินไปไกลพอสมควร ผ่านบึงบัวนี้แสดงว่าใกล้จะถึงแล้ว เพราะเราจองบ้านบึงบัวไว้



ความจริงแล้วจะเรียกว่าจองก็คงจะไม่ถูกซะทีเดียวต้องบอกว่าเหลือแต่บ้านบึงบัวมากกว่าไม่มีทางเลือก ข้อดีของบ้านบึงบัวมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องเดินไกลมาก





เปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับเตียงนอนตั้งอยู่กลางห้อง







ด้านขวาของเตียงมีโต๊ะวางของ





ปลายเตียงเป็นตูู้และทีวี





มีหมอนสำรองและผ้าห่มบนหลังตู้เพิ่มให้ด้วย เพราะหน้าหนาวอากาศเย็นมาก แต่กระเป๋าใบนี้ไม่เกี่ยวของข้าพเจ้าเอามาเอง



ด้านซ้ายของเตียงมีโคมไฟและกระจกเปิดออกไปนั่งเล่นริมระเบียงได้









Daybed ตัวนี้กว้างนั่งสบายดีจริงๆ ถ้ามีหนังสือเล่มโปรดมานอนอ่านด้วยแล้วละก็ แหล่มเลย



ที่ระเบียงมองขึ้นไปบนภูเขาจะเห็นบ้านหลังอื่นๆ ของรีสอร์ทด้วย เดี๋ยวเราจะไปเดินเล่น



แต่ตอนนี้ขอพาชมห้องน้ำก่อนค่ะ



ห้องน้ำเป็นแบบ open air นะคะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าคืนนี้อาบน้ำจะหนาวแค่ไหนต่อให้มีเครื่องทำน้ำอุ่นก็เถอะ







พักผ่อนพอหายเมื่อย ออกไปเดินขึ้นเขาดูบ้านแต่ละหลังของรีสอร์ท





ธรรมชาติมากมาย



ทางเดินที่ทอดยาว





เหงื่อซึมกับขั้นบันได





บ้านเดือนแจ่ม หลังนี้เราชอบ



บ้านเพียงออ











บ้านแสงอรุณ 1 ไกลสุด แพงสุด และคงจะสวยที่สุด



บ้านแสงอรุณ 2



มีเต้นท์ด้วย



บ้านเพียงออมี 4-5 หลังค่ะ











ทางเดินที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด



แต่เราก็ขึ้นไปและเดินลงมาไหว



ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ผ่อนคลาย



ธรรมชาติบำบัด ชีวิตในเมืองสับสนวุ่นวาย แต่ได้มาพักแบบนี้ก็สงบไปอีกแบบ





บ้านพักถูกกั้นไว้ด้วยถนน อีกฝั่งถนนจะเป็น Lobby ร้านอาหาร และบ้านริมโขง









ได้เวลาอาหารเย็น เดินผ่านแปลงผัก ที่ไร่แสงอรุณปลูกผักกินเอง ไม่ใส่ยาฆ่าแมลง เก็บไปทำกับข้าวให้เราสดๆ เลย





ผัดผักกรอบๆ



ยำยอดคะน้ากุ้งสด



มาใกล้น้ำโขงทั้งที ไม่สั่งต้มยำปลาบึกก็ยังไงๆ อยู่



อาหารอร่อยๆ



วิวงามๆ เสียงน้ำโขงไหลดัง ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สงบอย่างบอกไม่ถูก





ที่รีสอร์ทเริ่มเปิดไฟ



นั่งจนมืด เริ่มไม่เห็นแม่น้ำโขง ได้ยินแต่เสียงน้ำไหล



แค่หกโมงครึ่งที่นี่ก็เริ่มเงียบสงัด





ร้านขายของที่ระลึกๆ เล็กๆน้อยๆ ก็จะปิดแล้ว



เหงาและเงียบเกินไปแล้ว ชวนกันไปขับรถเล่นที่ อ.เชียงของ ถามน้องๆ ที่รีสอร์ท เค้าบอกว่าทางเปลี่ยวมาก บอกว่าเราแปลกคนไม่กลัวบ้างเหรอไม่ค่อยมีใครเค้าไปกันนะ มืดๆ แบบนี้



แต่เราสองคนก็ดื้อ จะไป ระหว่างทางขับรถไปก็กลัวไป ทางเปลี่ยวมั่กๆแต่ก็ไปจนถึง





ที่ อ.เชียงของ ก็จะมีท่าเรือที่ส่งของข้ามไปฝั่งลาว ดูน่ากลัวอะค่ะ



รีบกลับไร่แสงอรุณค่ะ คิดในใจ บ้าบิ่นมากที่กล้าไป ถ้าโดนปล้นนี่ไม่อยากจะคิดเลย

กลับมาถึงอาบน้ำแบบกลัวๆ มืดๆ หนาวๆ เงียบๆ แล้วนอนเปิดแอร์ห่มผ้าอยากเปิดหน้าต่างนอนแต่กลัว ที่นอนนอนปวดหลังมาก

ตื่นเช้ามาซูดอากาศบริสุทธิ์



บ้านบึงบัว ก็เห็นดอกบัวแบบนี้





ชอบที่นั่งตรงนี้มาก ถ้ามีหนังสือดีๆ หรือ ipad สักเครื่องคงนั่งอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวัน



เก็บของไปขึ้นรถเลยซะทีเดียว ไม่อยากเดินกลับมาอีกแล้วไกลมาก



ออกมาทานอาหารเช้ากันที่เดิม ริมโขงกับแปลงผักเขียวๆ



ทริปนี้กินๆ นอนๆ มาพักผ่อนค่ะ อย่าคิดอะไรมาก



อาหารเช้า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด จัดไปอย่าให้เสีย















ช่วงที่ไป ก็พอจะมีสตอเบอร์รี่บ้างแล้ว แต่ไม่มาก น้องๆ ที่รีสอร์ทบอกว่านกกินหมด



อิ่มแล้วเดินเล่นชมสวน ชมวิวริมแม่น้ำโขง





บ่านริมโขง ที่ใครๆ เมื่อมาที่นี่ก็อยากจะจองมากที่สุด



มีด้วยกันสามหลัง แต่หลังที่สองมักจะเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน





เดินลงบันไดไปในส่วนของห้องจัดเลี้ยง











หลายปีแล้วที่ไม่ได้มายืนริมน้ำโขงแบบนี้ 10 ปีก่อนนั้น ได้ไปหนองคายบ่อยๆ ใกล้ชิดริมน้ำโขง วันนี้ขอนึกถึงวันเก่าๆที่เคยได้ยินเสียงน้ำโขงไหลแรงๆ แบบนี้

































ดีใจค่ะ ที่ครั้งนึงได้มีโอกาสมาพักที่นี่ ถึงจะไม่สะดวกสบายเท่ากับที่ๆเคยไปมานัก แต่ก็ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมือนได้มาพักผ่อนจริงๆ อาหารอร่อย บรรยากาศดีๆแบบนี้ ติดใจค่ะแต่ไม่รู้จะมีโอกาสได้มาพักอีกไหม เพราะไกลมากค่ะ



ออกจากไร่แสงอรุณ เราก็ขับรถกันไปเรื่อยๆ เพื่อจะไป อ.เชียงแสน



ยังคงขับรถเลาะริมน้ำโขงไปเรื่อยๆ









ขับมาจนถึงสามเหลี่ยมทองคำ





ไปช้อปต่อที่แม่สาย แล้วรีบไปคืนรถที่ airport จากนั้นก็อาศัยรถเพื่อนร่วมงานกลับบ้าน ก่อนกลับแวะกว๊านพะเยา หาอะไรอร่อยๆ กินอีก





ขอจบทริปเชียงรายเพียงเท่านี้ค่ะ คราวหน้าจะพาไปต่างแดนไปฉลองปีใหม่กันที่สิงคโปร์ แล้วจะกลับมารีวิวในประเทศต่ออีก แต่ขอไปต่อที่ภาคสองนะคะ ตอนนี้กรุ๊ปบล็อคนี้เต็มมากๆ เลยค่ะ หนักมากทำให้ blog อืดๆ ยังไงไม่รู้จะเริ่มตั้งแต่ทริปต้นปี 2554 ค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ติดตามกันเสมอมา อยากจะบอกว่าเข้ามาอ่านแล้วทักทายกันบ้างนะคะ อย่าอ่านแล้วผ่านเลยเจ้าของ blog จะเได้รู้ค่ะว่ามีคนแอบติดตาม

XoXo แล้วพบกันใหม่ในภาคตะลอนเที่ยวไทยไม่ไปไม่รู้ 2554

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554		11 comments
Last Update : 17 สิงหาคม 2557 20:52:10 น.
Counter : 6365 Pageviews.
Share Tweet