สองหัวใจแห่งขุนเขา @ Montis resort pai

10-11/12/2010

เมื่อ 2 ปีก่อนก็ไปปายมาแล้วครั้งนึง แต่มีเหตุให้ต้องไปเยือนปายอีกครั้ง เหตุจากมี Voucher อยู่ในมือแต่ยังไม่หมดเขตหรอกนะคะ แต่ไปปายทั้งทีก็ต้องไปหน้าหนาวนะสิถึงจะได้บรรยากาศ งั้นรีบโทรไปถามว่าว่างไหม พอบอกว่าว่างก็ไม่รอช้า เก็บข้าวของเตรียมตัวไปปายในวันหยุดยาวนี้ได้เลย

คนขับรถคนนี้ไม่ได้รับค่าจ้างค่ะ หน้าจึงงอ แถมบ่นเราอีกว่าขยันหาเรื่องเที่ยวจังนะ



แต่เราหน้าบานค่ะ ตั้งแต่จำความได้หน้าก็บานแบบนี้ตลอด



แวะเติมพลังที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแถวแม่ริม คนละถ้วย





และน้ำฝรั่งเย็นๆ คนละแก้ว



พร้อมลุยต่อกับทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดตั้งแต่แม่มาลัยไปจนถึงปาย



ถึงปายก็เย็นแล้วค่ะ รีบเข้า Montis เช็คอินก่อนเป็นอันดับแรก





Montis มาจากภาษาละติน หมายถึงภูเขา เป็นที่พักที่อยู่ใกล้ตัวอำเภอและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดดเด่นด้วยสิ่งปลูกสร้างที่กลมกลืนกับธรรมชาติสไตล์แอฟริกัน ซาฟารี





รถบักกี้พาเราไปส่ง Villa ที่จองไว้ ในส่วนของที่พัก มอนทีส รีสอร์ท มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Safari Villa จำนวน 22 ห้อง และห้อง Suite ริมบึงพร้อมอ่างจากุซซี่อีก 6 ห้อง ในรูปแบบบ้านสไตล์ซาฟารีทรงกลมโทนสีน้ำตาลอุ่น ช่วงที่เราไปกำลังสร้างอาคารแบบตึกเพิ่มขึ้นอีกโซนทางด้านข้างจะทำเป็นห้อง Deluxe อีกไม่นานเกินรอคงเปิดบริการ



ขอเก็บกระเป๋าก่อนและยังไม่รีวิวที่พัก เพราะจะออกไปทานมื้อค้ำตอนแรกตั้งใจจะทานที่ Montis Restaurant พอเปิดประตูเข้าไป รู้สึกเงียบมากและคงมีเรา 2 คนเท่านั้น จึงเปลี่ยนใจเดินไปถามที่ Lobby ว่าถนนคนเดินปายไกลจากที่นี่มากไหม ได้รับคำตอบว่าประมาณ 2 กิโล จึงไม่ลังเลที่จะขับรถมุ่งหน้าสู่ถนนคนเดินปาย





คลื่นมหาชนคนล้นหลาม แทบไม่ต้องเดินไหลไปได้เอง

ร้านไหนๆ คนก็เต็มไปหมด ขอเลือกร้านนี้ก็แล้วกันเพราะดูแล้วใหญ่ที่สุดที่สามารถรองรับคนจำนวนมากๆได้



โชคดีทียังมีที่นั่ง แต่...ต้องสั่งอาหารแบบที่ทัวร์สั่งเท่านั้นถึงจะได้กิน



ไส้อั่วน้ำพริกอ่อง



จานนี้ของโปรดยอดซาโยเต้ผัดน้ำมันหอย



ต้มยำไก่บ้านของคุณแฟน



อิ่มแล้วไม่รอช้ารีบลุกให้คนอื่นมานั่งบ้าง ต่อไปนี้จะไม่มาปายช่วงวันหยุดยาวอีกแล้วล่ะ คนเยอะจนทำให้เมืองปายขาดเสน่ห์



แวะข้างทางนิดหน่อย เดี๋ยวคืนต่อไปก็ต้องมาอีกเพราะว่ามาพักใกล้ถนนคนเดิน





กลับมาชม Montis ยามค่ำคืนดีกว่ากันเยอะ ไม่ต้องเบียดเสียดผู้คน





จะปล่อยโคมก็ได้นะคะ (ซื้อมาเอง)



หรือจะเล่น Fitness ก็มีบริการ









ยังปรับกล้องถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่ค่อยเป็นค่ะ ภาพไม่สวยเลยงั้นกลับขึ้นไปบน Lobby อีกนิดนะคะ



เดินกลับมาที่ห้องแล้วค่ะ



และหลังนี้อยู่ตรงข้าม



เข้าไปดูข้างในห้องกันเถอะ



ผนังลายเสือ หรือลายม้าลายไม่ทราบ เอาเป็นว่าเป็นลายสัตว์ก็แล้วกันนะคะ



ร่มก็ยังเป็นลายออกแนวซาฟารีมากๆ



เตียงนอนกว้างๆ ใช้ผ้าคาดเตียงลายอีกเหมือนกัน





ห้องจะเป็นทรงกลม ผนังห้องโค้ง







Sofabed มุมห้อง




ผ้าม่านลายเสือ




และสางก็ออกมาจากม่านลายเสือ



มีประตูเปิดไปมุมนั่งเล่นด้านนอกได้



โต๊ะเขียนหนังสือ



ตู้เย็น มินิบาร์มีเพียงน้อยนิด



โคมไฟสวยๆ กลางห้อง



เปิดทีวีตามแบบฉบับของอาเฮีย ให้เราดูละครสองนาที่ แล้วก็จะกลายเป็นช่องกีฬาตลอดไป




ก่อนที่จะรีวิวห้องน้ำขอถ่ายเป็นที่ระลึกว่าได้มานอนแล้วนะ มอนทิส









เข้าไปดูห้องน้ำได้แล้วล่ะค่ะ





อ่างล้างหน้ามีสองอ่าง แบ่งกันไปเลยคนล่างอ่าง










ไม่มีตู้อาบน้ำนะคะ ต้องลงไปอาบในอ่างเท่านั้น






ส่วนของชักโครกมีประตูกระจกกั้นเป็นสัดส่วน กลิ่นไม่รบกวนโซนอาบน้ำ



เสื้อคลุมพร้อมสรรพ



ตอนเช้าตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ มีหมอกนิดๆ แต่ไม่หนาวอย่างที่คิด



เดินชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่จะไปทานอาหารเช้า







ทานอาหารเช้าที่ Montis Restaurant





ห้องอาหารนี้จะมีอาหารบริการไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารพื้นบ้าน อาหารยุโรป และดินเนอร์ แต่ช่วง 7.00-10.00 น. ก็จะบริการอาหารเช้าให้กับแขกที่มาพัก



ห้องอาหารอันโอ่โถงนี้ตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์สว่างไสวไปทั่วห้อง



ได้ที่นั่งแล้วค่ะ เลือกเอง ขอบ่นพนักงานที่ห้องอาหารหน่อยนะคะ ไม่มี Service mind ใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้อนรับ ไม่สนใจว่าจะมีน้ำดื่มหรือไม่ ปล่อยให้เลือกที่นั่งเอง ไม่เคยเข้ามาทักทาย ไม่บริการใดๆ เลย เดินไปตักอาหารก็ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีแม้แต่จะถามว่าจะรับไข่แบบไหน ขนาดไปยืนอยู่ข้างหน้าแล้วก็เฉยเมยมาก แย่ที่สุดสำหรับบริการที่บอกว่าตัวเองเป็น 5 ดาว

ไหนๆ ก็บ่นแล้ว ขอบ่นตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ขึ้นมาเช็คอิน welcome drink สักแก้วก็ไม่มีให้



ไลน์อาหารมีให้เลือกไม่มาก













และข้างๆกันนี้ เป็น Montis Cafe' พื้นที่สำหรับคอกาแฟและเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศส





เดินผ่านสะพานนี้ไป Cafe' ค่ะ



เดินอ้อมไปทางด้านหน้าค่ะ Cafe' จะติดกับถนนใหญ่ คนนอกที่ไม่ได้มาพักก็เข้ามาทานได้ค่ะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องขนม เนื่องจากทายาท คุณ ณัฐรดี ตระการศิริ ลูกสาวของเจ้าของ ได้จบหลักสูตรการทำอาหารและขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสมาจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศอังกฤษ มอนทิสจึงมีชื่อในเรื่อง เบเกอรี่ โดยเฉพาะบราวนี่ เค้กส้ม มูสมะพร้าวอ่อน



จอดรถได้บริเวณนี้ สำหรับคนที่มองหา Montis ให้สังเกตบอลลูนสีแดงนี้ได้ค่ะ ถ้าเห็นเมื่อไหร่แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว



มียีราฟตัวใหญ่อยู่ด้านหน้า






ตอนที่ไปมีตุ๊กตาสีแดงและหมีตัวใหญ่อยู่ในร้านด้วยค่ะ



ขนมในตู้ไม่มีเลยค่ะ อยากจะอุดหนุนแต่เช้าไปเป็นอันว่าอด



บริเวณด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปดูวิวในมุมสูงได้









เดี๋ยวเราจะเดินตามทางนี้ไป Lobby





จากห้องอาหารเข้ามาทาง Lobby จะผ่านมุมนี้ค่ะ ลายม้าลายแสนสวย



ลายทั้งเสื้อคนและลายทั้งฉากหลัง



มีซีดีและหนังสือให้ยืมด้วยค่ะ









ดอกไม้สวยๆ บนโต๊ะ



ติดกับล็อบบี้ เป็นสระว่ายน้ำแบบสระเกลือ สามารถปรับอุณหภูมิเป็นสายน้ำอุ่นผ่อนคลายยามหนาวได้









อยากว่ายน้ำเล่นอยู่เหมือนกัน แต่เขินอะมันไม่เป็นส่วนตัวเลย ใครผ่านมาเช็คอินเช็คเอาท์ก็เห็นหมด เขิล ปล่อยให้เด็กๆ เค้าเล่นกันไปจะดีกว่า







ยังไม่หมดค่ะ ยังมีที่ให้เราไปเดินต่ออีก



มีจักรยานให้ปั่นรอบรีสอร์ทด้วยนะคะ



กิจกรรมต่อไปมีสนามยิงธนูค่ะ







ระหว่างทางเดินไป Villa ของตัวเองก็ชม Villa ของหลังอื่นไปด้วย











ส่วนนี้กำลังก่อสร้าง จะเป็นที่พักแบบตึก



เดินมาเรื่อยๆ จนถึง Villa หลังที่เราพัก



ยังมีด้านนอกข้างห้องที่ยังไม่ได้พาชม งั้นขออีกสักหน่อย








บริเวณนี้เลอะเทอะ มีฝุ่นเหมือนไม่ได้ทำความสะอาดทุกวัน



ยังมีเวลาเหลือให้พักผ่อนอีกเพราะขอ lale checkout ไว้บ่ายโมง



โดยรวมแล้วก็ชอบนะ กับสไตล์ของโรงแรมและการตกแต่งแบบซาฟารี ถ้าจะให้ติ ก็ขอให้ปรับปรุงเรื่องการบริการของพนักงาน โดยเฉพาะในส่วนของห้องอาหาร และความสะอาดของรีสอร์ทในบางจุด อย่าให้ลดดาวเลยค่ะ



เรียกรถบักกี้มารับเพื่อไปเช็คเอาท์


ขออำลา Montis Resort ด้วยภาพนี้ค่ะ



ออกจากมอนทิสมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านจีนยูนนาน



การมาปายในครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของเราค่ะ มาครั้งแรกเมื่อ 2-3 ปีก่อน ก็มาเที่ยวแล้วทั้งหมู่วัดน้ำฮู และหมู่บ้านสันติชลหรือหมูบ้านจีนยูนนาน มาครั้งนี้ก็มา update สถานที่ร้านอาหารต่างๆ และดูความเปลี่ยนแปลงของเมืองปาย





รถเยอะมาก หาที่จอดลำบาก ไม่ว่าจะไปซอกไหนมุมไหนคนก็เยอะไปหมด มาเที่ยวตามกระแสก็ต้องทำใจ





มาครั้งที่แล้วยังไม่มีร้านนี้







บริเวณนี้สร้างใหม่เข้าไปดูสักหน่อย



ตอนแรกตั้งใจจะกินสุกี้ยูนนาน แต่พอไปดูรูปแล้วเปลี่ยนใจ เพราะกลัวว่าน้ำจิ้มจะเน้นหนักไปทางเต้าหู้ยี้รสจีดๆ จึงตกลงกันว่าเดี๋ยวไปหาอะไรหม่ำกันที่สะพานปายดีกว่า



แวะที่ปายหวาน





ร้านสีชมพูทั้งร้าน ตอนแรกตั้งใจจะไปสั่งนมเย็นดื่ม แต่ว่าปิด อยากรู้จักว่าวันๆ จะขายได้หลายแก้วไหม ทำร้านสวยๆ เห็นมีแต่คนมาถ่ายรูปน้อยคนจะเข้าไปอุดหนุน แต่ร้านนี้เค้ามีที่พักและให้เช่าที่กางเต้นท์ด้วย



ไปต่อกันที่สะพานประวัติศาสตร์ ไม่เดินแล้วค่ะถ่ายรูปแค่บริเวณนี้ก็พอ แดดแรงล้นเหลือ แถมคนล้านเจ็ดกว่าจะได้มาแต่ละภาพ ต้องรอจนฝ้าขึ้นแน่ๆ





เป้าหมายคือมาทานมื้อกลางวันร้านนี้ค่ะ



Coffee สะพานปาย



ที่นั่งแทบไม่มีให้นั่งเลยค่ะ ยืนรอกว่าจะได้โต๊ะนี้



สั่งอาหารไป ปรากฏว่าต้องสั่งเหมือนทัวร์อีกแล้วค่ะ ไม่งั้นไม่มีเพราะเดี๋ยวคณะทัวร์ของไทยพาณิชย์จะมาในอีกไม่ช้า ที่มอนทิสก็เหมือนกันมีห้องให้เราแค่คืนเดียว เพราะคืนนี้ไทยพาณิชย์จองเต็มหมดแล้วเป็นเหตุให้เราต้องย้ายที่พัก



โชคดีที่ยังได้กาแฟชื่อร้าน "สะพานปาย" และ ชาเย็นปั่น มาอย่างละแก้ว ไม่หมดซะก่อน



แพนงหมูของคุณแฟน



คั่วกลิ้งจานนี้ของเฮา ขอบอกแซบมากจนน้ำตาจะไหล



ก่อนจะขึ้นรถก็ขอเก็บภาพกับปิ่นโตเถาสวยใบนี้สักหน่อย



อีกสักภาพกับปิ่นโตเถายักษ์



ประเดี๋ยวเราจะไปเช็คอินกันที่กุหลาบเมืองปายค่ะ หรือ Hotel des artists rose of pai ติดริมน้ำปายและถนนคนเดินเลยค่ะ นับว่าเป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากมานอน แต่โรงแรมนี้ต้องรีบไปนิดนึงนะคะ อย่าให้ต่ำกว่า 5.00 pm มิเช่นนั้นแล้วรถจะเข้าไปไม่ได้ค่ะ เนื่องจากถนนปิดเป็นถนนคนเดิน

xoxo อย่าลืมตามเราไปเช็คอินนะคะ โรงแรมที่เรากำลังจะไปนี้น่ารักมากค่ะ

มีรางวัลให้กับผู้อ่าน blog ด้วยนะคะ คือว่าเรายังมี voucher ที่พักบ้านกุงแกงเดอปายเหลืออีกค่ะ เราจ่ายไว้เพียงแค่มัดจำแต่สามารถได้สิทธิ์ 1 คืน แถม 1 คืนนะคะ ถ้าใครสนใจติดต่อมาได้ค่ะ ให้ฟรีๆ เลย

Create Date : 30 มกราคม 2554		11 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2554 10:57:52 น.
Counter : 3408 Pageviews.
Share Tweet